แชร์ประสบการณ์การออมหุ้นสิ้นสุด Q 3 - 2019 ( DCA เพิ่ม มกราคม - กันยายน 2562 ) และความมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยทบต้น

        กระทู้นี้แชร์เพื่อเป็นตัวอย่าง แนวทาง และเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการศึกษาการลงทุน สำหรับนักลงทุนแนว DCA และเป็นกำลังใจให้นักลงทุนใหม่ๆที่เริ่มสนใจการลงทุนจะได้เกิดจุดเปลี่ยนที่จะหันมาออมเงิน ออมหุ้นเพื่อให้ได้อิสสระภาพทางการเงินทุกๆท่านนะครับ 

        แนวทางนี้น่าจะเหมาะสำหรับท่านที่สนใจในการลงทุนแนว DCA โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ๆนะครับ ... สำหรับเจ้าของกรทู้มิได้มุ่งหวังเพื่อการอวดภูมิ หรืออวดความเก่ง ไม่เก่งแต่อย่างใด เป็นการแบ่งปันประสบการณ์การลงทุนอีกแนวหนึ่งที่น่าศึกษา และก็ให้ผลตอบแทนดีกว่าการฝากประจำกับธนาคาร  สำหรับท่านใดที่ไม่ชอบการลงทุนในแนว DCA นี้ หรือไม่อยากเสียเวลาในการอ่านกระทู้นี้...กรุณาข้ามกระทู้นี้ไปนะครับ 

        สำหรับการออมหุ้นในไตรมาสที่สามของปี 2562 หุ้นโดยรวมปรับลดลงเล็กน้อยบ้าง มากบ้างเกือบทุกตัว เนื่องจากภาวะเศรษษฐกิจโลกซบเซา  สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก็ยังมีปัญหากันอยู่  และกำลังซื้อของคนไทยก็ยังไม่ดี หลายๆกิจการก็ยังตกต่ำอยู่ ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงมจากไตรมาสที่สองพอสมควร ทำให้มูลค่าหุ้นพอร์ต DCA ไตรมาสที่สาม มีกำไรลดลงมากกว่าพอร์ตในไตรมาสที่สองประมาณ -15.89% . ทำให้กำไรในไตรมาสนี้ ปรับลดลงกว่ากำไรที่มีในเดือนมิถุนายน 2562  เป็นเงิน 486,069.59  บาท คิดเป็น -15.89 % และเป็น -5.39% ของเงินทุนครับ  ถ้าเทียบจากต้นปีเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2562 เป็นเงิน 905,693.91 บาท  คิดเป็น 10.04% ของเงินทุน (ไม่รวมเงินปันผล)

พอร์ต DCA  ทุกวันที่ 5 ของเดือน


พอร์ต DCA  ทุกวันที่ 15 ของเดือน



 
พอร์ต DCA  ทุกวันที่ 25 ของเดือน

 
ส่วนพอร์ตรวมทั้งที่ออมหุ้น และซื้อลงทุนเองทุกพอร์ต ผลการลงทุนในตั้งแต่มกราคม 2562 สิ้นสุดเดือนกันยายน 2562 ผลตอบแทนจากจากกำไรหุ้นเพิ่มขึ้น ประมาณ 5.57 %  เป็นเงินปันผล 4.48 %   กำไรจากราคาหุ้นรวมเพิ่มขึ้น 10.05 %  ซึ่งในปีนี้ นี้ผมได้เน้นซื้อหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูงๆด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อรับเงินปันผลให้มากขึ้น(เฉพาะพอร์ตที่ผมซื้อขายเองเท่านั้น)  ส่วนพอร์ต DCA จะเน้นหุ้นพื้นฐานดี เติบโตต่อเนือง ถือยาวๆต่อไปเหมือนเดิมครับ

จะเห็นได้ว่าจากตารางตัวอย่างแสดงการเพิ่มขึ้นของเงินออม และดอกเบี้ยทบต้นตามตารางตัวอย่าง ใช้เงินค้นเพียง 10,000  บาท และมีกำไรจากหุ้นและเงินปันผลรวม 13 ปี เงินต้นจาก 10,000 บาท จะเพิ่มขึ้นทบต้นทุกปี จนครบ 13 ปีเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 61,841.01 ซึ่งคนทั่วไปคงคิดไม่ถึงว่า ดอกเบี้ยทบต้นจะสามารถทำให้เงินออมจะเพิ่มขึ้นได้มากมายขนาดนี้..... จึงอยากให้น้องๆ ลูกๆ หลานๆ นักลงทุนมือใหม่ ให้อดทนลงทุนระยะยาว  ยิ่งลงทุนยิ่งนาน จะยิ่งให้ผลตอบแทนทบต้นได้มากทวีคูรยิ่งๆขึ้น  ......การลงทุนไม่ได้ต้องลงทุนเฉพาะหุ้นนะครับ การลงทุนกองทุนหุ้น หรือลงทุนตราสารหนี้อย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนทุกๆปี  ในอัตราที่เหมาะสมไม่น้อยจนเกินไป เงินต้นก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณดังตัวอย่างครับ


      ถ้าเราอยากเกษียณและมีอิสระภาพทางการเงิน แนวทางการออมหุ้นดีๆ ที่เดิบโตต่อเนื่องอย่างมีวินัย  ต้องไม่วอกแวกว่าหุ้นจะขึ้นจะลง กำไรมายาที่เห็นในบางช่วงเวลาอาจลดลงบ้าง  พอร์ตติดลบบ้าง ต้องเข้าใจธรรมชาติของตลาดหุ้น เพราะตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวนเป็นเรื่องธรรมดา มีขึ้น มีลง เกือบตลอดเวลา  แต่การถือหุ้นดีๆ ที่เป็นผู้นำในธุรกิจด้านต่างๆ  และจ่ายเงินปันผลทุกๆปี และจ่ายเพิ่มขึ้นทุกๆปี และยังคงเติบโตทุกขึ้นๆวัน หรือทุกๆปี  ธุรกิจไม่ได้สนใจว่าราคาหุ้นในตลาดจะขึ้นหรือจะลงแต่กิจการที่มั่นคง  มีรายได้สมำเสมอ และเติบโตได้ทุกๆปี.... ราคาหุ้นก็จะเติบโตตามการเติบโตของกิจการอย่างแน่นอน ...เงินออมของเราก็สามารถติบโตได้ต่อเนื่องทุกๆปี และเติบโตแบบทบต้นอีกด้วย....

เพียงแต่เราจะต้องรู้จักเลือกหุ้นที่สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องทกๆปี กำไรไม่สวิงขี้นลงมากในบางปี ควรมีกำไรเพิ่มขึ้นทุกๆปี จะเหมาะกับการออมหุ้นเพื่อการเกษียณและมีอิสสระภาพทางการเงินได้ไม่ยาก  เพียงแต่ต้องเชื่อมั่นว่าเลือกหุ้นถูกตัว และเหมาะสมในการลงทุนระยะยาว และต้องออมหุ้นต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ยิ่งทอดเวลายิ่งนาน เงินลงทุจะยิ่งเพิ่มทวีคูณได้แน่นอน ตัวอย่างหุ้นที่มองว่าเติบโตได้ต่อเนื่อง และแทบจะไม่มีคู่แข่ง รายได้สม่ำเสมอ และเพิ่มขึ้นทุกๆปี ..เช่น AOT CPALL เป็นต้น  (ไม่ได้แนะนำให้ซื้อตาม แค่เป็นตัวอย่างหุ้นที่เติบโตต่อเนื่องที่ผ่านมา) และที่สำคัญต้องพยายามหาความรู้เกียวกับหุ้น การออมหุ้นอย่างต่อเนือ่งครับ ถ้ามั่นใจว่าหุ้นที่เลือกเหมาะสมที่สุดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกลงทุนกระจายไปมากตัวจนเกินไป เพราะการกระจายมากไป อาจจะทำให้ผลตอบแทนที่ได้น้อยกว่ากานรเน้นลงทุนหุ้นเด่นๆไม่กี่ตัว อีกอย่างก็แล้วแต่ขึ้นกับจำนวนเงินออมของแต่ละท่านจะมากน้อยแค่ไหนด้วย   แต่ก็เอาที่ลงทุนแล้วสบายใจแล้วกันครับ แต่ผมเน้น 2-3 ตัวเป็นหุ้นหลักที่ออมรายเดือนครับ
 
การลงทุน DCA ในแนวนี้ ไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่สูงมากๆเหมือนการจับจังหวะซื้อ ๆขายๆ เป็นรอบๆ ...แต่ DCA เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนในอัตราที่สูงมากๆ หรือให้ผลตอบแทนที่รวดเร็ว แบบหุ้นเก็งกำไร... แต่เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ให้ผลตอบแทนน้อยกว่า เหมาะกับคนที่มีเงินทุนน้อย เป็นเงินที่เหลือเก็บในแต่ละเดือน แต่อยากให้เงินออมทำงานแทนเรา ค่อยๆสร้างผลตอมบแทนเพิ่มขึ้นทุกๆปีทวีเพิ่มขึ้นทั้งเงินออมที่ออมเพิ่ม และผลตอบแทนที่ได้จากหุ้นจะทบต้มเพิ่มไปเรื่อยๆ ยิ่งระยะเวลาการลงทุนยิ่งยาว ดอกเบี้ยทบต้นจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างน่าอัศจรรย์ครับ (มีตัวเลขตัวอย่างทำให้ดูการเพิ่มขึ้นของเงินออมที่ผมได้ในแต่ละปี จากผลตอบแทนรายปีเฉลี่ย... โดยสมมุติตัวเงินเพื่อให้ง่ายๆ แต่ตัวเลขจริงผมไม่มีนะครับ และอาจจะได้น้อยกว่าตัวอย่างก็ได้ครับ 

 หัวใจของการลงทุนแนว DCA ที่สำคัญต้องเข้าใจว่า ...เป้าหมายผลตอบแทนในการลงทุนของ
เราตั้งไว้มากน้อยแค่ไหน?..การลงทุนแนว DCA คงให้ผลตอบแทนได้ไม่สูงมากนัก น่าจะให้ผลตอบแทนได้ประมาณ 8-9 % ต่อปีเป็นอย่างน้อย และอย่างมากไม่เกิน 20 % ต่อปี บวกกับความมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยทบต้น จะทำให้พอร์ตเติบโตเป็นทวีคูณขึ้นทุกๆปี อีกแรงหนึ่ง ยิ่งเราทยอยเอาเงินเติมเข้าพอร์ตเรื่อยๆ เดือนละเล็ก เดือนละน้อยยิ่งทำให้พอร์ตเติบโตขึ้นทุกๆปี ...การลงทุนทบต้นไปเรื่อยๆ  สิบปี  ยี่สิบปี ก็อาจจะมีอิสระถาพทางการเงินได้ครับ...สำคัญอย่าแขว อย่าท้อ อย่าโลภ ต้องอดทน อย่าไปสนใจว่า คนอื่นใครจะได้ผลตอบแทนต่อปีมากน้อยแค่ไหน เพราะความสามารถ ความรู้ต่างกัน หากเลือกการลงทุนแนว DCA ก็ต้องยึดมั่นในแนวทางนี้ไปเรื่อยๆ 

ช่วงที่ตลาดหุ้นหุ้นขึ้นมามาก บางคนก็กลัวว่า การ DCA หุ้นช่วงนี้แพงไปมั้ย? 

 1 จะไม่เหมาะสมกับการ DCA มั้ย?...

2 กลัว ซื้อแพง ได้หุ้นน้อย หยุด DCA ไปก่อนดีมั้ย ?

3 บางคนก็มีประยุกต์กร็าฟท์เอาใช้มาหาจังหวะเก็บหุ้น DCA ได้ราคาที่ถูกๆ

สำหรับความเห็นส่วนตัวของผม...ผมคิดว่าแนว DCA ต้องสะสมต่อเนื่อง ไม่สนใจราคาหุ้นจะขึ้นมามากน้อยแค่ไหน? (หลักการ DCA มองอนาคตของหุ้นที่จะเติบโตในอนาคตมากกว่า หาจังหวะช่วงเวลาซื้อหุ้นถูก) คนที่เงินออมน้อย รอจังหวะเก็บหุ้นช่วงเหมาะๆ อาจจะเข้าออกผิดจังหวะ อาจเสียโอกา
สให้เงินทำงานช่วงที่กร๊าฟท์ยังไม่ใช่จังหวะซื้อ และหุ้นก็ไม่มีอะไรแน่นอน จะขึ้นก็ขึ้น จะลงก็ลง....สำหรับผมๅก็ DCA ทุกเดือน ไม่สนใจว่าหุ้นที่ DCA ราคาจะขึ้นมาเยอะแล้วยัง เพราะขึ้นมาเยอะ ราคาหุ้นในพอร์ตที่ได้ DCA ไว้ก็มีกำไรเพิ่ม และเป็นหุ้นจำนวนมากกว่าที่จะ DCA รายเดือน ถ้าหุ้นลง เราก็ได้จำนวนหุ้นเพิ่ม ถือไปอีกปีสองปีก็กำไรก็เพิ่มขึ้น  แค่รอให้หุ้นเติบโตปตามพื้นฐานของกิจการเท่านั้น อย่าเสียความมั่นใจและกำลังใจเมื่อหุ้นตก  แล้วตกใจกลัวหุ้นตกต่ออีก รีบขายล้างพอร์ต หรือสต๊อปลอส  การอดทนค่อยๆออมเงิน ออมหุ้นอย่างมีวินัย อดทน และสามารถหาผลตอบแทนได้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี เงินออมก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้น และหากสามารถออมเพิ่มต่อเนื่องทุกๆเดือน ทุกๆปี ไม่ถอนเงินออกมาใช้ ดอกเบี้ยหรือเงินปันผลจะช่วยทบต้น เพิ่มทวีเงินออมให้สูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ !!!!  ยิ่งหากออมตั้งแต่อายุน้อยๆ จะสามารถมีอิสสระภาพทางการเงินเร็ว และง่ายยิ่งขึ้นครับ ออมก่อนรวยกว่า และง่ายกว่าคนที่มาคิดออมเงินตอนใกล้

สำหรับผมๆก็ยังออมหุ้นทุกเดือน ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นสูง หรือลงต่ำ ผมเฉลี่ยซื้อทุกๆเดือนครับ

ออมหุ้นรายเดือนทุกวันที่ 5

 

ออมหุ้นรายเดือนทุกวันที่ 15


ออมหุ้นรายเดือนทุกวันที่ 25


ความมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยทบต้น



อีกตัวอย่างที่จะทำให้มองเห็นภาพของดอกเบี้ทบต้น สมมุติมีเงินลงทุนเริ่มแรก 100,000 บาท ปีถัดไปลงทุนเพิ่ม 50% ของเงินเดือนทั้งปี (สมมุติเพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่างเท่านั้น) และดอกผลที่เกิดขึ้นต่อปีก็นำมาลงทุนต่อเนื่องนะครับ

สรุปไตรมาสที่ 3  ไม่ดีเท่าที่ควร...ต้องลุ้น Q 4 ต่อไป แต่เห็น SET 2-3 วันนี้แล้วก็คิดว่าเหนื่อยครับ ลงหนักๆทุกวัน แม้หุ้นที่มีในพอร์ตอาจจะลงไม่มาก แต่โดยรวมคงติดลบเพิ่ม ...สู้ๆ  มองปีหน้าต่อไป ก็ยังดีกว่าปี 2561 ครับ

เม่าบาดเจ็บเม่าบาดเจ็บเม่าบาดเจ็บ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การลงทุน Value Investment การออมเงิน Fundamental Analysis หุ้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่