สวัสดีครับ ผมจะใช้ชื่อ บี แทนตัวผมนะครับ
ผมเป็นวัยรุ่นอายุ 17 จะ 18 แล้วครับ
เรียนอยู่ชั้น ม.6 ครับ ตลอดชีวิตผมส่วนใหญ่จะอยู่บ้านเพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ไปไหน ความรู้สึกนี้มันเริ่มมาตอน ม.4
ผมเริ่มอยากรู้อยากเห็น เริ่มอยากเที่ยว
อยากไปนู้นไปนี้ จากแต่ก่อนไม่เคยขอไปไหน ผมก็ขอไปเที่ยวบ่อย ไปค้างคืนบ้านเพื่อน บางครั้งผมก็โกหกว่าไปเรียนพิเศษ
แต่ไม่ได้ขอเงินนะครับผมมีเงินเก็บเอง
ช่วงม.4 ผมได้ไปเจอโลกภายนอกมาพอสมควรแต่ก็ยังไม่มากเท่าเพื่อนๆคนอื่น
หลังจากเรียนจบม.4 พ่ออยากให้ย้ายโรงเรียน ผมก็ย้ายตามพ่อบอกครับ
ม.5 เป็นเด็กใหม่แรกๆก็ไม่มีเพื่อนครับซึ่งก็ปกติ อยู่ไปสักพักก็มีคนเข้าหาเริ่มมีเพื่อน โรงเรียนนี้ต่างจากโรงเรียนเดิมพอสมควร ตั้งแต่เวลาเรียน ห้องเรียน กิจกรรม พอย้ายมานี้ผมชอบทำกิจกรรมเอามากๆแต่ไม่ทิ้งการเรียน ผลการเรียนไม่แย่ครับ กลางๆ ผมชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษและเรียนเก่งด้วย ผมเคยสอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียนที่สองของจังหวัดผมดีใจมากและเอาให้พ่อแม่ดู ท่านดีใจกันมากครับ แต่ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่อยากทำอะไรอีกเลย หลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีรางวัลเหมือนที่พ่อพูดไว้
สอบได้ลำดับตามที่กำหนดก็ไม่ได้รางวัลตามที่พูดไว้ เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนผมไม่อยากได้และไม่ขอ กลับมาเรื่องกิจกรรมครับ ผมอยากเก็บกิจกรรม เก็บผลงาน
ผมขอพ่อไปทำนู้นทำนี้ไม่ค่อยได้ ตอนแรกผมก็ไม่คิดอะไรหลังๆบ่อยขึ้น พ่อไม่ให้ผมไปไหน อาจจะเพราะผมไปบ่อยเกิน
เป็นแบบนี้อยู่เกือบทั้งตลอดตอนเรียนชั้นม.5 ไม่มีอะไรพิเศษครับ มาม.6 เริ่มคิดเรื่องเรียนต่อ เรื่องกิจกรรมผลงาน เรื่องที่เรียน มีอาจารชวนเข้าชุมนุมกิจกรรม ชุมนุมนี้เด่นมากครับ เป็นชุมนุมใหญ่มีการประสานงานกับหลายๆหน่วยงานภายนอกไม่ว่าจะเป็นตำรวจ โรงพยาบาล โรงเรียนอื่นๆ จราจร มีการทำงานร่วมกับองค์กรใหญ่ๆ กับผู้หลักผู้ใหญ่มากมาย
ชุมนุมนี้ให้ประสบการณ์การทำงานผมมากมาย แต่ติดอยู่ที่พ่อผม ไม่อนุญาติให้ทำและไม่เห็นว่ามันสำคัญ ผมมีความคิดว่าบางครั้งประสบการณ์ข้างนอกห้องเรียนก็สำคัญพอๆกับในห้องเรียนหรือมากกว่า มีครั้งนึงมีงารแข่งระดับประเทศผมคือหนึ่งในสมาชิกตัวหลักในการแข่งที่ไปกัน 20 คนอันนี้คือคัดเลือกมาจากในโรงเรียนนะครับ และผลการแข่งคือโรงเรียนผมได้ที่หนึ่งของประเทศ กลับมาบ้านผมเอาเกียรติบัตรให้ดู พ่อแม่ผมก็เฉยๆไม่มีอะไร คำชมก็ไม่มี ผมเลยคิดว่าผมต้องทำยังไง ยังดีไม่พอหรอ ไปไหนก็ไม่ค่อยได้รู้สึกเหมือนโดนตีกรอบว่าต้องรู้แค่นี้อยู่แค่นี้เปรียบกับขนาดกรอบก็ 4×4
แต่เพื่อนคนอื่น 60×60 ได้ออกหาประสบการณ์ได้รู้ชีวิตข้างนอก เวลาเพื่อนอยากให้ไปช่วยหรือครูอยากให้ไปก็ไปไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย ผมเปิดใจกับพ่อแม่หลายรอบแต่ก็เหมือนเดิม หลังจากงานแข่งผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้ดีสักอย่าง ผมรู้สึกด้อยกว่าคนอื่น รู้สึกอ่อนหัด
ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ผมรู้สึกกดดัน อึดอัด
ผมอยากระบายแต่ระบายกับใครไม่ได้เลย มีแต่บอกสู้ๆเดี๋ยวก็ผ่านไป เดี๋ยวก็บอกให้ไปลองคุย ลองคุยเ*ี้ยไร ผมขี้หงุดหงิดมากขึ้น บางครั้งก็อยากอยู่คนเดียว รู้สึกด้อยค่าครับ
ทำยังไงถึงจะสามารถมีอิสระครับ
ผมเป็นวัยรุ่นอายุ 17 จะ 18 แล้วครับ
เรียนอยู่ชั้น ม.6 ครับ ตลอดชีวิตผมส่วนใหญ่จะอยู่บ้านเพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ไปไหน ความรู้สึกนี้มันเริ่มมาตอน ม.4
ผมเริ่มอยากรู้อยากเห็น เริ่มอยากเที่ยว
อยากไปนู้นไปนี้ จากแต่ก่อนไม่เคยขอไปไหน ผมก็ขอไปเที่ยวบ่อย ไปค้างคืนบ้านเพื่อน บางครั้งผมก็โกหกว่าไปเรียนพิเศษ
แต่ไม่ได้ขอเงินนะครับผมมีเงินเก็บเอง
ช่วงม.4 ผมได้ไปเจอโลกภายนอกมาพอสมควรแต่ก็ยังไม่มากเท่าเพื่อนๆคนอื่น
หลังจากเรียนจบม.4 พ่ออยากให้ย้ายโรงเรียน ผมก็ย้ายตามพ่อบอกครับ
ม.5 เป็นเด็กใหม่แรกๆก็ไม่มีเพื่อนครับซึ่งก็ปกติ อยู่ไปสักพักก็มีคนเข้าหาเริ่มมีเพื่อน โรงเรียนนี้ต่างจากโรงเรียนเดิมพอสมควร ตั้งแต่เวลาเรียน ห้องเรียน กิจกรรม พอย้ายมานี้ผมชอบทำกิจกรรมเอามากๆแต่ไม่ทิ้งการเรียน ผลการเรียนไม่แย่ครับ กลางๆ ผมชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษและเรียนเก่งด้วย ผมเคยสอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียนที่สองของจังหวัดผมดีใจมากและเอาให้พ่อแม่ดู ท่านดีใจกันมากครับ แต่ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่อยากทำอะไรอีกเลย หลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีรางวัลเหมือนที่พ่อพูดไว้
สอบได้ลำดับตามที่กำหนดก็ไม่ได้รางวัลตามที่พูดไว้ เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนผมไม่อยากได้และไม่ขอ กลับมาเรื่องกิจกรรมครับ ผมอยากเก็บกิจกรรม เก็บผลงาน
ผมขอพ่อไปทำนู้นทำนี้ไม่ค่อยได้ ตอนแรกผมก็ไม่คิดอะไรหลังๆบ่อยขึ้น พ่อไม่ให้ผมไปไหน อาจจะเพราะผมไปบ่อยเกิน
เป็นแบบนี้อยู่เกือบทั้งตลอดตอนเรียนชั้นม.5 ไม่มีอะไรพิเศษครับ มาม.6 เริ่มคิดเรื่องเรียนต่อ เรื่องกิจกรรมผลงาน เรื่องที่เรียน มีอาจารชวนเข้าชุมนุมกิจกรรม ชุมนุมนี้เด่นมากครับ เป็นชุมนุมใหญ่มีการประสานงานกับหลายๆหน่วยงานภายนอกไม่ว่าจะเป็นตำรวจ โรงพยาบาล โรงเรียนอื่นๆ จราจร มีการทำงานร่วมกับองค์กรใหญ่ๆ กับผู้หลักผู้ใหญ่มากมาย
ชุมนุมนี้ให้ประสบการณ์การทำงานผมมากมาย แต่ติดอยู่ที่พ่อผม ไม่อนุญาติให้ทำและไม่เห็นว่ามันสำคัญ ผมมีความคิดว่าบางครั้งประสบการณ์ข้างนอกห้องเรียนก็สำคัญพอๆกับในห้องเรียนหรือมากกว่า มีครั้งนึงมีงารแข่งระดับประเทศผมคือหนึ่งในสมาชิกตัวหลักในการแข่งที่ไปกัน 20 คนอันนี้คือคัดเลือกมาจากในโรงเรียนนะครับ และผลการแข่งคือโรงเรียนผมได้ที่หนึ่งของประเทศ กลับมาบ้านผมเอาเกียรติบัตรให้ดู พ่อแม่ผมก็เฉยๆไม่มีอะไร คำชมก็ไม่มี ผมเลยคิดว่าผมต้องทำยังไง ยังดีไม่พอหรอ ไปไหนก็ไม่ค่อยได้รู้สึกเหมือนโดนตีกรอบว่าต้องรู้แค่นี้อยู่แค่นี้เปรียบกับขนาดกรอบก็ 4×4
แต่เพื่อนคนอื่น 60×60 ได้ออกหาประสบการณ์ได้รู้ชีวิตข้างนอก เวลาเพื่อนอยากให้ไปช่วยหรือครูอยากให้ไปก็ไปไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย ผมเปิดใจกับพ่อแม่หลายรอบแต่ก็เหมือนเดิม หลังจากงานแข่งผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้ดีสักอย่าง ผมรู้สึกด้อยกว่าคนอื่น รู้สึกอ่อนหัด
ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ผมรู้สึกกดดัน อึดอัด
ผมอยากระบายแต่ระบายกับใครไม่ได้เลย มีแต่บอกสู้ๆเดี๋ยวก็ผ่านไป เดี๋ยวก็บอกให้ไปลองคุย ลองคุยเ*ี้ยไร ผมขี้หงุดหงิดมากขึ้น บางครั้งก็อยากอยู่คนเดียว รู้สึกด้อยค่าครับ