
สวัสดีค่ะทุกคนที่เข้ามาอ่าน ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าที่มาเขียนกระทู้นี้เพราะต้องการแบ่งปันประสบการณ์ และเป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากจะสอบเข้ารร.การไปรษณีย์ อีกอย่างอันนี้เป็นสัญญากับตัวเองว่าถ้าติดจะเขียนกระทู้ เนื่องจากตอนที่เราทำความรู้จักกับรร.หาข้อมูลได้น้อยมากกก มีของรุ่นพี่ไม่กี่กระทู้ที่เราอ่านแล้วเอามาเป็นกำลังใจ อ่านวนไปหลายรอบมาก555555
มาเริ่มเลย!! เราเริ่มรู้จักรร.การไปรษณีย์ ตอนที่เราอยู่ม.4มีรุ่นพี่มาแนะแนวที่รร. เออ ฟังแล้วมันก็น่าสนใจดีเว้ย ใช้เวลาเรียนแค่ 1ปี จบมาได้บรรจุเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจระดับ2 สวัสดิการก็โอเค ฟังรวมๆแล้วรู้สึกมันเหมาะกับตัวเรามากด้วยฐานะทางบ้านเราด้วย เพราะตอนนั้นก็ไม่รู้ตัวเองว่าเราอยากเรียนอะไร เราก็เก็บไว้ในใจตั้งแต่นั้น พอมาม.6จริงๆ เราก็ยังไม่มีความฝันไรเลย เราก็เลยตัดสินใจเอาอันนี้แหละวะ น่าจะเหมาะกับเราที่สุดแล้ว
มาถึงการเตรียมตัว
เราเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่ม.6เทอม1 หาซื้อแนวข้อสอบตามเพจต่างๆในเฟส มีไม่กี่สำนัก ซื้อหนังสือตามร้านหนังสือ (แอบรู้สึกไม่ค่อยตรง) เอามาฝึกทำเลย พอทำแล้วมันก็ทำได้ไม่เยอะ และด้วยความที่เราอยากสอบติดปีนี้เลย เราลงทุนติวค่ะ กลุ่มที่เราติวจะเป็นการเรียนออนไลน์ผ่านเฟสเป็นกลุ่มลับ ถ้าใครติดตามอยากสอบจริงๆต้องรู้ว่าใคร 5555 เราโอเคเลยนะ พี่เค้าสอนละเอียด แล้วพูดให้กำลังใจดีมากกกก ก่อนสอบก็จะมี test จำลองข้อสอบทำเหมือนเรานั่งสอบจริงทุกอย่าง เราชอบอันนี้มากเหมือนวัดตัวเอง และรู้ว่าเราควรเพิ่มเรื่องไหน แล้วเราก็ท่องศัพท์ ท่องทุกวัน (แต่ก็มีวันที่แอบขี้เกียจ) ซึ่งมันช่วยได้เยอะมากในการทำข้อสอบอิ้ง นอกจากนี้เราก็เรียนตามยูทูป หาข้อสอบโอเน็ตมาทำแนะนำวิธีนี้เพราะไม่เสียเงินและฝึกทำโจทย์ได้ดีมาก
การวางแผนอ่านหนังสือ อันนี้อยู่ที่แต่ละคนเลยว่าสะดวกเวลาไหน ของเราจะอ่านตอนที่กลับจากรร. อ่อ! เราใช้ท่องศัพท์เวลานั่งรถเมล์ ทำสมุดท่องศัพท์ของตัวเองเลยเล่มนึง แต่ช่วงที่ยังเรียนม.6เราก็อ่านได้ไม่เต็มที่หรอกค่ะ ก็มันเหนื่อยเนอะ กลับมาก็อยากนอนดูซีรีย์ กินขนมมั่ง55555
เรามาเริ่มจริงจังตอนที่จบม.6แล้ว เพราะจบตั้งแต่กลางๆก.พ. แต่ไปรษณีย์จะสอบช่วงเดือนมิ.ย. เราก็ว่าง3เดือนกว่า ช่วงนี้เราอ่านแทบทุกวัน เฉลี่ยวันละ 4-5ชม. อ่านมั่งเล่นมั่ง เหนื่อยก็พัก มันก็เป็นครั้งนึงที่จะเราจะจดจำว่าเราเคยอ่านหนังสือเยอะที่สุดในชีวิตละ55555 ปกติไม่อ่าน ช่วงนี้เราก็มีแอบเคว้งๆเพราะเพื่อนมีที่เรียนมหาลัยกันหมดแล้ว เราไม่ได้ยื่น รอสอบที่นี่ที่เดียวก็แอบหวั่นๆ แต่มันก็เป็นแรงผลักดันที่ดีเลย ที่ทำให้เราพยายาม ในหัวเรามีแต่ต้องทำให้ได้ดิวะ!! ถ้าทำไม่ได้นี่เขินเลย โม้ไว้เยอะว่าจะไปสอบ555555

กำหนดการต่างๆ
-เปิดรับสมัครประมาณกลางเดือนเม.ย. ปี62 รับผช.141 คน ผญ.61 คน ยอดคนสมัคร 8 พันกว่า
-สอบกลางเดือนมิ.ย. ที่ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต
-ประกาศผลสอบข้อเขียนเดือนก.ค. (ประกาศออกมาเกินกว่าจำนวนที่รับจริง)
-สัมภาษณ์ต้นเดือนส.ค. (จะมีการวัดชุด ตรวจฉี่ คุยกับจิตแพทย์)
-ประกาศผู้ผ่านการคัดเลือกน่าจะปลายส.ค. จะประกาศรายชื่อตัวจริงและตัวสำรอง ซึ่งตัวจริงจะเท่ากับประกาศครั้งแรกคือ 202 คน
-มอบตัวเดือนก.ย. ค่าเทอม+ค่าชุด+ค่ากิจกรรม รวมๆแล้วประมาณ 19,xxx บาท
-เริ่มเรียนต้นเดือน ต.ค. ก่อนเปิดมีปฐมนิเทศน์+ค่ายกิจกรรมที่ จปร.นครนายก
แนวข้อสอบ
ปีนี้เปลี่ยนวิชาที่สอบ แล้วก็ข้อกำหนดต่างๆ สอบทั้งหมด 4 วิชา เกณฑ์การให้คะแนนเป็น % ****ไม่มีวิชาคอมพิวเตอร์ ไม่มีเกณฑ์อิ้งต้องได้เกิน 50% เหมือนปีก่อน****
-ภาษาไทย 15% 45ข้อ
-คณิต 20% 60 ข้อ
-อิ้ง 25% 75ข้อ
-Personallity แบ่งเป็น (Attitude/Aptitude) 40% 120ข้อ
โดยวันที่สอบแบ่งเป็นภาคเช้า 3 วิชา ไทย คณิต อิ้ง ให้เวลา 3ชม. แจกข้อสอบมาชุดเดียวมีทั้ง 3วิชา นั่งทำข้อสอบกันจะบ้า5555 นั่งทำกันคอจะหัก จำนวนข้อสอบเยอะเวลาน้อย ต้องวางแผนการทำข้อสอบให้ดี ของเราเลือกทำไทยก่อนเพราะเป็นวิชาที่ถนัดที่สุด แม้%จะน้อยสุดก็ตาม -.- เสร็จแล้วก็ทำอิ้งต่อ คณิตนี่ไว้หลังสุด ไม่ไหวจริงๆ กับวิชานี้ ออกยากมากข้อง่ายๆมีไม่กี่ข้อ จนหมดเวลาเราได้ทำไป 22 ข้อ คือได้ทำนะมีมั่วไปด้วย ที่เหลือดิ่งยาวๆ ทำข้อสอบเสร็จเงยหน้ามาตาลายไปหมด พักเที่ยงแบบไม่รู้ฉันทำอะไรลงไป เศร้าสุดๆ แต่ก็ทำใจว่าชั่งมันผ่านไปแล้วต้องทำภาคบ่ายให้เต็มที่ อันนี้ขอบ่นช่วงที่พักคือถ้าใครอยากเข้าห้องน้ำหรือถ้าปวดหนักก็คือตายไปเลย ห้องน้ำผญ.ต่อคิวยาวยิ่งกว่าต่อแถวเข้ากินของฟรี แบบ 1ชม.ที่พักหมดไปกับการต่อคิวเข้าห้องน้ำ นานจนได้เพื่อนใหม่อ่ะคิดเอา พอเข้าสอบภาคบ่ายก็จะเป็นวิชา Personallity อันนี้ชิวๆ แค่ต้องเลือกถูกที่สุด ซึ่งมันถูกทุกข้อ ทำข้อสอบออกมาลอยอีกแล้วจ้า ฉันทำอะไรลงไป กลับบ้านพร้อมควางเคว้งๆ จะติดมั้ยวะ ไม่เหลือความมั่นใจใดๆทั้งนั้น ตอนนั้นแบบเริ่มทำใจเราทำดีที่สุดแล้ว

มาข้อสอบจริงๆละ!!
-ภาษาไทย อันนี้ออกแนวโอเน็ต ออกทุกเรื่อง หลักภาษา วิเคราะห์ อ่านไปเหอะ เก็บง่ายที่สุดในทุกวิชา
-คณิต ยากจริงๆ ทำไม่ทัน ทำไม่ได้ ข้ามไป 55555 ออกความน่าจะเป็นเยอะ
-อิ้ง อันนี้ออกครบ conversation grammar reading vacab ฝึกทำโอเน็ตแต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ยากเท่า
-Personallity อันนี้ต้องหาข้อสอบมาทำ คล้ายๆ pat5 ไม่ยาก มีพวกอนุกรมเลข สังเกตรูปร่าง ความถนัดทางภาษาไทยง่ายๆ โจทย์คณิตศาสตร์พื้นฐาน
**ไม่มีออกประวัติไปรษณีย์** แต่ก็อ่านเผื่อไปได้ถ้าอยากชัวร์
หลังจากสอบเสร็จเราแบบทิ้งทุกอย่าง โต๊ะหนังสือที่ตั้งมาเกือบปีพับเก็บเลยจ้า ซีรีย์ที่ดองไว้เป็นภูเขา หนังต่างๆนาๆ ดูกันให้ตาแฉะไปเลย เอาให้หายอยากที่ต้องอดดูช่วงที่อ่านหนังสือ แบบโหยหามากๆ55555 บ่งบอกว่าชีวิตไร้สาระ
พอวันประกาศผลข้อเขียนออก เป็นวันที่เราดีใจสุดๆ มันเหมือนที่เราพยายามมาทั้งหมดมันสำเร็จแล้ว ที่เหนื่อยๆมา หายหมด ที่บ้านเราก็ดีใจ ทั้งพ่อ แม่ พี่ๆ เรารู้สึกมันความรู้สึกที่ดีมากจึงอยากเอามาแบ่งปันให้กับคนที่สนใจ ตอนนี้เรามอบตัวเรียบร้อย เหลือ 1 อาทิตย์ที่จะนอนเล่น ดูซีรีย์ให้ฉ่ำใจ

ย้ำ!!!! นี่คือเรื่องราวของเราที่สัญญากับตัวเอง เพราะฉะนั้นนี่คือความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
#โรงเรียนการไปรษณีย์
#คปท.75
เล่าประสบการณ์สอบเข้ารร.การไปรษณีย์ปี 62
มาเริ่มเลย!! เราเริ่มรู้จักรร.การไปรษณีย์ ตอนที่เราอยู่ม.4มีรุ่นพี่มาแนะแนวที่รร. เออ ฟังแล้วมันก็น่าสนใจดีเว้ย ใช้เวลาเรียนแค่ 1ปี จบมาได้บรรจุเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจระดับ2 สวัสดิการก็โอเค ฟังรวมๆแล้วรู้สึกมันเหมาะกับตัวเรามากด้วยฐานะทางบ้านเราด้วย เพราะตอนนั้นก็ไม่รู้ตัวเองว่าเราอยากเรียนอะไร เราก็เก็บไว้ในใจตั้งแต่นั้น พอมาม.6จริงๆ เราก็ยังไม่มีความฝันไรเลย เราก็เลยตัดสินใจเอาอันนี้แหละวะ น่าจะเหมาะกับเราที่สุดแล้ว
มาถึงการเตรียมตัว
เราเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่ม.6เทอม1 หาซื้อแนวข้อสอบตามเพจต่างๆในเฟส มีไม่กี่สำนัก ซื้อหนังสือตามร้านหนังสือ (แอบรู้สึกไม่ค่อยตรง) เอามาฝึกทำเลย พอทำแล้วมันก็ทำได้ไม่เยอะ และด้วยความที่เราอยากสอบติดปีนี้เลย เราลงทุนติวค่ะ กลุ่มที่เราติวจะเป็นการเรียนออนไลน์ผ่านเฟสเป็นกลุ่มลับ ถ้าใครติดตามอยากสอบจริงๆต้องรู้ว่าใคร 5555 เราโอเคเลยนะ พี่เค้าสอนละเอียด แล้วพูดให้กำลังใจดีมากกกก ก่อนสอบก็จะมี test จำลองข้อสอบทำเหมือนเรานั่งสอบจริงทุกอย่าง เราชอบอันนี้มากเหมือนวัดตัวเอง และรู้ว่าเราควรเพิ่มเรื่องไหน แล้วเราก็ท่องศัพท์ ท่องทุกวัน (แต่ก็มีวันที่แอบขี้เกียจ) ซึ่งมันช่วยได้เยอะมากในการทำข้อสอบอิ้ง นอกจากนี้เราก็เรียนตามยูทูป หาข้อสอบโอเน็ตมาทำแนะนำวิธีนี้เพราะไม่เสียเงินและฝึกทำโจทย์ได้ดีมาก
การวางแผนอ่านหนังสือ อันนี้อยู่ที่แต่ละคนเลยว่าสะดวกเวลาไหน ของเราจะอ่านตอนที่กลับจากรร. อ่อ! เราใช้ท่องศัพท์เวลานั่งรถเมล์ ทำสมุดท่องศัพท์ของตัวเองเลยเล่มนึง แต่ช่วงที่ยังเรียนม.6เราก็อ่านได้ไม่เต็มที่หรอกค่ะ ก็มันเหนื่อยเนอะ กลับมาก็อยากนอนดูซีรีย์ กินขนมมั่ง55555
เรามาเริ่มจริงจังตอนที่จบม.6แล้ว เพราะจบตั้งแต่กลางๆก.พ. แต่ไปรษณีย์จะสอบช่วงเดือนมิ.ย. เราก็ว่าง3เดือนกว่า ช่วงนี้เราอ่านแทบทุกวัน เฉลี่ยวันละ 4-5ชม. อ่านมั่งเล่นมั่ง เหนื่อยก็พัก มันก็เป็นครั้งนึงที่จะเราจะจดจำว่าเราเคยอ่านหนังสือเยอะที่สุดในชีวิตละ55555 ปกติไม่อ่าน ช่วงนี้เราก็มีแอบเคว้งๆเพราะเพื่อนมีที่เรียนมหาลัยกันหมดแล้ว เราไม่ได้ยื่น รอสอบที่นี่ที่เดียวก็แอบหวั่นๆ แต่มันก็เป็นแรงผลักดันที่ดีเลย ที่ทำให้เราพยายาม ในหัวเรามีแต่ต้องทำให้ได้ดิวะ!! ถ้าทำไม่ได้นี่เขินเลย โม้ไว้เยอะว่าจะไปสอบ555555
กำหนดการต่างๆ
-เปิดรับสมัครประมาณกลางเดือนเม.ย. ปี62 รับผช.141 คน ผญ.61 คน ยอดคนสมัคร 8 พันกว่า
-สอบกลางเดือนมิ.ย. ที่ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต
-ประกาศผลสอบข้อเขียนเดือนก.ค. (ประกาศออกมาเกินกว่าจำนวนที่รับจริง)
-สัมภาษณ์ต้นเดือนส.ค. (จะมีการวัดชุด ตรวจฉี่ คุยกับจิตแพทย์)
-ประกาศผู้ผ่านการคัดเลือกน่าจะปลายส.ค. จะประกาศรายชื่อตัวจริงและตัวสำรอง ซึ่งตัวจริงจะเท่ากับประกาศครั้งแรกคือ 202 คน
-มอบตัวเดือนก.ย. ค่าเทอม+ค่าชุด+ค่ากิจกรรม รวมๆแล้วประมาณ 19,xxx บาท
-เริ่มเรียนต้นเดือน ต.ค. ก่อนเปิดมีปฐมนิเทศน์+ค่ายกิจกรรมที่ จปร.นครนายก
แนวข้อสอบ
ปีนี้เปลี่ยนวิชาที่สอบ แล้วก็ข้อกำหนดต่างๆ สอบทั้งหมด 4 วิชา เกณฑ์การให้คะแนนเป็น % ****ไม่มีวิชาคอมพิวเตอร์ ไม่มีเกณฑ์อิ้งต้องได้เกิน 50% เหมือนปีก่อน****
-ภาษาไทย 15% 45ข้อ
-คณิต 20% 60 ข้อ
-อิ้ง 25% 75ข้อ
-Personallity แบ่งเป็น (Attitude/Aptitude) 40% 120ข้อ
โดยวันที่สอบแบ่งเป็นภาคเช้า 3 วิชา ไทย คณิต อิ้ง ให้เวลา 3ชม. แจกข้อสอบมาชุดเดียวมีทั้ง 3วิชา นั่งทำข้อสอบกันจะบ้า5555 นั่งทำกันคอจะหัก จำนวนข้อสอบเยอะเวลาน้อย ต้องวางแผนการทำข้อสอบให้ดี ของเราเลือกทำไทยก่อนเพราะเป็นวิชาที่ถนัดที่สุด แม้%จะน้อยสุดก็ตาม -.- เสร็จแล้วก็ทำอิ้งต่อ คณิตนี่ไว้หลังสุด ไม่ไหวจริงๆ กับวิชานี้ ออกยากมากข้อง่ายๆมีไม่กี่ข้อ จนหมดเวลาเราได้ทำไป 22 ข้อ คือได้ทำนะมีมั่วไปด้วย ที่เหลือดิ่งยาวๆ ทำข้อสอบเสร็จเงยหน้ามาตาลายไปหมด พักเที่ยงแบบไม่รู้ฉันทำอะไรลงไป เศร้าสุดๆ แต่ก็ทำใจว่าชั่งมันผ่านไปแล้วต้องทำภาคบ่ายให้เต็มที่ อันนี้ขอบ่นช่วงที่พักคือถ้าใครอยากเข้าห้องน้ำหรือถ้าปวดหนักก็คือตายไปเลย ห้องน้ำผญ.ต่อคิวยาวยิ่งกว่าต่อแถวเข้ากินของฟรี แบบ 1ชม.ที่พักหมดไปกับการต่อคิวเข้าห้องน้ำ นานจนได้เพื่อนใหม่อ่ะคิดเอา พอเข้าสอบภาคบ่ายก็จะเป็นวิชา Personallity อันนี้ชิวๆ แค่ต้องเลือกถูกที่สุด ซึ่งมันถูกทุกข้อ ทำข้อสอบออกมาลอยอีกแล้วจ้า ฉันทำอะไรลงไป กลับบ้านพร้อมควางเคว้งๆ จะติดมั้ยวะ ไม่เหลือความมั่นใจใดๆทั้งนั้น ตอนนั้นแบบเริ่มทำใจเราทำดีที่สุดแล้ว
มาข้อสอบจริงๆละ!!
-ภาษาไทย อันนี้ออกแนวโอเน็ต ออกทุกเรื่อง หลักภาษา วิเคราะห์ อ่านไปเหอะ เก็บง่ายที่สุดในทุกวิชา
-คณิต ยากจริงๆ ทำไม่ทัน ทำไม่ได้ ข้ามไป 55555 ออกความน่าจะเป็นเยอะ
-อิ้ง อันนี้ออกครบ conversation grammar reading vacab ฝึกทำโอเน็ตแต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ยากเท่า
-Personallity อันนี้ต้องหาข้อสอบมาทำ คล้ายๆ pat5 ไม่ยาก มีพวกอนุกรมเลข สังเกตรูปร่าง ความถนัดทางภาษาไทยง่ายๆ โจทย์คณิตศาสตร์พื้นฐาน **ไม่มีออกประวัติไปรษณีย์** แต่ก็อ่านเผื่อไปได้ถ้าอยากชัวร์
หลังจากสอบเสร็จเราแบบทิ้งทุกอย่าง โต๊ะหนังสือที่ตั้งมาเกือบปีพับเก็บเลยจ้า ซีรีย์ที่ดองไว้เป็นภูเขา หนังต่างๆนาๆ ดูกันให้ตาแฉะไปเลย เอาให้หายอยากที่ต้องอดดูช่วงที่อ่านหนังสือ แบบโหยหามากๆ55555 บ่งบอกว่าชีวิตไร้สาระ
พอวันประกาศผลข้อเขียนออก เป็นวันที่เราดีใจสุดๆ มันเหมือนที่เราพยายามมาทั้งหมดมันสำเร็จแล้ว ที่เหนื่อยๆมา หายหมด ที่บ้านเราก็ดีใจ ทั้งพ่อ แม่ พี่ๆ เรารู้สึกมันความรู้สึกที่ดีมากจึงอยากเอามาแบ่งปันให้กับคนที่สนใจ ตอนนี้เรามอบตัวเรียบร้อย เหลือ 1 อาทิตย์ที่จะนอนเล่น ดูซีรีย์ให้ฉ่ำใจ
ย้ำ!!!! นี่คือเรื่องราวของเราที่สัญญากับตัวเอง เพราะฉะนั้นนี่คือความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
#โรงเรียนการไปรษณีย์
#คปท.75