สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้เแรกนะครับ หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยนะครับ
ผมจะแยกเป็นสองส่วนนะครับ ส่วนแรกจะเป็นเรื่องราว และส่วนที่สองเป็นคำถาม
เริ่มกันเลยครับ
ผมอาศัยอยู่กับครอบครัว มีพ่อแม่ พี่สาว และผม เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องแฟนของพี่สาวครับ
พี่สาวผมคบกับแฟนคนนี้ได้สองปี ไปมาหาสู่กันปกติครับ เขาเทคแคร์พี่สาวผมดีมาก พี่เขามาที่บ้านบ่อยๆ ครับ สัปดาห์ละหนึ่งวัน ช่วงแรกที่สองคนนี้เริ่มคบกัน พี่สาวผมพามารู้จักกับที่บ้านครับ เนื่องจากบ้านผมมีฐานะปานกลางค่อนไปทางล่าง เลยไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไร เจอกันวันแรกทานข้าวร่วมกันที่บ้าน พ่อแม่ผมก็ถามไถ่ตามประสาผู้ใหญ่ว่าพี่เขาทำงานอะไร เป็นอย่างไรบ้าง พี่เขาเล่าถึงธุรกิจต่างๆ ของที่บ้าน (กิจการชั้นนำ) ให้พวกเราฟัง รวมถึงคุณพ่อคุณแม่เขาใช้ราชสกุล แต่ตอนนั้นบ้านเราเฉยๆ มากครับ กับเรื่องต่างๆ ที่ได้ฟัง แม่ผมก็เออ ออไป แกอยากรู้ว่าพี่เขาเป็นคนขยันไหม ถ้าขยันแกก็สบายใจ ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ ครับ พี่สาวผมกับแฟนดีต่อกันมาก แต่ที่เหนื่อย น่าจะเป็นผมกับพ่อแม่ ทุกครั้งที่มีการทานอาหารร่วมกัน พี่เขาจะพูดเรื่องต่างๆ มากมายไปหมด จนเราเหนื่อยจะฟังครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องกิจการต่างๆ ของเขา ปัญหาองค์กร พนักงานไม่ดี บลา บลา บางครั้งผมต้องขอตัวขึ้นห้องไว เหนื่อยครับพูดตรงๆ
ช่วงปีแรก พี่เขาเคยชวนพี่สาวผมไปทำงานด้วยกันครับ แต่พี่สาวไม่ได้ตกลงไปครับ เขาก็ชวนอยู่เรื่อยๆ ครับ พอพี่สาวผมลาออกจากงาน ก็ไม่เคยมีคำชวนไปทำงานอีกเลย พี่สาวบอกผมว่า ให้เขาเอาตัวเองให้รอดก่อน งานเขายุ่งจะตาย
ในโซเชี่ยลของพี่เขา ก็จะมีเรื่องราวที่เขาต้องการนำเสนอ กับเรื่องราวที่ทำร่วมกับพี่สาวผมและครอบครัวเราครับ ไม่มีรูปกิจกรรมร่วมกับคนอื่น มีคนกดไลค์ แต่ไม่มีคนคอมเม้นปฏิสัมพันธ์เลย พี่เขาไปคุยงานยุโรปบ่อย แต่ไม่มีรูป (พี่เขาใช้ภาษาอังกฤษผิดหนักมาก อ่านแล้วขัดใจ)
เรื่องที่ผมเริ่มผิดสังเกตคือ ของที่เขาบอกว่าซื้อมาให้พี่สาวผม ส่วนใหญ่มีตำหนิและชำรุดครับ ซึ่งก็จะมีข้อแก้ต่าง ว่าคนที่บ้านเขาหยิบไปใช้มั่ง อะไรมั่ง ซึ่งของแต่ละชิ้นเราสามารถซื้อกันเองได้ครับ ก็รับมาด้วยความเต็มใจ ใช้พังก็ค่อยซื้อเอาใหม่ ผมก็พยามไม่คิดไรต่อครับ ปัญหาคือ ผมเป็นคนเจอรอยตำหนิ รอยขาดต่างๆ เองตอนพี่สาวเอาอวด มันอดคิดไม่ได้บางที
ผมเริ่มสงสัยเรื่องการทำงานธุรกิจต่างๆ ของพี่เขา ในวันที่ผมได้เข้าไปดีลงานกับบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของ เรื่องราวที่เขาเล่าให้พี่สาวผมฟัง กับเรื่องที่ผมกำลังทำอยู่ มันไม่ตรงกัน เหมือนเขาพูดอ้อมๆ ล้อมๆ ไม่รู้ว่าผมอคติเกินไปไหม แต่ผมเริ่มรู้สึกว่า มันไม่ใช่ละ ระหว่างที่ทำงานตัวนี้ ก็มีปัญหาบ้าง ด้วยความที่ผมกับพี่สนิทกัน ผมก็จะปรึกษาว่าแบบนี้ดีไหม หรือผมเจอปัญหาอะไร ทางแฟนพี่ เขาก็จะคอยถามจากพี่สาวผมตลอดว่าราบรื่นไหม เหมือนเขาคอยแก้ปัญหาให้ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ สตอรี่ที่พี่เขาเล่าให้พี่สาวผมฟัง กับเรื่องที่ผมกำลังเผชิญ คนละสตอรี่กันตลอด ท้ายที่สุดพี่เขาก็จะโทษว่าพนักงานเขา บอกเขาไม่หมด
วันที่พี่สาวผมป่วยไปรพ เราเลือกรพเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ไปกันเป็นประจำ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการบริการพูดจาไพเราะ ก่อนไปแฟนพี่โทรมาบอกพี่ว่า เข้าไปได้เลยนะ โทรไปบอก รพแล้ว มีเส้นสายกับรพอีก เหมือนผมเคยฟังเรื่องราวนี้มาก่อน
ครับ! ห้องฉุกเฉิน ไม่ต้องโทรบอกรพ ก็ไปได้เลยอยู่แล้วครับ พอไปถึงก็ไม่ได้มีอะไรต่างจากเดิม ไม่มีส่วนลดใดๆ หรือไม่มีใครมาบอกเราว่าพี่เขาโทรมาแล้ว
ยิ่งนานวันเข้า ผมเริ่มเป็นกังวล ทั้งกังวล ทั้งรู้สึกผิดที่คิดกับเขาไม่ดี ผมตัดสินใจบอกพ่อแม่ กลายเป็นว่า พ่อแม่ก็คิดเหมือนกันนานแล้ว ว่าพี่สาวผมและเราทุกคนกำลังเจอเรื่องโกหก แม่ผมบอกว่า มีแต่เรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง ของจริงๆ ก็ไม่เคยเห็น เอะใจมานานแล้ว แต่พ่อกับแม่ทำเฉยๆ คอยดูไป พี่สาวผมคบกับคนนี้มาสองปี ไม่เคยไปบ้านฝั่งผู้ชาย เขาให้เหตุผลว่า แม่เขาเรื่องเยอะกลัวพี่สาวผมจะลำคานเลยไม่พาไป บางครั้งที่มีเรื่องแปลกๆ ที่ผมสงสัย ถ้าผมถาม พี่สาวผมก็จะแก้ต่างแทนให้ทุกครั้ง
ผมถามถึงบ้านแฟนเขา ครอบครัวเขา หรือเรื่องต่างๆ กับพี่สาว พี่สาวผมเองก็ไม่เคยเจอเหมือนกัน เหตุผลคือพี่เขาเป็นคนระวังตัวเองมากๆๆๆๆ ถ้าพี่เขาต้องมาระวังตัวเองกับเรา ไม่เชื่อใจเราขนาดนั้น แล้วเราควรเชื่อใจเขาไหม
วันหนึ่ง ขณะที่ผมเดินอยู่ ช่างบังเอิญ ผมเห็นหลังแฟนพี่ไวๆ เดินเข้าไปที่ตึกแถวที่ทำเป็นบริษัทน้อยๆ ผมไม่ทันทัก มีคนจากข้างในสวนออกมา ผมจึงถามว่า พี่ครับ พี่... ทำงานที่นี่หรอครับ คนที่เดินออกมาตอบว่า ใช่ครับ ทำที่นี่ ผมรู้สึกแปลกใจเล็กๆ แต่ก็คิดว่า อ๋อคงกิจการนึงของเขา ความสังสัยผมดันไม่ยอมหยุด ผมเปิดเวปไซต์ matchlink ใส่ชื่อบริษัทผมที่ทำกับที่บ้านลงไป สรุปว่ามีรายชื่อกรรมการทุกคนครบถ้วน จากนั้นผมจึงหาข้อมูลแต่ละกิจการของเขา แล้วลองพิมพ์ลงไป แต่ไม่มีบริษัทไหนที่มีชื่อเขา หรือคนร่วมนามสกุลปรากฏเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นผมตัดสินใจถามพี่สาวว่า แฟนเขาปัจจุบันทำงานที่ไหน พี่สาวยืนยันคำเดิมว่าทำงานที่บริษัทชั้นนำที่เขาเล่า ผมจึงเปิด google ใส่ชื่อบริษัทตึกแถวที่ผมเจอพี่เขาเมื่อวาน ปรากฏว่ามีรูปพี่เขาถ่ายกับบรรยากาศหน้าตึกแถว และในออฟฟิศนั้น ผมให้พี่สาวดู พี่สาวผมจึงไปคุยกับแฟนเขา สรุปผู้ชายบอกว่า แค่ไปทำเล่นๆ เลิกช่วยกิจการต่างๆ ที่บ้านแล้ว เป็นอีกเรื่องนึงไป
คำถามนะครับ
1. เวป matchlink น่าเชื่อถือแค่ไหนครับ ในเวปนั้นจะโชว์ชื่อกรรมการ/director ทีนี้ผู้ถือหุ้น ถ้าไม่เป็นกรรมการ ถือหุ้นอย่างเดียวได้ไหมครับ ถ้าได้แปลว่าชื่อพี่เขาอาจไม่ปรากฏ
2. มี % ที่พวกเราโดนหลอกด้วยคำโกหกไหมครับ
2.1 ถ้าเราโดนหลอก เขาจะหลอกเราไปเพื่ออะไรครับ ผมมองไม่เห็นผลประโยชน์
3. ผมรู้สึกผิดมากครับ ที่เป็นตัวอุปสรรคความรัก ผมควรทำตัวยังไงดีครับ ผมรู้สึกว่า ผมไม่มีสิทธิ์สงสัย ถ้าผมสงสัยละเผือกพูดออกไป ผมจะหมาทุกรอบเลยครับ ถ้าเรื่องต่างๆ ที่ผมสงสัยไม่ใช่เรื่องโกหก งานนี้ผมผิดเต็มๆ
------------------------------------------
Update วันที่ 15 ตุลาคม 2562
จากคำถามของผม
1. ผมได้รับคำแนะนำจากพี่ๆ สมาชิกให้ขอข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจ เรื่องรายชื่อหุ้นส่วนนั้น สามารถทำได้ครับ ขอออนไลน์ได้ที่เวป DBD มีค่าใช้จ่ายตามกฎหมาย ขึ้นอยู่กับจำนวนมากน้อยที่ต้องการขอ ทั้งนี้ หากเพื่อนๆ คนไหนต้องการเช็คข้อมูลก่อนทำธุรกิจ สามารถเช็คได้ครับ
2. โดนหลอกแน่ครับ สรุปแล้วไม่มีอะไรที่เป็นจริงเลย
ขอบคุณทุกคนมากครับ สำหรับคำแนะนำต่างๆ ขอบคุณมากๆ ครับ
พี่สาวผมกำลังโดน ผู้ชายโปรไฟล์ดี หลอก ผมคิดไปเองหรือเปล่าครับ
ผมจะแยกเป็นสองส่วนนะครับ ส่วนแรกจะเป็นเรื่องราว และส่วนที่สองเป็นคำถาม
เริ่มกันเลยครับ
ผมอาศัยอยู่กับครอบครัว มีพ่อแม่ พี่สาว และผม เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องแฟนของพี่สาวครับ
พี่สาวผมคบกับแฟนคนนี้ได้สองปี ไปมาหาสู่กันปกติครับ เขาเทคแคร์พี่สาวผมดีมาก พี่เขามาที่บ้านบ่อยๆ ครับ สัปดาห์ละหนึ่งวัน ช่วงแรกที่สองคนนี้เริ่มคบกัน พี่สาวผมพามารู้จักกับที่บ้านครับ เนื่องจากบ้านผมมีฐานะปานกลางค่อนไปทางล่าง เลยไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไร เจอกันวันแรกทานข้าวร่วมกันที่บ้าน พ่อแม่ผมก็ถามไถ่ตามประสาผู้ใหญ่ว่าพี่เขาทำงานอะไร เป็นอย่างไรบ้าง พี่เขาเล่าถึงธุรกิจต่างๆ ของที่บ้าน (กิจการชั้นนำ) ให้พวกเราฟัง รวมถึงคุณพ่อคุณแม่เขาใช้ราชสกุล แต่ตอนนั้นบ้านเราเฉยๆ มากครับ กับเรื่องต่างๆ ที่ได้ฟัง แม่ผมก็เออ ออไป แกอยากรู้ว่าพี่เขาเป็นคนขยันไหม ถ้าขยันแกก็สบายใจ ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆ ครับ พี่สาวผมกับแฟนดีต่อกันมาก แต่ที่เหนื่อย น่าจะเป็นผมกับพ่อแม่ ทุกครั้งที่มีการทานอาหารร่วมกัน พี่เขาจะพูดเรื่องต่างๆ มากมายไปหมด จนเราเหนื่อยจะฟังครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องกิจการต่างๆ ของเขา ปัญหาองค์กร พนักงานไม่ดี บลา บลา บางครั้งผมต้องขอตัวขึ้นห้องไว เหนื่อยครับพูดตรงๆ
ช่วงปีแรก พี่เขาเคยชวนพี่สาวผมไปทำงานด้วยกันครับ แต่พี่สาวไม่ได้ตกลงไปครับ เขาก็ชวนอยู่เรื่อยๆ ครับ พอพี่สาวผมลาออกจากงาน ก็ไม่เคยมีคำชวนไปทำงานอีกเลย พี่สาวบอกผมว่า ให้เขาเอาตัวเองให้รอดก่อน งานเขายุ่งจะตาย
ในโซเชี่ยลของพี่เขา ก็จะมีเรื่องราวที่เขาต้องการนำเสนอ กับเรื่องราวที่ทำร่วมกับพี่สาวผมและครอบครัวเราครับ ไม่มีรูปกิจกรรมร่วมกับคนอื่น มีคนกดไลค์ แต่ไม่มีคนคอมเม้นปฏิสัมพันธ์เลย พี่เขาไปคุยงานยุโรปบ่อย แต่ไม่มีรูป (พี่เขาใช้ภาษาอังกฤษผิดหนักมาก อ่านแล้วขัดใจ)
เรื่องที่ผมเริ่มผิดสังเกตคือ ของที่เขาบอกว่าซื้อมาให้พี่สาวผม ส่วนใหญ่มีตำหนิและชำรุดครับ ซึ่งก็จะมีข้อแก้ต่าง ว่าคนที่บ้านเขาหยิบไปใช้มั่ง อะไรมั่ง ซึ่งของแต่ละชิ้นเราสามารถซื้อกันเองได้ครับ ก็รับมาด้วยความเต็มใจ ใช้พังก็ค่อยซื้อเอาใหม่ ผมก็พยามไม่คิดไรต่อครับ ปัญหาคือ ผมเป็นคนเจอรอยตำหนิ รอยขาดต่างๆ เองตอนพี่สาวเอาอวด มันอดคิดไม่ได้บางที
ผมเริ่มสงสัยเรื่องการทำงานธุรกิจต่างๆ ของพี่เขา ในวันที่ผมได้เข้าไปดีลงานกับบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของ เรื่องราวที่เขาเล่าให้พี่สาวผมฟัง กับเรื่องที่ผมกำลังทำอยู่ มันไม่ตรงกัน เหมือนเขาพูดอ้อมๆ ล้อมๆ ไม่รู้ว่าผมอคติเกินไปไหม แต่ผมเริ่มรู้สึกว่า มันไม่ใช่ละ ระหว่างที่ทำงานตัวนี้ ก็มีปัญหาบ้าง ด้วยความที่ผมกับพี่สนิทกัน ผมก็จะปรึกษาว่าแบบนี้ดีไหม หรือผมเจอปัญหาอะไร ทางแฟนพี่ เขาก็จะคอยถามจากพี่สาวผมตลอดว่าราบรื่นไหม เหมือนเขาคอยแก้ปัญหาให้ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ สตอรี่ที่พี่เขาเล่าให้พี่สาวผมฟัง กับเรื่องที่ผมกำลังเผชิญ คนละสตอรี่กันตลอด ท้ายที่สุดพี่เขาก็จะโทษว่าพนักงานเขา บอกเขาไม่หมด
วันที่พี่สาวผมป่วยไปรพ เราเลือกรพเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ไปกันเป็นประจำ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการบริการพูดจาไพเราะ ก่อนไปแฟนพี่โทรมาบอกพี่ว่า เข้าไปได้เลยนะ โทรไปบอก รพแล้ว มีเส้นสายกับรพอีก เหมือนผมเคยฟังเรื่องราวนี้มาก่อน
ครับ! ห้องฉุกเฉิน ไม่ต้องโทรบอกรพ ก็ไปได้เลยอยู่แล้วครับ พอไปถึงก็ไม่ได้มีอะไรต่างจากเดิม ไม่มีส่วนลดใดๆ หรือไม่มีใครมาบอกเราว่าพี่เขาโทรมาแล้ว
ยิ่งนานวันเข้า ผมเริ่มเป็นกังวล ทั้งกังวล ทั้งรู้สึกผิดที่คิดกับเขาไม่ดี ผมตัดสินใจบอกพ่อแม่ กลายเป็นว่า พ่อแม่ก็คิดเหมือนกันนานแล้ว ว่าพี่สาวผมและเราทุกคนกำลังเจอเรื่องโกหก แม่ผมบอกว่า มีแต่เรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง ของจริงๆ ก็ไม่เคยเห็น เอะใจมานานแล้ว แต่พ่อกับแม่ทำเฉยๆ คอยดูไป พี่สาวผมคบกับคนนี้มาสองปี ไม่เคยไปบ้านฝั่งผู้ชาย เขาให้เหตุผลว่า แม่เขาเรื่องเยอะกลัวพี่สาวผมจะลำคานเลยไม่พาไป บางครั้งที่มีเรื่องแปลกๆ ที่ผมสงสัย ถ้าผมถาม พี่สาวผมก็จะแก้ต่างแทนให้ทุกครั้ง
ผมถามถึงบ้านแฟนเขา ครอบครัวเขา หรือเรื่องต่างๆ กับพี่สาว พี่สาวผมเองก็ไม่เคยเจอเหมือนกัน เหตุผลคือพี่เขาเป็นคนระวังตัวเองมากๆๆๆๆ ถ้าพี่เขาต้องมาระวังตัวเองกับเรา ไม่เชื่อใจเราขนาดนั้น แล้วเราควรเชื่อใจเขาไหม
วันหนึ่ง ขณะที่ผมเดินอยู่ ช่างบังเอิญ ผมเห็นหลังแฟนพี่ไวๆ เดินเข้าไปที่ตึกแถวที่ทำเป็นบริษัทน้อยๆ ผมไม่ทันทัก มีคนจากข้างในสวนออกมา ผมจึงถามว่า พี่ครับ พี่... ทำงานที่นี่หรอครับ คนที่เดินออกมาตอบว่า ใช่ครับ ทำที่นี่ ผมรู้สึกแปลกใจเล็กๆ แต่ก็คิดว่า อ๋อคงกิจการนึงของเขา ความสังสัยผมดันไม่ยอมหยุด ผมเปิดเวปไซต์ matchlink ใส่ชื่อบริษัทผมที่ทำกับที่บ้านลงไป สรุปว่ามีรายชื่อกรรมการทุกคนครบถ้วน จากนั้นผมจึงหาข้อมูลแต่ละกิจการของเขา แล้วลองพิมพ์ลงไป แต่ไม่มีบริษัทไหนที่มีชื่อเขา หรือคนร่วมนามสกุลปรากฏเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นผมตัดสินใจถามพี่สาวว่า แฟนเขาปัจจุบันทำงานที่ไหน พี่สาวยืนยันคำเดิมว่าทำงานที่บริษัทชั้นนำที่เขาเล่า ผมจึงเปิด google ใส่ชื่อบริษัทตึกแถวที่ผมเจอพี่เขาเมื่อวาน ปรากฏว่ามีรูปพี่เขาถ่ายกับบรรยากาศหน้าตึกแถว และในออฟฟิศนั้น ผมให้พี่สาวดู พี่สาวผมจึงไปคุยกับแฟนเขา สรุปผู้ชายบอกว่า แค่ไปทำเล่นๆ เลิกช่วยกิจการต่างๆ ที่บ้านแล้ว เป็นอีกเรื่องนึงไป
คำถามนะครับ
1. เวป matchlink น่าเชื่อถือแค่ไหนครับ ในเวปนั้นจะโชว์ชื่อกรรมการ/director ทีนี้ผู้ถือหุ้น ถ้าไม่เป็นกรรมการ ถือหุ้นอย่างเดียวได้ไหมครับ ถ้าได้แปลว่าชื่อพี่เขาอาจไม่ปรากฏ
2. มี % ที่พวกเราโดนหลอกด้วยคำโกหกไหมครับ
2.1 ถ้าเราโดนหลอก เขาจะหลอกเราไปเพื่ออะไรครับ ผมมองไม่เห็นผลประโยชน์
3. ผมรู้สึกผิดมากครับ ที่เป็นตัวอุปสรรคความรัก ผมควรทำตัวยังไงดีครับ ผมรู้สึกว่า ผมไม่มีสิทธิ์สงสัย ถ้าผมสงสัยละเผือกพูดออกไป ผมจะหมาทุกรอบเลยครับ ถ้าเรื่องต่างๆ ที่ผมสงสัยไม่ใช่เรื่องโกหก งานนี้ผมผิดเต็มๆ
------------------------------------------
Update วันที่ 15 ตุลาคม 2562
จากคำถามของผม
1. ผมได้รับคำแนะนำจากพี่ๆ สมาชิกให้ขอข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจ เรื่องรายชื่อหุ้นส่วนนั้น สามารถทำได้ครับ ขอออนไลน์ได้ที่เวป DBD มีค่าใช้จ่ายตามกฎหมาย ขึ้นอยู่กับจำนวนมากน้อยที่ต้องการขอ ทั้งนี้ หากเพื่อนๆ คนไหนต้องการเช็คข้อมูลก่อนทำธุรกิจ สามารถเช็คได้ครับ
2. โดนหลอกแน่ครับ สรุปแล้วไม่มีอะไรที่เป็นจริงเลย
ขอบคุณทุกคนมากครับ สำหรับคำแนะนำต่างๆ ขอบคุณมากๆ ครับ