มาต่อกันจ้า..
ถ้ำน้ำลอดอยู่ห่างจากบ้านจ่าโบ่ประมาน20 กม. พอไปถึงจะมีไกด์พาเรานั่งแพลอดเข้าไปในถ้ำ พาเดิมชมถ้ำหินงอกหินย้อย มีร่องรอยของคนสมัยก่อนขีดเขียนถ้ำ และไฮไลท์คือโลงผีแมนที่คนสมัยก่อนทำไว้ หมดนี่อายุเป็นพันๆปีกันเลยทีเดียว เราจะเข้าไปสำรวจเองไม่ได้นะคะ เพราะในถ้ำมืดมากเขาไม่ติดหลอดไฟใดๆทั้งสิ้น เป็นถ้ำดิบๆที่แท้ทรู ทั้งชันทั้งเย็นวาบ มีเสียงนกและเสียงค้างคาวตลอด ต้องมีปืนป่ายบ้าง เล่นเอาหอบกันเลยทีเดียว
ส่วนป้าไกด์ที่นำทางเราเป็นคนในหมู่บ้าน อายุมากแล้วแต่แอบแข็งแรงจริงๆ เดินไว สุดท้ายนั่งหอบเหงื่อตกกัน เราก็แบ่งยาน้ำมันเหลืองอั้งกี่ให้แก แบ่งกันดมคนละฟื้ดสองฟื้ด โอ้ยขำ (คนเดียว >< )
**ราคาไกด์นำทาง+ตะเกียงเจ้าพายุที่สว่างอย่างกะสปอตไลท์ 450บาท ต่อ1 ทัวร์กรุ๊ป3คน ก็ตกคนละ150บาท แต่ตอนนั้นเรามาคนเดียวแถมช่วงโลวด้วยไม่ค่อยมีคนให้แชร์ด้วย เลยโดนเต็มๆ450บาท
ป้าบอกงูกำลังจะกินจระเข้... เหมือนมากกกก
ถ้ำตุ๊กตา.. เราสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง....>.....<
ภาพวาดฝาผนังของคนยุคก่อน...
โรงผีแมนที่เขาเชื่อกันว่าคนยุคก่อนตัวค่อนข้างยาว อายุราวพันปี..
------------------วันที่ 7 มิถุนายน-------------------
ตื่นมาตั้งแต่ตี 4 มานั่งรอพระอาทิตย์ขึ้น
6.02 น.
6.14 น. ทำไมเราชอบอะไรแบบนี้...😭😭ชอบถ่ายรูปพระอาทิตย์มาก เลยเป็นที่มาของนามแฝงThe sun follower
เอาล่ะ หมดเวลาซาบซึ้งกับธรรมชาติตอนนี้ เพราะวันนี้ต้องขับรถผ่านภูเขาไปอีกหลายลูกและสูงขึ้นๆ
วันนี้เราจะขับต่อไปที่ปางอุ๋งห่างจากบ้านจ่าโบ่ไปประมาน70กิโล เขาบอกว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย แต่ทางไปนี่โหดมาก ชันขึ้น โค้งเยอะไปไหน แต่วิวข้างทางนี่คือ โหวววว บางทีเราเองเผลอมองออกไปตอนขับรถเกือบแหกโค้ง.. คือมันสวยจนสติหลุด 😆😆
13.20 น. ในที่สุดก็ถึงปางอุ๋งหมู่บ้านรวมไทย หลังจากพักกินข้าวที่ถ้ำปลาบ้าง หยุดเช็ค Gpsบ้าง
มาถึงคือหมู่บ้านเงียบมาก นึกว่าหมู่บ้านร้าง เริ่มไม่แน่ใจตูมาถูกมั้ยเนี่ย 😆 คือเป็นช่วงโลวซีซั่น
สรุปทั้งหมู่บ้านมีนักท่องเที่ยวอยู่1กลุ่มเล็กๆ กับเราอีก 1 คน พักที่ จิ่งโฮมสเตย์เหมือนกัน
มาถึงก็หมดแรงเลย ล้ามาก แต่ก็มันส์มาก > <
เราพักที่บ้านจิ่งโฮมสเตย์ ราคาหลังละ500 พักได้2คน แต่เรามาคนเดียวก็ครองเตียงตามเคย.. มีเครื่องทำน้ำอุ่นห้องน้ำในตัว มีพัดลมเย็นสบาย ออกจะหนาวด้วยซ้ำตอนกลางคืน สะอาดมากๆ ที่สำคัญอยู่ติดกับทางเข้าปางอุ๋งเลย เบอร์โทร 083-581-4227
หลังจากอาบน้ำสระผมเสร็จก็ออกไปสำรวจพื้นที่ต่อ
น้ำลดไปเยอะอยู่ ที่สำคัญไม่มีคนเลย
---------วันที่ 8 มิถุนายน---------
10.00 น. เราออกจากปางอุ๋งเพื่อไปบ้านรักไทย อยู่ห่างออกไปประมาน 13 กิโล ตอนแรกเราเกือบตัดสินใจกลับปายแล้ว เพราะเริ่มรู้สึกล้ามาก แถมเมฆก็ครื้มๆ เหมือนฝนจะตก แค่รถบีบแตรใส่ตอนขับรถลงเขาก็กลัวแล้ว นี่ถ้าฝนตกฟ้าร้อง ถนนลื่นอีกคงกรี้ดแข่งกับเสียงฟ้าร้องอ่ะ > <
พอถึงบ้านรักไทย ก็เดินตรงดิ่งไปที่ร้านชาเป็นที่แรกเลยจ้า เหมามาอีกแล้ว ให้พี่เขาส่งเคอร์รี่กลับบ้านให้เหมือนเดิม 😅
แล้วเราก็เดินสำรวจหมู่บ้าน
เริ่มที่ชาสาบ้านรักไทย เป็นทั้งรีสอร์ทและร้านอาหารจีน ถ่ายรูปบริเวณรอบๆได้
แล้วก็ต่อด้วยลีไวน์รักไทยที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย
นักท่องเที่ยวสามารถชมไร่ชาบริเวณรีสอร์ทได้ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. แต่ไม่อนุญาตให้ล้ำเข้าไปในระเบียงบ้านแต่ละหลังของรีสอรท
เราก็แบกเป้ยักษ์ใบนั้นทั้งวัน เดินขึ้นลงไร่ชาบนเนินเขาสนุกเลย 😑😑🙄
พอเราตะลอนแถวนั้นเสร็จก็แพลนจะกลับปาย แต่พอเปิดดูGps หืมมมม ชายแดนไทยพม่าทำไมอยู่ใกล้แท้ กิโลเดียวเอง เอาไงดี ??
เลยถามพี่ร้านชาแถวนั้นว่าเราข้ามไปฝั่งพม่าได้ไหม พาสปอร์ตก็ไม่ได้พกมา ใครจะไปรู้เที่ยวในไทยอยู่ดีๆจะไปจบอีกประเทศ 😆😆 ดีดจริงๆ
พี่เขาก็บอกว่าข้ามไปได้ บอกพี่ทหารว่าข้ามไปถ่ายรูปเฉยๆ เพราะมีวัดกับหมู่บ้านเล็กๆอยู่ฝั่งนั้น เราสามารถไปเดินเที่ยวเล่นได้ แล้วก็ข้ามกลับมา
บิงโก ....รอไรอ่ะ ไปดิ วีซ่าก็ไม่ต้องทำ เงินก็ไม่ต้องจ่าย
พอไปถึงก็เป็นด่าน พี่ทหารให้จอดรถไว้ฝั่งไทย ต้องเดินข้ามเข้าไป แต่ต้องฝากบัตรประชาชนหรือใบขับขี่พร้อมขอเบอร์เราไว้
ประเด็นคือบัตรประชาชนเราให้ร้านเช่ามอไซเก็บไว้ เลยบอกพี่เขาไป เขาเลยขอใบขับขี่แทน ฮึ ไม่มีอ่ะ ตอนนั้นยังไม่ได้ทำ > <
พี่เขาก็ทำหน้าตกใจแล้วร้อง " อู้วววว.. ขับมาถึงนี่ไม่มีใบขับขี่ อู้ววว !!" .....ในใจเราชิหาย โดนแน่มุงคราวนี้โดนแน่ๆ ขับมาตั้งไกล ตำรวจไม่เห็นขอบัตรเลย หรือตูจะโดนทหารเล่นวะเนี่ย 🤦♀️🤦♀️😭
เลยต่อรองขอใช้บัตรนักศึกษาแทน ก็มันยังไม่หมดอายุนี่หว่า บัตรนศ.รามมีอายุ10ปี จริงๆเราพึ่งจบได้ไม่กี่เดือนแต่บัตรมันยังมีอายุอยู่ตั้งเยอะ พี่เขาก็แบบ เอ้า โอเคร ก็ได้ 😭😭
เดินไปเจอป้ายบอกทางไปนิทรรศการวัฒนธรรมไตอะไรซักอย่าง แต่ไปถึงเขาปิด เลยเดินแถวๆหมู่บ้านสักพักแล้วก็กลับมาฝั่งไทย
พอออกมาเสร็จก็ตรงดิ่งกลับปายเลย ไม่แวะเที่ยวไหนแล้ว เพราะเหนื่อยมากๆ แดดร้อนหัวแตกแถมต้องแบกเป้เดินขึ้นลงเขาไปทั่วเลย 🤣🤣
จากชายแดนไทยพม่าจุดนั้นถึงปายก็ประมาน 120 กิโล ไม่รวมที่ขับหลงอีก 😬😬😅😅
หยุดจอดพักกินก๋วยเตี๋ยวในปางมะผ้าได้ประมานชั่วโมงนึง เพราะฝนเทลงมา แต่ก็ไม่หนักมาก พอฝนหยุดความกลัวการขับรถขึ้นลงเขาก็หายไป บิดไม่ยั้ง เกือบหลุดโค้งก็หลายรอบ ที่ต้องรีบเพรากลัวจะมืดก่อนถึงปาย มืด+ฝน โนวเวยยยย์
สุดท้ายถึงปายประมาน5โมง เกือบๆ 6โมงเย็น... ฟิ้ววว รอด และครบ32
เราจองรร. Pai Vintage Garden Resort คืนละ500 จองผ่าน Traveloka 2คืน แน่นอนมี Code ลดตลอด 😁😁 มีอาหารเช้า ห้องพัดลม คือเราชอบที่นี่มาก แต่งแบบเหนือจ๋าเลย สวยมาก
พอเช็คอินเสร็จก็อาบน้ำแล้วล้มตัวนอนเลย คือสลบนอนแน่นิ่งจนอีกวันเลย... 😂😂
-----วันที่ 9 มิถุนายน-----
ตื่นมากินข้าวเช้า มีโอกาสได้คุยกับลุงที่ดูแลรีสอร์ทด้วย ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง ได้คุยไอเดียธุรกิจต่างๆ ได้ความรู้จากแกมาเยอะมาก เป็นกันเองดีแท้
สรุปวันนั้นสัญญากับตัวเองจะไม่ตะลอนแล้ว เพราะเดี้ยง 🤣 เลยแวะไปกินข้าวเที่ยงที่ร้าน Om Cafeใจกลางปาย ร้านน่ารัก อาหารมีทั้งฟิวชั่น อินเตอร และไทย ตกแต่งสวยมาก ใครไปปายต้องแวะเด้ออ
-------วันที่ 10 มิถุนายน-------
เรานั่งรถตู้กลับไปอาเขต เชียงใหม่ แล้วต่อรถเมลไปสถานีรถไฟ
รถไฟกำลังจะออก แต่ !!! ใช่มีแต่.. มีตำรวจ 3-4 คนมาขอค้นกระเป๋าและขอบัตรประชาชน เรายังเอ๋อๆ ปนตกใจและงงอยู่ หรือว่าเขาจะมาจับที่เราไม่มีใบขับขี่ !!!?? 🤣🤣 ฝังใจจริงๆ. เราอาจจะทำตัวแปลกๆนั่งบนรถไฟชอบนั่งคุดคู้กอดเข่าเหมือนหลบใคร😂😂 แต่ไอหน้าแปลกๆของเราไม่ได้หมายความว่าเราเป็นต่างด้าวลักลอบขนยานะพี่ตำรวจ ดีนะไม่ให้ร้องเพลงชาติด้วย > <
สุดท้ายรถไฟก็ออก...
เราถึงกรุงเทพครบ32..หน้าตาแบบนี่.... > <
เที่ยวแม่ฮ่องสอน แบ็คแพ็คลุยเดี่ยวขับมอไซค์ขึ้นดอยกันนน 2019 [Ep.2]
ถ้ำน้ำลอดอยู่ห่างจากบ้านจ่าโบ่ประมาน20 กม. พอไปถึงจะมีไกด์พาเรานั่งแพลอดเข้าไปในถ้ำ พาเดิมชมถ้ำหินงอกหินย้อย มีร่องรอยของคนสมัยก่อนขีดเขียนถ้ำ และไฮไลท์คือโลงผีแมนที่คนสมัยก่อนทำไว้ หมดนี่อายุเป็นพันๆปีกันเลยทีเดียว เราจะเข้าไปสำรวจเองไม่ได้นะคะ เพราะในถ้ำมืดมากเขาไม่ติดหลอดไฟใดๆทั้งสิ้น เป็นถ้ำดิบๆที่แท้ทรู ทั้งชันทั้งเย็นวาบ มีเสียงนกและเสียงค้างคาวตลอด ต้องมีปืนป่ายบ้าง เล่นเอาหอบกันเลยทีเดียว
ส่วนป้าไกด์ที่นำทางเราเป็นคนในหมู่บ้าน อายุมากแล้วแต่แอบแข็งแรงจริงๆ เดินไว สุดท้ายนั่งหอบเหงื่อตกกัน เราก็แบ่งยาน้ำมันเหลืองอั้งกี่ให้แก แบ่งกันดมคนละฟื้ดสองฟื้ด โอ้ยขำ (คนเดียว >< )
**ราคาไกด์นำทาง+ตะเกียงเจ้าพายุที่สว่างอย่างกะสปอตไลท์ 450บาท ต่อ1 ทัวร์กรุ๊ป3คน ก็ตกคนละ150บาท แต่ตอนนั้นเรามาคนเดียวแถมช่วงโลวด้วยไม่ค่อยมีคนให้แชร์ด้วย เลยโดนเต็มๆ450บาท