7-11 มีหนาว! เมื่อเจอร้านสะดวกซื้อไร้พนักงาน S-BingoBox!!
วันนี้ผม ขอมารีวิว ร้านสะดวกซื้ิอยุคใหม่แบบอัจฉริยะไร้พนักงานขาย ที่อาจทำให้ 7-11 ต้องหันกลับมามอง!! โดยร้านนี้ มีชื่อว่า S-Bingo Box จะเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลย
1) ร้านนี้ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท SCG ในบางซื่อ โดยทาง SCG จับมือกับบริษัท BingoBox ซึ่งได้เริ่มเปิดให้บริการร้านค้าแบบนี้ในปี 2560 ที่เซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ SCG ยังมีสาขาทดลองอีก 1 สาขา ที่ SCG Experience CDC เลียบด่วนรามอินทรา จะเปิดให้บริการปลายเดือน กันยายน
2) ตัวร้าน เป็นการเอาตู้ container มาเปลี่ยนให้เป็นร้านสะดวกซื้อ โดยเอาเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ ใส่เข้าไปเต็มที่ เพื่อทำให้สามารถให้บริการโดยไม่ต้องมีพนักงานขายได้ ซึ่งจริงๆ แล้วร้าน BingoBox ตัวแม่จากที่จีน จะมีล้อด้วย! ทำให้เคลื่อนที่ไปที่ต่างไป ได้ หากพบว่า ที่ไหนขายไม่ดี (เหมือนรถกับข้าวบ้านเรา 555)
3) เมื่อเดินผ่านประตูอัตโนมัติเข้าไปในร้าน ก็จะพบชั้นวางสินค้าอุปโภคบริโภค ให้ลูกค้าเลือกสรรกันได้ตามความต้องการ มี zone ตู้แช่เครื่องดื่มใหญ่พอๆ กับ 7-11 และ zone ขนมขบเคี้ยว และของใช้ส่วนตัว (น่าเสียดายยังไม่มีอาหารพร้อมทานแบบ ขนมจีบ ซาลาเปา เพราะช่วงทดลอง คงบริหารของเสียยากหน่อย)
4) พอตกลงปลงใจได้ว่าจะซื้ออะไรดี ก็เอาของมาจ่ายเงินได้เลย โดย Cashier ก็จะใช้เทคโนโลยี กล้อง AI จับภาพสินค้า เทียบกับน้ำหนักสินค้า เราก็มีหน้าที่วางสินค้าลงบนถาด แล้วเครื่องก็จะประมวลราคา เสร็จปุ๊บ เราก็หยิบมือถือ ขึ้นมาสแกน QR code เพื่อจ่ายเงิน แค่นี้ก็เรียบร้อย โดยในอนาคต สามารถดาวน์โหลดแอพ S-BingBox มาใช้จ่ายเงินได้ (คงต่อยอด SCG wallet)
5) ซึ่งทางน้องที่ช่วยยืนอธิบาย ระบบ ช่วงทดสอบการใช้งาน แจ้งว่า ปัจจุบัน ระบบคิดเงินค่าสินค้ามีความแม่นยำสูงมาก (แอดมินจำเลขไม่ได้ ฮ่าๆ แต่คิดว่า ควรจะต้อง 99.99999% นะถึงจะเรียกว่าใช้แทนคนได้)
6) ซื้อเสร็จ ต้องมายืนสแกนหน้าขาออก เพื่อเช็คข้อมูล อีกครั้ง (จริงๆ หากระบบมาเต็ม ต้อง Scan เข้าร้านด้วย โดยใช้ แอพ S-BingoBox สแกน QR code เพื่อเข้าร้าน)
7) บางคนอาจสงสัยว่า จะกันของหายได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่า ก่อนเข้าร้าน และออกจากร้าน จะต้องสแกน เพื่อระบุตัวตนทุกครั้ง และในร้านมีกล้องวงจรปิดผสานระบบ AI ที่จีนหากใครลืมจ่าย ระบบก็จะส่งไปเตือนให้จ่ายเงินด้วยนะ! โดยทางผู้บริหาร BingoBox ที่จีน บอกเรื่องขโมยว่ามันก็มีบ้าง แต่พบว่าอัตราการขโมยต่ำกว่าร้านค้าแบบปกติ
8) BingoBox เริ่มมาจากความร่วมมือ ของสตาร์ทอัพจีนกับบริษัท Auchan จากประเทศฝรั่งเศส โดยปัจจุบันเปิดให้บริการมากกว่า 500 สาขาใน 40 เมือง ในจีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, และไทย โดยทางซีอีโอของ BingoBox กล่าวว่า โดยเฉลี่ยร้านแบบนี้ ใช้พื้นที่เล็ก 14 ตร.ม. มีสินค้า 200 ชนิด รวม 400-800 ชิ้น โดยร้านในจีนมียอดขายเฉลี่ย 45,000-90,000 บาทต่อวัน คืนทุนได้ใน 5 เดือน และ สำหรับเงินลงทุนต่อร้านอยู่ 1-1.5 ล้านบาท (ข้อมูลเงินลงทุนในมาเลเซีย)
9) ต้องยังถือว่า ถ้าจะแข่งตรงๆ กับ 7-11 ก็ยังยากอยู่ อย่าลืมว่าในไทย 7-11 มีเป็นหมื่นสาขาอยู่ทั่วทุกตรอกถนน และเรื่องสินค้าทาง 7-11 ก็ยังได้เปรียบอย่างมาก ที่ทำครบวงจร ทั้งอาหารพร้อมทาน เบเกอร์รี่ อาหารแห้ง โดยทาง SCGหากคิดจะสู้ คงต้องใช้ ความ "เล็ก" และ ความ "เร็ว" "คล่องตัว" เข้าสู้เป็นหลัก เหมือน David สู้กับ ยักษ์ "Goliath" จะไปสู้แบบ Family Mart หรือ Lawson ก็คงต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปอย่างแน่นอน...
ที่มา: Personal review, Awani review, ประชาชาติธุรกิจ
-------------------------------------------------------
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ
ติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" ได้หลายช่องทาง
☝️Facebook:
https://www.facebook.com/zupports/
✌️Blockdit (อ่านสนุกกว่า):
https://www.blockdit.com/pages/5cf403f48a04c80fff7950bb
👌Line openchat (พูดคุยแลกเปลี่ยน ระหว่างผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก):
https://line.me/ti/g2/hxcbVyO45-1yxNkh-vKf1g 
[CR] รีวิว S-BingoBox ร้านสะดวกซื้อไร้ก็พนักงาน! งานนี้ 7-11 มีหนาว
วันนี้ผม ขอมารีวิว ร้านสะดวกซื้ิอยุคใหม่แบบอัจฉริยะไร้พนักงานขาย ที่อาจทำให้ 7-11 ต้องหันกลับมามอง!! โดยร้านนี้ มีชื่อว่า S-Bingo Box จะเป็นอย่างไรไปติดตามกันเลย
1) ร้านนี้ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท SCG ในบางซื่อ โดยทาง SCG จับมือกับบริษัท BingoBox ซึ่งได้เริ่มเปิดให้บริการร้านค้าแบบนี้ในปี 2560 ที่เซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ SCG ยังมีสาขาทดลองอีก 1 สาขา ที่ SCG Experience CDC เลียบด่วนรามอินทรา จะเปิดให้บริการปลายเดือน กันยายน
2) ตัวร้าน เป็นการเอาตู้ container มาเปลี่ยนให้เป็นร้านสะดวกซื้อ โดยเอาเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ ใส่เข้าไปเต็มที่ เพื่อทำให้สามารถให้บริการโดยไม่ต้องมีพนักงานขายได้ ซึ่งจริงๆ แล้วร้าน BingoBox ตัวแม่จากที่จีน จะมีล้อด้วย! ทำให้เคลื่อนที่ไปที่ต่างไป ได้ หากพบว่า ที่ไหนขายไม่ดี (เหมือนรถกับข้าวบ้านเรา 555)
3) เมื่อเดินผ่านประตูอัตโนมัติเข้าไปในร้าน ก็จะพบชั้นวางสินค้าอุปโภคบริโภค ให้ลูกค้าเลือกสรรกันได้ตามความต้องการ มี zone ตู้แช่เครื่องดื่มใหญ่พอๆ กับ 7-11 และ zone ขนมขบเคี้ยว และของใช้ส่วนตัว (น่าเสียดายยังไม่มีอาหารพร้อมทานแบบ ขนมจีบ ซาลาเปา เพราะช่วงทดลอง คงบริหารของเสียยากหน่อย)
4) พอตกลงปลงใจได้ว่าจะซื้ออะไรดี ก็เอาของมาจ่ายเงินได้เลย โดย Cashier ก็จะใช้เทคโนโลยี กล้อง AI จับภาพสินค้า เทียบกับน้ำหนักสินค้า เราก็มีหน้าที่วางสินค้าลงบนถาด แล้วเครื่องก็จะประมวลราคา เสร็จปุ๊บ เราก็หยิบมือถือ ขึ้นมาสแกน QR code เพื่อจ่ายเงิน แค่นี้ก็เรียบร้อย โดยในอนาคต สามารถดาวน์โหลดแอพ S-BingBox มาใช้จ่ายเงินได้ (คงต่อยอด SCG wallet)
5) ซึ่งทางน้องที่ช่วยยืนอธิบาย ระบบ ช่วงทดสอบการใช้งาน แจ้งว่า ปัจจุบัน ระบบคิดเงินค่าสินค้ามีความแม่นยำสูงมาก (แอดมินจำเลขไม่ได้ ฮ่าๆ แต่คิดว่า ควรจะต้อง 99.99999% นะถึงจะเรียกว่าใช้แทนคนได้)
6) ซื้อเสร็จ ต้องมายืนสแกนหน้าขาออก เพื่อเช็คข้อมูล อีกครั้ง (จริงๆ หากระบบมาเต็ม ต้อง Scan เข้าร้านด้วย โดยใช้ แอพ S-BingoBox สแกน QR code เพื่อเข้าร้าน)
7) บางคนอาจสงสัยว่า จะกันของหายได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่า ก่อนเข้าร้าน และออกจากร้าน จะต้องสแกน เพื่อระบุตัวตนทุกครั้ง และในร้านมีกล้องวงจรปิดผสานระบบ AI ที่จีนหากใครลืมจ่าย ระบบก็จะส่งไปเตือนให้จ่ายเงินด้วยนะ! โดยทางผู้บริหาร BingoBox ที่จีน บอกเรื่องขโมยว่ามันก็มีบ้าง แต่พบว่าอัตราการขโมยต่ำกว่าร้านค้าแบบปกติ
8) BingoBox เริ่มมาจากความร่วมมือ ของสตาร์ทอัพจีนกับบริษัท Auchan จากประเทศฝรั่งเศส โดยปัจจุบันเปิดให้บริการมากกว่า 500 สาขาใน 40 เมือง ในจีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, และไทย โดยทางซีอีโอของ BingoBox กล่าวว่า โดยเฉลี่ยร้านแบบนี้ ใช้พื้นที่เล็ก 14 ตร.ม. มีสินค้า 200 ชนิด รวม 400-800 ชิ้น โดยร้านในจีนมียอดขายเฉลี่ย 45,000-90,000 บาทต่อวัน คืนทุนได้ใน 5 เดือน และ สำหรับเงินลงทุนต่อร้านอยู่ 1-1.5 ล้านบาท (ข้อมูลเงินลงทุนในมาเลเซีย)
9) ต้องยังถือว่า ถ้าจะแข่งตรงๆ กับ 7-11 ก็ยังยากอยู่ อย่าลืมว่าในไทย 7-11 มีเป็นหมื่นสาขาอยู่ทั่วทุกตรอกถนน และเรื่องสินค้าทาง 7-11 ก็ยังได้เปรียบอย่างมาก ที่ทำครบวงจร ทั้งอาหารพร้อมทาน เบเกอร์รี่ อาหารแห้ง โดยทาง SCGหากคิดจะสู้ คงต้องใช้ ความ "เล็ก" และ ความ "เร็ว" "คล่องตัว" เข้าสู้เป็นหลัก เหมือน David สู้กับ ยักษ์ "Goliath" จะไปสู้แบบ Family Mart หรือ Lawson ก็คงต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปอย่างแน่นอน...
ที่มา: Personal review, Awani review, ประชาชาติธุรกิจ
-------------------------------------------------------
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ
ติดตาม "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" ได้หลายช่องทาง
☝️Facebook: https://www.facebook.com/zupports/
✌️Blockdit (อ่านสนุกกว่า): https://www.blockdit.com/pages/5cf403f48a04c80fff7950bb
👌Line openchat (พูดคุยแลกเปลี่ยน ระหว่างผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก): https://line.me/ti/g2/hxcbVyO45-1yxNkh-vKf1g