การที่คนเราต้องควักเงินออกจากกระเป๋าตังค์ เพื่อซื้อของสักชิ้น โดยที่ยังไม่เห็นของจริง เห็นแต่ของที่อยู่ในรูปภาพที่
ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม และเราก็สั่งซื้อของชิ้นนั้นผ่านทางออนไลน์หรือผ่านทางมือถือ โดยเฉพาะเป็นคนที่อยู่ในวัย
Gen X (เกิดปี 2508-2523) ด้วยแล้ว เพื่อนๆ คิดว่าตัดสินใจยากไหมครับ
สำหรับคนวัยนี้ผมว่าไม่ถึงกับโลว์เทค แต่ก็คงไม่ไฮเทคมากนัก ส่วนตัวกว่าจะตัดสินใจซื้อของผ่านอออนไลน์หรือมือถือ
ได้เป็นครั้งแรกในชีวิตนี่ก็เพิ่งเริ่มมาไม่นานนี้เอง สัก 3-4 เดือนที่ผ่านมา เหตุผลคือกลัวต่างๆ นานา ทำให้ต้องใช้เวลาใน
การตัดสินใจนานเป็นปี
เมื่อผมตัดสินใจได้แล้วว่าจะเริ่มซื้อ สิ่งแรกที่ทำคือหาข้อมูลตามเว็บต่างๆ และจากคำแนะนำของน้องที่ทำงาน ซึ่งน้องคนนี้
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญการซื้อของออนไลน์มาก ช่วงแรกๆ ที่ผมเริ่มเข้าวงการช้อปออนไลน์ใหม่ๆ เขาเป็นพี่เลี้ยงที่ดีมาก ให้คำ
แนะนำและเทคนิคการซื้อของที่เป็นประโยชน์อย่างมาก
วันนี้ ผมจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ “ซื้อของออนไลน์สไตล์คนวัย Gen X” มาฝากเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจหรือหาข้อมูล
ว่าจะซื้อของจากออนไลน์ดีไหม ซื้ออย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด มาฝากเพื่อนๆ กัน แต่ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าการแชร์
ในที่นี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปยังแอพใดแอพหนึ่ง แต่จะพูดถึงในภาพรวมเท่านั้น ส่วนวิธีการที่ใช้ตามนี้เลยครับ
1.ก่อนอื่นหาสินค้าที่เราอยากได้ว่าขายที่ไหนบ้าง
ข้อนี้เป็นสิ่งแรกๆ ที่เพื่อนๆ ควรทำ เอาไว้เปรียบเทียบราคาขายว่าแต่ละร้านมีราคาต่างกันขนาดไหน วิธีที่ง่ายที่สุดคือหา
จากอินเตอร์เน็ตลองดูทั้งที่เป็นร้านค้าแบบดั้งเดิมกับร้านค้าออนไลน์ ตามความเข้าใจของผมร้านออนไลน์จะขายของ
ถูกกว่าร้านค้าแบบดั้งเดิม ผมเคยเจอว่าบางครั้งซื้อออนไลน์ถูกกว่าจริง แต่พอรวมค่าขนส่งแล้วกลับแพงกว่าถึงจะมีโปร
ส่งฟรีก็ตาม ทำให้เคสแบบนี้กลับไปซื้อร้านค้าแบบดั้งเดิมดีกว่าซื้อออนไลน์
2.สมัครสมาชิกไว้สัก 2-3 แห่ง หรือเท่าที่จำเป็น
หากของที่เราอยากได้อยู่บนออนไลน์ของค่ายไหน เราก็ต้องไปสมัครเป็นสมาชิกของแอปนั้นๆ อีกที ผมสมัครไว้ 2 แห่ง
หลักๆ คิดว่าพอแล้ว ที่ยอมซื้อผ่านแอปกลุ่มนี้เพราะคิดว่ามีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันในขั้นตอนต่างๆ และมีการดูแล
ผู้ซื้อที่ดีพอสมควร
3.หาโปรโมชั่นประจำวันดีๆ ก่อนซื้อ
ถ้าของที่อยากได้ แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อในทันที แนะนำให้รอหาโปรดีๆ ก่อน เพราะตอนนี้หลายค่ายแข่งขันจัด
โปรมาเพื่อดึงดูดคนซื้ออย่างมาก เช่น โปรฟ้าแลบ โปรให้ส่วนลดเป็นเหรียญ หรือโปรส่งฟรี ทำให้ของที่เราอยากได้มี
ราคาถูกลงอย่างมาก ได้ทั้งส่วนลดและยังส่งฟรีอีกด้วย แต่ตอนนี้บางค่ายกำหนดให้เลือกใช้ได้โปรใดโปรหนึ่งเท่านั้น
ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้
4.เลือกสินค้าจากร้านค้าทางการ หรือร้านค้าแนะนำ
ขึ้นอยู่กับว่าของที่ซื้อเป็นแบบไหน ถ้าเป็นของที่ต้องการความชัวร์ว่าได้ของแท้แน่นอน ไม่ใช่ของก๊อป เช่น รองเท้า
แว่นกันแดด พวกนี้ผมจะซื้อจากร้านที่เป็นทางการ แต่ถ้าซื้อของที่ไม่ต้องซีเรียสอะไรมากมาย เช่น พวกถุงมือช่าง
ไม้ถูพื้น ของพวกนี้ผมจะซื้อจากร้านค้าแนะนำแทน เพราะมีราคาถูกกว่าร้านค้าทางการพอสมควร
5. เลือกวิธีการชำระเงิน
ปกติผมเป็นคนที่ใช้บัตรเครดิตในการชำระเงิน แต่ผมจะเลือกใช้บัตรของธนาคารที่ต้องใส่รหัสผ่าน (OTP : One Time
Password) ทุกครั้งก่อนการชำระเงิน เพื่อความปลอดภัย เหตุที่ผมใช้บัตรเครดิตในการซื้อของ เพราะได้สะสมคะแนน
อีกด้วย แต่บางบัตรอาจจะได้เป็นเงินคืน ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรที่เลือกใช้
แต่น้องที่แนะนำวิธีการใช้งานในช่วงแรกๆ ให้ผม เขาไม่ใช้บัตรเครดิตในการจ่ายเงิน เพราะเขาไม่สบายใจที่จะใช้ จึง
เลือกใช้แบบกระเป๋าตังค์อิเล็คทรอนิคส์ หรือ e-Wallet ของค่ายนั้นๆ แทนการใช้บัตร ทุกครั้งที่เขาจะซื้อของเขาจะเติม
เงินเข้าไปให้พอดีกับค่าของที่จะซื้อเป็นการป้องกันการถูกโจรกรรมไปในตัวอีกด้วย ก็เป็นวิธีที่ปลอดภัยดีนะครับ
อีกวิธีหนึ่งคือ เก็บเงินปลายทาง วิธีนี้ผมเคยใช้อยู่ 1-2 ครั้งใช้กับร้านค้าที่เขาขายตามโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ทำให้เรา
มั่นใจว่าได้ของแน่ๆ แต่ก็ขึ้นกับร้านด้วยนะครับว่าเขามีเงื่อนไขนี้หรือเปล่า
มาถึงตรงนี้เคยมีคนถามผมว่าแล้วแบบนี้ไม่กลัวเหรอ อันนี้ตอบแบบตรงๆ เลย “กลัว” แต่ผมก็ต้องเช็คข้อมูลจากคนที่รู้จัก
หรือคนที่เคยใช้ก่อน หรือหาอ่านคอมเม้นท์ตามพันทิปนี่แหละครับว่าเครดิตเจ้าของร้านเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีคำตอบก็อาจ
จะไม่ซื้อถึงจะเก็บเงินปลายทางก็เถอะ
สำหรับอีกทางเลือกหนึ่งคือใช้บัตรเดบิต แต่อันนี้ผมไม่ได้ใช้เพราะบัตรเดบิตผมผูกกับบัญชีเงินเดือน ส่วนตัวเลยขอผ่าน
วิธีนี้ และผมได้มีโอกาสถามเพื่อนส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครใช้วิธีการนี้กันเลย จึงเข้าใจเอาเองว่าไม่เป็นที่นิยมใช้
6. ตรวจสอบให้ดีก่อนรับสินค้า
อันนี้เจอกับตัวเอง หลังจากที่ได้สั่งซื้อมาแล้ว 2-3 ครั้ง ตอนนั้นสั่งเสื้อกล้ามไว้ แล้วไปทำธุระที่ ตจว. พอดีของมาส่ง
หลายวันแล้วยังไม่ได้กดรับสินค้า ก็มีแจ้งเตือนมาให้เลื่อนรับสินค้า ตอนนั้นก็รู้สึกเกรงใจร้านค้า เลยให้คนที่บ้านช่วยดู
ว่ามีเสื้อมาส่งหรือยัง ที่บ้านก็แกะดูแล้วก็แจ้งว่ามีเสื้อมาส่งแล้ว ผมจึงกดรับสินค้าไป
พอกลับไปถึงบ้านปรากฏว่าเสื้อที่มาส่งเป็นเสื้อยืดคอกลม ไม่ใช่เสื้อกล้าม ซึ่งตั้งแต่ซื้อของมาพึ่งเคยเจอส่งผิดเป็นครั้ง
แรก จึงได้ติดต่อกลับไปที่ร้าน แจ้งเขาว่าของที่ส่งมาไม่ตรงกับที่สั่ง เขาให้ส่งของกลับไป และส่งของที่ถูกต้องมาเปลี่ยน
ให้ ทำให้การซื้อของครั้งนี้มีราคาแพงกว่าการเดิม ดังนั้น ก่อนรับสินค้าต้องมั่นใจว่าของที่ได้รับตรงกับของที่สั่งซื้อเอาไว้
นอกจากนี้ผมยังมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้รับมาฝากเพื่อนๆ ทุกคน เพื่อจะได้ใช้เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เช่น
-
เล่นเกมส์ หรือเข้าไปเช็คอิน เพื่อสะสมเหรียญ ถ้าเพื่อนๆ มีเวลามากพอ ก็เข้าไปเล่นเกมส์เพื่อเก็บเหรียญไว้ แล้ว
นำมาใช้เป็นส่วนลดในการซื้อของได้นะครับอันนี้ถือว่าเล่นแบบขำๆ ไม่ซีเรียส
-
กดปุ่มแจ้งเตือนไว้ (Notification) สำหรับสินค้าที่เราอยากได้ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดโปรพิเศษที่เขาจัดให้
-
เพิ่มเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ตามที่แต่ละค่ายกำหนด ไว้รับข้อมูลข่าวสาร หรือโปรดีๆ
หวังว่าข้อมูลที่แชร์จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ โดยเฉพาะคนวัย Gen X ด้วยกัน เพื่อจะได้นำไปใช้เป็น
แนวทางในการซื้อของออนไลน์ให้ได้ประโยชน์สูงสุด และหากเพื่อนๆ คนไหนมีกลยุทธ์เด็ดๆ ในการซื้อของออนไลน์
ฝากช่วยแชร์ข้อมูลกันใต้โพสต์นี้ด้วยนะครับ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ต่อไปนะครับ ขอขอบคุณล่วงหน้า
ช้อปออนไลน์สไตล์คนวัย Gen X
การที่คนเราต้องควักเงินออกจากกระเป๋าตังค์ เพื่อซื้อของสักชิ้น โดยที่ยังไม่เห็นของจริง เห็นแต่ของที่อยู่ในรูปภาพที่
ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม และเราก็สั่งซื้อของชิ้นนั้นผ่านทางออนไลน์หรือผ่านทางมือถือ โดยเฉพาะเป็นคนที่อยู่ในวัย
Gen X (เกิดปี 2508-2523) ด้วยแล้ว เพื่อนๆ คิดว่าตัดสินใจยากไหมครับ
สำหรับคนวัยนี้ผมว่าไม่ถึงกับโลว์เทค แต่ก็คงไม่ไฮเทคมากนัก ส่วนตัวกว่าจะตัดสินใจซื้อของผ่านอออนไลน์หรือมือถือ
ได้เป็นครั้งแรกในชีวิตนี่ก็เพิ่งเริ่มมาไม่นานนี้เอง สัก 3-4 เดือนที่ผ่านมา เหตุผลคือกลัวต่างๆ นานา ทำให้ต้องใช้เวลาใน
การตัดสินใจนานเป็นปี
เมื่อผมตัดสินใจได้แล้วว่าจะเริ่มซื้อ สิ่งแรกที่ทำคือหาข้อมูลตามเว็บต่างๆ และจากคำแนะนำของน้องที่ทำงาน ซึ่งน้องคนนี้
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญการซื้อของออนไลน์มาก ช่วงแรกๆ ที่ผมเริ่มเข้าวงการช้อปออนไลน์ใหม่ๆ เขาเป็นพี่เลี้ยงที่ดีมาก ให้คำ
แนะนำและเทคนิคการซื้อของที่เป็นประโยชน์อย่างมาก
วันนี้ ผมจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ “ซื้อของออนไลน์สไตล์คนวัย Gen X” มาฝากเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจหรือหาข้อมูล
ว่าจะซื้อของจากออนไลน์ดีไหม ซื้ออย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด มาฝากเพื่อนๆ กัน แต่ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าการแชร์
ในที่นี้ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปยังแอพใดแอพหนึ่ง แต่จะพูดถึงในภาพรวมเท่านั้น ส่วนวิธีการที่ใช้ตามนี้เลยครับ
1.ก่อนอื่นหาสินค้าที่เราอยากได้ว่าขายที่ไหนบ้าง
ข้อนี้เป็นสิ่งแรกๆ ที่เพื่อนๆ ควรทำ เอาไว้เปรียบเทียบราคาขายว่าแต่ละร้านมีราคาต่างกันขนาดไหน วิธีที่ง่ายที่สุดคือหา
จากอินเตอร์เน็ตลองดูทั้งที่เป็นร้านค้าแบบดั้งเดิมกับร้านค้าออนไลน์ ตามความเข้าใจของผมร้านออนไลน์จะขายของ
ถูกกว่าร้านค้าแบบดั้งเดิม ผมเคยเจอว่าบางครั้งซื้อออนไลน์ถูกกว่าจริง แต่พอรวมค่าขนส่งแล้วกลับแพงกว่าถึงจะมีโปร
ส่งฟรีก็ตาม ทำให้เคสแบบนี้กลับไปซื้อร้านค้าแบบดั้งเดิมดีกว่าซื้อออนไลน์
2.สมัครสมาชิกไว้สัก 2-3 แห่ง หรือเท่าที่จำเป็น
หากของที่เราอยากได้อยู่บนออนไลน์ของค่ายไหน เราก็ต้องไปสมัครเป็นสมาชิกของแอปนั้นๆ อีกที ผมสมัครไว้ 2 แห่ง
หลักๆ คิดว่าพอแล้ว ที่ยอมซื้อผ่านแอปกลุ่มนี้เพราะคิดว่ามีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันในขั้นตอนต่างๆ และมีการดูแล
ผู้ซื้อที่ดีพอสมควร
3.หาโปรโมชั่นประจำวันดีๆ ก่อนซื้อ
ถ้าของที่อยากได้ แต่ยังไม่มีความจำเป็นต้องซื้อในทันที แนะนำให้รอหาโปรดีๆ ก่อน เพราะตอนนี้หลายค่ายแข่งขันจัด
โปรมาเพื่อดึงดูดคนซื้ออย่างมาก เช่น โปรฟ้าแลบ โปรให้ส่วนลดเป็นเหรียญ หรือโปรส่งฟรี ทำให้ของที่เราอยากได้มี
ราคาถูกลงอย่างมาก ได้ทั้งส่วนลดและยังส่งฟรีอีกด้วย แต่ตอนนี้บางค่ายกำหนดให้เลือกใช้ได้โปรใดโปรหนึ่งเท่านั้น
ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้
4.เลือกสินค้าจากร้านค้าทางการ หรือร้านค้าแนะนำ
ขึ้นอยู่กับว่าของที่ซื้อเป็นแบบไหน ถ้าเป็นของที่ต้องการความชัวร์ว่าได้ของแท้แน่นอน ไม่ใช่ของก๊อป เช่น รองเท้า
แว่นกันแดด พวกนี้ผมจะซื้อจากร้านที่เป็นทางการ แต่ถ้าซื้อของที่ไม่ต้องซีเรียสอะไรมากมาย เช่น พวกถุงมือช่าง
ไม้ถูพื้น ของพวกนี้ผมจะซื้อจากร้านค้าแนะนำแทน เพราะมีราคาถูกกว่าร้านค้าทางการพอสมควร
5. เลือกวิธีการชำระเงิน
ปกติผมเป็นคนที่ใช้บัตรเครดิตในการชำระเงิน แต่ผมจะเลือกใช้บัตรของธนาคารที่ต้องใส่รหัสผ่าน (OTP : One Time
Password) ทุกครั้งก่อนการชำระเงิน เพื่อความปลอดภัย เหตุที่ผมใช้บัตรเครดิตในการซื้อของ เพราะได้สะสมคะแนน
อีกด้วย แต่บางบัตรอาจจะได้เป็นเงินคืน ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรที่เลือกใช้
แต่น้องที่แนะนำวิธีการใช้งานในช่วงแรกๆ ให้ผม เขาไม่ใช้บัตรเครดิตในการจ่ายเงิน เพราะเขาไม่สบายใจที่จะใช้ จึง
เลือกใช้แบบกระเป๋าตังค์อิเล็คทรอนิคส์ หรือ e-Wallet ของค่ายนั้นๆ แทนการใช้บัตร ทุกครั้งที่เขาจะซื้อของเขาจะเติม
เงินเข้าไปให้พอดีกับค่าของที่จะซื้อเป็นการป้องกันการถูกโจรกรรมไปในตัวอีกด้วย ก็เป็นวิธีที่ปลอดภัยดีนะครับ
อีกวิธีหนึ่งคือ เก็บเงินปลายทาง วิธีนี้ผมเคยใช้อยู่ 1-2 ครั้งใช้กับร้านค้าที่เขาขายตามโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ทำให้เรา
มั่นใจว่าได้ของแน่ๆ แต่ก็ขึ้นกับร้านด้วยนะครับว่าเขามีเงื่อนไขนี้หรือเปล่า
มาถึงตรงนี้เคยมีคนถามผมว่าแล้วแบบนี้ไม่กลัวเหรอ อันนี้ตอบแบบตรงๆ เลย “กลัว” แต่ผมก็ต้องเช็คข้อมูลจากคนที่รู้จัก
หรือคนที่เคยใช้ก่อน หรือหาอ่านคอมเม้นท์ตามพันทิปนี่แหละครับว่าเครดิตเจ้าของร้านเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีคำตอบก็อาจ
จะไม่ซื้อถึงจะเก็บเงินปลายทางก็เถอะ
สำหรับอีกทางเลือกหนึ่งคือใช้บัตรเดบิต แต่อันนี้ผมไม่ได้ใช้เพราะบัตรเดบิตผมผูกกับบัญชีเงินเดือน ส่วนตัวเลยขอผ่าน
วิธีนี้ และผมได้มีโอกาสถามเพื่อนส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครใช้วิธีการนี้กันเลย จึงเข้าใจเอาเองว่าไม่เป็นที่นิยมใช้
6. ตรวจสอบให้ดีก่อนรับสินค้า
อันนี้เจอกับตัวเอง หลังจากที่ได้สั่งซื้อมาแล้ว 2-3 ครั้ง ตอนนั้นสั่งเสื้อกล้ามไว้ แล้วไปทำธุระที่ ตจว. พอดีของมาส่ง
หลายวันแล้วยังไม่ได้กดรับสินค้า ก็มีแจ้งเตือนมาให้เลื่อนรับสินค้า ตอนนั้นก็รู้สึกเกรงใจร้านค้า เลยให้คนที่บ้านช่วยดู
ว่ามีเสื้อมาส่งหรือยัง ที่บ้านก็แกะดูแล้วก็แจ้งว่ามีเสื้อมาส่งแล้ว ผมจึงกดรับสินค้าไป
พอกลับไปถึงบ้านปรากฏว่าเสื้อที่มาส่งเป็นเสื้อยืดคอกลม ไม่ใช่เสื้อกล้าม ซึ่งตั้งแต่ซื้อของมาพึ่งเคยเจอส่งผิดเป็นครั้ง
แรก จึงได้ติดต่อกลับไปที่ร้าน แจ้งเขาว่าของที่ส่งมาไม่ตรงกับที่สั่ง เขาให้ส่งของกลับไป และส่งของที่ถูกต้องมาเปลี่ยน
ให้ ทำให้การซื้อของครั้งนี้มีราคาแพงกว่าการเดิม ดังนั้น ก่อนรับสินค้าต้องมั่นใจว่าของที่ได้รับตรงกับของที่สั่งซื้อเอาไว้
นอกจากนี้ผมยังมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้รับมาฝากเพื่อนๆ ทุกคน เพื่อจะได้ใช้เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เช่น
- เล่นเกมส์ หรือเข้าไปเช็คอิน เพื่อสะสมเหรียญ ถ้าเพื่อนๆ มีเวลามากพอ ก็เข้าไปเล่นเกมส์เพื่อเก็บเหรียญไว้ แล้ว
นำมาใช้เป็นส่วนลดในการซื้อของได้นะครับอันนี้ถือว่าเล่นแบบขำๆ ไม่ซีเรียส
- กดปุ่มแจ้งเตือนไว้ (Notification) สำหรับสินค้าที่เราอยากได้ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดโปรพิเศษที่เขาจัดให้
- เพิ่มเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ตามที่แต่ละค่ายกำหนด ไว้รับข้อมูลข่าวสาร หรือโปรดีๆ
หวังว่าข้อมูลที่แชร์จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ โดยเฉพาะคนวัย Gen X ด้วยกัน เพื่อจะได้นำไปใช้เป็น
แนวทางในการซื้อของออนไลน์ให้ได้ประโยชน์สูงสุด และหากเพื่อนๆ คนไหนมีกลยุทธ์เด็ดๆ ในการซื้อของออนไลน์
ฝากช่วยแชร์ข้อมูลกันใต้โพสต์นี้ด้วยนะครับ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ต่อไปนะครับ ขอขอบคุณล่วงหน้า