กับดัก FIFO ( สำหรับนักลงทุนมือใหม่ )

FIFO ย่อมาจาก    FIRST  IN  FIRST  OUT  (  มาก่อน ขายก่อน  )

                    การซื้อขายหุ้นบริษัทหนึ่ง  โดยมีการทำรายการซื้อๆ ขายๆ หลายครั้ง  จะมีผลต่อ  ราคาต้นทุนเฉลี่ย  ทุกครั้ง  ที่หุ้นตัวนั้นมีการเปลี่ยนแปลง

และจะมีผลทำให้นักลงทุนมือใหม่  เข้าใจผิดๆ กับราคาต้นทุนการขายได้  (  หากแบ่งขายหุ้น  )   ถ้าขายหุ้นทิ้งทั้งหมดในบริษัทนั้น  ระบบ FIFO จะไม่มี

ผลกระทบใดๆ  เพราะจะทำให้เรารู้กำไรหรือขาดทุนชัดเจน   การแบ่งขายออกเป็นช่วงๆ  อันนี้แหล่ะที่ระบบ FIFO จะมาหลอกหลอน มือใหม่ ได้


                    ซึ่งครั้งหนึ่งผมก็เคยเป็น  ผมซื้อหุ้นบริษัทหนึ่ง หลายไม้มาก  เป็นเพราะมือใหม่  ลงไม้แรก ( ดอย ) ไม้สอง ( ดอย )  ถัวอีก ไม้สาม สี่ ห้า

( ก็ยัง ดอย อยู่ดี )   ถัวจนท้อ   ดีที่ว่าหุ้นบริษัทที่เลือก มีปันผลจ่ายให้  คำนวณเงินปันผลที่ได้รับ กับ ดอกเบี้ยเงินฝากระจำต่อปี  เงินปันผลที่ได้ยังสูงกว่า

เลยมีข้อแก้ตัวบอกภรรยาว่า  " เห็นไหมที่รัก เล่นหุ้นได้ผลตอบแทนดีกว่าฝากแบงก์  เยอะเลย "    แต่ในใจกล้ำกลืนขื่นขม ทำไมหนาวเหน็บเยี่ยงนี้

                    และแล้วหุ้นบริษัทนี้ ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง  ราคาวิ่งขึ้นกลับมาสูงกว่า ราคาต้นทุนถัวเฉลี่ย ของผม  ขายซิครับ  รออะไร  มีรถมารับแล้ว

เอ๊ะ !  แบ่งขายดีกว่า   ดูแล้วมันน่าจะขึ้นไปอีก

                    แบ่งขายทำกำไรไปส่วนหนึ่ง  กำไรแล้ว  แต่ที่ไหนได้  ขาดทุนครับ  เพราะราคาที่ขาย ต่ำกว่า ต้นทุนไม้แรก  ของผม

                    เลยต้องโทรถามมาร์ฯ   มาร์ฯตอบว่า " ระบบคำนวณวิธี  FIFO ค่ะ คุณลูกค้า "  หล่อนพูดกับผมแค่นี้จริงๆ   พอดีผมมีความรู้ในระบบ FIFO

อยู่บ้างเลยมานั่งคำนวณดู  ถึงได้ร้องอ๋อ  มันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง


                    มาวันนี้ตัดสินใจ นำความรู้ที่มีมานำเสนอ  หากมีผู้ใดรู้มากกว่า  ช่วยเสริมเพิ่มเติมด้วยครับ   ที่ลังเลเพราะไม่มั่นใจ  กลัวว่าสิ่งที่เรารู้ มันผิด

คนที่มาอ่าน จะเอาความรู้ที่ผิดๆ ไปใช้  จะยิ่งเป็นผลเสียหายมากกว่า    วันนี้พิจารณาแล้วว่าความรู้ระบบ FIFO ที่ถูก  มีเปอร์เซ็นต์ใช่มากกว่า

( แล้วมันใช่กี่ เปอร์เซ็นต์ ล่ะ )   ลองอ่านต่อครับ  แล้วเอา เครื่องคิดเลข  มากด คำนวณตามทุกครั้ง จะทำให้เข้าใจ แบบที่ผมเข้าใจ   ได้ง่ายขึ้น



                    ตัวอย่างข้างล่างเป็นเรื่อง สมมุติ     ชื่อบุคคล  ชื่อหุ้น  ราคาหุ้น  สมมุติขึ้นมาทั้งนั้น  ราคา ซื้อ  ขาย  คำนวณโดยไม่คิดค่าคอมฯ และภาษี

เพื่อง่ายในการคำนวณ และจะได้ไม่งง  ( โดยเฉพาะตัวผม )


                    นายตุ๊ดตู่   มีเงินเย็นอยากนำมาลงทุนในหุ้นจำนวน สองล้านบาท       ไม่มีความรู้ด้านการเล่นหุ้นมาก่อน  ไม่มีความรู้ทางด้านบัญชี  หรือ

การบริหารจัดการ ใดๆทั้งสิ้น แต่เห็นเพื่อนๆ เล่นหุ้น   เลยสนใจอยากลองเล่นหุ้นกับเขาบ้าง  โดยหาความรู้ระดับหนึ่งแล้วจากพันทิป  ในห้องสินธร

และตาม YouTube  มั่นใจระดับนึง ว่า  น่าจะเอาตัวรอดได้  ยากที่ไหนกัน  ซื้อถูก ขายแพง      หาหุ้นบริษัทดีๆมีชื่อเสียง    มีจ่ายปันผล    

ไม่ขายขาดทุน       แค่เนี๊ยะเอง  ง่ายจะตาย


                    นายตุ๊ดตู่  ซื้อหุ้นครั้งแรก  โดยเลือกลงทุนกับหุ้นเสือ  ( เสือ คือ ชื่อหุ้น ) เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่  มีปันผลสม่ำเสมอ  ถึงแม้ราคาต่อหน่วยจะ

แพง       แต่ก็คุ้มค่าน่าลงทุน  พอที่จะฝากผีฝากไข้ได้  ในความคิดของตุ๊ดตู่  

                    โดยซื้อครั้งแรก  ที่ราคา 520 บาท จำนวน 500 หุ้น  ( ไม้แรก )

วันต่อมาหุ้นเสือลงอีก ซื้อเพิ่มที่ราคา 510 บาท จำนวน 500 หุ้น ( ไม้สอง )

วันต่อมาหุ้นเสือลงอีก ถัวเพิ่มอีกที่ราค 500 บาท จำนวน 1,000 หุ้น ( ไม้สาม )

อาทิตย์ถัดมาหุ้นเสือลงต่อ ถัวมันอีกที่ราคา 480 บาท จำนวน 2,000 หุ้น ( ไม้สี่ )

                    มาคำนวณกัน  หยิบเครื่องคิดเลขครับ

ตาราง 1

  ลำดับ               จำนวน ( หุ้น )       ราคาซื้อต่อหน่วย ( บาท )   จำนวนเงินที่ซื้อ ( บาท )  ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย ( บาท )   มีหุ้นที่สามารถขาย ( หุ้น )
ไม้แรก                500                     520                                  260,000                       520                                       500
ไม้สอง                500                     510                                  255,000                       515                                       1,000       
ไม้สาม                1,000                  500                                  500,000                       507.50                                  2,000                               
ไม้สี่                    2,000                  480                                  960,000                       493.75                                  4,000         
ตาราง  1 จะเอามาอ้างอิงในครั้งต่อๆ ไป  ครับ                            

          ราคาไม้แรก ราคาซื้อ กับ ราคาต้นทุนเฉลี่ย เท่ากัน เพราะเริ่มซื้อครั้งแรก ราคาต้นทุนเฉลี่ย 520 บาท /หุ้น

          ราคาไม้สอง ราคาซื้อ 510 บาท /หุ้น  แต่ราคาต้นทุนเฉลี่ยเปลี่ยนเป็น 515 บาท /หุ้น             มาจาก 
ไม้แรก   500 หุ้น  คูณ  520 บาท  =  260,000 บาท
ไม้สอง  500 หุ้น  คูณ  510 บาท  =  255,000 บาท
รวมเป็นเงิน                                =   515,000 บาท
ไม้แรกกับไม้สอง มีหุ้นรวมกัน 1,000 หุ้น    เอามาหาร จำนวนเงินที่ซื้อทั้งสองไม้  ได้ต้นทุนเฉลี่ย 515 บาท /หุ้น
515,000 บาท   หาร  1,000 หุ้น = 515 บาท/หุ้น

          ราคาไม้สาม ราคาซื้อ 500 บาท /หุ้น  แต่ราคาต้นทุนเฉลี่ยเปลี่ยนเป็น 507.50 บาท /หุ้น           มาจาก
ไม้แรก  500 หุ้น  คูณ  520 บาท  =    260,000 บาท
ไม้สอง  500 หุ้น  คูณ  510 บาท  =    255,000 บาท
ไม้สาม 1,000 หุ้น คูณ  500 บาท =    500,000 บาท
รวมเป็นเงิน                                =  1,015,000 บาท
ไม้แรก บวก ไม้สอง บวก ไม้สาม มีหุ้นรวม 2,000 หุ้น   เอามาหาร จำนวนเงินที่ซื้อทั้งสามไม้  ได้ต้นทุนเฉลี่ย 507.50 บาท /หุ้น
1,015,000 บาท  หาร  2,000 หุ้น = 507.50 บาท /หุ้น

          ราคาไม้สี่ ราคาซื้อ 480 บาท /หุ้น  แต่ราคาต้นทุนเฉลี่ยเปลี่ยนเป็น 493.75 บาท /หุ้น          มาจาก
ไม้แรก  500 หุ้น  คูณ  520 บาท =    260,000 บาท
ไม้สอง  500 หุ้น  คูณ  510 บาท =    255,000 บาท
ไม้สาม 1,000 หุ้น คูณ 500 บาท =    500,000 บาท
ไม้สี่     2,000 หุ้น คูณ 480 บาท =    960,000 บาท
รวมเป็นเงิน                               = 1,975,000 บาท
ไม้แรก บวก ไม้สอง บวก ไม้สาม บวก ไม้สี่ มีหุ้นรวม 4,000 หุ้น  เอามาหาร จำนวนเงินที่ซื้อทั้งสี่ไม้ ได้ต้นทุนเฉลี่ย 493.75 บาท /หุ้น
1,975,000 บาท  หาร  4,000 หุ้น = 493.75 บาท /หุ้น


ทีนี้เราก็รู้แล้วว่านายตุ๊ดตู่ มีหุ้นเสือ ทั้งหมด 4,000 หุ้น ราคาต้นทุนเฉลี่ย 493.75 บาท /หุ้น      ใช้เงินไป 1,975,000 บาท
เหลือเงินสดติดพอร์ท 25,000 บาท  ( จากเงินลงทุน  สองล้าน )


อ่านนิยายต่อ

                    หุ้นพี่เสือก็ยังคงตกลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากปัจจัยภายใน บริษัท และ บริษัทลูกๆ หลานๆ มีผลประกอบการต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่เป็นไปตามคาด

ปัจจัยภายนอก  สงครามการค้า , พี่น้องทะเลาะกันเพราะไม่อยากอยู่ในความคุ้มครองของพี่ อยากเป็นอิสระ  , ดังแล้วอยากแยกวงแต่มีเงื่อนไข รุมเร้า ฯลฯ

ทำให้ราคาหุ้นพี่เสือถูกเทกระหน่ำ     ตุ๊ดตู่ เคยอ่านเจอ ในห้องสินธร  แนะนำ คนติดดอยว่า  ปิดจอไม่ต้องดูหุ้น  ไปเที่ยว หรือ หางานอดิเรกอย่างอื่นทำ

มีหุ้นในบริษัทที่ดี กลัวอะไร  เดี่ยวราคามันก็กลับมา    ราคาขึ้นลง  เราไม่สามารถกำหนดได้   แต่ตอนราคาขึ้นลง เราจะทำอะไรกับหุ้นในมือเราต่างหาก


นิยายยังไม่จบครับ   ยังไม่ได้คำนวณการขายแบบ FIFO ให้ดูเลย




         
                  
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่