สวัสดีพ่อแม่พี่น้อง ใครกำลังปวดใจเพราะผิวสองสี (สีเดิมครึ่งนึง แดดเลียซะครึ่งนึง) เป็นมนุษย์ลาเต้มารวมกันตรงนี้ เราจะรีวิวสกินแคร์แบรนด์ไทยราคาสบายกระเป๋า แต่คุณภาพดีจนอยากบอกต่อ (เราได้ถามความเห็นจากเพื่อนที่เคยใช้มาด้วย ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าดีเลยอยากเอามารีวิวในนี้จ้า)
หลังจากนอนคิดอยู่นานว่าจะรีวิวอะไรดีที่ใกล้ตัว และไม่ค่อยมีใครรีวิว ก็นึกถึงสกินแคร์ไทยๆ คนไทยทำเองที่เราชอบใช้ เราก็ชอบเอาหน้าไปโดนของใหม่เรื่อยๆ อันไหนดีก็บอกว่าดี อันไหนแพ้เราก็โทรไปขอรายละเอียดเจ้าของเลยจ้า 5555555 ก็เพื่อจะได้รู้ว่าเราแพ้เพราะอะไรไงคะ ยาวหน่อยแต่ละเอียดนะ
1. โทนเนอร์สมุนไพร อภัยภูเบศร์ ปราศจากแอลกอฮอล์
เริ่มต้นตัวแรกที่โทนเนอร์ก่อนเลย โทนเนอร์เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาด โดยจะเก็บสิ่งสกปรกที่ตกค้างหลังล้างหน้า และเป็นการเปิดผิวเพื่อรับสารบำรุงในขั้นตอนต่อไป ส่วนตัวเป็นคนผิวผสมค่ะ และชอบมีสิวอุดตันบริเวณแก้ม เลยชอบใช้โทนเนอร์เพราะช่วยลดสิวได้ดี
คุณสมบัติ : โทนเนอร์ตัวนี้มีสมุนไพร 3 อย่าง เราดูแล้วมันใช่เลย ตรงกับความต้องการของเรามาก
แตงกวา : สายบิวตี้ต้องรู้ดีกว่าแตงกวาเป็นมิตรกับผิวแบบสุดๆ
แตงกวามีฤทธิ์เย็นช่วยลดอุณภูมิผิวหลังจากออกแดดมา ผิวจะแสบร้อนทำให้เกิดสิวง่าย และ
ช่วยเติมเติมน้ำให้ผิวเติมความชุ่มชื้นกับผิวโดยเฉพาะผิวที่แห้งกร้าน หรือเพิ่งโดนแดดเผา และยัง
ผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
ใบบัวบก : เราเคยคั้นใบบัวบกสดๆ มาพอกหน้า บอกเลย “พี่คะ ไม่ไหวจริงๆ TT_TT” แต่
ใบบัวบกขึ้นชื่อเรื่องคอลลาเจนและอิลาสตินลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เป็น
Anti Aging จากธรรมชาติที่แท้ทรู และช่วยลดสิว ลดการอักเสบของสิวด้วย
มะขามป้อม : ให้กินแบบสด ๆ อันนี้ขอผ่านโดยไว แต่มะขามป้อม
มีวิตามินซีสูงมากและยังคงปริมาณได้ดีแม้ผ่านกระบวนการให้ความร้อนหรือเย็น (ปกติผลไม้จะสูญเสียวิตามินซีได้ง่าย) ถึงจะแปรรูปแล้วแต่วิตามินซีในมะขามป้อมยังคงปริมาณเกือบเท่าเดิม แน่นอนว่าพี่เค้าต้องขึ้นชื่อเรื่อง
ผิวขาวใส ลดความหมองคล้ำ และลดการถูกทำลายของผิวจากแสงแดด นอกจากความขาวใส มะขามป้อม
ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเนียนนุ่มมากด้วย
ความรู้สึกขณะใช้ :เราจะใช้โทนเนอร์ 2 วิธี คือ หยดบนสำลีแล้วเช็ด กับ หยดบนฝ่ามือแล้วตบ ๆ เบา ๆ
วิธีแรกจะใช้ตอนกลางคืน เพราะวันทั้งวันเราเจอมลภาวะเยอะ หน้ามัน เลยอยากเช็ดเอาสิ่งตกค้างออก แต่ว่า!! วิธีนี้กลับทำให้เรารู้สึกแสบผิวเบาๆ ยิ่งถ้าเรามีรอยแผลจากสิว หรือเพิ่งโกนขนหน้ามาจะรู้สึกแสบบริเวณนั้นเป็นพิเศษ แต่รู้สึกเป็นบางจุดนะ ไม่ทั่วทั้งหน้า ลดแรงตึงหลังล้างหน้าจริง ในส่วนของสำลีนั้น ไม่ยุ่ยเป็นขุย เช็ดง่ายและลื่นดี อันนี้นี้เริ่ด
วิธีที่2อันนี้ไม่รู้สึกแสบผิว แต่รู้สึกได้ทันทีว่าผิวหน้าชุ่มชื้นกว่าวิธีแรก และผิวไม่ตึงด้วย
ผลลัพธ์ที่ได้ :รู้สึกเหมือนใช้โทนเนอร์ผสมน้ำตบเลย
มันว้าวมาก! หลังล้างหน้ามาหน้าจะแห้งๆ ตึงๆ แล้วพอตบโทนเนอร์หรือจะเช็ดก็ได้ ช่วยลดแรงตึงผิวได้จริง(จริงจังมาก) ผิวอิ่มฟู ชุ่มชื่น รู้สึกได้เลย แล้วที่แปลกกว่าโทนเนอร์อื่น ๆ คือ
เหมือนจะเติมน้ำให้ผิวได้จริง ๆ นะ มีความฉ่ำเบาๆ อันนี้ชอบมาก
ปล. อยากให้ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้นะ ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย โทนเนอร์ตัวนี้อาจจะแรงเกินไป และผิวเจอแดดมา ยังแสบ ๆ อยู่ตัวนี้เราไม่แนะนำนะ(ความเห็นส่วนตัว) ให้ผิวปรับสภาพสักระยะก่อนจะดีกว่า เราแนะนำว่าใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกุหลาบจะดีกว่า เพราะกุหลาบมีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และสมานผิว แต่ที่ไม่หยิบมารีวิวเพราะที่ใช้อยู่เป็นของต่างประเทศมันผิดธีมจ้า
ขนาด 200 ml. ราคา 150 บาท (ถูกและดี-^^-)
หาซื้อได้ทั่วไปเลย ในร้านสะดวกซื้อ,ในห้าง (อันนี้เราซื้อให้ Tops) หรือ
http://www.abhaishop.com/
(มีที่อื่นอีกนะ แต่เราไม่รู้555555
2. เซรั่มเจลทานาคา วูดส์เฮิร์บ
หลังจากลงโทนเนอร์แล้วก็ต่อด้วยเซรั่มกันเลย ตัวนี้เขามากันสองสีพี่น้อง สูตรกลางวันและกลางคืนจ้า เราชอบที่ทานาคามารูปแบบของเซรั่มทำให้ใช้ง่ายขึ้นเยอะ แบรนด์นี้เขาใช้ทานาคาในท้องถิ่นของไทยเรานี่แหละ มีบ้างบางส่วนที่นำเข้าจากเพื่อนบ้าน
คุณสมบัติ : สามารถกรองรังสียูวี ลดการอักเสบ และยับยั้งแบคทีเรียได้มี
คุณสมบัติเป็นWhitening จากธรรมชาติแท้ๆ ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ ผิวหน้ากระจ่างใส มีสารเป็นพิษน้อยจึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ส่วนตัวเราเคยเห็นผิวของชาวพม่า เป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่างแต่นี่ผิวผู้ชาย(ฮีพอกทานาคามาทั้งหน้า) เห็นระยะใกล้คือน้องหน้าใสมาก เนียนกริ๊บ เนียนมาก มากจนผู้หญิงยังอาย(TT^TT)
ความรู้สึกขณะใช้ : ใช้ง่ายมาก เซรั่มเนื้อเจลไม่เหนอะหนะ ซึมเร็ว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ (ชอบกลิ่น^^)
สูตรกลางคืนจะเข้มข้นกว่าสูตรกลางวันเทียบได้จากสีของเซรั่มเลยจ้า อันนี้ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ ด้วยคุณสมบัติของทานาคาอยู่แล้ว เขาบอกว่าให้ทาทั้งหน้าและลำคอ ได้หน้าอย่าลืมคอนะจ๊ะ
ผลลัพธ์ที่ได้ :อันดับแรกเลย
รูขุมขนกระชับขึ้นผิวกระชับขึ้น จุดด่างดำจางเร็วลดรอยคล้ำใต้ตา หางตาดูกระชับขึ้นผิวกระจ่างใสขึ้นแต่ไม่ถึงกับเร็วติดสปีดขนาดนั้น แต่มันจะค่อย ๆ ใสขึ้น จากที่หมองๆ เหมือนราหูอมจันทร์ก็ค่อย ๆ ใสขึ้น แต่ยังไงก็ไม่ขาวขนาดเปลี่ยน DNA ไปเลยนะจ๊ะ
ขนาด 30 ml. ราคา 380 บาท (ซื้อแพคคู่690 บาท ถูกมากกกก)
หาซื้อ/ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ งานแสดงสินค้าบริเวณจังหวัดประจอบคีรีขันธ์ (เราซื้อมาจากที่หัวหิน) หรืองานแสดงสินค้า OTOP/SME , Facebook :
WOODS herb
3. Aloe Hydrating Gel เซรั่มว่านหางจระเข้SM สยามมินตรา
ต่อกันที่เซรั่มอีกแล้วครับท่าน! เพราะเราต้องการความชุ่มชื้นแบบขั้นสุด เซรั่มตัวนี้ได้มาพร้อม ๆ กับตัวที่แล้ว ตอบโจทย์กันคนละอย่าง มีความว้าว!อีกเหมือนกัน เพราะว่าเป็น “ว่านหางจระเข้ออแกนิก” และเขามีฟาร์มว่านหางจระเข้ออแกนิกเป็นของตัวเองจ้า
จริงๆ ประเทศไทยเราส่งออกว่านหางจระเข้เพื่อผลิตเป็นเครื่องสำอางเยอะมาก มีที่ผลิตในประเทศเองก็มี คุณภาพและราคาก็แตกต่างกันไป
มีเคล็ดลับความงามของคุณพ่อ(ของเพื่อน) ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ ท่านใช้ว่านหางจระเข้สดทาบนหน้า(สมัยนั้นไม่มีสกินแคร์) จนถึงเดี๋ยวนี้ยังใช้อยู่... ตอนนี้หน้าหนูจะทันพ่อแล้วค่ะ
(-__-“) เราเลยลองบ้าง หยิบว่านหางจระเข้มา ปาดๆเอาเปลือกเขียว ๆ ออก ใช้แค่เนื้อใส ๆ ข้างใน..ผลคือ “คันค่ะ” เลิก!ในเปลือกว่านหางจระเข้จะมียางอยู่ ถ้าปาดสีเขียวออกแล้วทิ้งไว้สักพักจะเห็นยางสีเหลืองๆ อันนั้นต้องล้างออกให้หมดค่ะ ไม่งั้นคัน และแพ้แน่นอน!
คุณสมบัติ : จริง ๆ ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะออกแดดมา Aftersunต้องโบกว่านหางจระเข้แบบรัวๆ เพราะว่านหางจระเข้รักษาอาการปวด แสบร้อน สมานแผลและป้องกันการเกิดแผลเป็น(แผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกให้ใช้ว่านหางจระเข้สดประคบตลอด 2 วันแรก แผลจะหายเร็ว) ถ้าใช้ก่อนออกแดดจะช่วยป้องกันแสงแดดได้ถ้านำมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกจะช่วยบรรเทาผิวแสบร้อนและลดอาการแห้งตึงของผิวได้ดี
ความรู้สึกขณะใช้ :เนื้อเซรั่มเป็นเจลสีขาว สีเหมือนเนื้อของว่านหางจระเข้จริงๆ ถ้าใครเคยใช้ว่านหางจระเข้สดๆ จะเห็นว่าเนื้อจะมีสีขาวๆ ใส ๆ กลิ่นก็เป็นกลิ่นของว่านหางจระเข้ ไม่ได้ใส่น้ำหอมแต่งสีแต่งกลิ่นเลย เนื้อเซรั่มมีความข้นและคงรูปได้มากกว่าเจลทั่วไป ที่สำคัญคือซึมเร็วมาก! ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง
ผลลัพธ์ที่ได้ :เพราะเป็นเซรั่มเลยเห็นผลเร็วและชัดเจนกว่าเจลธรรมดา
รู้สึกได้เลยว่าหน้ามันน้อยลง แผลเป็น รอยสิวหายไว ที่สำคัญคือ รอยไหม้จากแดดจางไวมาก ไม่แสบร้อนเจอแดดจัดๆ มา โบกตัวนี้ไปได้เลย
ไม่แสบผิว ผิวเย็นขึ้นเร็ว เห็นผลไวกว่า สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย หรือผิวบางมาก ใช้ได้ไม่แพ้ (ความเห็นจากเพื่อนที่แพ้ครีมมาหลายสถาบัน) แผลไฟไหม้ก็ใช้ได้นะ ลองมาแล้ว แผลหายไวมาก
ปล.ควรใช้ให้หมดก่อนหมดอายุนะจ๊ะ เค้าบูดได้นะเธอ
ขนาด 30 ml. ราคา 350 บาท (คุ้มจริง)
หาซื้อ/ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ งานแสดงสินค้าบริเวณจังหวัดประจอบคีรีขันธ์ (เราซื้อมาจากที่หัวหิน) หรืองานแสดงสินค้า OTOP/SME , Facebook : Siammintra Aloe Vera
[CR] รีวิวเน้นๆ สกินแคร์สายไทยๆ กู้ผิวพัง!!
หลังจากนอนคิดอยู่นานว่าจะรีวิวอะไรดีที่ใกล้ตัว และไม่ค่อยมีใครรีวิว ก็นึกถึงสกินแคร์ไทยๆ คนไทยทำเองที่เราชอบใช้ เราก็ชอบเอาหน้าไปโดนของใหม่เรื่อยๆ อันไหนดีก็บอกว่าดี อันไหนแพ้เราก็โทรไปขอรายละเอียดเจ้าของเลยจ้า 5555555 ก็เพื่อจะได้รู้ว่าเราแพ้เพราะอะไรไงคะ ยาวหน่อยแต่ละเอียดนะ
1. โทนเนอร์สมุนไพร อภัยภูเบศร์ ปราศจากแอลกอฮอล์
เริ่มต้นตัวแรกที่โทนเนอร์ก่อนเลย โทนเนอร์เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาด โดยจะเก็บสิ่งสกปรกที่ตกค้างหลังล้างหน้า และเป็นการเปิดผิวเพื่อรับสารบำรุงในขั้นตอนต่อไป ส่วนตัวเป็นคนผิวผสมค่ะ และชอบมีสิวอุดตันบริเวณแก้ม เลยชอบใช้โทนเนอร์เพราะช่วยลดสิวได้ดี
คุณสมบัติ : โทนเนอร์ตัวนี้มีสมุนไพร 3 อย่าง เราดูแล้วมันใช่เลย ตรงกับความต้องการของเรามาก
แตงกวา : สายบิวตี้ต้องรู้ดีกว่าแตงกวาเป็นมิตรกับผิวแบบสุดๆ แตงกวามีฤทธิ์เย็นช่วยลดอุณภูมิผิวหลังจากออกแดดมา ผิวจะแสบร้อนทำให้เกิดสิวง่าย และช่วยเติมเติมน้ำให้ผิวเติมความชุ่มชื้นกับผิวโดยเฉพาะผิวที่แห้งกร้าน หรือเพิ่งโดนแดดเผา และยังผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
ใบบัวบก : เราเคยคั้นใบบัวบกสดๆ มาพอกหน้า บอกเลย “พี่คะ ไม่ไหวจริงๆ TT_TT” แต่ใบบัวบกขึ้นชื่อเรื่องคอลลาเจนและอิลาสตินลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เป็น Anti Aging จากธรรมชาติที่แท้ทรู และช่วยลดสิว ลดการอักเสบของสิวด้วย
มะขามป้อม : ให้กินแบบสด ๆ อันนี้ขอผ่านโดยไว แต่มะขามป้อมมีวิตามินซีสูงมากและยังคงปริมาณได้ดีแม้ผ่านกระบวนการให้ความร้อนหรือเย็น (ปกติผลไม้จะสูญเสียวิตามินซีได้ง่าย) ถึงจะแปรรูปแล้วแต่วิตามินซีในมะขามป้อมยังคงปริมาณเกือบเท่าเดิม แน่นอนว่าพี่เค้าต้องขึ้นชื่อเรื่องผิวขาวใส ลดความหมองคล้ำ และลดการถูกทำลายของผิวจากแสงแดด นอกจากความขาวใส มะขามป้อมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และเนียนนุ่มมากด้วย
ความรู้สึกขณะใช้ :เราจะใช้โทนเนอร์ 2 วิธี คือ หยดบนสำลีแล้วเช็ด กับ หยดบนฝ่ามือแล้วตบ ๆ เบา ๆ
วิธีแรกจะใช้ตอนกลางคืน เพราะวันทั้งวันเราเจอมลภาวะเยอะ หน้ามัน เลยอยากเช็ดเอาสิ่งตกค้างออก แต่ว่า!! วิธีนี้กลับทำให้เรารู้สึกแสบผิวเบาๆ ยิ่งถ้าเรามีรอยแผลจากสิว หรือเพิ่งโกนขนหน้ามาจะรู้สึกแสบบริเวณนั้นเป็นพิเศษ แต่รู้สึกเป็นบางจุดนะ ไม่ทั่วทั้งหน้า ลดแรงตึงหลังล้างหน้าจริง ในส่วนของสำลีนั้น ไม่ยุ่ยเป็นขุย เช็ดง่ายและลื่นดี อันนี้นี้เริ่ด
วิธีที่2อันนี้ไม่รู้สึกแสบผิว แต่รู้สึกได้ทันทีว่าผิวหน้าชุ่มชื้นกว่าวิธีแรก และผิวไม่ตึงด้วย
ผลลัพธ์ที่ได้ :รู้สึกเหมือนใช้โทนเนอร์ผสมน้ำตบเลยมันว้าวมาก! หลังล้างหน้ามาหน้าจะแห้งๆ ตึงๆ แล้วพอตบโทนเนอร์หรือจะเช็ดก็ได้ ช่วยลดแรงตึงผิวได้จริง(จริงจังมาก) ผิวอิ่มฟู ชุ่มชื่น รู้สึกได้เลย แล้วที่แปลกกว่าโทนเนอร์อื่น ๆ คือ เหมือนจะเติมน้ำให้ผิวได้จริง ๆ นะ มีความฉ่ำเบาๆ อันนี้ชอบมาก
ปล. อยากให้ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้นะ ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย โทนเนอร์ตัวนี้อาจจะแรงเกินไป และผิวเจอแดดมา ยังแสบ ๆ อยู่ตัวนี้เราไม่แนะนำนะ(ความเห็นส่วนตัว) ให้ผิวปรับสภาพสักระยะก่อนจะดีกว่า เราแนะนำว่าใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกุหลาบจะดีกว่า เพราะกุหลาบมีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และสมานผิว แต่ที่ไม่หยิบมารีวิวเพราะที่ใช้อยู่เป็นของต่างประเทศมันผิดธีมจ้า
ขนาด 200 ml. ราคา 150 บาท (ถูกและดี-^^-)
หาซื้อได้ทั่วไปเลย ในร้านสะดวกซื้อ,ในห้าง (อันนี้เราซื้อให้ Tops) หรือ http://www.abhaishop.com/
(มีที่อื่นอีกนะ แต่เราไม่รู้555555
หลังจากลงโทนเนอร์แล้วก็ต่อด้วยเซรั่มกันเลย ตัวนี้เขามากันสองสีพี่น้อง สูตรกลางวันและกลางคืนจ้า เราชอบที่ทานาคามารูปแบบของเซรั่มทำให้ใช้ง่ายขึ้นเยอะ แบรนด์นี้เขาใช้ทานาคาในท้องถิ่นของไทยเรานี่แหละ มีบ้างบางส่วนที่นำเข้าจากเพื่อนบ้าน
คุณสมบัติ : สามารถกรองรังสียูวี ลดการอักเสบ และยับยั้งแบคทีเรียได้มีคุณสมบัติเป็นWhitening จากธรรมชาติแท้ๆ ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ ผิวหน้ากระจ่างใส มีสารเป็นพิษน้อยจึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ส่วนตัวเราเคยเห็นผิวของชาวพม่า เป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่างแต่นี่ผิวผู้ชาย(ฮีพอกทานาคามาทั้งหน้า) เห็นระยะใกล้คือน้องหน้าใสมาก เนียนกริ๊บ เนียนมาก มากจนผู้หญิงยังอาย(TT^TT)
ความรู้สึกขณะใช้ : ใช้ง่ายมาก เซรั่มเนื้อเจลไม่เหนอะหนะ ซึมเร็ว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ (ชอบกลิ่น^^)
สูตรกลางคืนจะเข้มข้นกว่าสูตรกลางวันเทียบได้จากสีของเซรั่มเลยจ้า อันนี้ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ ด้วยคุณสมบัติของทานาคาอยู่แล้ว เขาบอกว่าให้ทาทั้งหน้าและลำคอ ได้หน้าอย่าลืมคอนะจ๊ะ
ขนาด 30 ml. ราคา 380 บาท (ซื้อแพคคู่690 บาท ถูกมากกกก)
หาซื้อ/ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ งานแสดงสินค้าบริเวณจังหวัดประจอบคีรีขันธ์ (เราซื้อมาจากที่หัวหิน) หรืองานแสดงสินค้า OTOP/SME , Facebook : WOODS herb
3. Aloe Hydrating Gel เซรั่มว่านหางจระเข้SM สยามมินตรา
ต่อกันที่เซรั่มอีกแล้วครับท่าน! เพราะเราต้องการความชุ่มชื้นแบบขั้นสุด เซรั่มตัวนี้ได้มาพร้อม ๆ กับตัวที่แล้ว ตอบโจทย์กันคนละอย่าง มีความว้าว!อีกเหมือนกัน เพราะว่าเป็น “ว่านหางจระเข้ออแกนิก” และเขามีฟาร์มว่านหางจระเข้ออแกนิกเป็นของตัวเองจ้า
จริงๆ ประเทศไทยเราส่งออกว่านหางจระเข้เพื่อผลิตเป็นเครื่องสำอางเยอะมาก มีที่ผลิตในประเทศเองก็มี คุณภาพและราคาก็แตกต่างกันไป
มีเคล็ดลับความงามของคุณพ่อ(ของเพื่อน) ท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ ท่านใช้ว่านหางจระเข้สดทาบนหน้า(สมัยนั้นไม่มีสกินแคร์) จนถึงเดี๋ยวนี้ยังใช้อยู่... ตอนนี้หน้าหนูจะทันพ่อแล้วค่ะ
(-__-“) เราเลยลองบ้าง หยิบว่านหางจระเข้มา ปาดๆเอาเปลือกเขียว ๆ ออก ใช้แค่เนื้อใส ๆ ข้างใน..ผลคือ “คันค่ะ” เลิก!ในเปลือกว่านหางจระเข้จะมียางอยู่ ถ้าปาดสีเขียวออกแล้วทิ้งไว้สักพักจะเห็นยางสีเหลืองๆ อันนั้นต้องล้างออกให้หมดค่ะ ไม่งั้นคัน และแพ้แน่นอน!
คุณสมบัติ : จริง ๆ ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะออกแดดมา Aftersunต้องโบกว่านหางจระเข้แบบรัวๆ เพราะว่านหางจระเข้รักษาอาการปวด แสบร้อน สมานแผลและป้องกันการเกิดแผลเป็น(แผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกให้ใช้ว่านหางจระเข้สดประคบตลอด 2 วันแรก แผลจะหายเร็ว) ถ้าใช้ก่อนออกแดดจะช่วยป้องกันแสงแดดได้ถ้านำมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกจะช่วยบรรเทาผิวแสบร้อนและลดอาการแห้งตึงของผิวได้ดี
ความรู้สึกขณะใช้ :เนื้อเซรั่มเป็นเจลสีขาว สีเหมือนเนื้อของว่านหางจระเข้จริงๆ ถ้าใครเคยใช้ว่านหางจระเข้สดๆ จะเห็นว่าเนื้อจะมีสีขาวๆ ใส ๆ กลิ่นก็เป็นกลิ่นของว่านหางจระเข้ ไม่ได้ใส่น้ำหอมแต่งสีแต่งกลิ่นเลย เนื้อเซรั่มมีความข้นและคงรูปได้มากกว่าเจลทั่วไป ที่สำคัญคือซึมเร็วมาก! ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง
ปล.ควรใช้ให้หมดก่อนหมดอายุนะจ๊ะ เค้าบูดได้นะเธอ
ขนาด 30 ml. ราคา 350 บาท (คุ้มจริง)
หาซื้อ/ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ งานแสดงสินค้าบริเวณจังหวัดประจอบคีรีขันธ์ (เราซื้อมาจากที่หัวหิน) หรืองานแสดงสินค้า OTOP/SME , Facebook : Siammintra Aloe Vera
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้