เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำที่ว่า “เลี้ยงโจรไว้จับโจร” หมายถึงการที่ตำรวจมักจะละเว้นทำเป็นมองไม่เห็นผู้กระทำผิดบางราย เพื่อให้คนเหล่านี้เป็น “สายข่าว” ให้ข้อมูลจนนำไปสู่การจับกุมในคดีที่ใหญ่กว่าและสังคมให้ความสนใจมากกว่า วิธีการแบบนี้แม้มุมหนึ่งมันจะได้ผลเพราะคงไม่มีใครรู้จักกระบวนการกระทำผิดกฎหมายได้ดีไปกว่าคนที่อยู่ในแวดวงนั้นเอง อีกทั้งง่ายกว่าและเสี่ยงน้อยกว่าการส่งเจ้าหน้าที่แทรกซึมเข้าไปหาข่าว แต่อีกมุมหนึ่งมันก็ถูกตั้งคำถามเช่นกันว่ามีโอกาสแค่ไหนที่สุดท้ายแล้ว ตำรวจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิดกฎหมายนั้นเสียเอง
The Beast ( ชื่อไทย “ปิดโซลล่า” ) เป็นภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่ดำเนินเรื่องไป 2 ส่วน ส่วนหลักคือการตามล่าฆาตกรต่อเนื่องที่จับผู้หญิงไปทรมานและฆ่าอย่างโหดร้ายวิปริตผิดมนุษย์มนา แต่ระหว่างที่ตำรวจแดนกิมจิเร่งหาตัวฆาตกรรายนี้ เนื้อเรื่องอีกส่วนที่ดูแล้วจะเข้มข้นกว่าก็ดำเนินไปพร้อมกัน นั่นคือความขัดแย้งภายในของตำรวจด้วยกันเอง ระหว่าง 2 นายตำรวจอาวุโส “ผู้กองจุง” ที่ปิดคดีดังๆ มาแล้วมากมาย แม้วิธีการจะดูไม่ค่อยดีสักเท่าไร ( นักสิทธิฯ ทั้งหลายคงรับไม่ได้ ) กับ “ผู้กองฮาน” ที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน แต่ขัดแย้งกันเพราะไม่ชอบวิธีการแบบนั้น
จุงและฮานเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยตำรวจเมืองอินชอน ( Incheon ) ทั้งคู่มีโอกาสได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการของหน่วยแทนผู้บังคับบัญชาคนเดิมที่กำลังจะเลื่อนตำแหน่งไปตามวาระ แน่นอนว่าการปิดคดีฆาตกรต่อเนื่องครั้งนี้จะเป็นผลงานสำคัญที่มีผลต่อการพิจารณาแต่งตั้ง แต่ระหว่างการสืบสวน หนังก็ได้ทำให้คนดูเริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าการเลี้ยงโจรไว้จับโจร มันแก้ปัญหาอาชญากรรมได้จริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่เอาไว้ให้ตำรวจใช้เป็นผลงานในการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง และนานไปเส้นแบ่งระหว่างผู้พิทักษ์สันติราษฎร์กับอาชญากรก็บางลงเรื่อยๆ จนยากจะแยกออก
ท่ามกลางการตามล่าฆาตกรต่อเนื่อง หนังยังพาไปรู้จักแก๊งคนต่างชาติที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ที่มีทั้งจีน ญี่ปุ่น และไทย ( อ่านไม่ผิดหรอกครับ มีแก๊งคนไทยด้วย ) ที่เข้ามาทำให้สถานการณ์ตึงเครียดและยุ่งยากขึ้นไปอีก ตรงนี้เห็นคนที่ไปดูมาแล้วบางท่านบอกว่าทำให้สับสนว่าอะไรคือแก่นหลัก-อะไรคือประเด็นรองของหนัง เพราะเรื่องตัดไปตัดมา แต่สำหรับผมบอกเลยว่าชอบนะ คือถ้าเป็นหนังไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องอย่างเดียวมันคงไม่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ แต่อันนี้ยังเล่าเรื่องการทำงานของตำรวจไปพร้อมกันแถมเล่าได้น่าติดตามด้วยว่าบทสรุปจะไปจบอย่างไร
เสียดายมากที่หนังเรื่องนี้ไม่โปรโมต ฉายน้อยโรงมาก แถมยังไม่มีพากย์ไทยอีกต่างหากครับ!!!
ปล.กดผิดเป็นกระทู้คำถาม ตอนแรกจะกดเป็นกระทู้สนทนา ขออภัยด้วยครับ
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
The Beast (ปิดโซลล่า) : เส้นแบ่งบางๆ ระหว่างตำรวจกับอาชญากร
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำที่ว่า “เลี้ยงโจรไว้จับโจร” หมายถึงการที่ตำรวจมักจะละเว้นทำเป็นมองไม่เห็นผู้กระทำผิดบางราย เพื่อให้คนเหล่านี้เป็น “สายข่าว” ให้ข้อมูลจนนำไปสู่การจับกุมในคดีที่ใหญ่กว่าและสังคมให้ความสนใจมากกว่า วิธีการแบบนี้แม้มุมหนึ่งมันจะได้ผลเพราะคงไม่มีใครรู้จักกระบวนการกระทำผิดกฎหมายได้ดีไปกว่าคนที่อยู่ในแวดวงนั้นเอง อีกทั้งง่ายกว่าและเสี่ยงน้อยกว่าการส่งเจ้าหน้าที่แทรกซึมเข้าไปหาข่าว แต่อีกมุมหนึ่งมันก็ถูกตั้งคำถามเช่นกันว่ามีโอกาสแค่ไหนที่สุดท้ายแล้ว ตำรวจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิดกฎหมายนั้นเสียเอง
The Beast ( ชื่อไทย “ปิดโซลล่า” ) เป็นภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่ดำเนินเรื่องไป 2 ส่วน ส่วนหลักคือการตามล่าฆาตกรต่อเนื่องที่จับผู้หญิงไปทรมานและฆ่าอย่างโหดร้ายวิปริตผิดมนุษย์มนา แต่ระหว่างที่ตำรวจแดนกิมจิเร่งหาตัวฆาตกรรายนี้ เนื้อเรื่องอีกส่วนที่ดูแล้วจะเข้มข้นกว่าก็ดำเนินไปพร้อมกัน นั่นคือความขัดแย้งภายในของตำรวจด้วยกันเอง ระหว่าง 2 นายตำรวจอาวุโส “ผู้กองจุง” ที่ปิดคดีดังๆ มาแล้วมากมาย แม้วิธีการจะดูไม่ค่อยดีสักเท่าไร ( นักสิทธิฯ ทั้งหลายคงรับไม่ได้ ) กับ “ผู้กองฮาน” ที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน แต่ขัดแย้งกันเพราะไม่ชอบวิธีการแบบนั้น
จุงและฮานเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยตำรวจเมืองอินชอน ( Incheon ) ทั้งคู่มีโอกาสได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการของหน่วยแทนผู้บังคับบัญชาคนเดิมที่กำลังจะเลื่อนตำแหน่งไปตามวาระ แน่นอนว่าการปิดคดีฆาตกรต่อเนื่องครั้งนี้จะเป็นผลงานสำคัญที่มีผลต่อการพิจารณาแต่งตั้ง แต่ระหว่างการสืบสวน หนังก็ได้ทำให้คนดูเริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าการเลี้ยงโจรไว้จับโจร มันแก้ปัญหาอาชญากรรมได้จริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่เอาไว้ให้ตำรวจใช้เป็นผลงานในการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง และนานไปเส้นแบ่งระหว่างผู้พิทักษ์สันติราษฎร์กับอาชญากรก็บางลงเรื่อยๆ จนยากจะแยกออก
ท่ามกลางการตามล่าฆาตกรต่อเนื่อง หนังยังพาไปรู้จักแก๊งคนต่างชาติที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ที่มีทั้งจีน ญี่ปุ่น และไทย ( อ่านไม่ผิดหรอกครับ มีแก๊งคนไทยด้วย ) ที่เข้ามาทำให้สถานการณ์ตึงเครียดและยุ่งยากขึ้นไปอีก ตรงนี้เห็นคนที่ไปดูมาแล้วบางท่านบอกว่าทำให้สับสนว่าอะไรคือแก่นหลัก-อะไรคือประเด็นรองของหนัง เพราะเรื่องตัดไปตัดมา แต่สำหรับผมบอกเลยว่าชอบนะ คือถ้าเป็นหนังไล่ล่าฆาตกรต่อเนื่องอย่างเดียวมันคงไม่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ แต่อันนี้ยังเล่าเรื่องการทำงานของตำรวจไปพร้อมกันแถมเล่าได้น่าติดตามด้วยว่าบทสรุปจะไปจบอย่างไร
เสียดายมากที่หนังเรื่องนี้ไม่โปรโมต ฉายน้อยโรงมาก แถมยังไม่มีพากย์ไทยอีกต่างหากครับ!!!
ปล.กดผิดเป็นกระทู้คำถาม ตอนแรกจะกดเป็นกระทู้สนทนา ขออภัยด้วยครับ
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )