หนุนใจอย่างไรครับ
ผมรักกับคริสเตียน มีความสัมพันกันแต่เขาไม่รักผมเลย. ผมรู้ตัวมาตลอดแล้ววางใจเฉยๆมาตลอด3ปีก่อนไม่ทำตัวเป็นเจ้าของ ไม่ขอสิทธิ์อะไรเลย แล้วบางครั้งก็พยายามปฏิเสธ.เพราะน้อยใจในสิ่งที่เขาทำ และมีเหตุต้องมาให้ใจอ่อน
จนช่วง3ปีหลังผมเจอปัญหาชีวิตหลายอย่าง ผมมีเหตุได้ใกล้ชินเขามากขึ้น แล้วทำให้ผมเจอเหตุที่ต้องเทลาะกัน แล้วผม อยากจะชัดเจนกับความสัมพัน แต่ยิ่งทำก็ยิ่งตัดใจไม่ขาด เช่นรู้ว่าเขามีคนอื่นก็พยายามสร้างเงื่อนไขให้เขากดดัน
เช่น ขอให้เราเป็นเหมือนเดิม
ขอแค่เจอกันบ้าง
ขอแค่มีเวลาให้กันบ้าง3-4เดือนครั้งโดยไม่ต้ิงคุยกันเลยถ้าเขาไม่มีความสุขแล้วที่เราคุยกันบ่อยๆแต่พอผมหายคือลบไลไปเขาก็โทรมา
ใจคิดว่าเพราะพระเจ้าอยากให้เราใกล้ชินพระเจ้ามากขึ้น ซึ่งก็ใช่พอช่วงเรากลับมาคุยกันผมไม่ค้นหาพระเจ้า แต่ก็อธิฐานขอพรให้เขาทุกวัน
แต่ด้วยปัญหาของตัวเอง ทำให้เราต้องเทลาะกันอีกจนเขาเลือกคนอื่น
ใจคิดว่าเขาจะเอาชนะ เวลาคิดถึงพระเจ้ายิ่งฟังอ่านคำเทศนา. กลายเป็นยิ่งใจอ่อน กับคำพูด
ด้วยเพราะเป็นพุทธ กลับได้รับคำตอบมากกว่า
ถ้าผมจะตัดใจผมคงจะห่างจากพระเจ้าไปอีก แต่จะให้เขามารักเรามันคงเป็นไปไม่ได้
สับสนครับ
หนุ่นใจหน่อยครับ
ผมรักกับคริสเตียน มีความสัมพันกันแต่เขาไม่รักผมเลย. ผมรู้ตัวมาตลอดแล้ววางใจเฉยๆมาตลอด3ปีก่อนไม่ทำตัวเป็นเจ้าของ ไม่ขอสิทธิ์อะไรเลย แล้วบางครั้งก็พยายามปฏิเสธ.เพราะน้อยใจในสิ่งที่เขาทำ และมีเหตุต้องมาให้ใจอ่อน
จนช่วง3ปีหลังผมเจอปัญหาชีวิตหลายอย่าง ผมมีเหตุได้ใกล้ชินเขามากขึ้น แล้วทำให้ผมเจอเหตุที่ต้องเทลาะกัน แล้วผม อยากจะชัดเจนกับความสัมพัน แต่ยิ่งทำก็ยิ่งตัดใจไม่ขาด เช่นรู้ว่าเขามีคนอื่นก็พยายามสร้างเงื่อนไขให้เขากดดัน
เช่น ขอให้เราเป็นเหมือนเดิม
ขอแค่เจอกันบ้าง
ขอแค่มีเวลาให้กันบ้าง3-4เดือนครั้งโดยไม่ต้ิงคุยกันเลยถ้าเขาไม่มีความสุขแล้วที่เราคุยกันบ่อยๆแต่พอผมหายคือลบไลไปเขาก็โทรมา
ใจคิดว่าเพราะพระเจ้าอยากให้เราใกล้ชินพระเจ้ามากขึ้น ซึ่งก็ใช่พอช่วงเรากลับมาคุยกันผมไม่ค้นหาพระเจ้า แต่ก็อธิฐานขอพรให้เขาทุกวัน
แต่ด้วยปัญหาของตัวเอง ทำให้เราต้องเทลาะกันอีกจนเขาเลือกคนอื่น
ใจคิดว่าเขาจะเอาชนะ เวลาคิดถึงพระเจ้ายิ่งฟังอ่านคำเทศนา. กลายเป็นยิ่งใจอ่อน กับคำพูด
ด้วยเพราะเป็นพุทธ กลับได้รับคำตอบมากกว่า
ถ้าผมจะตัดใจผมคงจะห่างจากพระเจ้าไปอีก แต่จะให้เขามารักเรามันคงเป็นไปไม่ได้
สับสนครับ