สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
อีกทางหนึ่งก็คือทำใจค่ะ
มันเป็นเรื่องใหญ่มากของคุณในตอนนี้พี่เข้าใจ
แต่ถ้าน้องโตขึ้น จะรู้ว่าชีวิตมีอะไรที่โหดร้ายกว่านี้อีกเยอะ
มีบางครั้งที่เราต้องซวย เพราะความผิดพลาดของคนอื่น
(เหยื่อจากการขับรถห่วยๆ มีให้เห็นทุกวัน)
ทำงานเหนื่อยแทบตาย โดนขโมยผลงาน
มีให้เห็นกันบ่อยๆ
โลกไม่ยุติธรรม มันไม่ยุติธรรมตั้งแต่เราเกิดมาแล้วค่ะ
แต่เราเลือกได้ว่าจะยึดติด แล้วทำให้ชีวิตเราเป็นทุกข์
หรือปล่อยผ่าน แล้วทำชีวิตต่อไปให้มีความสุข
มันเป็นเรื่องใหญ่มากของคุณในตอนนี้พี่เข้าใจ
แต่ถ้าน้องโตขึ้น จะรู้ว่าชีวิตมีอะไรที่โหดร้ายกว่านี้อีกเยอะ
มีบางครั้งที่เราต้องซวย เพราะความผิดพลาดของคนอื่น
(เหยื่อจากการขับรถห่วยๆ มีให้เห็นทุกวัน)
ทำงานเหนื่อยแทบตาย โดนขโมยผลงาน
มีให้เห็นกันบ่อยๆ
โลกไม่ยุติธรรม มันไม่ยุติธรรมตั้งแต่เราเกิดมาแล้วค่ะ
แต่เราเลือกได้ว่าจะยึดติด แล้วทำให้ชีวิตเราเป็นทุกข์
หรือปล่อยผ่าน แล้วทำชีวิตต่อไปให้มีความสุข
ความคิดเห็นที่ 12
ต่อให้มีกฎระเบียบ แต่ถ้าสอบสวนแล้วไม่ใช่ความผิดเรา เขาต้องยกเว้นให้กรณีพิเศษ กฎระเบียบมันต้องคู่กับการวินิจฉัย ไม่ใช่อ้างแต่กฎ เพราะกฎมันเป็นบัญญัติที่ตั้งขึ้นมาเอง ส่วนความยุติธรรมคือสิ่งที่ต้องอยู่เหนือกฎอีกที
ไม่ควรปล่อยผ่านครับ มันสิทธิของเรา เราใช้การอะลุ้มอร่วยผิด ๆ แล้วครับ ใช่สิเพราะไม่ใช่ปัญหาของคนอื่น จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ไม่เกี่ยว แต่เราควรได้ ถ้าเกียรตินิยมมันไม่สำคัญ ก็ยกเลิกไปให้หมดเลยเถอะ
ยิ่งถ้ายังไงก็ไม่ได้ อยู่เฉย ๆ ก็ไม่ต่างกัน ก็พยายามดูสักตั้งยังพอมีความหวัง เพราะเราย้อนเวลาไม่ได้ เมืองนอกมีนักศึกษาได้เกรด C ทั้ง ๆ ที่เขาคิดว่าควรจะได้เกรด A เขาใช้เวลาหลายปีเพื่อดันกฎหมายจนผ่าน แล้วก็มาขอให้มหาวิทยาลัยแก้เกรดให้ ใช่แล้วมันไม่มีกฎระเบียบรองรับหรอก แต่คุณเอาชนะกฎระเบียบเหล่านั้นเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองได้ไหมล่ะ
กฎระเบียบมีไว้เพื่อความเรียบร้อยของคนส่วนใหญ่ แต่มันไม่ใช่ประกาศิต ถ้ากฎมันมีจุดบอด เราก็ต้องใช้วิจารณญาณมาประกอบด้วย ไม่ใช่อะไร ๆ ก็อ้างกฎ เราต้องดูเจตนาของกฎ และดูความจริงด้วยว่าเขาจงใจไม่ทำตามกฎหรือเป็นเพราะความบกพร่องของระบบ
ถ้าเราไม่ได้รับคำแนะนำผิด ๆ เรามีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำตามกฎล่ะ มีใครอยากให้ตัวเองจบช้าลง 1 ปีและพลาดเกียรตินิยมอันดับหนึ่งหรือเปล่า การปกป้องสถาบัน กับการเอาใบบัวปิดซากช้างเน่า มันคนละความหมายกันนะ ทำไมผู้มีอำนาจต้องถูกเสมอ
แนะนำว่าก็แค่พยายามดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมอย่างถูกวิธีก็พอครับ เราต้องการแค่รักษาสิทธิของตัวเอง ไม่ได้อยากรุกล้ำสิทธิของใคร ถ้าเป็นตัวเองก็คงยื่นเรื่องไปหลาย ๆ ที่ครับ จนกว่าจะมีข้อมูลเอามายันกับมหาวิทยาลัยให้ได้ว่าเขาควรยกเคสเราเป็นกรณีพิเศษ เพราะความผิดพลาดครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่มาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ใช่ความประมาทเลินเล่อของเราเพียงผู้เดียว ทำไมเราต้องรับผิดอยู่คนเดียว
ไม่ควรปล่อยผ่านครับ มันสิทธิของเรา เราใช้การอะลุ้มอร่วยผิด ๆ แล้วครับ ใช่สิเพราะไม่ใช่ปัญหาของคนอื่น จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ไม่เกี่ยว แต่เราควรได้ ถ้าเกียรตินิยมมันไม่สำคัญ ก็ยกเลิกไปให้หมดเลยเถอะ
ยิ่งถ้ายังไงก็ไม่ได้ อยู่เฉย ๆ ก็ไม่ต่างกัน ก็พยายามดูสักตั้งยังพอมีความหวัง เพราะเราย้อนเวลาไม่ได้ เมืองนอกมีนักศึกษาได้เกรด C ทั้ง ๆ ที่เขาคิดว่าควรจะได้เกรด A เขาใช้เวลาหลายปีเพื่อดันกฎหมายจนผ่าน แล้วก็มาขอให้มหาวิทยาลัยแก้เกรดให้ ใช่แล้วมันไม่มีกฎระเบียบรองรับหรอก แต่คุณเอาชนะกฎระเบียบเหล่านั้นเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองได้ไหมล่ะ
กฎระเบียบมีไว้เพื่อความเรียบร้อยของคนส่วนใหญ่ แต่มันไม่ใช่ประกาศิต ถ้ากฎมันมีจุดบอด เราก็ต้องใช้วิจารณญาณมาประกอบด้วย ไม่ใช่อะไร ๆ ก็อ้างกฎ เราต้องดูเจตนาของกฎ และดูความจริงด้วยว่าเขาจงใจไม่ทำตามกฎหรือเป็นเพราะความบกพร่องของระบบ
ถ้าเราไม่ได้รับคำแนะนำผิด ๆ เรามีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำตามกฎล่ะ มีใครอยากให้ตัวเองจบช้าลง 1 ปีและพลาดเกียรตินิยมอันดับหนึ่งหรือเปล่า การปกป้องสถาบัน กับการเอาใบบัวปิดซากช้างเน่า มันคนละความหมายกันนะ ทำไมผู้มีอำนาจต้องถูกเสมอ
แนะนำว่าก็แค่พยายามดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมอย่างถูกวิธีก็พอครับ เราต้องการแค่รักษาสิทธิของตัวเอง ไม่ได้อยากรุกล้ำสิทธิของใคร ถ้าเป็นตัวเองก็คงยื่นเรื่องไปหลาย ๆ ที่ครับ จนกว่าจะมีข้อมูลเอามายันกับมหาวิทยาลัยให้ได้ว่าเขาควรยกเคสเราเป็นกรณีพิเศษ เพราะความผิดพลาดครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่มาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ใช่ความประมาทเลินเล่อของเราเพียงผู้เดียว ทำไมเราต้องรับผิดอยู่คนเดียว
ความคิดเห็นที่ 8
พี่เห็นด้วยกับน้องนะคะ พี่ช่วยโหวตให้แล้วกัน
เกียรตินิยมมีค่านะคะ ใครบอกให้ทำใจเมินความเห็นน้นไปเลย น้องชายพี่จนเกียรตินิยม ทำงานปีเดียวได้เงินเดือนมากกว่าคนที่จบแบบไม่มีเกียรตินิยม 3 เท่า เพราะมันมีความน่าเชื่อถือแฝงอยู่ในนั้น ยึนยันเลยค่ะว่า ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด เพราะชีวิตเป็นของน้อง และสิทธินี้เป็นสิทธิที่น้องควรจะได้ พี่เป็นกำลังใจให้มากๆๆๆๆๆๆๆ เลยนะคะ
ลองปรึกษาพ่อแม่ได้ไหมคะว่า จะฟ้องเคสนี้ดู คิดว่าน่าจะต้องไปที่ศาลปกครองเช่นกัน อาจจะยุ่งและวุ่นวายพอสมควร แต่ก็อยากให้น้องสู้เพื่อตัวเองนะคะ
พร้อมยืนเคียงข้างน้องค่ะ
เกียรตินิยมมีค่านะคะ ใครบอกให้ทำใจเมินความเห็นน้นไปเลย น้องชายพี่จนเกียรตินิยม ทำงานปีเดียวได้เงินเดือนมากกว่าคนที่จบแบบไม่มีเกียรตินิยม 3 เท่า เพราะมันมีความน่าเชื่อถือแฝงอยู่ในนั้น ยึนยันเลยค่ะว่า ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด เพราะชีวิตเป็นของน้อง และสิทธินี้เป็นสิทธิที่น้องควรจะได้ พี่เป็นกำลังใจให้มากๆๆๆๆๆๆๆ เลยนะคะ
ลองปรึกษาพ่อแม่ได้ไหมคะว่า จะฟ้องเคสนี้ดู คิดว่าน่าจะต้องไปที่ศาลปกครองเช่นกัน อาจจะยุ่งและวุ่นวายพอสมควร แต่ก็อยากให้น้องสู้เพื่อตัวเองนะคะ
พร้อมยืนเคียงข้างน้องค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
กรณีที่จะฟ้องนี้ ผมว่าศาลปกครอง ไม่น่าจะมีอำนาจรับฟ้อง
คดีที่จะฟ้องศาลปกครองได้ จะต้องเป็นดคีที่อยู่ใน มาตรา 9
แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
มาตรา 9 ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในเรื่องดังต่อไปนี้
(1) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ คำสั่งหรือการกระทำอื่นใดเนื่องจากกระทำโดยไม่มีอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจหน้าที่หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือโดยไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้น หรือโดยไม่สุจริต หรือมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือมีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็นหรือสร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร หรือเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ
(2) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
(3) คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ คำสั่งทางปกครอง หรือคำสั่งอื่น หรือจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
......
------------
คดี (1)
ต้องเป็นคดีเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ คำสั่งหรือการกระทำอื่นใด เนื่องจากกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- ไม่มีอำนาจ หรือนอกเหนืออำนาจหน้าที่ <--- สภาฯ มีอำนาจไม่อนุมัติปริญญาเกียรตินิยม ไม่นอกเหนืออำนาจหน้าที่
- ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย <--- ขอจบล่าช้า สภาฯ ไม่อนุมัติปริญญาเกียรตินิยม ไม่ผิดกฎหมาย
- ไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้น <--- กรณีนี้ เช่น มีการข้ามขั้นตอนสำคัญบางอย่าง
- ไม่สุจริต <--- ไม่มีใครไม่สุจริต
- มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม <--- ก็ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับใคร
- มีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็นหรือสร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร <--- ไม่มีการสร้างขั้นตอนหรือภาระ
- เป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ <--- ดุลพินิจที่ไม่อนุมัติ เกิดจากการขอจบล่าช้า
พิจารณารายกรณีแล้ว ไม่น่าจะเข้าซักกรณี
คดี (2)
จะเป็นกรณีละเลยต่อหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า
ตามเนื้อหา ก็ไม่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ ละเลย หรือ ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า
สำหรับคดี (3) ศาลปกครองเคยวางแนวคำสั่งออกมาแล้ว
ว่า คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้บุคคลได้รับความเสียหาย
โดยการให้คำแนะนำดังกล่าวเป็นเพียงการให้ความเห็น ซึ่งความเห็นของเจ้าหน้าที่
ไม่มีลักษณะของการบังคับให้บุคคลต้องปฏิบัติตาม
จึงไม่ได้ก่อให้เกิดผลในทางกฎหมาย
ที่มีลักษณะเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่เช่นเดียวกับการออกกฎคำสั่งทางปกครองหรือคําสั่งอื่นแต่อย่างใด
กรณีนี้จึงมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทําละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
อันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายหรือจากกฎคำสั่งทางปกครองหรือคําสั่งอื่น
ที่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (3) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯศาลปกครอง
จึงไม่อาจรับคําฟ้องคดีนี้ไว้พิจารณาได้
คําสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คผ.66/2562
ผมสรุปสั้น ๆ เผื่อคนอ่านภาษากฎหมายไม่เข้าใจ
- คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการบังคับบุคคลให้ต้องปฏิบัติ
ผู้ได้รับคำแนะนำไม่ได้ถูกบังคับ จึงต้องพิจารณาเอกว่าจะปฏิบัติหรือไม่อย่างไร
ศาลปกครองจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา
-----------
ความคิดเห็นส่วนตัว
ศาลปกครองไม่น่ามีอำนาจรับฟ้องไว้พิจารณา ตามที่กล่าวมาข้างต้น
แต่อาจจะลองฟ้องดูก็ได้ครับ
มีตัวอย่างคดี คดีหมายเลขดำที่ อ. 500/2552 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 302/2556 ฟ้องสภามหาวิทยาลัย
กรณีไม่อนุมัติปริญญาเกียรตินิยม
แม้ข้อเท็จจริง จะไม่ใช่อย่างเดียวกับ จขกท.
แต่ก็ลองดูเป็นแนวทางได้ครับ
http://admincourt.go.th/admincourt/upload/admcase/Document/judgement/PDF/2552/01012-520500-1F-560426-0000116721.pdf
คดีที่จะฟ้องศาลปกครองได้ จะต้องเป็นดคีที่อยู่ใน มาตรา 9
แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
มาตรา 9 ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งในเรื่องดังต่อไปนี้
(1) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ คำสั่งหรือการกระทำอื่นใดเนื่องจากกระทำโดยไม่มีอำนาจหรือนอกเหนืออำนาจหน้าที่หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือโดยไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้น หรือโดยไม่สุจริต หรือมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือมีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็นหรือสร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร หรือเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ
(2) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
(3) คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ คำสั่งทางปกครอง หรือคำสั่งอื่น หรือจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
......
------------
คดี (1)
ต้องเป็นคดีเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎ คำสั่งหรือการกระทำอื่นใด เนื่องจากกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- ไม่มีอำนาจ หรือนอกเหนืออำนาจหน้าที่ <--- สภาฯ มีอำนาจไม่อนุมัติปริญญาเกียรตินิยม ไม่นอกเหนืออำนาจหน้าที่
- ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย <--- ขอจบล่าช้า สภาฯ ไม่อนุมัติปริญญาเกียรตินิยม ไม่ผิดกฎหมาย
- ไม่ถูกต้องตามรูปแบบขั้นตอน หรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้น <--- กรณีนี้ เช่น มีการข้ามขั้นตอนสำคัญบางอย่าง
- ไม่สุจริต <--- ไม่มีใครไม่สุจริต
- มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม <--- ก็ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับใคร
- มีลักษณะเป็นการสร้างขั้นตอนโดยไม่จำเป็นหรือสร้างภาระให้เกิดกับประชาชนเกินสมควร <--- ไม่มีการสร้างขั้นตอนหรือภาระ
- เป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ <--- ดุลพินิจที่ไม่อนุมัติ เกิดจากการขอจบล่าช้า
พิจารณารายกรณีแล้ว ไม่น่าจะเข้าซักกรณี
คดี (2)
จะเป็นกรณีละเลยต่อหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า
ตามเนื้อหา ก็ไม่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ ละเลย หรือ ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า
สำหรับคดี (3) ศาลปกครองเคยวางแนวคำสั่งออกมาแล้ว
ว่า คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้บุคคลได้รับความเสียหาย
โดยการให้คำแนะนำดังกล่าวเป็นเพียงการให้ความเห็น ซึ่งความเห็นของเจ้าหน้าที่
ไม่มีลักษณะของการบังคับให้บุคคลต้องปฏิบัติตาม
จึงไม่ได้ก่อให้เกิดผลในทางกฎหมาย
ที่มีลักษณะเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่เช่นเดียวกับการออกกฎคำสั่งทางปกครองหรือคําสั่งอื่นแต่อย่างใด
กรณีนี้จึงมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทําละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
อันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายหรือจากกฎคำสั่งทางปกครองหรือคําสั่งอื่น
ที่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (3) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯศาลปกครอง
จึงไม่อาจรับคําฟ้องคดีนี้ไว้พิจารณาได้
คําสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ คผ.66/2562
ผมสรุปสั้น ๆ เผื่อคนอ่านภาษากฎหมายไม่เข้าใจ
- คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการบังคับบุคคลให้ต้องปฏิบัติ
ผู้ได้รับคำแนะนำไม่ได้ถูกบังคับ จึงต้องพิจารณาเอกว่าจะปฏิบัติหรือไม่อย่างไร
ศาลปกครองจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา
-----------
ความคิดเห็นส่วนตัว
ศาลปกครองไม่น่ามีอำนาจรับฟ้องไว้พิจารณา ตามที่กล่าวมาข้างต้น
แต่อาจจะลองฟ้องดูก็ได้ครับ
มีตัวอย่างคดี คดีหมายเลขดำที่ อ. 500/2552 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 302/2556 ฟ้องสภามหาวิทยาลัย
กรณีไม่อนุมัติปริญญาเกียรตินิยม
แม้ข้อเท็จจริง จะไม่ใช่อย่างเดียวกับ จขกท.
แต่ก็ลองดูเป็นแนวทางได้ครับ
http://admincourt.go.th/admincourt/upload/admcase/Document/judgement/PDF/2552/01012-520500-1F-560426-0000116721.pdf
แสดงความคิดเห็น
จบปริญาตรีช้ากว่าเดิม 1 ปี และไม่ได้รับเกียรนิยมอันดับ 1 เพราะความเข้าใจผิด (ขอคำแนะนำ)