วันนี้เราไปเดินห้างน้อมจิตชั้น 2 โซนขายมือถือ/ซ่อมมือถือ(แถวบางกะปิ)
พอดีว่าเราจะไปหาซื้อหูฟังบลูทูธไร้สายสักอันหนึ่งเพื่อเอามาใช้ฟังเพลงตอนออกกำลังกายค่ะ
วันนี้เราเดินไปร้านขาย/ซ่อมมือถือร้านหนึ่งที่อยู่ตรงกลางโซนมือถือ และร้านนี้จะอยู่ตรง 3 แยกพอดี
หน้าร้านจะเป็นมุมโค้งรับมุมกับ 3 แยกพอดี มีพนักงานผู้หญิงอยู่ 3 คนค่ะ
ผู้หญิงคนแรกดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่ ส่วนคนที่ 2 เป็นคนขายที่พูดเก่งมากๆ ส่วนคนที่ 3 ดูลักษณะเหมือนเป็นรุ่นน้องมาใหม่ที่คอยหยิบมือถือให้รุ่นพี่
เข้าเรื่องกันเลยค่ะ
เราเดินตรงไปที่ร้านร้านนี้เลยเพราะดู"เหมือนจะน่าเชื่อถือดี"
จากนั้นเราก็บอกพนักงานหญิงคนขายว่า...
ขอพิมพ์เป็นบทสนทนานะคะ
เรา:- พี่คะ มีหูฟังบลูทูธไร้สายไหมคะ พอดีจะซื้อไปฟังเพลงออกกำลังกายค่ะ"
พนักงาน:- มีค่ะ(แล้วหยิบหูฟังไร้สายที่เรียนแบบลักษณะหูฟังไอโฟนมาให้ )
พนักงาน:- น้องลองทดสอบดูก่อนได้นะ รุ่นนี้เสียงดีมากๆราคา 590บาท อ่ะๆพี่แกะให้ลองนะ
เรา:- (เรายังไม่ทันตอบตกลง พนักงานก็ทำการแกะกล่องแล้ว แต่ใจลึกๆเราไม่อยากได้แบบนี้ แต่เราอยากได้แบบที่มีที่คล้องหูด้วย)
จากนั้นเราเลยบอกพนักงานว่า...พี่คะหนูไม่อยากได้ลักษณะนี้ แต่หนูอยากได้แบบที่มีที่คล้องหูด้วยอ่ะค่ะ
พนักงาน:- แบบคล้องหูมันไม่ค่อยดีหรอก.. น้องลองอันนี้ก่อน
เรา:- เอิ่มม...โ อ เ ค ค่ะ (ลองแบบ งงๆ) พอเราลองปุ๊บเราก็ไม่ชอบนั้นแหละ เพราะมันไม่มีสายคล้องหู เวลาเราหันหน้าไปๆมาๆมันก็เหมือนจะหลุดออกจากหู เราเลยตัดสินใจบอกพนักงานว่า..อ่อพี่คะ หนูอยากได้อีกแบบนึงค่ะ เดียวหนูไปดูร้านอื่นก่อนนะ ขอบคุณค่ะ
แต่พนักงานก็ไม่ยอมปล่อยเรา แล้วคนขายก็พูดว่า..เดียวพี่ให้น้องไปหารุ่นนั้นให้ รอแป๊ปนึงนะ
จากนั้นเราก็รู้สึก..
เฮ้ยยทำไมดีจังว่ะ เล่นวิ่งไปหาของให้เราเลย ดีเลย..เราจะได้ไม่เสียเวลาเดินหาเอง
สักพักพนักงานรุ่นน้องก็วิ่งกลับมาพร้อมหูฟังไร้สายที่มีลักษณะคล้ายๆกับแบบที่เราตามหา(แต่มันก็ยังไม่ใช่รุ้นนั้นค่ะ)
แล้วคนขายก็พูดว่า...
พนักงาน:- อ่ะ อันนี้เหมือนอันที่น้องตามหาเลยไหม? จะลองดูก่อนไหม?
เรา:- (เราเห็นมันเป็นแท่งยาวๆสีดำใหญ่ๆ เราเลยคิดในใจว่ามันจะไหวหรอ??แค่วิ่งคงหลุดออกจากหูแล้วมั้ง)
แต่เราก็ตอบกลับพนักงานไปว่า.. อันนี้มันคล้ายๆกัน แต่มันไม่ใช่รุ่นที่ตามหาค่ะ(แล้วเราก็เปิดรูปอันที่เราตามหาให้เค้าดู)
พนักงาน:- (ทำสีหน้าเริ่มไม่พอใจ)แล้วพูดเสียงเบาๆว่า ก็เหมือนกันนั้นแหละ
ลองได้นะ เดียวพี่แกะให้ลองนะ...
จากนั้นพอเราเลยลองดู แต่พอลองปุ๊บ..โอ๊โหยยสายคล้องหูไม่ได้เลยเพราะที่คล้องหูมันใหญ่เกิน แล้วเสียงก็แตกดังแซ่ๆๆๆ
เราเลยบอกเค้าว่า..
.มันใหญ่เกินอ่ะค่ะพี่ งั้นเดียวหนูขอเดินดูร้านอื่นก่อนแล้วจะแวะมาร้านนี้ใหม่นะคะ
>>จากนั้นก็เกิดเรื่องตามบทสนทนาต่อไปนี้เลยจ้าา<<
พนง: เดี๋ยวก่อนน้อง พี่แกะกล่องนี้แล้วอ่ะ จะให้พี่ทำไง?
เรา: (เราทำหน้า งง แล้วพูดว่า) อ้าว พี่พูดงี้หมายความว่าไงคะ?
พนง: ก็พี่แกะกล่องนี้ให้น้องลองแล้ว พี่จะเอาไปขายให้คนอื่นไม่ได้แล้ว
เรา: ห๊ะ!! ก็ตอนแรกพี่บอกว่าลองก่อนได้นิคะ แล้วตอนนี้คือจะบังคับให้หนูซื้ออันนี้หรอ????
พนง: ก็พี่แกะกล่องนี้แล้วอ่ะ (พูดแบบหน้าลอยๆ)
เรา: อ้าวพี่พูดแบบนี้ได้ไง อันนี้มันใหญ่ ใส่หูหนูไม่ได้ แล้วพี่จะมายัดเยียดให้หนูซื้อทำไม?
พนง: ก็ตอนแรกพี่ถามว่า จะแกะให้ลองนะ เนี้ยพี่แกะแล้วทำไมไม่ซื้อละ?
เรา: เห้ยย ตอนแรกพี่ไม่ได้แจ้งเลยว่าถ้าแกะกล่องนี้ลองแล้วต้องซื้อเลย เพราะถ้าพี่แจ้งหนูตั้งแต่แรกหนูคงไม่ให้พี่แกะหรอกนะ(เราเริ่มขึ้นเสียง ร้านข้างๆเริ่มมองหน้า ตอนนั้นเราเถียงสุดใจเพราะเราก็ไม่ยอม อยู่ดีๆจะมายัดเยียดให้ซื้อแบบนี้ได้ไง)
พอเราเริ่มพูดเสียงดังเถียง คนขายก็เริ่มทำท่างึกๆงักๆแบบกล้าๆกลัวๆเรา
แล้วคนขายคนนี้ก็ใช้แผนสองอ้างว่าของที่เอามาให้เราลองมันเป็นของร้านอื่น ถ้าแกะแล้วไม่ซื้อมันเอาไปเครมไม่ได้
จากนั้นเราเลยส่วนกลับไปว่า...อ้าว แล้วอันแรกที่พี่ให้หนูลองก็เป็นของร้านอื่นไม่ใช่หรอ แล้วทำไมพี่ไม่โวยวายอ่ะ (คือว่าอันแรกที่เราลอง เราเห็นเค้าวิ่งไปเอาที่ร้านอื่นมาค่ะ)
จากนั้นคนขายก็หน้าถอดสีไปเลย แต่เค้าก็ยังแถอีกว่า..อันแรกมันของร้านพี่(ของร้านพี่เชี้ยอะไร ตรูเห็นวิ่งไปเอาร้านอื่นมา)
จากนั้นเราก็ไม่ยอมค่ะ เรายืนเถียงอยู่ตรงนั้นแหละ จะบ้าเปล่าจู่ๆจะมายัดเยียดให้เราซื้อหูฟัง 890 บาท!!! ใหญ่ก็ใหญ่ เสียงก็แตก!!
หลังจากนั้นคนที่เป็นรุ่นพี่ที่สุดในร้านคงเห็นท่าเราไม่ยอมเค้าแน่ๆ เค้าเลยหันไปบอกคนขายว่า"
ปล่อยเค้าไปเถอะ ช่างมันเถอะ"
พอรุ่นพี่ของคนขายพูดคำนี้ออกมา เราก็ยิ่งแปลกใจไปใหญ่กับคำพูดที่ว่า..."ปล่อยเค้าไปเถอะ" ตอนนั้นเรารู้เลยว่าตรูโดนแล้วแน่ๆ(ยังกะแก๊งมิจฉาชีพ)
ตอนนั้นใจหนึ่งก็อยากจะเดินออกไปเลย แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่กล้าทำแบบนั้นเพราะถ้าทำแบบนั้นเดียวเค้าจะไปกล่าวหาและอ้างกับคนอื่นอีกว่าเราทำไม่ดีกับที่ร้าน บลาๆ เราเลยเลือกยืนเถียงให้เรื่องมันจบไปเลยดีว่า
แล้วจากนั้นรุ่นน้อง(คนหยิบโทรศัพย์)ก็วิ่งเอาหูฟังตัวปัญหาหายไปที่ร้านไหนสักที่ แล้ววิ่งกลับมาบอกคนขายว่า..ร้านเค้ารับเครมนะพี่!!
พอเราได้ยินคำนี้เราก็เดินสะบัดบ๊อบออกมาแล้วส่ายหัวทันที
แต่วินาทีก่อนที่เราจะเดินสะบัดบ๊อบออกมา เราก็หันไปมองหน้าคนขายไปแว๊บนึง อิคนขาย

หน้าถอดสีแล้วเงียบไปเลยตอนนั้น
อารมณ์คงจะประมาณว่า..อยากจะยัดเยียดขายเราให้ได้ แต่อิพวกลูกน้องดันไม่สามัคคีเป็นใจไง
นี้แหละ เลยอยากจะมาเตือนทุกๆคน..ใครที่อยากไปซ่อม/ซื้อมือถือที่ห้างน้อมจิตก็ควรเลือกร้านและคิดให้ดีๆ
หรือไม่ก็ไปซื้อที่ศูนย์เลยคงจะดีกว่าค่ะ
วันนี้เราไม่รู้นะว่าคนอื่นจะคิดยังไง แต่เราคิดว่าสิ่งที่เค้าทำมันไม่ถูกต้องเลยเพราะเค้าพยายามจะยัดให้เราซื้อของทั้งๆที่เราไม่เอา
ตั้งแต่เกิดมาเราพึ่งเจอครั้งแรกในชีวิตเลย เราโคตรเสียความรู้สึกเลยค่ะ
ยังไงก็ฝากเตือนทุกคนให้ระวังด้วยนะคะ
เตือนภัย!! ร้านซ่อมมือถือ น้อมจิตชั้น 2 บางกะปิ
พอดีว่าเราจะไปหาซื้อหูฟังบลูทูธไร้สายสักอันหนึ่งเพื่อเอามาใช้ฟังเพลงตอนออกกำลังกายค่ะ
วันนี้เราเดินไปร้านขาย/ซ่อมมือถือร้านหนึ่งที่อยู่ตรงกลางโซนมือถือ และร้านนี้จะอยู่ตรง 3 แยกพอดี
หน้าร้านจะเป็นมุมโค้งรับมุมกับ 3 แยกพอดี มีพนักงานผู้หญิงอยู่ 3 คนค่ะ
ผู้หญิงคนแรกดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่ ส่วนคนที่ 2 เป็นคนขายที่พูดเก่งมากๆ ส่วนคนที่ 3 ดูลักษณะเหมือนเป็นรุ่นน้องมาใหม่ที่คอยหยิบมือถือให้รุ่นพี่
เข้าเรื่องกันเลยค่ะ
เราเดินตรงไปที่ร้านร้านนี้เลยเพราะดู"เหมือนจะน่าเชื่อถือดี"
จากนั้นเราก็บอกพนักงานหญิงคนขายว่า...
ขอพิมพ์เป็นบทสนทนานะคะ
เรา:- พี่คะ มีหูฟังบลูทูธไร้สายไหมคะ พอดีจะซื้อไปฟังเพลงออกกำลังกายค่ะ"
พนักงาน:- มีค่ะ(แล้วหยิบหูฟังไร้สายที่เรียนแบบลักษณะหูฟังไอโฟนมาให้ )
พนักงาน:- น้องลองทดสอบดูก่อนได้นะ รุ่นนี้เสียงดีมากๆราคา 590บาท อ่ะๆพี่แกะให้ลองนะ
เรา:- (เรายังไม่ทันตอบตกลง พนักงานก็ทำการแกะกล่องแล้ว แต่ใจลึกๆเราไม่อยากได้แบบนี้ แต่เราอยากได้แบบที่มีที่คล้องหูด้วย)
จากนั้นเราเลยบอกพนักงานว่า...พี่คะหนูไม่อยากได้ลักษณะนี้ แต่หนูอยากได้แบบที่มีที่คล้องหูด้วยอ่ะค่ะ
พนักงาน:- แบบคล้องหูมันไม่ค่อยดีหรอก.. น้องลองอันนี้ก่อน
เรา:- เอิ่มม...โ อ เ ค ค่ะ (ลองแบบ งงๆ) พอเราลองปุ๊บเราก็ไม่ชอบนั้นแหละ เพราะมันไม่มีสายคล้องหู เวลาเราหันหน้าไปๆมาๆมันก็เหมือนจะหลุดออกจากหู เราเลยตัดสินใจบอกพนักงานว่า..อ่อพี่คะ หนูอยากได้อีกแบบนึงค่ะ เดียวหนูไปดูร้านอื่นก่อนนะ ขอบคุณค่ะ
แต่พนักงานก็ไม่ยอมปล่อยเรา แล้วคนขายก็พูดว่า..เดียวพี่ให้น้องไปหารุ่นนั้นให้ รอแป๊ปนึงนะ
จากนั้นเราก็รู้สึก..เฮ้ยยทำไมดีจังว่ะ เล่นวิ่งไปหาของให้เราเลย ดีเลย..เราจะได้ไม่เสียเวลาเดินหาเอง
สักพักพนักงานรุ่นน้องก็วิ่งกลับมาพร้อมหูฟังไร้สายที่มีลักษณะคล้ายๆกับแบบที่เราตามหา(แต่มันก็ยังไม่ใช่รุ้นนั้นค่ะ)
แล้วคนขายก็พูดว่า...
พนักงาน:- อ่ะ อันนี้เหมือนอันที่น้องตามหาเลยไหม? จะลองดูก่อนไหม?
เรา:- (เราเห็นมันเป็นแท่งยาวๆสีดำใหญ่ๆ เราเลยคิดในใจว่ามันจะไหวหรอ??แค่วิ่งคงหลุดออกจากหูแล้วมั้ง)
แต่เราก็ตอบกลับพนักงานไปว่า.. อันนี้มันคล้ายๆกัน แต่มันไม่ใช่รุ่นที่ตามหาค่ะ(แล้วเราก็เปิดรูปอันที่เราตามหาให้เค้าดู)
พนักงาน:- (ทำสีหน้าเริ่มไม่พอใจ)แล้วพูดเสียงเบาๆว่า ก็เหมือนกันนั้นแหละ ลองได้นะ เดียวพี่แกะให้ลองนะ...
จากนั้นพอเราเลยลองดู แต่พอลองปุ๊บ..โอ๊โหยยสายคล้องหูไม่ได้เลยเพราะที่คล้องหูมันใหญ่เกิน แล้วเสียงก็แตกดังแซ่ๆๆๆ
เราเลยบอกเค้าว่า...มันใหญ่เกินอ่ะค่ะพี่ งั้นเดียวหนูขอเดินดูร้านอื่นก่อนแล้วจะแวะมาร้านนี้ใหม่นะคะ
>>จากนั้นก็เกิดเรื่องตามบทสนทนาต่อไปนี้เลยจ้าา<<
พนง: เดี๋ยวก่อนน้อง พี่แกะกล่องนี้แล้วอ่ะ จะให้พี่ทำไง?
เรา: (เราทำหน้า งง แล้วพูดว่า) อ้าว พี่พูดงี้หมายความว่าไงคะ?
พนง: ก็พี่แกะกล่องนี้ให้น้องลองแล้ว พี่จะเอาไปขายให้คนอื่นไม่ได้แล้ว
เรา: ห๊ะ!! ก็ตอนแรกพี่บอกว่าลองก่อนได้นิคะ แล้วตอนนี้คือจะบังคับให้หนูซื้ออันนี้หรอ????
พนง: ก็พี่แกะกล่องนี้แล้วอ่ะ (พูดแบบหน้าลอยๆ)
เรา: อ้าวพี่พูดแบบนี้ได้ไง อันนี้มันใหญ่ ใส่หูหนูไม่ได้ แล้วพี่จะมายัดเยียดให้หนูซื้อทำไม?
พนง: ก็ตอนแรกพี่ถามว่า จะแกะให้ลองนะ เนี้ยพี่แกะแล้วทำไมไม่ซื้อละ?
เรา: เห้ยย ตอนแรกพี่ไม่ได้แจ้งเลยว่าถ้าแกะกล่องนี้ลองแล้วต้องซื้อเลย เพราะถ้าพี่แจ้งหนูตั้งแต่แรกหนูคงไม่ให้พี่แกะหรอกนะ(เราเริ่มขึ้นเสียง ร้านข้างๆเริ่มมองหน้า ตอนนั้นเราเถียงสุดใจเพราะเราก็ไม่ยอม อยู่ดีๆจะมายัดเยียดให้ซื้อแบบนี้ได้ไง)
พอเราเริ่มพูดเสียงดังเถียง คนขายก็เริ่มทำท่างึกๆงักๆแบบกล้าๆกลัวๆเรา
แล้วคนขายคนนี้ก็ใช้แผนสองอ้างว่าของที่เอามาให้เราลองมันเป็นของร้านอื่น ถ้าแกะแล้วไม่ซื้อมันเอาไปเครมไม่ได้
จากนั้นเราเลยส่วนกลับไปว่า...อ้าว แล้วอันแรกที่พี่ให้หนูลองก็เป็นของร้านอื่นไม่ใช่หรอ แล้วทำไมพี่ไม่โวยวายอ่ะ (คือว่าอันแรกที่เราลอง เราเห็นเค้าวิ่งไปเอาที่ร้านอื่นมาค่ะ)
จากนั้นคนขายก็หน้าถอดสีไปเลย แต่เค้าก็ยังแถอีกว่า..อันแรกมันของร้านพี่(ของร้านพี่เชี้ยอะไร ตรูเห็นวิ่งไปเอาร้านอื่นมา)
จากนั้นเราก็ไม่ยอมค่ะ เรายืนเถียงอยู่ตรงนั้นแหละ จะบ้าเปล่าจู่ๆจะมายัดเยียดให้เราซื้อหูฟัง 890 บาท!!! ใหญ่ก็ใหญ่ เสียงก็แตก!!
หลังจากนั้นคนที่เป็นรุ่นพี่ที่สุดในร้านคงเห็นท่าเราไม่ยอมเค้าแน่ๆ เค้าเลยหันไปบอกคนขายว่า"ปล่อยเค้าไปเถอะ ช่างมันเถอะ"
พอรุ่นพี่ของคนขายพูดคำนี้ออกมา เราก็ยิ่งแปลกใจไปใหญ่กับคำพูดที่ว่า..."ปล่อยเค้าไปเถอะ" ตอนนั้นเรารู้เลยว่าตรูโดนแล้วแน่ๆ(ยังกะแก๊งมิจฉาชีพ)
ตอนนั้นใจหนึ่งก็อยากจะเดินออกไปเลย แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่กล้าทำแบบนั้นเพราะถ้าทำแบบนั้นเดียวเค้าจะไปกล่าวหาและอ้างกับคนอื่นอีกว่าเราทำไม่ดีกับที่ร้าน บลาๆ เราเลยเลือกยืนเถียงให้เรื่องมันจบไปเลยดีว่า
แล้วจากนั้นรุ่นน้อง(คนหยิบโทรศัพย์)ก็วิ่งเอาหูฟังตัวปัญหาหายไปที่ร้านไหนสักที่ แล้ววิ่งกลับมาบอกคนขายว่า..ร้านเค้ารับเครมนะพี่!!
พอเราได้ยินคำนี้เราก็เดินสะบัดบ๊อบออกมาแล้วส่ายหัวทันที
แต่วินาทีก่อนที่เราจะเดินสะบัดบ๊อบออกมา เราก็หันไปมองหน้าคนขายไปแว๊บนึง อิคนขาย
อารมณ์คงจะประมาณว่า..อยากจะยัดเยียดขายเราให้ได้ แต่อิพวกลูกน้องดันไม่สามัคคีเป็นใจไง
นี้แหละ เลยอยากจะมาเตือนทุกๆคน..ใครที่อยากไปซ่อม/ซื้อมือถือที่ห้างน้อมจิตก็ควรเลือกร้านและคิดให้ดีๆ
หรือไม่ก็ไปซื้อที่ศูนย์เลยคงจะดีกว่าค่ะ
วันนี้เราไม่รู้นะว่าคนอื่นจะคิดยังไง แต่เราคิดว่าสิ่งที่เค้าทำมันไม่ถูกต้องเลยเพราะเค้าพยายามจะยัดให้เราซื้อของทั้งๆที่เราไม่เอา
ตั้งแต่เกิดมาเราพึ่งเจอครั้งแรกในชีวิตเลย เราโคตรเสียความรู้สึกเลยค่ะ
ยังไงก็ฝากเตือนทุกคนให้ระวังด้วยนะคะ