สวัสดีครับ ผมมีความสามารถที่อาจจะเป็นประโยชน์กับโลกนี้แล้วอาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้มัน เลยมาบอกเอาไว้เพื่อมันจะมีประโยชน์ในอนาคต ผมมีความสามารถในการหาความจริงความสามารถที่น่าจะมีผมคนเดียวที่ทำได้(ขออภัยอาจจะดูเหมือนโม้ไปหน่อย) บอกไว้ก่อนจะได้ไม่เบื่อแล้วเลิกอ่าน ผมจะบอกตอนท้ายให้ว่าจุดเริ่มต้นของจักวาลคืออะไร หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าบางคนมีความสามารถพิเศษติดตัวมาเหมือนพรสวรรค์ เป็นอัจฉริยะตั้งแต่เกิดสามารถทำอะไรบางอย่างได้ดีกว่าคนอื่น ผมเป็นหนึ่งในนั้นความสามารถผมคือการเข้าใจความจริงว่าอะไรคือความจริงอะไรไม่ใช่ ถ้าให้พูดถึงความจริงหลายๆคนอาจจะคิดถึงวิทยาศาสตร์ ใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ความจริง แต่ความสามารถผมต้องขออภัยผมจำเป็นต้องบอกความจริงมันมีความสามารถสูงกว่าวิทยาศาสตร์ เอาล่ะผมสามารถมองสิ่งต่างๆจากความเป็นจริงแล้วแยกองค์ประกอบได้ ผมจะรู้ได้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง ผมจะยกตัวอย่างให้ดู1อันต้องขออภัยทางวิทยาศาสตร์แค่จะเทียบให้ดูว่ามันต่างกันยังไง
ผมไปอ่านเจอมาเห็นหลายๆคนคิดว่าวิทยาศาสตร์มีข้อดีข้อนึงคือการที่วิทยาศาสตร์สามารถผิดได้ สมมุติทฤษฎีเก่าผิดแล้วมีหลักฐานใหม่แล้วพิสูจน์ว่าของเก่าผิด ก็จะยกเลิกของเก่าไปแล้วใช้ของใหม่แทน หลายคนเห็นแบบนี้แล้วคิดว่ามันเป็นข้อดีมันไม่ใช่ข้อดีนะครับการยอมรับข้อผิดพลาดแล้วแก้ไขถือว่าดีอยู่แต่การที่มีโอกาสที่จะผิดได้นั้นเป็นข้อเสียนะครับ ผมยกตัวอย่างนี้เพราะมันตรงข้ามกับความสามารถผม ความสามารถผมไม่สามารถผิดได้ ขอให้ทุกคนหยุดตรงนี้แล้วใช้เวลาคิดกับคำถามที่ผมกำลังจะถาม ทุกคนคิดว่าความสามารถที่มีโอกาสที่จะผิดได้ กับความสามารถที่ไม่ผิดเลยอันไหนดีกว่ากัน ลองคิดกันตรงนี้ก่อนนะครับเพราะผมจะใช้ความสามารถผมในการตรวจสอบความจริงต่อจากนี้
เอาล่ะ มันอาจจะไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้มันอาจจะแล้วแต่คนจะคิด คนนี้อาจจะคิดแบบนี้คนนั้นอาจจะคิดแบบนี้ แต่ถ้าเราแยกองค์ประกอบให้ถูกเราจะมองเห็นความเป็นจริง
การเปลี่ยนแปลง(มี3อย่าง)
1เปลี่ยนแปลงตามความเป็นจริง เช่น ปีที่แล้วAvatarเป็นอันดับ1แต่ตอนนี้อยู่อันดับ2นี่คือเปี่ยนแปลงตามความเป็นจริง(ไม่ใช่ความผิด)
2การเปลี่ยนโดยการพัฒนา อย่างแต่ก่อนใช้การปั่นไม้ในการจุดไฟเดี๋ยวนี้ใช้ไฟแชคกับไม้ขีดอันนี้ก็ไม่ใช่ความผิด เพราะยังปั่นไม้ในการจุดไฟได้
3การเปลี่ยนแปลงจากความผิด อย่างแต่ก่อนเชื่อว่าโลกแบนแต่ตอนนี้กลม อันนี้เป็นความผิดมันเป็นข้อเสีย ตอนนี้เราได้องค์ประกอบของการเปลี่ยนแปลงครบแล้ว
มาดูองค์ประกอบของแต่ละศาสตร์กัน
a.สิ่งที่ผิดไม่ได้(ดี) b.สิ่งที่ยอมรับความผิดแล้วแก้ไข(ปานกลาง) c.สิ่งที่ไม่ยอมรับว่าผิด(แย่)
แล้วลองมาวิเคราะห์ดู วิทยาศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงมีทั้ง3อย่าง จากข้างบนวิทยาศาสตร์เป็นb
ศาสตร์อย่างเช่นไสยศาสตร์ เป็นcผมไม่รู้ว่าเปลี่ยนแปลงได้ไหม จากที่ดู2ศาสตร์นี้หลายๆคนจะคิดว่าการที่ผิดได้ย่อมดีกว่าและคิดว่าสิ่งที่ผิดไม่ได้อย่างไสยศาสตร์ไม่ดี แต่ถ้าดูด้านบนจะเห็นว่าไสยศาสตร์ไม่ใช่สิ่งที่ผิดไม่ได้แต่ไม่ยอมรับว่าผิดซึ่งต่างกัน แต่ถึงอย่างงี้ก็ยังคิดว่าสิ่งที่ผิดได้นั้นเป็นข้อดี
เพราะไม่เคยเห็นสิ่งที่ผิดไม่ได้ ถ้าหากได้เจอกับสิ่งที่ผิดไม่ได้จะรู้ว่าไม่มีทางเอาชนะได้ ไม่ว่าทางไหนความสามารถที่ผิดไม่ได้ก็ย่อมดีกว่า จะลองพิสูจน์ก็ได้
แต่จะไปมีความสามารถที่สมบูรณ์แบบนั้นอยู่ได้ไง ก็ผมแสดงให้ดูด้านบนแล้วถึงความสามารถที่สมบูรณ์แบบ การแยกองค์ประกอบ ความสามารถที่ผิดไม่ได้ ถ้าดูจากข้างบนความสามารถที่ผมใช้จะมีค่าคือ 1 2 และ a ในโลกนี้น่ะมีความสามารถที่ผิดไม่ได้อยู่ มีความสามารถนึงที่ค่าทุกอย่างจะเท่ากับ100%เสมอ ใช่ความสามารถผมคือ คณิตศาสตร์ ผมสามารถมองเห็นความจริงแล้วแยกรูปแบบ ถอดองค์ประกอบได้ คณิตศาสตร์ไม่ใช่แค่ตัวเลขแต่มันคือความจริงของทุกอย่าง ก็แสดงตัวอย่างวิธีใช้ความสามารถในการหาความจริงให้ดูแล้ว ต่อไปของจริงการหาต้นกำเนิดของจักรวาล
เอาล่ะความจริงกับคณิตศาสตร์คืออันหนึ่งอันเดียวกัน คณิตศาสตร์นั้นมีกฎ ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลสามารถขัดแย้งกับกฎได้แม้แต่พระเจ้า ให้ถือว่ากฎอยู่สูงที่สุด กฎข้อนึงระบุไว้ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้นไม่มีสิ่งใดในจักรวาลที่จะอยู่ดีๆก็มีได้โดยที่ไม่มีจุดเริ่มต้น แต่ว่ากลับมีสิ่งต่างๆมากมายเกิดขึ้นแล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง ถ้าหากว่ามีจุดเริ่มต้นจริงแล้วอะไรคือจุดเริ่มต้น มันจะต้องมีอะไรสักอย่างอยู่ก่อนแล้วถ้าอย่างงี้มันก็จะขัดต่อกฎ สุดท้ายผมยอมแพ้ในตอนแรกทุกอย่างมันขัดกันไปหมด แต่ตอนนี้ผมเจอแล้วความเป็นไปได้เดียวที่ไม่ขัดต่อกฎความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นไปได้(ไม่ใช่พระเจ้านะ) แต่ผมขอพอแค่นี้ก่อนไว้จะมาบอกครั้งหน้าขอโทษด้วยครับที่ตอนแรกบอกว่าจะบอก ตอนนี้ผมลังเลอะไรหลายอย่างทั้งเรื่องเปิดเผยความสามารถเรื่องส่วนตัวอะไรหลายอย่าง ผมเคยคิดว่าผมคิดไปเองไหมเรื่องความสามารถพิเศษของผม แค่คิดไปเองจะไปมีความจริงขนาดนี้ได้ยังไง ตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจ ผมมีปัญหาส่วนตัวหลายอย่างที่มาโพสเผื่อไม่มีโอกาสที่จะได้บอกคนอื่น เดี๋ยวผมขอสะสางปัญหาส่วนตัวก่อนและดูกระแสตอบรับจากที่ผมโพสสักหน่อย แต่ไม่ว่าจะเป็นไงจะดีหรือไม่ดีอีกประมาณ2วัน ผมจะมาตอบคำตอบที่ผมค้างไว้ให้ ตอนนี้ลองคิดกันไปก่อนก็ได้ครับแต่ต้องยึดติดกับกฎที่ว่าทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้น และหาว่าสิ่งแรกที่เกิดขึ้นนั้นมันเกิดได้อย่างไรโดยไม่ขัดกับกฎ อีกประมาณ2วันแล้วเจอกันครับ
ความสามารถที่สมบูรณ์แบบ
ผมไปอ่านเจอมาเห็นหลายๆคนคิดว่าวิทยาศาสตร์มีข้อดีข้อนึงคือการที่วิทยาศาสตร์สามารถผิดได้ สมมุติทฤษฎีเก่าผิดแล้วมีหลักฐานใหม่แล้วพิสูจน์ว่าของเก่าผิด ก็จะยกเลิกของเก่าไปแล้วใช้ของใหม่แทน หลายคนเห็นแบบนี้แล้วคิดว่ามันเป็นข้อดีมันไม่ใช่ข้อดีนะครับการยอมรับข้อผิดพลาดแล้วแก้ไขถือว่าดีอยู่แต่การที่มีโอกาสที่จะผิดได้นั้นเป็นข้อเสียนะครับ ผมยกตัวอย่างนี้เพราะมันตรงข้ามกับความสามารถผม ความสามารถผมไม่สามารถผิดได้ ขอให้ทุกคนหยุดตรงนี้แล้วใช้เวลาคิดกับคำถามที่ผมกำลังจะถาม ทุกคนคิดว่าความสามารถที่มีโอกาสที่จะผิดได้ กับความสามารถที่ไม่ผิดเลยอันไหนดีกว่ากัน ลองคิดกันตรงนี้ก่อนนะครับเพราะผมจะใช้ความสามารถผมในการตรวจสอบความจริงต่อจากนี้
เอาล่ะ มันอาจจะไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้มันอาจจะแล้วแต่คนจะคิด คนนี้อาจจะคิดแบบนี้คนนั้นอาจจะคิดแบบนี้ แต่ถ้าเราแยกองค์ประกอบให้ถูกเราจะมองเห็นความเป็นจริง
การเปลี่ยนแปลง(มี3อย่าง)
1เปลี่ยนแปลงตามความเป็นจริง เช่น ปีที่แล้วAvatarเป็นอันดับ1แต่ตอนนี้อยู่อันดับ2นี่คือเปี่ยนแปลงตามความเป็นจริง(ไม่ใช่ความผิด)
2การเปลี่ยนโดยการพัฒนา อย่างแต่ก่อนใช้การปั่นไม้ในการจุดไฟเดี๋ยวนี้ใช้ไฟแชคกับไม้ขีดอันนี้ก็ไม่ใช่ความผิด เพราะยังปั่นไม้ในการจุดไฟได้
3การเปลี่ยนแปลงจากความผิด อย่างแต่ก่อนเชื่อว่าโลกแบนแต่ตอนนี้กลม อันนี้เป็นความผิดมันเป็นข้อเสีย ตอนนี้เราได้องค์ประกอบของการเปลี่ยนแปลงครบแล้ว
มาดูองค์ประกอบของแต่ละศาสตร์กัน
a.สิ่งที่ผิดไม่ได้(ดี) b.สิ่งที่ยอมรับความผิดแล้วแก้ไข(ปานกลาง) c.สิ่งที่ไม่ยอมรับว่าผิด(แย่)
แล้วลองมาวิเคราะห์ดู วิทยาศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงมีทั้ง3อย่าง จากข้างบนวิทยาศาสตร์เป็นb
ศาสตร์อย่างเช่นไสยศาสตร์ เป็นcผมไม่รู้ว่าเปลี่ยนแปลงได้ไหม จากที่ดู2ศาสตร์นี้หลายๆคนจะคิดว่าการที่ผิดได้ย่อมดีกว่าและคิดว่าสิ่งที่ผิดไม่ได้อย่างไสยศาสตร์ไม่ดี แต่ถ้าดูด้านบนจะเห็นว่าไสยศาสตร์ไม่ใช่สิ่งที่ผิดไม่ได้แต่ไม่ยอมรับว่าผิดซึ่งต่างกัน แต่ถึงอย่างงี้ก็ยังคิดว่าสิ่งที่ผิดได้นั้นเป็นข้อดี
เพราะไม่เคยเห็นสิ่งที่ผิดไม่ได้ ถ้าหากได้เจอกับสิ่งที่ผิดไม่ได้จะรู้ว่าไม่มีทางเอาชนะได้ ไม่ว่าทางไหนความสามารถที่ผิดไม่ได้ก็ย่อมดีกว่า จะลองพิสูจน์ก็ได้
แต่จะไปมีความสามารถที่สมบูรณ์แบบนั้นอยู่ได้ไง ก็ผมแสดงให้ดูด้านบนแล้วถึงความสามารถที่สมบูรณ์แบบ การแยกองค์ประกอบ ความสามารถที่ผิดไม่ได้ ถ้าดูจากข้างบนความสามารถที่ผมใช้จะมีค่าคือ 1 2 และ a ในโลกนี้น่ะมีความสามารถที่ผิดไม่ได้อยู่ มีความสามารถนึงที่ค่าทุกอย่างจะเท่ากับ100%เสมอ ใช่ความสามารถผมคือ คณิตศาสตร์ ผมสามารถมองเห็นความจริงแล้วแยกรูปแบบ ถอดองค์ประกอบได้ คณิตศาสตร์ไม่ใช่แค่ตัวเลขแต่มันคือความจริงของทุกอย่าง ก็แสดงตัวอย่างวิธีใช้ความสามารถในการหาความจริงให้ดูแล้ว ต่อไปของจริงการหาต้นกำเนิดของจักรวาล
เอาล่ะความจริงกับคณิตศาสตร์คืออันหนึ่งอันเดียวกัน คณิตศาสตร์นั้นมีกฎ ไม่มีสิ่งใดในจักรวาลสามารถขัดแย้งกับกฎได้แม้แต่พระเจ้า ให้ถือว่ากฎอยู่สูงที่สุด กฎข้อนึงระบุไว้ทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้นไม่มีสิ่งใดในจักรวาลที่จะอยู่ดีๆก็มีได้โดยที่ไม่มีจุดเริ่มต้น แต่ว่ากลับมีสิ่งต่างๆมากมายเกิดขึ้นแล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง ถ้าหากว่ามีจุดเริ่มต้นจริงแล้วอะไรคือจุดเริ่มต้น มันจะต้องมีอะไรสักอย่างอยู่ก่อนแล้วถ้าอย่างงี้มันก็จะขัดต่อกฎ สุดท้ายผมยอมแพ้ในตอนแรกทุกอย่างมันขัดกันไปหมด แต่ตอนนี้ผมเจอแล้วความเป็นไปได้เดียวที่ไม่ขัดต่อกฎความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นไปได้(ไม่ใช่พระเจ้านะ) แต่ผมขอพอแค่นี้ก่อนไว้จะมาบอกครั้งหน้าขอโทษด้วยครับที่ตอนแรกบอกว่าจะบอก ตอนนี้ผมลังเลอะไรหลายอย่างทั้งเรื่องเปิดเผยความสามารถเรื่องส่วนตัวอะไรหลายอย่าง ผมเคยคิดว่าผมคิดไปเองไหมเรื่องความสามารถพิเศษของผม แค่คิดไปเองจะไปมีความจริงขนาดนี้ได้ยังไง ตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจ ผมมีปัญหาส่วนตัวหลายอย่างที่มาโพสเผื่อไม่มีโอกาสที่จะได้บอกคนอื่น เดี๋ยวผมขอสะสางปัญหาส่วนตัวก่อนและดูกระแสตอบรับจากที่ผมโพสสักหน่อย แต่ไม่ว่าจะเป็นไงจะดีหรือไม่ดีอีกประมาณ2วัน ผมจะมาตอบคำตอบที่ผมค้างไว้ให้ ตอนนี้ลองคิดกันไปก่อนก็ได้ครับแต่ต้องยึดติดกับกฎที่ว่าทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้น และหาว่าสิ่งแรกที่เกิดขึ้นนั้นมันเกิดได้อย่างไรโดยไม่ขัดกับกฎ อีกประมาณ2วันแล้วเจอกันครับ