"ใดใดในโลกล้วนไม่จีรังยั่งยืน มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมไปเป็นของธรรมดา"
พุทธศาสนสุภาษิต
หลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถเป็นหลักในการเตือนสติของคนได้ดี โดยเฉพาะคนไทยในยุคปัจจุบัน อย่าให้ยึดมั่น ถือมั่น ให้รู้ตัวเสมอว่า "ชีวิตคนเรา ไม่จีรังยั่งยืน มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย" ซึ่งสามารถนำไปใช้กับเรื่องอื่นๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน และอื่นๆ ทั้งหมดที่เรามี ถึงวันหนึ่งก็อาจจะไม่มี และเปลี่ยนมือไปให้คนอื่นๆ
อย่างกรณีของเรื่องการเมือง เมื่อขั้วอำนาจทางการเมืองเปลี่ยนไป อะไรๆ หลายอย่างก็เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในกระทรวงต่างๆ ยิ่งเห็นได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงไป "รัฐมนตรีใหม่" ระบบ ระเบียบ และการปฏิบัติใหม่ แต่ที่ต้องทำใจของข้าราชการประจำเลย ก็คือ ต้องอดทน และต้องทนอยู่ให้ได้กับข้าราชการการเมืองเหล่านั้น
โดยเฉพาะกับกระทรวงคมนาคม ที่ถือว่าเป็นกระทรวงเกรด A (กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการคลัง, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน) ที่นักการเมืองต่างหมายปองตาเป็นมัน ที่มีผลกระทบต่อชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ กุมงบประมาณในการลงทุนมหาศาลเป็นหลักหลายแสนล้านบาทต่อปี ทำให้เป็นที่จับตาของนักข่าว และประชาชนคนไทย
โดยเฉพาะ "กระทรวงคมนาคม" ที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ กับการแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงนี้ เกี่ยวกับ “ภูมิใจไทย-คอนเน็คชั่น" ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ .... และมีผลต่อนโยบายต่างๆ ???
หรือแม้แต่กับเจ้ากระทรวงคมนาคมยูไนเต็ด “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นอดีตประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ชวรัตน์ ชาญวีรกูล - พ่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้ก่อตั้งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (STECON)) ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และน้องชายของนายเนวิน ชิดชอบ (ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
มีการโยกย้าย และแต่งตั้ง ถึงจะมีเสียงเมาท์มอยโต้แย้งว่า "เป็นการแต่งตั้งตามความเหมาะสม" แต่ทุกอย่างย่อมมีต้นสายปลายเหตุ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตามที่เพจ "ใต้พรม คมนาคม" เคยเปิดเผยโผโยกย้ายแต่งตั้งไว้ทีละคน ดังนี้
1. "สราวุธ ทรงศิวิไล” อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) หรือกรมน้องใหม่ที่เพิ่งตั้งไข่ได้ไม่นาน ตามคาดได้กลับคืนรัง เป็นอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เจ้าพ่อไฮเวย์คนนี้สนิทกับบ้าน “เนวิน ชิดชอบ” อย่างมาก ตั้งแต่สมัยเป็นผอ.แขวงทางหลวงบุรีรัมย์ เรียกได้ว่าแวะไปจิบกาแฟร่วมกันหลายคราหลายหน ราศีเจิดจรัสทันที ในวันที่เลขาพรรคภูมิใจไทย (ศักดิ์สยาม) เข้ารับตำแหน่ง ออกสื่อด้วยกันรัวรัว ขนาดงานที่ไม่เกี่ยวกับหน้าที่ตัวเอง (ดูกรมรางแต่ไปงานทางด่วน) ยังไม่วายมีภาพยืนยิ้มหวานออกสื่อ เรียกได้ว่าสายตรงภูมิใจไทยตัวจริง งานนี้จะเกี่ยวอะไรงบแสนล้านบาทของกรมทางหลวงรึป่าวน้าา #น้องแค่สงสัยค่ะ
2. “จิรุตม์ วิศาลจิตร” รองปลัดกระทรวงคมนาคม ตามคาดอีกคน ที่ได้กลับคืนถิ่น หลังโดดไปโดดมา ได้แต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เลเวลความเป็น “เนวิน-คอนเน็กชั่น” เดินเข้า-ออกบ้านบิ๊กห้อยไม่น้อยหน้า “สราวุธ” สร้างชื่อสมัยเป็นผอ.ขนส่งฯ ที่บุรีรัมย์ เรียกได้ว่า “สราวุธ” ไปที่ไหนต้องเจอ “จิรุตม์ “ที่นั่น 2 คนนี้ออกงานเคียงข้าง “ศักดิ์สยาม” อย่างกับรักยม ออกอาการขึ้นหม้อสุดสุด คืนถิ่นครั้งนี้ คงมีลูกล่อลูกชนปะฉะดะได้คล่องกว่า “พีระพล” เพราะขนส่งฯ เป็นอีกหมู่บ้านกระสุนตกที่เป็นข่าวได้เสมอเจ้าค่ะ
3. “วิทยา ยาม่วง” ก้าวกระโดดจากผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ทะยานสู่อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เพาเวอร์อำนาจในมือพุ่งทะยานดั่งพลุแตก ทำให้หลายคนอ้าปากค้าง เพราะชายคนนี้ไม่ธรรมดา ติดสอยห้อยตาม รมว.คมนาคมต่อเนื่อง ออกสื่อชะว๊าปชะแว๊ปให้ได้เห็น จนเป็นไปตามคาด สมใจอยากได้นั่งเก้าอี้อธิบดี จท.ในครั้งนี้ ลือกันว่าเป็นใบสั่งจากบริษัทผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่ ผู้เป็นสปอนเซอร์หลักของบุรีรัมย์ยูไนเต็ด แม้จะไม่เป็นที่โปรดปรานของเจ้ากระทรวงคนเก่า (อาคม เติมพิทยาไพสิฐ) แต่สมัยนี้ภูมิใจไทยคุมเด้อค่ะ
4. “อานนท์ เหลืองบริบูรณ์” โดนเด้งจากกรมเกรดเอ “กรมทางหลวง” กระเด็นออกมาตามความคาดหมาย “สมคิด-คอนเน็คชั่น” คงหมดความขลังแล้วจริงจริง ถือเป็นแคนดิเดตหลักที่รอวันโดนเขี่ยทิ้งตั้งแต่วันแรกที่ภูมิใจไทยเหยียบเข้ากระทรวงคมนาคม โดนทิ้งระเบิดลูกใหญ่เรื่องถนนเจ็ดชั่วโคตร (พระราม 2) แม้เป็นปัญหาที่หลายรัฐบาลแก้ไม่ได้ แต่กลับโดนหมายหัวว่าทำงานไม่เข้าตา ทั้งที่นายใหม่เพิ่งเข้ากระทรวงมาไม่ถึงเดือน เจ้าตัวคงเจ็บปวดใจไม่น้อยแม้จะกัดฟันบอกว่าไม่ลาออก แต่อาการมันออกนะเจ้าคะ
5. “พีระพล ถาวรสุภเจริญ” อธิบดีขนส่งฯ โดนเด้งอีกคน คงเจ็บใจไม่น้อยต้องกลับเข้ากรุไปอยู่ใต้อุ้งเท้าลูกน้องเก่า ที่ตอนนี้เป็นปลัดกระทรวงคมนาคม หวังว่าจะมองหน้ากันติดนะเจ้าคะ ลือกันว่า “ศักดิ์สยาม” ไม่ปลื้มเรื่องมีแนวคิดสวนทางเรื่อง Grab ถูกกฎหมาย เพราะหาเสียงมาแล้ว เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าทำไม่ได้อย่างที่พูด หลอกลวงประชาชน แต่เอ๊ะ! ไม่รู้ซะแล้วว่า “Grab” มีสายสัมพันธ์กับภูมิใจไทยแน่นแฟ้นขนาดไหน ไม่เชื่อดูที่เสื้อบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดสิคะว่าใครเป็นสปอนเซอร์ และทุ่มไม่อั้นกับงาน MotoGP 2019 ด้วย
6. “แม่เป๋า-อัมพวัน วรรณโก” อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ข้าราชการน้ำดีที่น่านับถือ ลือกันว่าสมัครใจยอมลงจากเก้าอี้อธิบดีเพราะไม่อยากติดคุก!! เธอคิดว่าตัวเองคงไม่เหมาะกับการทำงานยุคการเมือง ที่บ่อยครั้งต้องยอมหลับตาข้างเดียวลงนามสัญญาที่สุ่มเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย หรือต้องถูกบีบบังคับเรื่องล็อคสเป็กเอื้อให้กับบางบริษัท นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการคนใหม่ (ถาวร เสนเนียม) ไม่ปลื้มผลงานของเธอสักเท่าไหร่ ทั้งเรื่องทำงานเบิกจ่ายงบล่าช้า อันดับแย่สุดของกระทรวงคมนาคม กับเรื่องความชักช้าในการพัฒนาสนามบินภูมิภาค ชีวิตดูสโลว์ไลฟ์มากแม่! หรือเป็นเพราะว่าหญิงแกร่งแห่งสนามบินภูธรผู้นี้ กล้าออกมาต่อกรเรื่องสนามบินกระบี่ ที่เกือบจะถูก ทอท.ฉกไปกิน ก่อนสานสัมพันธ์ “คิงเพาเวอร์-คอนเน็คชั่น” ดึงดิวตี้ฟรีไปเมืองท่องเที่ยว
7. “ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ” ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นเด็กในคาถาสมคิดที่เหลือรอดอยู่เป็นคนสุดท้าย เก้าอี้เสริมใยเหล็ก หวังรักษาเก้าอี้ตัวเอง เพราะเป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีหนังหมาของพรรคภูมิใจไทย สุดท้ายก็รอดตัวโล่งอกกันไป เพราะมีซี 11 เป็นเกราะคุ้มกัน ถ้าโดนเด้งคงจะเสียดายแย่ เห็นว่าวิ่งมาเยอะกว่าจะได้มายืนตรงนี้ ขอให้ได้เกษียณอายุราชการในตำแหน่งนี้ตามที่หวังไว้นะเจ้าคะ อย่าให้มีเหตุการณ์ผิดร้ายแรงจนโดนเด้ง หรือต้องลาออกเพราะสุขภาพไม่ดีนะคะ
8. “ชยธรรม์ พรหมศร” ว่าที่ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดูดีมีราศีจับตั้งแต่ภูมิใจไทยผงาดคุมกระทรวงคมนาคม เป็นคนสนิทที่คนภูมิใจไทยเห็นบ่อยครั้ง ถึงขนาด “ศักดิ์สยาม” ไว้ใจให้เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนทุกนโยบายที่ประกาศลั่นไป ถูกแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการหลายชุดในยุคนี้ อีกกระแสลือกันว่าจะไปนั่งอธิบดีกรมรางฯ เด็กภูมิใจไทยได้ดีทุกคนเลยนะเจ้าคะ
9. “สรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์” ว่าที่อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ดาวรุ่งพุ่งแรงก้าวขึ้นเป็นรองอธิบดีกรมรางฯ ด้วยอายุเพียงน้อยนิด แต่ผลงานที่ผ่านมาพิสูจน์ว่า ชีวิตข้าราชการของเขาก้าวกระโดดมากแค่ไหน จนบางคนมองว่าเร็วเกินไปแบบข้ามหน้าข้ามตาคนเก่าแก่ ถึงแม้จะเป็นคนโปรดของเจ้ากระทรวงคมนาคมคนเก่า (อาคม เติมพิทยาไพสิฐ) ทำให้ในยุคนี้ยังมีอะไรต้องพิสูจน์อีกเยอะ อยากรู้จังแบคพื่เค้าจะแข็งแค่ไหนนะ ?
สถานีต่อไป “ศักดิ์สยาม” เตรียมเปิดบัญชีหนังหมาเช็คบิลหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ คงทำให้หนาวหนาวร้อนร้อน สั่นสะเทือนกันทั้งยุทธภพ โดยเฉพาะรายชื่อที่น้องคาดเดาไว้ โดยเฉพาะ “เด็กสมคิด-คอนเน็คชั่น” รายชื่อไล่เรียงดังนี้เลยค่ะทุกคน
1. “กุลิศ สมบัติศิริ” ประธานบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือลาออกแล้ว แต่โดนสั่งเบรก
2. “เอกนิติ นิติทัณฑ์” ประธานบอร์ดการบินไทย เหมือนจะถอดใจแต่ก็โดนเฮียกวงสั่งเบรก
3. “ประสงค์ พูนธเนศ” ประธานบอร์ด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOT ระวังโดนใบสั่งจากคิงเพาเวอร์นะเจ้าคะ
4. “สุรงค์ บูลกุล” ประธานบอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
5. แต่งตั้งบอร์ดองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และประธานบอร์ดการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)
สุดท้ายขอแสดงความยินดีกับผู้ที่สมหวังด้วยค่ะ คนที่ผิดหวังก็ต้องสู้ต่อไปนะคะ เพราะชีวิตมีขึ้นมีลง ไม่ได้อยู่ที่วาสนานะคะ แต่อยู่ที่คอนเน็คชั่น !!!!
#ใต้พรมคมนาคม #แต่งตั้งโยกย้าย
จะเห็นได้ว่า ในยุคที่คสช. (ลุงตู่ 1) เรืองอำนาจ จะเป็นยุคที่ “สมคิด-คอนเน็คชั่น” จะมีอำนาจในการตัดสินใจตามกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ มากมาย แต่เมื่อการเมืองเปลี่ยน "อำนาจ" เหล่านั้นก็จะหมด
ยิ่งเห็นได้ชัดมากขึ้นเมื่อเป็นยุคลุงตู่ 2 "อนุทิน-คอนเน็คชั่น" กลับมีบทบาทเด่นชัดขึ้นอย่างออกนอกหน้า เรียกได้ว่า แทบจะเป็นหัวเรือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยแทนอดีตหัวเรือหลัก ที่โดนดีดหายเข้ากลีบเฆม กระเด็นออกไปอย่างเงียบๆ แบบไร้ร่องรอย
เรียกได้ว่า ทีมหัวหน้าเศรษฐกิจคนใหม่ของลุงตู่ น่าจะเป็น "ท่านรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล" ก็ว่าได้ ที่ถูกแต่งตั้งเข้ามา ให้มีบาทบาทหน้าที่สำคัญในการกุมงบการเงิน และนโยบายต่างๆ ของรัฐแทน ทั้งกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข ตามนโยบายที่ได้เคยหาเสียงไว้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ GRAB หรือ นโยบายกัญชา
ส่วนพวกเราคนไทย ก็ได้แต่หวังว่า
ท่านๆ เหล่านั้น จะไม่อาศัยความใกล้ชิด สนิทชิดเชื้อกัน แต่ลืมนึกถึงคนไทย และประเทศชาติกันบ้างนะ
เพราะงบประมาณต่างๆ ก็มาจากภาษีของประชาชนคนไทยแทบทุกคนเช่นกัน !!!
เก่าไป (สมคิด-คอนเน็คชั่น) VS ใหม่มา (อนุทิน-คอนเน็คชั่น)
ยิ่งเห็นได้ชัดมากขึ้นเมื่อเป็นยุคลุงตู่ 2 "อนุทิน-คอนเน็คชั่น" กลับมีบทบาทเด่นชัดขึ้นอย่างออกนอกหน้า เรียกได้ว่า แทบจะเป็นหัวเรือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยแทนอดีตหัวเรือหลัก ที่โดนดีดหายเข้ากลีบเฆม กระเด็นออกไปอย่างเงียบๆ แบบไร้ร่องรอย
เรียกได้ว่า ทีมหัวหน้าเศรษฐกิจคนใหม่ของลุงตู่ น่าจะเป็น "ท่านรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล" ก็ว่าได้ ที่ถูกแต่งตั้งเข้ามา ให้มีบาทบาทหน้าที่สำคัญในการกุมงบการเงิน และนโยบายต่างๆ ของรัฐแทน ทั้งกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข ตามนโยบายที่ได้เคยหาเสียงไว้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ GRAB หรือ นโยบายกัญชา