คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่จริงต้องบอกว่า
"สิ่งใดที่เราไปยึดถือว่าเป็นอัตตา ควรละอัตตานุทิฏฐินั้น"
ซึ่งก็คือ "เกิดอัตตานุทิฏฐิขึ้นกับสิ่งใด ให้ละอัตตานุทิฏฐิในสิ่งนั้น"
สมาชิกหมายเลข 3344432
1 ชั่วโมงที่แล้ว
อย่าไปบัญญัติเอง เป็นการตู่พระพุทธเจ้า
ในโลกนี้ไม่มี
"สิ่งใดที่เราไปยึดถือว่าเป็นอัตตา ควรละอัตตานุทิฏฐินั้น"
มีแต่ว่าสิ่งใดเป็นอนัตตา ควรละความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนั้น
ต้องเห็นว่าสิ่งใดเป็นอนัตตาให้ได้ก่อน
ถึงละความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนั้น
ไม่ใช่ไปเห็นอัตตา เพราะอัตตาไม่ใช่ความยึดมั่นถือมั่น
เพราะโลก(ขันธ์5)นี้ไม่มีอัตตา
โลกนี้มีแต่อนัตตา
คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนอัตตา
"สิ่งใดที่เราไปยึดถือว่าเป็นอัตตา ควรละอัตตานุทิฏฐินั้น"
ซึ่งก็คือ "เกิดอัตตานุทิฏฐิขึ้นกับสิ่งใด ให้ละอัตตานุทิฏฐิในสิ่งนั้น"
สมาชิกหมายเลข 3344432
1 ชั่วโมงที่แล้ว
อย่าไปบัญญัติเอง เป็นการตู่พระพุทธเจ้า
ในโลกนี้ไม่มี
"สิ่งใดที่เราไปยึดถือว่าเป็นอัตตา ควรละอัตตานุทิฏฐินั้น"
มีแต่ว่าสิ่งใดเป็นอนัตตา ควรละความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนั้น
ต้องเห็นว่าสิ่งใดเป็นอนัตตาให้ได้ก่อน
ถึงละความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนั้น
ไม่ใช่ไปเห็นอัตตา เพราะอัตตาไม่ใช่ความยึดมั่นถือมั่น
เพราะโลก(ขันธ์5)นี้ไม่มีอัตตา
โลกนี้มีแต่อนัตตา
คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนอัตตา
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
นิพพานเกิดที่ไหน?