JJNY : "สมัชชาคนจน"แถลงประนาม สปน./'บิ๊กป้อม'นั่งหัวโต๊ะ แทนนายกฯพิจารณา'ภาษีฝุ่น'/เตือนฝุ่นพิษ! คพ แจ้ง กท.-ปริมณฑล

"สมัชชาคนจน" แถลง ประนาม การปฎิบัติงาน "สำนักปลัดสำนักนายกฯ"
https://www.matichon.co.th/politics/news_1722231

สมัชชาคนจน” ออกแถลงการณ์ฉบับพิเศษประนามการปฏิบัติงาน “สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี” พร้อมเปิดไทม์ไลน์เจรจา 17 วันไร้การเหลียวแล
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม สมัชชาคนจน ออกแถลงการณ์สมัชชาคนจนฉบับพิเศษ โดยระบุว่า 

“ขอไว้อาลัยการปฏิบัติงานของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี” 

ด้วยสมัชชาคนจนได้ประกาศยืนหยัดในการปักหลักชุมนุม เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และมีกิจกรรมรณรงค์ในช่วงการเคลื่อนไหวให้มีการเจรจา“อย่างเสมอหน้า”กับรัฐบาล จนกว่าจะเกิดการเจรจาอย่างเสมอหน้ากับฝ่ายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้ข้อยุติ

นับแต่การชุมชนของพวกเราตั้งแต่วันที่ 6 – 22 ตุลาคม 2562 เป็นเวลา 17 วัน โดยทางรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมาทำหน้าที่ประสานงานและจัดทำข้อมูลในการเจรจาร่วมกับฝ่ายเลขานุการสมัชชาคนจน จากการทำงานดังกล่าวมีปัญหาข้อผิดพลาดที่สำคัญหลายประการ ดังนี้ คือ

– วันที่ 21 สิงหาคม 2452 เครือข่ายสมัชชาคนจนทั่วประเทศได้ยื่นหนังสือกับทางรัฐบาลที่ศูนย์บริการประชาชน เพื่อแจ้งให้ทุกฝ่ายได้รับทราบว่าในวันที่ 7 ตุลาคม 2562 เพื่อขอเปิดการเจรจาอย่างเสมอหน้ากับรัฐบาล

– วันที่ 23 กันยายน 2562 ทาง สปน. นัดประชุมเพื่อเอาข้อมูลของทั้งสองผ่านมาปรับให้ตรงกัน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562

– วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ปรากฏว่าไม่ใช่เป็นการปรับข้อมูลให้สอดคล้องตรงกัน เพื่อใช้ในการเจรจาในวันที่ 7 ตุลาคม 2562 แต่เป็นการประชุมเพื่อให้ยอมรับคณะกรรมการติดตามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชน และเป็นการเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมารับข้อเสนอของสมัชชาคนจน

– วันที่ 6 ตุลาคม 2562 พวกเราสมัชชาคนจนจาก 35 กรณีปัญหาได้มารวมตัวกันที่ข้างกระทรวงศึกษาธิการ ตามที่ได้มีการยื่นหนังสือในการขอเจรจากับฝ่ายรัฐบาลไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พวกเราจะปักหลักชุมนุมจนกว่าการเจรจาแก้ไขปัญหาจะได้รับข้อยุติ

– วันที่ 7 ตุลาคม 2562 ไม่มีการเปิดการเจรจาใดๆกับรัฐบาล แต่ได้รับการประสานงานจาก สปน. ว่าได้ประสานตัวแทนส่วนราชการมาชี้แจงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา และพยายามเสนอให้พวกเรายอมรับคณะกรรมการติดตามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชน

– วันที่ 8 ตุลาคม 2562 พวกเราจึงได้มีการเคลื่อนไหวกดดันให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งมอบหมายให้นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ในการเจรจาแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนแทนนายกรัฐมนตรี

– วันที่ 9 ตุลาคม 2562 เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งที่ 16/2562 มอบหมายให้นายเทวัญ ลิปตพัลลพ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ทำหน้าที่เจรจาแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนแทนนายกรัฐมนตรี โดยมีนัดหมายการเจรจา เวลา 12.30 น. ของวันที่ 10 ตุลาคม 2562

– วันที่ 10 ตุลาคม 2562 นายเทวัญ ลิปตพัลลพ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน มีตัวแทนสมัชชาคนจนจาก 35 กรณีปัญหาเข้าร่วมประชุม ผลการประชุม ประธาน ฯ มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีประสานเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสมัชชาคนจน เพื่อรับฟังข้อเสนอของทางสมัชชาคนจนและประสานกำหนดวันเวลาในการเจรจา

– วันที่ 12 ตุลาคม 2562 เลขานุการสมัชชาคนจนกับเลขานุการ สปน. ร่วมกันกำหนดกรอบ/วัน/เวลา ในการเจรจารายละเอียดและข้อสรุปของแต่ปัญหา ทั้ง 5 กลุ่ม 35 กรณี แต่การแยกข้อมูลประเด็นปัญหากับหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยสปน.ก็ยังมีข้อผิดพลาด ข้อมูลตกหล่น ไม่ได้ยึดข้อมูลตามข้อเสนอของเรา ซึ่งวันที่ 13 ตุลาคม 2562 พวกเราต้องปรับแก้เอกสารใหม่อีกครั้ง

– วันที่ 15 – 16 ตุลาคม 2562 จากการที่พวกเราได้เคลื่อนไหวกดดัน เพื่อให้เกิดการเจรจาปัญหาความเดือดร้อนของพวกเรากับรัฐบาล จนกระทั่งเราได้เจรจาทางกับรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมาย 10 กระทรวง แม้ผลการเจรจาจะยังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจของพวกเราก็ตาม

– วันที่ 17 – 20 ตุลาคม 2562 มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีจะต้องเตรียมตัวชี้แจงกับสภาผู้แทนราษฎร์ โดยในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ทางฝ่ายเลขานุการของพวกเราและของฝ่ายรัฐบาล ได้ร่วมกันทำบันทึกผลการเจรจา เพื่อที่จะให้ทางสมัชชาคนจนและรัฐบาลได้ลงนามรับรองบันทึกการเจรจาร่วมกัน

– วันที่ 21 ตุลาคม 2562 ในที่ประชุมเจรจา ระหว่างการตรวจดูข้อมูลรายผลการเจรจาระหว่างผู้แทนฝ่ายสมัชชาคนจนกับผู้แทนแต่ละกระทรวง ปรากฏว่าตารางสรุปข้อมูลรายงานผลการเจรจาไม่ตรงกัน เมื่อทางผู้แทนสมัชชาคนจนทักท้วงว่ารายละเอียดรายงานผลการเจรจาของหน่วยงานราชการไม่ตามมีการเจรจาไว้ ทางหน่วยงานราชการจึงชี้แจงว่าได้รับการประสานงานจาก สปน.ให้รายงานผลการทำงาน ไม่ได้ให้รายงานผลการเจรจา

ทั้งนี้ ในการประชุมเจรจาในแต่ละครั้งก็ไม่มีเอกสารประกอบการประชุมเจรจาใดๆ พวกเราต้องมีการทักท้วงขอเอกสารทุกครั้งถึงจะได้ หลังจากการเจรจาทาง สปน.ได้ประสานมายังพวกเราว่าได้มีการเสนอรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้วในการนำเสนอผลการเจรจาเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ทาง สปน.ไม่สามารถทำข้อมูลได้ทันในการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ และพวกเราได้มีข้อเรียกร้องให้มีมติในการตรวจสอบความถูกต้องร่วมกันทั้งสองฝ่าย แต่ทาง สปน.ไม่ยอมให้พวกเราตรวจสอบเอกสาร โดยอ้างว่าเอกสารยังไม่ผ่าน ครม. ไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งที่ได้มีการทำงานร่วมกันทั้งสองฝ่าย
ทั้งที่ พวกเราได้พยายามประสานงานเพื่อให้เกิดการแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว แต่กลับไม่ได้รับการตอบเสนอแต่อย่างใด “พวกเราจึงขอประนามและขอไว้อาลัยในการปฎิบัติงานของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี”

ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน

สมัชชาคนจน
22 ตุลาคม 2562



'บิ๊กป้อม' นั่งหัวโต้ะประชุม ครม. แทนนายกฯ พิจารณามาตรการ 'ภาษีฝุ่น'
https://news.bectero.com/news/153771

ประวิตร นั่งประธานประชุม ครม. เตรียมรับทราบมาตรการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ในปี 2563 และกำหนดพิกัดภาษีลดปริมาณฝุ่น P.M 2.5 และมลพิษต่างๆ ของรถจักรยานยนต์

วันที่ 22 ต.ค. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม แทน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2562 โดยก่อนการประชุม พลเอกประวิตร เปิดเผยว่า ได้กำชับฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เตรียมความพร้อมของแผน และมาตรการดูแลความมั่นคงปลอดภัยในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่าง 2-4 พ.ย.62 เพื่อให้สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น และทางการข่าวไม่พบว่าจะมีการก่อความวุ่นวาย 

ขณะที่การประชุมคณะกรรมวัตถุอันตรายวันนี้ ที่จะพิจารณายกเลิกการใช้สารเคมีการเกษตร ที่มีทั้งกลุ่มต่อต้านและสนับสนุน นั้นไม่ทราบรายละเอียด แต่มีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้ว เชื่อว่ากรณีนี้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหา หรือกลายเป็นการกดดันรัฐบาล เพราะท้ายที่สุดจะสามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ 

ส่วนการประชุม ครม .วันนี้ จะมีการสรุปผลการประชุมมอบนโยบายเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ หมอกควันภาคเหนือ ปี 2563 พร้อมเตรียมเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ ... พ.ศ... ซึ่งเป็นมาตรการภาษีเพื่อลดปริมาณฝุ่น P.M 2.5 และมลพิษต่างๆ ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ระยะที่ 2 โดยจัดเก็บจากการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ของรถจักรยานยนต์

ส่วนโครงการ ชิมช้อปใช้เฟส 2 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ที่ไม่ใช่ให้เงิน 1,000 บาท แต่จะเป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ใน จีวอลเลท ด้วยการคืนเงิน 15-20% จากการใช้จ่าย แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง รวมถึงปรับเวลาลงทะเบียนเวลากลางวัน สิ้นสุดโครงการ 30 ธ.ค. ที่เดิมจะพิจารณาวันนี้ พล.อ ประวิตร กล่าวว่าต้องรอนายกรัฐมนตรีกลับมาจึงจะมีการพิจารณา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่