“คุณพี่ทำแบบนี้ได้ไงคะ น้องเสียหายนะ ญาติๆน้องเค้ารู้กันทั่ว ทำไมคุณพี่ทำแบบนี้คะ” คุณหญิงราตรีหัวเสียเมื่อถูกยกเลิกงานหมั้นระหว่างลูกสาวตนกับลูกชายคู่สนทนา
“ใจเย็นๆก่อนคุณน้อง พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ตาภูมันมีเมียอยู่แล้ว พี่ก็ตกใจเหมือนกัน เห็นมันเงียบๆไม่เคยพาผู้หญิงเข้าบ้านสักครั้ง ทีไหนได้แอบซุกเมียไว้” คุณหญิงช่อผกาพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด เธอก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้
ปานชีวานั่งฟังผู้ใหญ่สองคนคุยกันที่บ้านของตนเอง เรื่องนี้นี่เองที่ทำให้คุณหญิงป้ามาถึงบ้าน ปกติมาบ้านเธอที่ไหน เห็นแต่คุณแม่ของตนที่เป็นฝ่ายเที่ยวไปหา เธอสงสัยว่าใครกันแฟนของภูติ คงไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นแน่ เพราะคนอย่างคุณหญิงช่อผกาคงไม่ยอมหากแฟนลูกชายเป็นผู้ชาย แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน
ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากรู้ หรือพี่ภูของเธอจะเปลี่ยนใจมาชอบผู้หญิง แต่เมธาวีเพื่อนของเธอบอกว่าเกย์มันไม่มีทางชอบผู้หญิงแน่ๆ แล้วอย่างภูติเป็นอะไร เขาเรียกว่าอะไร ทำไมถึงมีแฟนเป็นผู้หญิง อย่างนี้มันต้องพิสูจน์ความจริง คิดไปคิดมาจะพิสูจน์ความจริงไปทำไม ในเมื่อตนเองไม่ได้แต่งกับผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันก็ดีแล้วนิ
“น้องไม่ยอมนะคะคุณพี่ น้องต้องโดนพวกคุณหญิงคุณนายนินทากันให้แซดแน่ๆ” คุณหญิงราตรียังคงไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“พี่ขอโทษนะคะคุณน้อง พี่จนใจจริงๆ พี่เลี้ยงลูกสามคนของพี่มาไม่เคยบังคับจิตใจลูกนะ พี่จนใจจริงๆ” คุณหญิงช่อยังคงยืนยันคำเดิม คือยกเลิกงานหมั้นระหว่างลูกชายของตนกับลูกสาวของเพื่อนผู้น้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้
“คุณแม่คะ คุณป้าอย่างอนกันเลยค่ะ ที่จริงปานก็ไม่อยากหมั้นกับพี่ภูหรอกค่ะ” ปานชีวาห้ามศึกระหว่างแม่ของตนกับคุณหญิงป้าที่มีท่าทีว่าจะทะเลาะกัน
“หมายความว่ายังไงยายปาน” คุณหญิงราตรีทำหน้าบึ้งหันมาคุยกับลูกสาว
“อย่างที่คุณหญิงป้าพูดนั่นแหละค่ะ พี่ภูเค้ามีแฟนแล้ว ปานไม่อยากแย่งของใครมา อีกอย่างพี่ภูก็ไม่ได้รักปาน”
ปานชีวาพูดไปตามน้ำ นอกจากจะช่วยห้ามไม่ให้ผู้ใหญ่งอนกันแล้วยังช่วยภูติไว้ได้อีกด้วย สำหรับตนเองถ้าเกิดภูติไม่เป็นเกย์ก็คงยอมแต่งงานตามที่คุณหญิงแม่ต้องการ ลึกๆก็แอบชอบภูติ ถ้าไม่นับว่าภูติชอบผู้ชายละก็ เขาก็คือผู้ชายเพอร์เฟคดีๆคนหนึ่งล่ะ แต่ก็ยังสับสนว่าภูติชอบผู้หญิงด้วย หรือว่าเป็นประเภทหญิงก็ได้ชายก็ดี
“หนูปานเคยเห็นแฟนพี่ภูเค้าด้วยเหรอจ๊ะ” ช่อผกาหันมาพูดกับหลานสาว
“ปานไม่เคยเห็นหรอกค่ะ แต่ปานรู้ที่ไม่บอกคุณป้าเพราะว่าไม่อยากยุ่งกับเรื่องส่วนตัวเดี๋ยวพี่ภูก็คงบอกคุณป้าเอง”
“ตกลงคือยกเลิกงานหมั้นใช่มั้ยคะ” คุณหญิงราตรียังทำใจไม่ได้ หวังเอาไว้มาก อยากเป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลภูติพัฒน์ หากเป็นอย่างที่คิดธุรกิจตัวเองคงไปได้สวย แต่บัดนี้ฝันสลายไปแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าเสียดาย
“ใช่ค่ะคุณแม่ ปานไม่อยากบังคับจิตใจพี่ภู ไม่อยากทำร้ายผู้หญิงด้วยกันด้วย”
“คุณน้องไม่ต้องห่วงนะ ความผิดนี้พี่จะรับเอาทุกอย่างหากมีคุณหญิงคุณนายพวกนั้นนินทา ก็ให้โยนความผิดมาที่พี่ก็แล้วกัน ถ้างั้นพี่ขอตัวกลับนะคะ”
พูดแล้วคุณหญิงช่อผกากับผู้ติดตามก็ลุกขึ้นเดินออกไป โดยมีสายตาของคุณหญิงราตรีมองตามด้วยความไม่พอใจ แต่ต้องเก็บอาการไว้ ยังไงก็ต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกันไว้ ตนเองยังต้องพึ่งคุณหญิงช่อผกาในการทำธุรกิจอยู่ ถึงจะโยนความผิดให้คุณหญิงช่อผกาคงไม่มีใครหน้าไหนกล้านินทาให้ได้ยินอยู่ดี ใครๆก็รู้ถึงความมั่งคั่งของตระกูลภูติพัฒน์ ถ้าเป็นตนเองสิมีหวังถูกนินทาทั้งเดือนทั้งปีแน่นอน
ณ บริษัทภูติพัฒน์กรุ๊ป
ภูติเดินออกจากห้องทำงานของพี่ชาย เดินไปยังแผนกการตลาด พนักงานพึ่งหายเกร็งจากท่านประธานใหญ่ยังไม่ทันได้ทำตัวตามสบาย ก็ต้องตกใจกับการมาเยี่ยมของท่านประธานอีกคน
พนักงานทุกคนทำตัวไม่ถูกอีกรอบ ยังไม่ทันได้ผ่อนคลายก็ต้องเกร็งอีกครั้ง โดยเฉพาะสองสาวขาเม้าส์ของแผนกที่ใส่กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมามาก นั่งทำงานทีเกือบเห็นอาณาจักรทั้งหมด โชคดีที่มีโต๊ะทำงานบังไว้ ลุกลี้ลุกลนทำตัวไม่ถูกหน้าถอดสี ไม่คิดว่าภูติจะมา ปกติสามเดือนก็ไม่มาแผนกทีนึง
“นี่มันวันอะไรวะพี่ไนซ์ บอสปรีติพึ่งออกไปเมื่อกี้นี่เองนะ” ซันนี่หันไปคุยกับชายไนซ์ที่โต๊ะทำงานอยู่ติดกัน เธอไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการมาของท่านประธานคนนี้เหมือนกับการมาของปรีติเลย รู้สึกเกร็งไม่เป็นตัวของตัวเองไปหมด ถึงไม่เคยเห็นและรู้จัก ดูจากการต้อนรับของหัวหน้าแผนกก็พอจะรู้
“วันนี้วันอะไรไม่รู้แต่ที่รู้ๆพรุ่งนี้หวยออก”
ชายไนซ์ตอบเพื่อนร่วมงานที่มีอายุห่างกันมาก ที่ได้รับฉายาชายไนซ์เพราะในกลุ่มสี่คน มีเขาเป็นผู้ชายคนเดียว อีกสามคนเป็นผู้หญิงหมด ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนเขาไม่สนใจ ไม่ว่าจะเครียดหรือซีเรียสแค่ไหนชายไนซ์ก็ยังมีอารมณ์ขันตลอดเวลา จึงทำให้เป็นที่รักของเพื่อนๆน้องๆในแผนกทุกคน
“ใครคะพี่ไนซ์ คุณภูติมั้ยใช่มั้ยคะ”
ซันนี่กระซิบคุยกับเพื่อนรุ่นพี่ เธอรู้จักปรีติ สายตามองไปที่โปสเตอร์ที่ติดอยู่ฝาผนังคือรูปของกิตติน้องชายคนสุดท้อง ส่วนคนนี้พึ่งเข้ามาก็ต้องเป็นภูติแน่นอน ซันนี่เข้ามาทำงานพร้อมชลัน ทั้งเธอและชลันยังไม่เคยเห็นภูติสักครั้ง
“ใช่แล้วจ้ะน้องซัน”
“เค้ามาทำไมอ่ะพี่ไนซ์ เมื่อกี้บอสก็มาแล้วนะ หรือว่าจะมาเรื่องลัน” สีหน้าของซันนี่เริ่มมีความกังวล กลัวเพื่อนซี้จะเดือดร้อน
“ไม่หรอกน้องซันมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ เขาอาจจะมาเรื่องอื่นก็ได้” ชายไนซ์เริ่มกังวลด้วยนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้า เก็บอาการได้ดีมากตามอายุและประสบการณ์ในการใช้ชีวิต
ภูติเดินมาในแผนกการตลาด สายตาชำเรืองมองหาใครบางคนที่เห็นในคลิป ไม่เห็นผู้หญิงที่ว่า เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าใช่คนๆเดียวกันหรือป่าว หรือว่าเขาเองที่จำผิดคน มันพึ่งผ่านมาได้ไม่ถึงอาทิตย์ เขาคิดว่าตนเองจำได้แม่น แต่ทำไมไม่มี ภูติสังเกตเห็นโต๊ะทำงานว่างหนึ่งโต๊ะ หรือว่าจะเป็นเจ้าของโต๊ะนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ถาม หัวหน้าแผนกรีบนำงานส่วนที่ภูติรับผิดชอบมาให้ดูความเรียบร้อย และแนะนำในส่วนที่เขายังไม่รู้จักใครชื่ออะไรยังไง รับผิดชอบส่วนไหน ใครเข้ามาเป็นพนักงานใหม่ หัวหน้าแผนกแนะนำให้เขารู้ทั้งหมด
“คนนี้คือพนักงานใหม่ค่ะ พึ่งเข้ามาเมื่อปีที่แล้ว ชื่อศันสนีย์” หัวหน้าแผนกงานพาเขาเดินมายังโต๊ะทำงานของพนักงานใหม่ และผายมือมายังคนที่ถูกแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” ศันสนีย์ทำความเคารพ
“ที่นี่กันเองนะครับ ขัดข้องอะไรก็บอกผมได้” ภูติกล่าวทักทาย
“ซันนี่น้องลันไปไหน” หัวหน้าแผนกถามหาชลัน เพราะไม่เห็นอยู่ที่โต๊ะ เธอเป็นน้องใหม่เข้ามาพร้อมกับซันนี่ จำเป็นต้องแนะนำเช่นกัน
ภูติได้ยินชื่อชลันมั่นใจว่าต้องเป็นคนเดียวกันกับคนที่ตนช่วยชีวิตไว้ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกชื่นชมที่เธอเข้มแข็งยังทำงานอยู่ที่เดิม แต่มันก็ช่างขัดแย้งกับวันนั้นจริงๆ ที่ทำไมถึงคิดฆ่าตัวตาย ตกลงเธอเข้มแข็งหรืออ่อนแอกันแน่
“ลันไปติดต่องานที่ชั้นเก้าค่ะ”
“เดียวถ้าเธอมาบอกให้มาพบผมด้วยนะครับ” ภูติหันมาพูดกับศันสนีย์
“ค่ะ”
จากนั่นภูติก็เดินไปนั่งที่โซฟามุมที่ถูกจัดไว้สำหรับแขกที่มาเยือนหรือผู้บริหารทุกระดับ ศันสนีย์ นิดา และไนซ์ทำหน้ากังวล จะเกี่ยวกับเรื่องคลิปของชลันหรือป่าว
“เห็นมั้ยพี่ไนซ์ ซันนี่ว่าต้องมาเพราะเรื่องยายลันแน่ๆ” ศันสนีย์ออกอาการไม่สบายใจ กลัวว่าเพื่อนจะโดนเชิญให้ออกจากงาน
“ใจเย็นๆหน่าน้องซันนี่ มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังคิดอยู่ก็ได้” นิดาพูดปลอบใจ ที่เห็นสีหน้าของศันสนีย์มีความกังวลมาก
“ใช่คุณปรีติมาเมื่อกี้ก็ยังไม่เห็นว่าอะไร บางทีคุณภูติแค่อยากจะเห็นหน้าค่าตาของลันเฉยๆก็ได้” ไนซ์พูดขึ้นอีกคน
“ก็ขอให้เป็นเช่นนั้นนะคะ” ศันสนีย์ยังไม่คลายความกังวลลงแม้แต่น้อย ในใจก็ขอให้ท่านประธานคนนี้ต้องการแค่ทำความรู้จักกับเพื่อนของตนเท่านั้น อย่าได้เป็นอย่างอื่นไปเลย
ไม่นานชลันก็กลับเข้ามาโต๊ะทำงานของตนเอง ทุกคนในแผนกมองเป็นตาเดียวกัน แต่ไม่มีใครกล่าวอะไรสักคำ มันทำให้ชลันรู้สึกระแวงอย่าบอกไม่ถูก ปกติถ้ามองกันขนาดนี้ต้องมีใครสักคนเฉลยขึ้นมาบ้างล่ะ แต่ครั้งนี้มันแปลกทำให้เธอใจหวิวขึ้นมาดื้อๆ แม้แต่เพื่อนซี้รุ่นพี่ที่อารมณ์ขันที่สุดอย่างไนซ์ก็ไม่พูดอะไร
“น้องลันมาแล้วเหรอ ตามพี่มาหน่อยจ้ะ คุณภูติอยากเจอ” หัวหน้าแผนกที่มีอายุสี่สิบกลางๆเดินมาเรียกเธอ ชลันเดินตามไปอย่างว่าง่าย หันหลังมามองหน้าเพื่อนซี้ทั้งสี่คน ไม่มีใครพูดอะไรสักคน
เมื่อชลันเดินตามหัวหน้าแผนกมาถึงที่รับรองผู้บริหาร เธอทำหน้าตกใจเมื่อเจอกับผู้ชายคนที่ช่วยเหลือตนเองในวันนั้น
“คุณ เอ่อ..” ชลันพูดกุกกัก และหยุดพูดไปในที่สุดเนื่องจากด้วยไหวพริบว่าเขาคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ คงเป็นลูกค่าหรือผู้บริหารส่วนไหนสักส่วน
“คุณภูติคะนี่คือน้องชลันค่ะ” สุมลหัวหน้าแผนกกล่าวแนะนำชลันให้ภูติรู้จัก
“น้องลันนี่คือผู้บริหารบริษัทภูติพัฒน์กรุ๊ปอีกคน คุณภูติจ้ะ” สุมลแนะนำภูติให้ชลันรู้จักอีกทีหนึ่ง ก่อนที่จะขอตัวออกมาทำงานของตน
“ท่านประธาน! เอ่อ สะ.. สวัสดีค่ะ” ชลันพูดติดๆขัดๆ ทั้งตกใจ ทั้งดีใจ ที่ได้เจอผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง และตกใจที่ผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้านายของตน
“นี่คุณ ชื่อชลันเองเหรอ ตามสบายนะครับ ให้คิดว่าตอนนี้ผมคือผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่เจ้านายคุณ”
“เอ่อค่ะ... ค่ะ เรียกลันเฉยๆก็ได้ค่ะ” ชลันสั่นสะท้านไปทั้งตัว ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอกันอีกครั้งหายไป มีแต่ความเกร็งและสั่นที่ยังอยู่
“นี่คุณผมบอกว่าตามสบายไง”
“ค่ะ” ชลันก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนที่อยู่ตรงหน้า ถึงเขาจะบอกให้เธอตามสบาย แต่มันก็ยังรู้สึกเกร็งอยู่ดีด้วยฐานะทางสังคมคือเจ้านายกับลูกน้องอยู่ดี
“ผมดีใจนะที่ได้เจอคุณอีกครั้ง อย่าคิดสั้นอีกล่ะรู้ใช่มั้ยว่าชีวิตมีค่าแค่ไหน ปัญหาที่มันเข้ามาไม่นานมันก็ผ่านไป เห็นมั้ยว่าคนที่คิดไม่ดีเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว แต่คุณยังอยู่เพราะคุณเป็นคนดีไง” ภูติหมายถึงผู้ชายในคลิป เนื่องจากได้สอบถามข้อมูลมาบ้างจึงรู้ว่าชลันถูกแกล้งจากเอกพจน์อดีตคนรัก
“คุณภูเห็นแล้วใช่มั้ยคะ ลัน! ลันลาออกก็ได้ค่ะถ้ามันทำให้ภาพลักษณ์บริษัทเสียหาย” ชลันพูดพร้อมน้ำตาคลอเบ้า ที่พร้อมจะไหลออกมาเต็มที่
“ใช่! คุณก็รู้นิ แต่ทำไมมันยังเกิดขึ้นได้”
“ลัน.. ลันขอโทษค่ะลันขอรับผิดชอบโดยการลาออกค่ะ”
นาทีที่พูดจบชลันไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ ปล่อยให้มันไหลลงมาเต็มสองแก้ม เธอรู้สึกผิดจริงๆ ชลันไม่รู้เลยว่าใครเห็นคลิปเธอบ้าง แต่ขนาดระดับผู้บริหารยังเห็น นับประสาอะไรกับพนักงานด้วยกัน ชลันตัดสินใจในทันที ต้องการที่จะเขียนใบลาออก
“ลันผมยังไม่ได้พูดว่าจะไล่คุณออก แต่! ผมมีงานให้คุณทำ ชดใช้ที่ทำให้บริษัทผมเสียหาย แต่ถ้าคุณไม่ทำผมก็คงต้องเชิญคุณออก”
เขาสังเกตเห็นชลันตกใจในคำพูดของตน และในขณะเดียวกันก็ภาวนาให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าทำตามคำพูดของของตนเองไม่ชิ่งลาออกไปจริงๆ ภูติตัดสินใจจะให้ชลันนี่แหละมาหลอกเป็นเมียจำเป็น โดยใช้เรื่องอื้อฉาวของเธอเป็นข้อแลกเปลี่ยน ถึงจะเสี่ยงต่อการตัดสินใจลาออกของเธอก็ตาม เพราะรู้สึกถูกชะตาแปลกๆ ตั้งแต่ช่วยเธอที่ทะเลคราวนั้น
“งานอะไรคะ คุณภูบอกลันมาก่อน แล้วลันถึงจะบอกว่าจะทำหรือไม่ทำ”
“คุณไม่มีสิทธิ์ต่อลองนะลัน ถ้าคุณไม่ทำก็คือต้องลาออกเท่านั้น คิดดูดีๆนะงานก็หายาก คลิปคุณใครก็คงเห็นกันหมด ถ้าคุณไปสมัครงานที่ใหม่ เกิดฝ่ายบุคคลเขาเห็นคลิปคุณล่ะ คุณคิดว่าเขายังจะรับคุณเข้าทำงานมั้ย” ภูติพูดยืดยาวเพื่อโน้มน้าวให้ชลันคิดตามคำพูดของตน และทำตามข้อตกลงของตนเอง
“คุณภูจะให้ลันทำอะไรคะ”
“แล้วผมจะบอกอีกทีหนึ่ง ผมขอเบอร์ติดต่อคุณหน่อยวันหยุดแล้วผมจะนัดมาคุยอีกที ตรงนี้ไม่เหมาะที่จะคุย แต่คุณห้ามพูดให้ใครฟังนะ รู้แค่คุณกับผมเท่านั้น”
จากนั้นภูติก็ให้ชลันกลับมาทำงานปกติ และตนเองก็เดินออกไป เมื่อท่านประธานเดินออกไปลับตา ทุกคนต่างกู่เข้ามารุมล้อมถามชลันว่าท่านประธานคุยอะไรนานสองนาน ชลันไม่พูดให้ทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวของตน และตัวเองกลับมานั่งทำงานปกติเช่นเดิม
“น้องลันคุณภูติคุยอะไรด้วย” นิดา ซันนี่และไนซ์ต่างลากเก้าอี้มาที่โต๊ะทำงานของเธอ
“ลันคุณภูติคุยเรื่องนั้นใช่มั้ย” ซันนี่ไม่อ้อมค้อมถามเพื่อนสนิทออกมาตรงๆ ชลันไม่ตอบแต่พยักหน้าแทนคำตอบ
เจ้าสาวจำเป็น บทที่ 4
“ใจเย็นๆก่อนคุณน้อง พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ตาภูมันมีเมียอยู่แล้ว พี่ก็ตกใจเหมือนกัน เห็นมันเงียบๆไม่เคยพาผู้หญิงเข้าบ้านสักครั้ง ทีไหนได้แอบซุกเมียไว้” คุณหญิงช่อผกาพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด เธอก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้
ปานชีวานั่งฟังผู้ใหญ่สองคนคุยกันที่บ้านของตนเอง เรื่องนี้นี่เองที่ทำให้คุณหญิงป้ามาถึงบ้าน ปกติมาบ้านเธอที่ไหน เห็นแต่คุณแม่ของตนที่เป็นฝ่ายเที่ยวไปหา เธอสงสัยว่าใครกันแฟนของภูติ คงไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นแน่ เพราะคนอย่างคุณหญิงช่อผกาคงไม่ยอมหากแฟนลูกชายเป็นผู้ชาย แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน
ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากรู้ หรือพี่ภูของเธอจะเปลี่ยนใจมาชอบผู้หญิง แต่เมธาวีเพื่อนของเธอบอกว่าเกย์มันไม่มีทางชอบผู้หญิงแน่ๆ แล้วอย่างภูติเป็นอะไร เขาเรียกว่าอะไร ทำไมถึงมีแฟนเป็นผู้หญิง อย่างนี้มันต้องพิสูจน์ความจริง คิดไปคิดมาจะพิสูจน์ความจริงไปทำไม ในเมื่อตนเองไม่ได้แต่งกับผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันก็ดีแล้วนิ
“น้องไม่ยอมนะคะคุณพี่ น้องต้องโดนพวกคุณหญิงคุณนายนินทากันให้แซดแน่ๆ” คุณหญิงราตรียังคงไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“พี่ขอโทษนะคะคุณน้อง พี่จนใจจริงๆ พี่เลี้ยงลูกสามคนของพี่มาไม่เคยบังคับจิตใจลูกนะ พี่จนใจจริงๆ” คุณหญิงช่อยังคงยืนยันคำเดิม คือยกเลิกงานหมั้นระหว่างลูกชายของตนกับลูกสาวของเพื่อนผู้น้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้
“คุณแม่คะ คุณป้าอย่างอนกันเลยค่ะ ที่จริงปานก็ไม่อยากหมั้นกับพี่ภูหรอกค่ะ” ปานชีวาห้ามศึกระหว่างแม่ของตนกับคุณหญิงป้าที่มีท่าทีว่าจะทะเลาะกัน
“หมายความว่ายังไงยายปาน” คุณหญิงราตรีทำหน้าบึ้งหันมาคุยกับลูกสาว
“อย่างที่คุณหญิงป้าพูดนั่นแหละค่ะ พี่ภูเค้ามีแฟนแล้ว ปานไม่อยากแย่งของใครมา อีกอย่างพี่ภูก็ไม่ได้รักปาน”
ปานชีวาพูดไปตามน้ำ นอกจากจะช่วยห้ามไม่ให้ผู้ใหญ่งอนกันแล้วยังช่วยภูติไว้ได้อีกด้วย สำหรับตนเองถ้าเกิดภูติไม่เป็นเกย์ก็คงยอมแต่งงานตามที่คุณหญิงแม่ต้องการ ลึกๆก็แอบชอบภูติ ถ้าไม่นับว่าภูติชอบผู้ชายละก็ เขาก็คือผู้ชายเพอร์เฟคดีๆคนหนึ่งล่ะ แต่ก็ยังสับสนว่าภูติชอบผู้หญิงด้วย หรือว่าเป็นประเภทหญิงก็ได้ชายก็ดี
“หนูปานเคยเห็นแฟนพี่ภูเค้าด้วยเหรอจ๊ะ” ช่อผกาหันมาพูดกับหลานสาว
“ปานไม่เคยเห็นหรอกค่ะ แต่ปานรู้ที่ไม่บอกคุณป้าเพราะว่าไม่อยากยุ่งกับเรื่องส่วนตัวเดี๋ยวพี่ภูก็คงบอกคุณป้าเอง”
“ตกลงคือยกเลิกงานหมั้นใช่มั้ยคะ” คุณหญิงราตรียังทำใจไม่ได้ หวังเอาไว้มาก อยากเป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลภูติพัฒน์ หากเป็นอย่างที่คิดธุรกิจตัวเองคงไปได้สวย แต่บัดนี้ฝันสลายไปแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าเสียดาย
“ใช่ค่ะคุณแม่ ปานไม่อยากบังคับจิตใจพี่ภู ไม่อยากทำร้ายผู้หญิงด้วยกันด้วย”
“คุณน้องไม่ต้องห่วงนะ ความผิดนี้พี่จะรับเอาทุกอย่างหากมีคุณหญิงคุณนายพวกนั้นนินทา ก็ให้โยนความผิดมาที่พี่ก็แล้วกัน ถ้างั้นพี่ขอตัวกลับนะคะ”
พูดแล้วคุณหญิงช่อผกากับผู้ติดตามก็ลุกขึ้นเดินออกไป โดยมีสายตาของคุณหญิงราตรีมองตามด้วยความไม่พอใจ แต่ต้องเก็บอาการไว้ ยังไงก็ต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกันไว้ ตนเองยังต้องพึ่งคุณหญิงช่อผกาในการทำธุรกิจอยู่ ถึงจะโยนความผิดให้คุณหญิงช่อผกาคงไม่มีใครหน้าไหนกล้านินทาให้ได้ยินอยู่ดี ใครๆก็รู้ถึงความมั่งคั่งของตระกูลภูติพัฒน์ ถ้าเป็นตนเองสิมีหวังถูกนินทาทั้งเดือนทั้งปีแน่นอน
ณ บริษัทภูติพัฒน์กรุ๊ป
ภูติเดินออกจากห้องทำงานของพี่ชาย เดินไปยังแผนกการตลาด พนักงานพึ่งหายเกร็งจากท่านประธานใหญ่ยังไม่ทันได้ทำตัวตามสบาย ก็ต้องตกใจกับการมาเยี่ยมของท่านประธานอีกคน
พนักงานทุกคนทำตัวไม่ถูกอีกรอบ ยังไม่ทันได้ผ่อนคลายก็ต้องเกร็งอีกครั้ง โดยเฉพาะสองสาวขาเม้าส์ของแผนกที่ใส่กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมามาก นั่งทำงานทีเกือบเห็นอาณาจักรทั้งหมด โชคดีที่มีโต๊ะทำงานบังไว้ ลุกลี้ลุกลนทำตัวไม่ถูกหน้าถอดสี ไม่คิดว่าภูติจะมา ปกติสามเดือนก็ไม่มาแผนกทีนึง
“นี่มันวันอะไรวะพี่ไนซ์ บอสปรีติพึ่งออกไปเมื่อกี้นี่เองนะ” ซันนี่หันไปคุยกับชายไนซ์ที่โต๊ะทำงานอยู่ติดกัน เธอไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการมาของท่านประธานคนนี้เหมือนกับการมาของปรีติเลย รู้สึกเกร็งไม่เป็นตัวของตัวเองไปหมด ถึงไม่เคยเห็นและรู้จัก ดูจากการต้อนรับของหัวหน้าแผนกก็พอจะรู้
“วันนี้วันอะไรไม่รู้แต่ที่รู้ๆพรุ่งนี้หวยออก”
ชายไนซ์ตอบเพื่อนร่วมงานที่มีอายุห่างกันมาก ที่ได้รับฉายาชายไนซ์เพราะในกลุ่มสี่คน มีเขาเป็นผู้ชายคนเดียว อีกสามคนเป็นผู้หญิงหมด ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนเขาไม่สนใจ ไม่ว่าจะเครียดหรือซีเรียสแค่ไหนชายไนซ์ก็ยังมีอารมณ์ขันตลอดเวลา จึงทำให้เป็นที่รักของเพื่อนๆน้องๆในแผนกทุกคน
“ใครคะพี่ไนซ์ คุณภูติมั้ยใช่มั้ยคะ”
ซันนี่กระซิบคุยกับเพื่อนรุ่นพี่ เธอรู้จักปรีติ สายตามองไปที่โปสเตอร์ที่ติดอยู่ฝาผนังคือรูปของกิตติน้องชายคนสุดท้อง ส่วนคนนี้พึ่งเข้ามาก็ต้องเป็นภูติแน่นอน ซันนี่เข้ามาทำงานพร้อมชลัน ทั้งเธอและชลันยังไม่เคยเห็นภูติสักครั้ง
“ใช่แล้วจ้ะน้องซัน”
“เค้ามาทำไมอ่ะพี่ไนซ์ เมื่อกี้บอสก็มาแล้วนะ หรือว่าจะมาเรื่องลัน” สีหน้าของซันนี่เริ่มมีความกังวล กลัวเพื่อนซี้จะเดือดร้อน
“ไม่หรอกน้องซันมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ เขาอาจจะมาเรื่องอื่นก็ได้” ชายไนซ์เริ่มกังวลด้วยนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้า เก็บอาการได้ดีมากตามอายุและประสบการณ์ในการใช้ชีวิต
ภูติเดินมาในแผนกการตลาด สายตาชำเรืองมองหาใครบางคนที่เห็นในคลิป ไม่เห็นผู้หญิงที่ว่า เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าใช่คนๆเดียวกันหรือป่าว หรือว่าเขาเองที่จำผิดคน มันพึ่งผ่านมาได้ไม่ถึงอาทิตย์ เขาคิดว่าตนเองจำได้แม่น แต่ทำไมไม่มี ภูติสังเกตเห็นโต๊ะทำงานว่างหนึ่งโต๊ะ หรือว่าจะเป็นเจ้าของโต๊ะนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ถาม หัวหน้าแผนกรีบนำงานส่วนที่ภูติรับผิดชอบมาให้ดูความเรียบร้อย และแนะนำในส่วนที่เขายังไม่รู้จักใครชื่ออะไรยังไง รับผิดชอบส่วนไหน ใครเข้ามาเป็นพนักงานใหม่ หัวหน้าแผนกแนะนำให้เขารู้ทั้งหมด
“คนนี้คือพนักงานใหม่ค่ะ พึ่งเข้ามาเมื่อปีที่แล้ว ชื่อศันสนีย์” หัวหน้าแผนกงานพาเขาเดินมายังโต๊ะทำงานของพนักงานใหม่ และผายมือมายังคนที่ถูกแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” ศันสนีย์ทำความเคารพ
“ที่นี่กันเองนะครับ ขัดข้องอะไรก็บอกผมได้” ภูติกล่าวทักทาย
“ซันนี่น้องลันไปไหน” หัวหน้าแผนกถามหาชลัน เพราะไม่เห็นอยู่ที่โต๊ะ เธอเป็นน้องใหม่เข้ามาพร้อมกับซันนี่ จำเป็นต้องแนะนำเช่นกัน
ภูติได้ยินชื่อชลันมั่นใจว่าต้องเป็นคนเดียวกันกับคนที่ตนช่วยชีวิตไว้ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกชื่นชมที่เธอเข้มแข็งยังทำงานอยู่ที่เดิม แต่มันก็ช่างขัดแย้งกับวันนั้นจริงๆ ที่ทำไมถึงคิดฆ่าตัวตาย ตกลงเธอเข้มแข็งหรืออ่อนแอกันแน่
“ลันไปติดต่องานที่ชั้นเก้าค่ะ”
“เดียวถ้าเธอมาบอกให้มาพบผมด้วยนะครับ” ภูติหันมาพูดกับศันสนีย์
“ค่ะ”
จากนั่นภูติก็เดินไปนั่งที่โซฟามุมที่ถูกจัดไว้สำหรับแขกที่มาเยือนหรือผู้บริหารทุกระดับ ศันสนีย์ นิดา และไนซ์ทำหน้ากังวล จะเกี่ยวกับเรื่องคลิปของชลันหรือป่าว
“เห็นมั้ยพี่ไนซ์ ซันนี่ว่าต้องมาเพราะเรื่องยายลันแน่ๆ” ศันสนีย์ออกอาการไม่สบายใจ กลัวว่าเพื่อนจะโดนเชิญให้ออกจากงาน
“ใจเย็นๆหน่าน้องซันนี่ มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เรากำลังคิดอยู่ก็ได้” นิดาพูดปลอบใจ ที่เห็นสีหน้าของศันสนีย์มีความกังวลมาก
“ใช่คุณปรีติมาเมื่อกี้ก็ยังไม่เห็นว่าอะไร บางทีคุณภูติแค่อยากจะเห็นหน้าค่าตาของลันเฉยๆก็ได้” ไนซ์พูดขึ้นอีกคน
“ก็ขอให้เป็นเช่นนั้นนะคะ” ศันสนีย์ยังไม่คลายความกังวลลงแม้แต่น้อย ในใจก็ขอให้ท่านประธานคนนี้ต้องการแค่ทำความรู้จักกับเพื่อนของตนเท่านั้น อย่าได้เป็นอย่างอื่นไปเลย
ไม่นานชลันก็กลับเข้ามาโต๊ะทำงานของตนเอง ทุกคนในแผนกมองเป็นตาเดียวกัน แต่ไม่มีใครกล่าวอะไรสักคำ มันทำให้ชลันรู้สึกระแวงอย่าบอกไม่ถูก ปกติถ้ามองกันขนาดนี้ต้องมีใครสักคนเฉลยขึ้นมาบ้างล่ะ แต่ครั้งนี้มันแปลกทำให้เธอใจหวิวขึ้นมาดื้อๆ แม้แต่เพื่อนซี้รุ่นพี่ที่อารมณ์ขันที่สุดอย่างไนซ์ก็ไม่พูดอะไร
“น้องลันมาแล้วเหรอ ตามพี่มาหน่อยจ้ะ คุณภูติอยากเจอ” หัวหน้าแผนกที่มีอายุสี่สิบกลางๆเดินมาเรียกเธอ ชลันเดินตามไปอย่างว่าง่าย หันหลังมามองหน้าเพื่อนซี้ทั้งสี่คน ไม่มีใครพูดอะไรสักคน
เมื่อชลันเดินตามหัวหน้าแผนกมาถึงที่รับรองผู้บริหาร เธอทำหน้าตกใจเมื่อเจอกับผู้ชายคนที่ช่วยเหลือตนเองในวันนั้น
“คุณ เอ่อ..” ชลันพูดกุกกัก และหยุดพูดไปในที่สุดเนื่องจากด้วยไหวพริบว่าเขาคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ คงเป็นลูกค่าหรือผู้บริหารส่วนไหนสักส่วน
“คุณภูติคะนี่คือน้องชลันค่ะ” สุมลหัวหน้าแผนกกล่าวแนะนำชลันให้ภูติรู้จัก
“น้องลันนี่คือผู้บริหารบริษัทภูติพัฒน์กรุ๊ปอีกคน คุณภูติจ้ะ” สุมลแนะนำภูติให้ชลันรู้จักอีกทีหนึ่ง ก่อนที่จะขอตัวออกมาทำงานของตน
“ท่านประธาน! เอ่อ สะ.. สวัสดีค่ะ” ชลันพูดติดๆขัดๆ ทั้งตกใจ ทั้งดีใจ ที่ได้เจอผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง และตกใจที่ผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้านายของตน
“นี่คุณ ชื่อชลันเองเหรอ ตามสบายนะครับ ให้คิดว่าตอนนี้ผมคือผู้ชายคนนั้น ไม่ใช่เจ้านายคุณ”
“เอ่อค่ะ... ค่ะ เรียกลันเฉยๆก็ได้ค่ะ” ชลันสั่นสะท้านไปทั้งตัว ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอกันอีกครั้งหายไป มีแต่ความเกร็งและสั่นที่ยังอยู่
“นี่คุณผมบอกว่าตามสบายไง”
“ค่ะ” ชลันก้มหน้าไม่กล้าสบตาคนที่อยู่ตรงหน้า ถึงเขาจะบอกให้เธอตามสบาย แต่มันก็ยังรู้สึกเกร็งอยู่ดีด้วยฐานะทางสังคมคือเจ้านายกับลูกน้องอยู่ดี
“ผมดีใจนะที่ได้เจอคุณอีกครั้ง อย่าคิดสั้นอีกล่ะรู้ใช่มั้ยว่าชีวิตมีค่าแค่ไหน ปัญหาที่มันเข้ามาไม่นานมันก็ผ่านไป เห็นมั้ยว่าคนที่คิดไม่ดีเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว แต่คุณยังอยู่เพราะคุณเป็นคนดีไง” ภูติหมายถึงผู้ชายในคลิป เนื่องจากได้สอบถามข้อมูลมาบ้างจึงรู้ว่าชลันถูกแกล้งจากเอกพจน์อดีตคนรัก
“คุณภูเห็นแล้วใช่มั้ยคะ ลัน! ลันลาออกก็ได้ค่ะถ้ามันทำให้ภาพลักษณ์บริษัทเสียหาย” ชลันพูดพร้อมน้ำตาคลอเบ้า ที่พร้อมจะไหลออกมาเต็มที่
“ใช่! คุณก็รู้นิ แต่ทำไมมันยังเกิดขึ้นได้”
“ลัน.. ลันขอโทษค่ะลันขอรับผิดชอบโดยการลาออกค่ะ”
นาทีที่พูดจบชลันไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ ปล่อยให้มันไหลลงมาเต็มสองแก้ม เธอรู้สึกผิดจริงๆ ชลันไม่รู้เลยว่าใครเห็นคลิปเธอบ้าง แต่ขนาดระดับผู้บริหารยังเห็น นับประสาอะไรกับพนักงานด้วยกัน ชลันตัดสินใจในทันที ต้องการที่จะเขียนใบลาออก
“ลันผมยังไม่ได้พูดว่าจะไล่คุณออก แต่! ผมมีงานให้คุณทำ ชดใช้ที่ทำให้บริษัทผมเสียหาย แต่ถ้าคุณไม่ทำผมก็คงต้องเชิญคุณออก”
เขาสังเกตเห็นชลันตกใจในคำพูดของตน และในขณะเดียวกันก็ภาวนาให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าทำตามคำพูดของของตนเองไม่ชิ่งลาออกไปจริงๆ ภูติตัดสินใจจะให้ชลันนี่แหละมาหลอกเป็นเมียจำเป็น โดยใช้เรื่องอื้อฉาวของเธอเป็นข้อแลกเปลี่ยน ถึงจะเสี่ยงต่อการตัดสินใจลาออกของเธอก็ตาม เพราะรู้สึกถูกชะตาแปลกๆ ตั้งแต่ช่วยเธอที่ทะเลคราวนั้น
“งานอะไรคะ คุณภูบอกลันมาก่อน แล้วลันถึงจะบอกว่าจะทำหรือไม่ทำ”
“คุณไม่มีสิทธิ์ต่อลองนะลัน ถ้าคุณไม่ทำก็คือต้องลาออกเท่านั้น คิดดูดีๆนะงานก็หายาก คลิปคุณใครก็คงเห็นกันหมด ถ้าคุณไปสมัครงานที่ใหม่ เกิดฝ่ายบุคคลเขาเห็นคลิปคุณล่ะ คุณคิดว่าเขายังจะรับคุณเข้าทำงานมั้ย” ภูติพูดยืดยาวเพื่อโน้มน้าวให้ชลันคิดตามคำพูดของตน และทำตามข้อตกลงของตนเอง
“คุณภูจะให้ลันทำอะไรคะ”
“แล้วผมจะบอกอีกทีหนึ่ง ผมขอเบอร์ติดต่อคุณหน่อยวันหยุดแล้วผมจะนัดมาคุยอีกที ตรงนี้ไม่เหมาะที่จะคุย แต่คุณห้ามพูดให้ใครฟังนะ รู้แค่คุณกับผมเท่านั้น”
จากนั้นภูติก็ให้ชลันกลับมาทำงานปกติ และตนเองก็เดินออกไป เมื่อท่านประธานเดินออกไปลับตา ทุกคนต่างกู่เข้ามารุมล้อมถามชลันว่าท่านประธานคุยอะไรนานสองนาน ชลันไม่พูดให้ทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวของตน และตัวเองกลับมานั่งทำงานปกติเช่นเดิม
“น้องลันคุณภูติคุยอะไรด้วย” นิดา ซันนี่และไนซ์ต่างลากเก้าอี้มาที่โต๊ะทำงานของเธอ
“ลันคุณภูติคุยเรื่องนั้นใช่มั้ย” ซันนี่ไม่อ้อมค้อมถามเพื่อนสนิทออกมาตรงๆ ชลันไม่ตอบแต่พยักหน้าแทนคำตอบ