เที่ยวแม่ฮ่องสอน แบ็คแพ็คลุยเดี่ยวขับมอไซค์ขึ้นดอยกันนน 2019


คือปีนี้เราพึ่งเริ่มเที่ยวคนเดียว(ส่วนใหญ่) หลังจากพึ่งเรียนจบ ทำงานฟุลไทม์ไปด้วยเรียนไปด้วยประมานเกือบ5ปี มันเก็บกดนะโว้ยยยย ชวนเพื่อนไปเที่ยวก็เวลาไม่ค่อยตรงกัน ไปเองมันเล้ย หลังจากไปเที่ยวเองมาแล้วบางที่ รู้สึกมันยังไม่สุด อะดรีนาลีนของผู้หญิงตัวเล็กๆสูงแค่ 150 cm มันก็ยังพุ่งพล่านมากๆ ทริปนี้เราไปเมื่อเดือนมิถุนา ไม่ได้คิดว่าจะสร้างบล็อคหรืออะไรตอนนั้น มาถึงตอนนี้เริ่มเที่ยวมากขึ้น เลยคิดว่าเขียนสักหน่อยดีกว่า 

หลายๆคนพอนึกถึงเหนือก็คงนึกถึงเชียงใหม่ แต่เราไม่ได้โฟกัสตรงนั้นเลยจ้ะ คำว่า "ปาย" มันดังในหัวคือrandom มาก รู้แต่ว่ามันอยู่เหนือแต่ส่วนไหนไม่รู้  ก็เลยศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวเองหมดเลย สรุปไปแม่ฮ่องสอน 

เอาล่ะ  3..2..1.. blasted offff..
วันที่ 2 มิถุนายน หลังจากแพ็คกระเป๋าใบมโหฬารเสร็จ บอกตัวเองว่าถ้าเป้จะใหญ๋ขนาดนี้มุงหงายหลังเถอะ 🤣🤣
เรานั่งรถไฟจากหัวลำโพงไปลงเชียงใหม่เพื่อต่อรถตู้ไปปาย จองตั๋วรถไฟผ่าน  https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/default.aspx?language=1           
จ่ายออนไลน์ค่าธรรมเนียม 30 บาทและปริ้นท์ตั๋วเอง เอาตั๋วไปโชว์ให้เจ้าหน้าที่บนรถไฟได้เลยจ้า
เราจองรถไฟชั้น2 ตู้นอนแบบมีแอร์ ราคาเตียงบน 691 บาท เตียงล่าง 761บาท เราเลือกเตียงล่างรอบ 13.45 น.

ถึงเชียงใหม่ 04.10
จากนั้นก็นั่งรถแดงประตูทางออกสถานีรถไฟ ราคาคนละ30 บาทแต่ต้องรอคนขึ้นรถเต็มก่อนล้อถึงจะหมุน บอกคนขับว่าลงขนส่งอาเขตซึ่งอยู่ไม่ไกลเลยค่ะ  มาถึงขนส่งอาเขตประมานตี4ครึ่งเราเดินไปด้านหลังเลยค่ะ จะมีบริษัทAvia booking ซึ่งเป็นที่จ่ายตั๋วขึ้นรถตู้ของเปรมประชา บริษัทเปิด6โมง เราก็ได้แต่นั่งรอวนไปจ้า ยุงเยอะดีแท้ 
ระหว่างที่เรานั่งรอ ก็มีคนขายผลไม้แถวนั้นเห็นเรานั่งตบยุงแบบมันส์มาก มาถามว่านั่งรอรถกลับบ้านหรอ เราก็บอกเรามาเที่ยวจ้าววว จากนั้นนางก็ชวนคุยนู้นนี่นั่นส่วนใหญ่เรื่องทำมาหากินกับเรื่องการเดินทาง ซักพักนางก็เดินหายไปในเซเว่นแล้วกลับมาพร้อมกับน้ำเปล่ากับครีมทากันยุง โอ้ววววว....
นางซื้อให้จ้าววว เสร็จแล้วนางก็แบ่งผลไม้ให้เราด้วย พร้อมให้คำแนะนำเรื่องสถานที่เที่ยว แล้วเราก็เล่าแพลนเช่ามอไซตะลอนๆในแม่ฮ่องสอนให้นางฟัง แล้วนางก็เตือนเราว่า...ระวังหน่อยนะ มันหน้าฝน.. เช่ามอไซคขับมันอันตราย ขึ้นลงเขา... ซักพักนางก็ขับรถเข็นออกไปหายต๋อม 😆 ตอนแรกเราก็กลัวๆ แต่จริงๆนางไม่มีไรนะ ทำไมเขาใจดีจังเลย..
พอบริษัทเปิดเราก็เข้าแถวซื้อตั๋ว จริงๆจองล่วงหน้าได้ที่ premprachatransports.com แต่ตอนนั้นเราไม่รุ้ โชคดีที่เป็นช่วงโลวซีซั่น เที่ยวแรกที่เราไปยังไม่เต็ม(6.30 น.) ราคา 150/คน ไปลงที่ถนนคนเดินปาย 

เราได้ยินมาว่าทางจากเชียงใหม่ไปปายต้องผ่านเป็นพันโค้ง ไอนี่ก็สงสัยนั่งนับในรถตู้ นับไปซักพักโอ้ววว รถตู้หมุนได้ 😵😵 รถไม่ได้คว่ำนะ แต่เราเนี่ยเมารถสุดขีดเกือบอ้วก😖 ดีนะที่พอไปได้ครึ่งทางเขาจอดพักร้านค้า
พอถึงปายเราก็เดินหาร้านเช่ามอไซชื่อ เดือนเด่น ซึ่งพอเดินออกจากท่ารถตู้เลี้ยวซ้ายไปประมาน100เมตรได้ อยู่ขวามือ ราคาเช่าต่อวันเริ่มต้น 150บาท ฟรีหมวกกันน็อค 

เอาละได้เวลาไปโฮสเทลที่จองไว้ผ่าน traveloka เพราะแอพมีโค้ดลดราคาอยุ่บ่อยๆ เราพักที่ Purple Monkey Backpacker 2คืน

ไปถึงก็ต้องอู้ววหูววว มีรีเซพชั่นเป็นคนไทยอยุ่2คน นอกนั้นคือฝรั่งนั่งเล่นกันเต็มไปหมด เราฝากเป้ไว้แล้วก็ออกไปแว้น

เริ่มที่ Love Strawberry Pai  ร้านอาหารเครื่องดื่ม มีฟาร์มสตรอเบอร์รี่ด้านหลังร้าน มีฉากต่างๆให้ถ่ายรูป มีภูเขาล้อมรอบ เราสั่งสมูทตี้สตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต สดจากไร่จริงๆ
และต่อด้วย Pai Canyon หรือ กองแลน เหมาะสำหรับคนชอบผจญภัยปีนป่าย และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย..

กว่าจะได้เดินเข้าไปดูด้านในไกลๆนู้นน ต้องรอนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ แชะภาพให้ครบทุกคนก่อน แดดร้อน100องศา สาบาน !🤣


แล้วก็แว้นต่อไปที่ สะพานประวัติศาสตร์ปาย คล้ายๆกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นใช้ไว้เป็นทางผ่านขนส่งยุทโธปกรณ์

-------------------- วันที่ 4 มิถุนายน ------------------------

8 โมงเช้าขับรถมาที่แยกนึงในใจกลางปายเพื่อมากินโจ้กสมุนไพรสูตรหวานธรรมชาติของลุงอ๊อด ทั้งลุงอ๊อดและแฟนแกพูดจาเพราะมากจ้าววว ราคาก็ถูกจริงๆ

หลังจากนั้นก็ขับไปต่อที่วัดน้ำฮู้ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บริเวณศาลาพระนเรศวรบ่อน้ำค่อนข้างแห้งนิดหน่อย

ต่อด้วยหมู่บ้านสันติชล หรือ หมู่บ้านจีนยูนนาน จุดเช็คอินที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือชิงช้าลอยฟ้าที่เป็นเหมือนซิกเนเจอร์ของปายเลยก็ว่าได้ 

ที่นี่มีร้านขายชาอยู่เต็มไปหมด เรานี่ตาโตเล้ย เพราะเป็คคนชอบดื่มชามากๆ แล้วเราก็ได้รู้จักกับพี่อาหลาง คนขายชา พี่เค้าน่ารักมากๆ ให้ชิมของฝากอย่างละหน่อยเกือบหมดทั้งร้าน ทั้งชา บ๊วย สตรอเบอร์รี่อบแห้ง ลูกพรุน แล้วก็อีกหลายๆอย่าง จากนั้นเราก็นั่งคุยกับพี่เขาประมานชั่วโมงนึง แกเป็นกันเองมาก สรุปวันนั้นซื้อชาไปหลายห่ออยู่ หมวกเด็กดอย ถ้วยชา สตรอเบอร์นี่อบแห้ง ฮ่าๆ ฝากส่งเคอร์รี่กลับกทม.โลดพี่ ไม่อาจแบกกลับเองได้ เป้ตอนนี้แบกแล้วไม่หงายหลังก็บุญแล้ว 😬😬

จากนั้นก็ไปจุดชมวิวหยุนไหล มองเห็นวิวเมืองปายมีภูเขาล้อมรอบ เหมาะแก่การนั่งจิบชาร้อนๆ เราไปช่วงโลวซีซั่นโอ้โหไม่มีคนเลยจ้า.. เลยนั่งอยู่บนนั้นอยู่หลายชั่วโมงเลย เสียค่าเข้า 20 บาทนาจา
จากนั้นก็แวะกินข้าวที่ร้านเกาซันจีนยูนนาน จริงๆเป็นร้านแบบโต้ะกลมๆเหมือนโต้ะจีน นั่งได้หลายคน เรามาคนเดียว โต๊ะนั้นทั้งโต้ะจึงเป็นของเราคนเดียว หุหุ (เปล่า โลวซีซั่นไม่มีลค.อยู่เลย ! >< )
อาหารจีน คืออร่อยจริงๆ ถ้ามากับเพื่อนหารกันน่าจะคุ้มกว่า ราคานักท่องเที่ยวก็ปานกลางนะ ไม่แพง ทางเข้าร้านเป็นช่วงเนินเขาหวาดเสียวนิดหน่อย

------------------------------วันที่ 5 มิถุนายน---------------------------------- 

วันนี้เป็นวันที่ต้องขับรถขึ้นเขาไปนอนโฮมสเตย์บนดอยระยะทางประมาน55กม.จากปาย ดูกูเกิ้ลแมปแล้วอื้อหือออ....ตายๆๆๆ
ต้องบอกก่อนว่าแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีภูเขาสลับซับซ้อนมากที่สุดในประเทศไทย ถนนโค้งไปมาเป็นเส้นมาม่าเลยง่าา แล้วเราเป็นคนที่ขับรถไม่ถือว่าแข็งมากนะ ที่มานี่สปีริดล้วนๆ ตัดภาพมาที่มอไซค์ที่เช่า...

Tadaaaaa......." Scooby i 110cc จ้าววววว !!!!! " 😆 บิดหมดปลอก หมอบเหมือนเด็กแว้นขึ้นเขา รถมันก็ดังอื้ดดด......                                                ตอนลงเขาก็ไม่บิดเลยแถมเบรกสุดขีด ถ้าขับรถแบบมีเกียร์ดูจะปลอดภัยกว่า แต่เราขับไม่เป็นจริงๆ เวลาออกทริปหลังๆมานี้ก็พยายามไม่ใช้เบรกหนักมาก ส่วนใหญ่ใช้เบรกหลังแบบกดปล่อยกดปล่อย ส่วนเบรกหน้าแตะๆ จะช่วยsaveเบรกได้บ้าง ป้องกันผ้าเบรกไหม้

ส่วนน้ำมันเราเจอปั๊มทีก็รีบเติมๆไปเลย กลัวขึ้นดอยแล้วหาปั๊มยาก 
เด็กปั๊มเติมให้เสร็จ เราก็ถามว่าเท่าไหร่คะ...." 20 บาทแค่นั้นแหละะะะะพี่ " ประมานว่ามุงจะเติมเพื่อ?? > <....

ระหว่างทางก็แวะจุดชมวิวดอยกิ่วลมเซลฟี่นิดหน่อย...

11.00 น.  ... ในที่สุดก็ขับมาถึงบ้านจ่าโบ่แห่งปางมะผ้าบนดอย หมู่บ้านเล็กๆของคนเผ่าละหู่ มีภูเขาล้อมรอบ เราแวะจอดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ที่ใครๆมาก็ต้องมาเช็คอิน วิวสวยมากกกกกกก ก๋วยเตี๋ยวอร่อยโค้ตๆ


 

 
จากนั้น ก็ขับตรงเข้าไปในหมู่บ้านอีกหน่อยที่บ้านผู้ใหญ่อุทัย เราโทรจองโฮมสเตย์กับพี่เค้าไว้2คืน ราคาคืนละ300 รวมอาหารเย็นพื้นบ้าน มีห้องน้ำในตัว หลังที่เราพักไม่มีประตูระเบียง มีเพียงม่านบางๆ เพื่อรับลมหนาวกลางคืน คือมันดีมาก โดยเฉพาะตอนเย็นกินข้าวคนเดียวอินดี้ๆ นั่งฟังเสียงลม เสียงเป็ดไก่นกและหมูที่พี่เค้าเลี้ยงโอ้ยยย Unseeeeen เด้ เท่าที่เราสังเกตุบ้านเกือบทุกหลังที่นี่เป็นโฮมสเตย์ แถมหมู่บ้านมีกิจกรรมต่างๆให้ทำด้วยเช่นเดินป่า ปืนภูผา ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวละหู่ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ https://web.facebook.com/cbtbaanjabo 
ส่วนโฮมสเตย์บ้านผู้ใหญ่ที่เราติดต่อโดยตรง เบอร์ 0998946196

-------------------วันที่ 6 มิถุนายน--------------------
ตื่นมาดื่มชาเขียวร้อนๆไม่ใส่น้ำตาลที่ร้าน Dekdoi Coffee ใกล้ๆกับที่พัก พี่คนขายเฟรนลี่และสุภาพที่สุดจ้าวววว 
เราดื่มชาไป2แก้ว นั่งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำลอดเพิ่มเติมที่จะไปวันนั้น

พร้อมแล้วก็แว้นไปสำรวจถ้ำกันเล้ยยย...

คลิกอ่านต่อที่ Ep.2 เด้อออ  ดีดให้สุดหยุดที่ฝั่งพม่า > <
https://pantip.com/topic/39305930
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่