สบายดี... เป็นทริปท่องเที่ยวแบบไม่คาดฝัน จู่ๆก็มีนางฟ้าใจดีหล่นมาจากฟากฟ้า ขอให้พาเที่ยว เลยมีโอกาสได้ไปเมืองที่อยากไปท่องเที่ยว แต่ยังไม่เคยได้เดินทางไปซักที เนื่องจากเป็นคนเมืองเหนือดินแดนอาณาจักรล้านนา เลยอยากจะไปเยี่ยมเยือนเมืองพี่เมืองน้อง อย่างอาณาจักรล้านช้าง บ้านที่ทางบ้านบอกว่าเรามีเชื้อสาย ( อืมมมมม...น้าว่าตามาจากเมืองหลวงพระบาง จริงหรือเปล่าน๊า 555) เอาเป็นว่าทริปนี้เกิดขึ้นเพราะลูกหลานคนลาวนี่แหละ เลยได้แบกกล้องไปถ่ายภาพที่เมืองมรดกโลกแห่งนี้
ทริปนี้วางแพลนไว้ 2-3 เดือนก่อนการเดินทาง ตั๋วของสายการบินที่ได้ ถือว่าได้ราคาดีทีเดียว วางแพลนกันหลายทางกว่าที่จะลงตัวที่เส้นทาง หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทร์ 4 วัน 3 คืน (พอไปมาแล้วคิดว่าน่าจะเพิ่มวันเดินทาง) แล้วมาขึ้นเครื่องที่อุดรธานี เป็นทริปที่เบสิคมาก แต่ก้อเหมาะกับ สาวๆ ที่เดินทางกันเอง ปลอดภัย และไม่ลำบากจนเกินไป แต่ขอลุยนิดหน่อย แต่ได้เที่ยวทั้ง 3 แห่งเลย
ทริปนี้เบ็ดเสร็จราคา/คน
- ตั๋วเดินทาง กรุงเทพฯ-หลวงพระบาง สายการบินแอร์เอเซีย 1,330 บาท/คน
- ตั๋วเดินทาง อุดรธานี - กรุงเทพฯ สายการบินนกแอร์ 690.- บาท/คน
- ที่พัก Agoda ใช้พ้อย Agoda Cash แลก 555 เลยไม่ขอบอกราคาแล้วกันนะคะ แต่ที่พักที่หลวงพระบางมีตั้งแต่ราคาหลักร้อย - หลักพัน (ส่วนตัวใช้ห้องราคาหลักร้อย ค่าที่พักรวมกันไม่เกิน 1000 บาท/คน)
- ค่าซิมเนต คนละ 100 บาท 4 วัน
- ค่ารถส่วนตัวจาก สนามบิน - ที่พัก 290 บาท /2 คน (ตกคนละ 145 บาท)
- ค่ารถมอเตอร์ไซด์เช่า 85,000 กีบ
- เติมน้ำมัน 20,000 กีบ
- ค่ารถเดินทางจาก หลวงพระบางไปวังเวียง คนละ 80,000 กีบ
- ค่าเช่ามอเตอร์ไซด์ที่วังเวียง 80,000 กีบ
- เติมน้ำมัน 10,000 กีบ
- ค่ารถเดินทางจาก วังเวียง - เวียงจันทน์ 60,000 กีบ
- ค่ารถพาเที่ยวในเวียงจันทร์ และไปส่งด่าน คนละ 300 บาท
- ค่ารถจากด่านลาวไปด่านไทย คนละ 20 บาท
- ค่าธรรมเนียมผ่านด่าน ถ้าเป็นเงินไทย 50 บาท เงินลาว 10,000 กีบ
- ค่ารถตู้จากด่านไทย - สนามบินอุดรธานี คนละ 150 บาท
- ค่าอาหารราคาก็จะประมาณบ้านเรา คือประมาณ 20,000 กีบ เช่น เฟอ ข้าวซอย หรือ ส้มตำ เรียกว่าแลกมามีเงินเป็นล้านจริง แต่ค่าใช้จ่ายเหมือนตอนอยู่ไทยเลย 555
- ชา กาแฟ ถ่ายสวยๆ เก๋ๆ แก้วนึงประมาณ 25,000 กีบ ขึ้นไป
อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 30 กันยายน 2019 อยู่ที่ประมาณ 1 บาท = 290 กว่าๆ ตี ว่า 300 /// 10000 กีบ = 34 บาท (หืมมมมมมม)
อย่าดูเยอะ 555 โปรแกรมเหมือนจะแน่น แต่ขอบอกว่าใส่ข้อมูลมาเผื่อเกิดฉุกเฉิน เผื่อว่าที่นี่ไม่ทัน จะไปที่นี่แทน เป็นแผนการท่องเที่ยวแบบคร่าวๆ การเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเอง เราจะเดินทางครบทุกสถานที่ท่องเที่ยวตามโปรแกรมเหมือนกับทัวร์ไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจ เพราะความชิลของเรา แลกมาด้วยเวลาที่ไม่ต้องเร่งรีบ การวางแผนท่องเที่ยวตารางแบบนี้ขอบอกว่าดีมาก ทำให้เรารู้ค่าใช้จ่าย ทำให้เราคิดวิเคราะห์เส้นทางได้
หลังจากวางแผนเรียบร้อย ก็ออกเดินทางได้
เตรียมของนิดหน่อย เห็นเขาถ่ายมาเลยขอทำบ้าง จริงๆแล้ว ของมีน้อยนิด เนื่องจากเป็นคนชอบถ่ายรูป ของสำคัญในทริปนี้คงไม่พ้นอุปกรณ์ที่จะใช้ในการถ่ายรูปนั่นแล
นัดเจอกับเพื่อนที่สนามบิน เช็คอินเรียบร้อย ก็ถึงเวลาออกเดินทาง
ไปหลวงพระบาง เกต 1 ใครบ้างน๊อออ ที่จะไปทางเดียวกับเรา
พอมาถึงก็งานเข้าเลย เพราะเครื่องบินสายการบินแอร์เอเซีย ที่จะต้องเดินทางจาก ดอนเมือง - หลวงพระบาง เที่ยวบินที่ FD1030 จากที่ต้องบิน 14.30 น. ขณะนั้นมีอันต้องล่าช้า เนื่องจากการฝึกบินของกองทัพ จึงเลือนเป็น 16.30 น. แล้วพระธาตุภูสี ชั้นหล่ะ แต่ทุกการเดินทางก็อย่างนี้แหละ มีแต่สิ่งที่เราไม่คาดคิด
แล้วก็ถึงเวลาออกเดินทาง
ขึ้นไปทางแอร์ของสายการบินแอร์เอเซีย ก็แจกเอกสาร ต.ม.ให้กับผู้โดยสารกรอก
มาถึงแล้วเมืองหลวงพระบาง ระหว่างก่อนเครื่องจะลงจอดที่สนามบินหลวงพระบาง ก็ประทับใจกับภาพของแผ่นดินเมืองลาว ที่เห็นภูเขาน้อยใหญ่สีเขียวสุดสายตา พอลงเครื่องก็สัมผัสถึงอากาศที่หนาวเย็นทันที อู้ยยยย ตื่นเต้นซะแล้วสิ
ที่พักคืนแรกที่เมืองหลวงพระบาง สายน้ำคาน ริเวอร์วิว เรียกว่าโรงแรมยอดฮิตของคนไทยก็ว่าได้ เจอคนไทยที่นี่เยอะมาก ส่วนใหญ่จะเอารถขับมาเที่ยวเอง ทั้งมาจากทาง จังหวัดน่าน และ ที่ขับรถมาจากกรุงเทพฯ มากันเป็นครอบครัว น่ารักทีเดียว
เรามาถึงกันเย็นมากจึงไม่ทันขึ้นพระธาตุภูสี จึงจะยกยอดไปวันพรุ่งนี้แทน จากนั้นก็ถึงเวลาท่องราตรีที่เมืองหลวงพระบาง
ตัวเมืองหลวงพระบางเป็นเมืองเล็กๆ ประมาณว่าสามารถขี่จักรยานเที่ยวชมรอบเมืองได้ไม่เหนื่อย เราจะเห็นนักท่องเที่ยวใช้จักรยานของทางโรงแรมปั่นไปโน่นมานี่ได้สบาย แต่นี่เลือกจะเสพเมืองน่ารัก กลิ่นอายที่ละมุนละไม แบบนี้จากการเดิน ถ่ายรูปตึกต่างๆ ในยามกลางคืน ก็ได้บรรยากาศที่สโลไลฟ์มากๆ
เดินไปเดินมา ก็เห็นตลาดกลางคืนอยู่ด้านหน้าลิบๆ ได้เวลาหาของกินและเดินช้อปปิ้งซะหน่อย
ขนมครก ก้อจะหวานๆ แป้งนิดนึง ของไทยจะใส่ต้นหอม ข้าวโพด หรือ เผือก แต่ที่นี่จะเป็นแต่แป้งกับกระทิ ไม่ใส่หน้าอะไร ส่วนปอเปี๊ยะ ก้ออร่อยดี
เมื่อได้เวลาก่อนที่จะช้อปปิ้ง ก็ขอลองของดีของลาว ซะหน่อย
จริงๆ มื้อนี้หิวมมาก มีของกินมากกว่านี้ มีทั้งใส้อั่ว ไคแผ่น เกี๊ยวซ่า เรียกว่านอกจากภาพที่เห็น มากัน 2 คน แต่เหมือนมาซัก 5 คน ราคาของอาหารอย่างที่บอกราคาไม่ต่างจากไทย เผลอๆ จะราคาสูงกว่าด้วยซ้ำ แต่ถือว่าเป็นราคาสำหรับนักท่องเที่ยวแล้วกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนลาวจะกินถูกกว่านะ เพราะก็เห็นราคาเท่ากัน
แต่ส้มตำหลวงพระบางขอบอกว่าแซบมาก มาถึงเมืองหลวงพระบางต้องลอง ท้องอิ่มก็ถึงเวลาช้อปปิ้งแล้ว
เดินช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ ขอเวลาชิลๆ ส่วนตัว ที่โรงแรมที่พักซักหน่อย
จบทริปวันแรก ในบรรยากาศชิลๆ พรุ่งนี้มาลุ้นกันว่าจะหลงหลวงพระบางหรือเปล่า เพราะสองสาวเลือกที่จะเช่ามอไซด์ไปเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของหลวงพระบางแทนที่จะใช้บริการของทัวร์วันเดียว ที่มีมากมายที่หลวงพระบาง ราคาก็ไม่แพงเกินไป ราคาประมาณ 60000 กีบต่อคน ไปน้ำตก เป็นความต้องการที่อยากจะลุยเล็กๆของลูกผู้หญิงสองคน มีทริปขี่มอเตอร์ไซด์เที่ยวในหลวงพระบาง
มาลุ้นกันว่าจะรอดหรือจะร่วง เพราะทุกการเดินทางมีเรื่องราว ไปเที่ยวที่เดียวกัน 100 ครั้ง ก็มีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกันทั้ง 100 ครั้ง โชคดีที่การเดินทางครั้งนี้ อากาศดีทั้ง 4 วัน ถึงแม้ว่าเครื่องจะดีเลย์ ทำให้แผนการเดินทางเปลี่ยน แต่สิ่งที่ดีคืออากาศของที่เมืองหลวงพระบางเย็นสบาย
#รีวิวเที่ยวหลวงพระบางกันแบบผู้หญิงอยากเท่ห์
#มือใหม่หัดรีวิว
[CR] รีวิว : หลงเมืองลาว แอ่วหลวงพระบางตามฉบับผู้หญิงอยากซิ่ง //Day1 : Luangphabang VangVieng Viengtian
ทริปนี้วางแพลนไว้ 2-3 เดือนก่อนการเดินทาง ตั๋วของสายการบินที่ได้ ถือว่าได้ราคาดีทีเดียว วางแพลนกันหลายทางกว่าที่จะลงตัวที่เส้นทาง หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทร์ 4 วัน 3 คืน (พอไปมาแล้วคิดว่าน่าจะเพิ่มวันเดินทาง) แล้วมาขึ้นเครื่องที่อุดรธานี เป็นทริปที่เบสิคมาก แต่ก้อเหมาะกับ สาวๆ ที่เดินทางกันเอง ปลอดภัย และไม่ลำบากจนเกินไป แต่ขอลุยนิดหน่อย แต่ได้เที่ยวทั้ง 3 แห่งเลย
ทริปนี้เบ็ดเสร็จราคา/คน
- ตั๋วเดินทาง กรุงเทพฯ-หลวงพระบาง สายการบินแอร์เอเซีย 1,330 บาท/คน
- ตั๋วเดินทาง อุดรธานี - กรุงเทพฯ สายการบินนกแอร์ 690.- บาท/คน
- ที่พัก Agoda ใช้พ้อย Agoda Cash แลก 555 เลยไม่ขอบอกราคาแล้วกันนะคะ แต่ที่พักที่หลวงพระบางมีตั้งแต่ราคาหลักร้อย - หลักพัน (ส่วนตัวใช้ห้องราคาหลักร้อย ค่าที่พักรวมกันไม่เกิน 1000 บาท/คน)
- ค่าซิมเนต คนละ 100 บาท 4 วัน
- ค่ารถส่วนตัวจาก สนามบิน - ที่พัก 290 บาท /2 คน (ตกคนละ 145 บาท)
- ค่ารถมอเตอร์ไซด์เช่า 85,000 กีบ
- เติมน้ำมัน 20,000 กีบ
- ค่ารถเดินทางจาก หลวงพระบางไปวังเวียง คนละ 80,000 กีบ
- ค่าเช่ามอเตอร์ไซด์ที่วังเวียง 80,000 กีบ
- เติมน้ำมัน 10,000 กีบ
- ค่ารถเดินทางจาก วังเวียง - เวียงจันทน์ 60,000 กีบ
- ค่ารถพาเที่ยวในเวียงจันทร์ และไปส่งด่าน คนละ 300 บาท
- ค่ารถจากด่านลาวไปด่านไทย คนละ 20 บาท
- ค่าธรรมเนียมผ่านด่าน ถ้าเป็นเงินไทย 50 บาท เงินลาว 10,000 กีบ
- ค่ารถตู้จากด่านไทย - สนามบินอุดรธานี คนละ 150 บาท
- ค่าอาหารราคาก็จะประมาณบ้านเรา คือประมาณ 20,000 กีบ เช่น เฟอ ข้าวซอย หรือ ส้มตำ เรียกว่าแลกมามีเงินเป็นล้านจริง แต่ค่าใช้จ่ายเหมือนตอนอยู่ไทยเลย 555
- ชา กาแฟ ถ่ายสวยๆ เก๋ๆ แก้วนึงประมาณ 25,000 กีบ ขึ้นไป
อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 30 กันยายน 2019 อยู่ที่ประมาณ 1 บาท = 290 กว่าๆ ตี ว่า 300 /// 10000 กีบ = 34 บาท (หืมมมมมมม)
หลังจากวางแผนเรียบร้อย ก็ออกเดินทางได้
เรามาถึงกันเย็นมากจึงไม่ทันขึ้นพระธาตุภูสี จึงจะยกยอดไปวันพรุ่งนี้แทน จากนั้นก็ถึงเวลาท่องราตรีที่เมืองหลวงพระบาง
เมื่อได้เวลาก่อนที่จะช้อปปิ้ง ก็ขอลองของดีของลาว ซะหน่อย
แต่ส้มตำหลวงพระบางขอบอกว่าแซบมาก มาถึงเมืองหลวงพระบางต้องลอง ท้องอิ่มก็ถึงเวลาช้อปปิ้งแล้ว
มาลุ้นกันว่าจะรอดหรือจะร่วง เพราะทุกการเดินทางมีเรื่องราว ไปเที่ยวที่เดียวกัน 100 ครั้ง ก็มีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกันทั้ง 100 ครั้ง โชคดีที่การเดินทางครั้งนี้ อากาศดีทั้ง 4 วัน ถึงแม้ว่าเครื่องจะดีเลย์ ทำให้แผนการเดินทางเปลี่ยน แต่สิ่งที่ดีคืออากาศของที่เมืองหลวงพระบางเย็นสบาย
#รีวิวเที่ยวหลวงพระบางกันแบบผู้หญิงอยากเท่ห์
#มือใหม่หัดรีวิว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้