บทความจากแบงค์ชาติ ... หนี้ครัวเรือนกำลังจะท่วมหัว

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย "วิรไท สันติประภพ" ส่งสัญญาณว่าคนไทยวันนี้กำลัง “เป็นทุกข์ในโลก” เพราะมีสภาพหนี้ที่นับวันจะเพิ่มพูนจนเกินความสามารถที่จะชำระได้

ลักษณะที่เข้าข่าย “หนี้ท่วมหัว” นี้ ดูจากสถิติ “หนี้ครัวเรือน”  3-4 ไตรมาสที่เพิ่มต่อเนื่องมาถึงระดับ  78.7 % ของจีดีพี (ผลผลิตมวลรวมของประเทศ)

นี่ถ้าผนวกหนี้ กยศ. กับ หนี้นอกระบบด้วย หนี้ครัวเรือนรวมเบ็ดเสร็จจะสูงถึง 130-140% หมายความว่ารายได้เดือนละ 100 บาท แต่เป็นหนี้ 130-140 บาท  ชักหน้าไม่ถึงหลัง

เหตุผลง่ายๆคือ รายได้ของชาวบ้านทุกวันนี้เพิ่มไม่ทันการเพิ่มของหนี้ ส่วนบุคคล หนี้ผ่อนบ้าน หนี้เพื่อธุรกิจ หนี้ยานยนต์ และหนี้บัตรเครดิต ฟังดูก็คุ้นๆ แต่ประเด็นมันไม่ใช้ลักษณะของหนี้(ครัวเรือน)ตามนนั้น แต่เป็นความหลงและอวิชชาที่อยู่เบื้องหลัง

ท่านหมายถึงพฤติกรรมการบริโภคสินค้าและบริการที่เปลี่ยนไป และพบว่า  “คนรุ่นใหม่”  นิยมความฟุ่มเฟือย เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง เดินตามกระแสแฟชั่น  ให้คุณค่าความสบายมากกว่าความจำเป็น

ตัวอย่างที่พบบ่อยคือ เดือนแรกที่ทำงานก็ฉลองด้วยการซื้อทัวร์ไปเที่ยวเมืองนอก เพราะถูกจูงใจจากการตลาดประเภทผ่อนชำระยาวครึ่งปี ดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ การสั่งซื้อของฟุ่มเฟือยออนไลน์ ท่านยืนยันจากรายงานผลการวิจัยที่พบว่าคนเล่นเนตมากชั่วโมงต่อวันต่อเดือนเป็นหนี้สินค้าออนไลน์มากกว่าคนเล่นเนตน้อยชั่วโมงกว่า เมื่อเปรียบต่อวันต่อเดือนจากหน่วยเดียวกัน

นอกจากนี้คนรุ่นใหม่ยังไม่นิยมการออม  ขาดวินัยในการบริหารการเงินส่วนตัว  

ท่านว่าจะโทษคนรุ่นใหม่ทั้งหมดคงไม่ยุติธรรม เพราะสถาบันการเงินก็มีส่วนสนับสนุนให้เกิด “โปรโมชั่นผ่อน 0%” ที่จูงใจให้คนรุ่นใหม่ติดกับดักหนี้ผ่านบัตรเครดิต เสี่ยงที่จะเป็นลูกค้าเอ็นพีแอล และเป็นกันมากถึง 1 ใน 5 ของประชากรวัย 29-30 ปี

สถานการณ์เช่นนี้บางทีธนาคารแห่งชาติก็คุม(สถายันการเงิน)ไม่อยู่

และเป็นเรื่องน่าห่วงเพราะสถาบันการเงินอาจล้มได้ ถ้าเมื่อใดหนี้ครัวเรือนพุ่งถึง 84% ของจีดีพี เพราะเมื่อนั้นมีโอกาสที่จะเกิดปรากฎการณ์ชาวบ้านหยุดชำระหนี้  ไม่ใช่เพราะเบี้ยว แต่สิ้นเนื้อประดาตัวกันถ้วนหน้า

หนี้ครัวเรือน 78.7%  ต่อจีดีพีของไทยวันนี้ จึงถือว่าเข้าเขตอันตรายแล้ว

เป็นเรื่องดีที่ท่านผู้ว่าแบงก์ชาติเตือนมาหลังนายกฯพูดในสภาเมื่อวันอภิปรายทั่วไปแบบสุดโอ่ว่าเศรษฐกิจไทยแข็งโป๊ก อ้างเงินทุนสำรองฯของประเทศไทยที่อยู่ในอันดับต้นๆของโลก

ปัญหาคือตัวแปรเศรษฐกิจมหภาคที่ท่านายกฯอ่านจากโพยวันนั้น จะกี่แสนล้านดอลล่าร์ก็ตาม มันชี้วัดคุณภาพชีวิตของคนในชาติไม่ได้ การแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้านต้องพิเคราะห์จากที่มาที่ไปของการเกิดหนี้ครัวเรือน จะหนักจะเบาอย่างไรก็ต้องดูว่าเป็นสัดส่วนเท่าไรกับผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี)

ยิ่งเมื่อนายกฯรัฐมนตรีมานั่งเป็นหัวหน้าทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจของชาติ ก็สมควรแล้วที่ท่านผู้ว่าแบงก์ชาติจะกรุณาให้วิทยาทานเกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าและท้าทายความสามารถของรัฐบาลนี้บ่อยๆครับ

อ้างอิง: https://www.youtube.com/watch?v=JSlFzcBIx88
Cr:
#thaitribune

credit by : https://www.facebook.com/Seminar-knowledge-by-Amorn-178124232617862/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่