กลิ่นในที่แคบ ตอนที่2 บัตรพนักงาน


กลิ่นในที่แคบ ตอนที่ 1  https://pantip.com/topic/39209856

กลิ่นในที่แคบ

ตอนที่ 2 บัตรพนักงาน

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืด สะลึมสะลือและปวดศีรษะที่ท้ายทอยเล็กน้อยมันยิ่งทำให้รู้สึกมึนงงและสงสัย

ที่นี่คือที่ไหนกัน? ผมค่อยๆ เหยียดตัวขึ้นอย่างช้าๆ พยายามเพ่งมอง มันออกไปแต่กลับไม่เห็นอะไรเลย มันมีแต่ความ

ว่างเปล่าที่มืดมิดราวกับว่าเหมือนผมเป็นคนที่ตาบอดสนิท

ผมค่อยๆ ขยับก้าวเท้าเดินอย่างช้า ช้า ทีละก้าว เพื่อที่จะหาทางออก สองมือเปล่าๆ ก็ได้ไปสัมผัสถึงผิวอะไรบางอย่าง

มันเป็นผนังผิวโลหะ ผมค่อยๆ ใช้ๆ มือ คลำมันต่อไปแล้วเดินเลียบไปตามผิวของผนังโลหะ เดินวนไปมาจนได้รู้ว่า

มันมีมุมชนมุม ในที่ที่เราอยู่ตอนนี้น่าจะเป็นผนังห้องสี่เหลี่ยมไม่กว้างมากนัก แต่มันความสูงแค่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้

อากาศที่ใช้หายใจภายในห้องนี้ก็ไม่ค่อยจะดีนัก มันทั้งเหม็นอับเหม็นสาบ กลิ่นเน่า และกลิ่นสนิมเหล็ก ปะปนกัน

ทำให้เมื่อสูดหายใจเข้าไปมันแสบไปทั้งโพรงจมูก หายใจได้ก็ไม่เต็มปอด แถมยังจะร้อนมากขึ้นมาอีกด้วย

ผมเริ่มรับรู้สึกได้ถึงความร้อนอึดอัด ทั้งในร่างกายและจิตใจ

แต่แล้วดูเหมือนเท้าของผมไปสะดุดเข้ากับอะไร บางอย่าง? ผมค่อยๆ ย่อตัวลงและลองยังใช้มือคลำหาให้ต่ำลงมาบ้าง ก็สัมผัสได้

กับอะไรบางอย่าง จึงค่อยๆ ใช้มือไล่จับแตะๆ ลงมา ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าไม่ได้อยู่แค่คนเดียวอีกต่อไป มันเป็นเหมือนท่อนแขนของคน

“คุณครับ คุณ.......คุณครับ .....คุณครับ.....คุณ”

ผมจับไปที่มือพยายามเขย่าเรียกเขา คนนั้นให้มีสติกลับมาแต่มันก็ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมามีเพียงแต่ เสียงสะท้อนที่ก้องตอบกลับ

มา..................... “คุณครับ คุณ.......คุณครับ .....คุณครับ.....คุณ” ..............................

ผมค่อยๆ ใช้มือคลำหาบริเวณใบหน้าเพื่ออยากที่จะรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงและยังพอจะมีสติอยู่ไหม

แล้วมือของผมก็ไปสัมผัสได้ถึงอะไรบางสิ่ง มันทำให้ขนลุกไปทั้งตัวและเริ่มกลัวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นมันก็ตามที่

เธอน่าจะเป็นผู้หญิง มันเริ่มจากปลายนิ้วไปสัมผัสโดนให้กับปลายเส้นผมของเธอ บริเวณตรงบ่า มือของผมจึงค่อยๆ คลำขึ้นไป

บริเวณศีรษะ เส้นผมอันแห้งกร้านและค่อนข้างบางพอจับมาแล้วแทบจะหลุดติดมือมา สองมือของผมคลำต่อไปเจอเข้าให้กับใบหน้า

ของเธอมันช่างเป็นใบหน้าที่ซูบผอม ผิวก็แห้งเหี่ยวแข็งกระด้าง ดูเหมือนเขากำลังอ้าปากค้างไว้อยู่ นิ้วมือของผมจับไปถึงโพรงจมูก

โหนกแก้ม และเบ้าตาที่มันถลำลึกเข้าไป มันเป็นเหมือนกันหัวกะโหลกแห้งๆ ที่กำลังอ้าปาก ของคนเรานี้เอง

ผมตกใจกลัวเด้งตัวปล่อยมือ ออกมาจากหัวของเธอกลิ่นเหม็นสาบติดมาที่มือ มันทำให้ผมอาเจียนออกมาอยู่พักใหญ่ ซากศพ

แห้งๆ ของใครกันที่อยู่ตรงหน้าเรา ผมได้แต่ภาวนาอย่าให้เธอตื่นขึ้นมาจะดีกว่า

ถึงตอนนี้ผมรวบรวมสติกลับมาได้ก็พยายามคิดหาหนทางที่จะออกไปจากห้องนี้

ผมพยายามค้นตามตัวเพื่อหาโทรศัพท์จะติดต่อให้ใครสักคนมาช่วย แต่มันก็หาไม่เจอ ทั้งๆ ที่ปกติโทรศัพท์มือถือเป็นเหมือนอวัยวะ

อีกชิ้นในร่างกาย

ความกลัววิตกกังวล ความตระหนักถึงการหาทางเอาชีวิตให้รอด เริ่มกลับเข้ามา เพราะถ้าไม่พยายามทำอะไรต่อไปผมก็คงจะได้เป็น

ซากศพแห้งๆ อีกศพหนึ่งเป็นแน่ ผมพยายามปีนป่ายที่ผนังมันก็ไม่สำเร็จ ลองใช้มือ พยายามทุบที่ผนังเพื่อที่จะหวังให้ใครมาได้ยิน

แต่มันก็มีแต่เพียงเสียงสะท้อนที่ก้องตอบกลับมา

เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ภายในห้องมันเริ่มเหมือนกับเตาอบ อุณหภูมิมันเริ่มสูงขึ้นมากเข้าไปทุกนาที

ร่างกายก็เริ่มอ่อนล้าอ่อนแรง ลงเป็นอย่างมาก ถ้าตอนนี้ผมได้ดื่มน้ำเย็นๆ ซักแก้วได้ก็คงจะดี

ปั๊ง........................... ปั๊ง....................ปั๊ง!!!!!!!!

เสียงเหมือนมีใครทุบผนังจากด้านนอก

"ช่วยด้วย ช่วยด้วย มีคนติดอยู่ในนี้"!!!!!

ผมรีบลุกขึ้นเอามือทุบที่ผนัง ปากก็ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรจากข้างนอก ตอบกลับมา ผมยังพยายามร้อง

ตะโกนอยู่ต่อไป สองมือที่ทุบผนังก็ค่อยๆ เบาแรงลง ไปตามสภาพร่างกายที่อ่อนแรงแต่ปากก็ยังพยายามเปล่งเสียงร้องขอความ

ช่วยเหลือ ตัวของผมค่อยๆ ทรุดลงไปกับพื้นห้อง

ปากของผมก็ยังอ้าให้กว้างออก พยายามเปล่งเสียงพร้อมกับหายใจ ในตอนนี้มันทั้งร้อนและอึดอัด การหายใจเริ่มติดๆ ขัดๆ มันไม่

สะดวกเอาเสียเลย

ปั๊ง!!!!!!

ปั๊ง!!!!!!!!!!!!

ปั๊ง!!!!!!!!!!!!

เสียงทุบผนังจากด้านนอกยัง ดังอยู่เป็นระยะ ระยะ เสียงเหมือนกับมันกำลังวนเวียน ไปมารอบตัวผม ใครสักคนที่อยู่ด้านนอกเขาคง

ไม่มีเจตนาที่จะมาช่วยเราเป็นแน่

ก่อนที่กำลังจะหมดลมหายใจไป สิ่งสุดท้ายที่เข้ามาในหัวก็คือ ทำไมเราถึงต้องมาติดอยู่ที่นี่

...........................................................................................

มันเป็นเวลาสักหกโมงกว่าๆ เห็นจะได้ ผมกำลังจะไปที่ห้องสูบบุหรี่ในตึก ของชั้นสามสิบที่ผมทำงานอยู่แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะห้อง

สูบบุหรี่มันถูกปิดล็อกเอาไว้ซึ่งปกติมันไม่เคยมีใครมาปิดเอาไว้ แต่อาจจะเป็นแม่บ้านที่เข้ามาทำงานใหม่เผลอปิดเอาไว้ก็ได้

แต่ด้วยตอนนี้ผมอยากสูบบุหรี่ มากจึงต้องหาที่สูบให้ได้ แล้วผมก็มาพบกับทางบันไดหนีไฟโดยที่แรกตั้งใจว่าจะสูบบุหรี่แถวๆ นั้น

แต่ทางบันไดหนีไฟถ้าเดินขึ้นไปอีกสักหน่อยมันก็ออกมาบนดาดฟ้าของตัวตึกได้แล้ว

ผมจึงตัดสินใจเดินออกไปสูบบุหรี่ที่บนดาดฟ้ามันน่าจะดีกว่า แล้วมันก็ทำให้ผมได้พบกับบางสิ่ง

บนดาดฟ้าของตึกมันช่างโล่งโปร่ง แถมมีลมเย็นๆ คอยพัดมา มันช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายดีจริงๆ ภายนอกดาดฟ้าก็มีอุปกรณ์ไฟฟ้า

วางไว้อยู่ทั่วไป แต่ก็มีบางสิ่งที่ดึงดูดสายตาของผมให้ต้องจ้องมองดู มันเป็นแท็งก์น้ำเก่าๆ ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว มันเป็นแท็งก์เหล็ก

ชุบสังกะสี รูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สูงขึ้นไปประมาณสามสี่เมตร แต่ตัวแท็งก์เก่าๆ มันไม่ใช่สาระสำคัญอะไร แต่สิ่งที่อยู่บน

แท็งก์น้ำสิมันทำให้ผมแทบจะลืมหายใจ

หญิงสาวผมยาวประบ่าใบหน้าและดวงตาที่ดูมีความสุข กำลังยืนมองวิวข้างหน้าของเธออยู่บนแท็งก์สายลมอ่อนๆ ที่กำลังพัดมามัน

ทำให้ผมของเธอปลิวไหวไปตามสายลม มันช่างเป็นภาพที่ทำให้ผมประทับใจ

ผมได้แต่แอบมองเธอจากระยะไกล เธอเป็นใครกันทำไมถึงมายืนรับลมอยู่บนแท็งก์น้ำ แต่จากการดูชุดฟอร์มที่เธอใส่แล้วมันดู

เหมือนกับชุดแม่บ้าน ที่ดูแลทำความสะอาดในตัวตึก

ผมยืนจุดบุหรี่สูบ และยังคงเหลือบตามองไปทางเธออยู่เป็นระยะ ๆ แต่แล้วดูเหมือนเธอเริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าไม่ได้อยู่ลำพังคนเดียวบน

ดาดฟ้า หญิงสาวค่อยๆ ลงมาจากแท็งก์น้ำ แล้วเดินมาที่ทางลงบันไดหนีไฟที่ผมยืนอยู่ เธอค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ๆ ใกล้เข้ามา ใจผม

ก็ไม่รู้เป็นอะไรหัวใจมันกลับรู้สึกเต้นเร็ว แรงอย่างผิดปกติเมื่อยิ่งเธอเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดเธอก็กำลังจะเดินผ่านหน้าผมไป

ใบหน้าที่ดูนุ่มนวล ริมฝีปากที่ดูอวบอิ่มและผิวพรรณที่ดูอ่อนนุ่มของเธอช่างดูมีเสน่ห์และงดงาม จนทำให้ผมอยากเอ่ยคำพูดคุยหรือ

ทักทายขึ้นกับเธอ แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากพูดออกไป

“ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ”

“อ่อ ครับ ครับ เชิญ เชิญ..........เลยครับ”

เธอกำลังจะเดินผ่านผมไป สายลมอ่อนๆ ที่พัดมามันทำให้เส้นผมของเธอพลิ้วไหวลอยผ่านที่หน้าของผม

กลิ่นหอมจางๆ ของเส้นผมเธอลอยผ่านพ้นไปพร้อมกับตัวของเธอ ผมอยากจะหยุดช่วงเวลานี้เอาไว้เพื่อสูดดมกลิ่นหอมๆ จากเส้นผม

ของเธอคงอยู่ตราบนานเท่านาน แล้วเธอค่อยๆ เดินลงบันไดจากไป

ความประทับใจในตัวของผู้หญิงคนนั้น ไม่รู้ทำไมมันเกิดขึ้นกับตัวผมได้อย่างรวดเร็ว นี้นะหรือที่เขาเรียกกันว่ารักแรกพบ

หลังจากวันนั้นในช่วงเย็นๆ ตอนพักเบรก ผมก็มักที่จะขึ้นมาบนดาดฟ้าแห่งนี้อยู่เป็นประจำโดยหวังว่าจะได้พบกับหญิงสาวคนนั้นอีก

แต่แล้วเย็นวันหนึ่งผมก็ได้พบกับเธออีกครั้ง

เธอยังคงยืนรับลมอยู่บนแท็งก์น้ำที่เดิม ในครั้งนี้ผมตัดสินใจ รวบรวมความกล้า อยากที่จะลองพูดคุยกับเธอดูสักครั้ง ผมจึงขึ้นมายัง

บนแท็งก์น้ำแล้วยืนอยู่ข้างหลังของเธอ

บทสนทนา ประโยคทักทาย มันมีมากมายภายในหัว แต่สุดท้ายผมได้แต่พูดออกไปว่า

“วันดีครับ บนอากาศนี้เย็นดีนะครับ”

ผมยืนอึ้งกับประโยคทักทายของตัวเองอยู่แป๊บหนึ่ง

นี้เราพูดอะไรออกไปวะ ชัย มันเป็นประโยคทักทายที่ดูโง่และแถมยังพูดผิดอีกต่างหาก ผมได้แต่คิดในใจ

“สวัสดีครับ อากาศบนนี้เย็นดีนะครับ คุณสบายดีไหมครับ”

ผมกล่าวคำทักทายใหม่กับเธออีกครั้ง

..........................................................

ไม่มีเสียงคำตอบใดตอบกลับมา มันมีแต่ความเงียบสงัดผมเริ่มจะรู้สึกแล้วว่าบรรยากาศแบบนี้ชักไม่ค่อยจะดีแล้ว ควรถอนตัวออก

จากตรงนี้ก่อนดีกว่า

แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

“อากาศร้อน.......................อึดอัดมากเลย”

เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา คล้ายกับคนที่จะหมดแรง มันทำให้ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับคำตอบที่ได้รับ กลับมา จนทำให้ไม่รู้

เลยว่าจะเริ่มบทสนทนาอย่างไรไปต่อกันดี

“ขอตัวก่อนนะคะ”

เธอพูดออกมาก่อนที่จะค่อยๆ หันตัวกลับมา ผมรู้สึกดีใจที่ได้พูดคุยกับเธอเป็นครั้งแรก และกำลังจะได้เห็นหน้าเธอใกล้อีกสักครั้ง

มันทำให้คิดถึงความประทับใจในครั้งแรกที่เราได้พบกันและคิดถึงกลิ่นหอมจางๆ จากเส้นผมของเธอ

แล้วโลกทั้งโลกมันก็เหมือนมืดดับสนิทไป

เมื่อเธอหันหลังกำลังเดินเข้ามา ใบหน้าของเธอในวันนี้มันดูซีดเซียวแห้งกร้าน ริมฝีปากที่เคยดูอวบอิ่มมันกลับแห้งแตก ลอกออกมา

เป็นแผ่น ผิวพรรณที่แลดูอ่อนนุ่ม มันกลับเป็นผิวที่ดูแห้งกร้านเสียมากกว่าอีกทั้งในดวงตาที่เคยเปล่งประกาย กลับดูเศร้าหมอง

ทั่วทั้งร่างกายของเธอก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เธอกำลังจะเดินผ่านหน้าผมไป สายลมอ่อนๆ ที่พัดมามันทำให้เส้นผมของเธอพลิ้วไหวลอยผ่านที่หน้าของผม แต่ทว่าเส้นผมของ

เธอในวันนี้มันกลับส่งกลิ่นที่เหม็นสาบดังซากศพอย่างรุนแรงจนผมแทบอยากจะเบือนหน้าหนี ทำไมช่วงเวลานี้มันช่างแสนที่จะ

ยาวนานเหลือเกินกว่าที่เธอจะเดินผ่านพ้นไป

เมื่อเธอเดินผ่านไป กลิ่นเหม็นนั้นยังคงล่องลอยอยู่รอบๆ ตัวผม หญิงสาวที่ผมเห็นในวันนี้มันช่างแตกต่างจากวันนั้นมันทำให้ผมรู้สึก

กลัวกับการที่เคยหลงรักเธอไปเสียแล้ว

ผมได้แต่ยืนมองดูเธอที่กำลังจะเดินลงบันไดดาดฟ้า แต่แล้วโลกของผมก็กลับมาสว่างอีกครั้งเมื่อประตูดาดฟ้าถูกเปิดออก มีคนกำลังเดินขึ้นมา มันเป็นเพื่อนของผมเองสองคนกำลังเดินขึ้นมา แล้วทั้งสองคนนั้นก็ได้เดินผ่านหญิงสาวคนดังกล่าว แต่ก็หน้าแปลก
ที่ดูเหมือนทั้งสองคนทำยังกับว่าจะมองไม่เห็นผู้หญิงคนนั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่