เงินมัดจำค่าเช่าหอ จริงๆแล้วคือเงินมัดจำหรือเงินมัดมือ ?

ขออนุญาต แก้ไขหัวข้อกะทู้นะคะ จริงๆเป็น เงินประกันค่ะ ไม่ใช่ เงินมัดจำ
สวัสดีค่ะ 
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่านี่เป็นกะทู้แรกของเรานะคะ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขอภัยไว้ล่วงหน้า ยาวนิดหนึ่งนะคะ ^^"

กะทู้นี้เกิดขึ้นจากการที่เราความสงสัยของเราค่ะ เนื่องจากไปเช่าที่อพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง ใกล้ๆกับโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ย่านปิ่นเกล้า ขนาดห้องประมาณ 20-25 ตร.ม. ได้ค่ะ แล้วย้ายออกมาค่ะ ซึ่งเงินมัดจำที่จ่ายไปก่อนเข้าอยู่เป็นจำนวนเงิน 8800 บาท ผู้ให้เช่าตกลงว่าจะคืนให้หลังจากที่ออกจากหอมาแล้ว 7 วันค่ะ พอถึงเวลาโอนเงินมัดจำคืนปรากฏว่าผู้ให้เช่าคิดเงินมัดจำเป็นจำนวนเงิน 8000 บาท (คืออันนี้เราเพิ่งมาสังเกตค่ะ เนื่องจากเค้าแจ้งมาตอนที่เราอยู่ที่ทำงาน เราเลยมาดูสัญญาย้อนหลังหลังจากที่ได้เกิดการสนทนาที่จะเล่าต่อไปนี้ขึ้นแล้ว และตอนนี้เราก็ยังไม่ได้แจ้งเค้าตรงนี้ค่ะ เพราะคิดว่าจะหาคนกลางมาจัดการ ไม่อยากคุยกับคนลักษณะนี้แล้วค่ะ TT) และหักค่าอุปกรณ์ต่างๆที่มีการเปลี่ยนในห้องพักจนทำให้เงินมันจำเหลือเพียง 1240 บาท โดยจำนวนเงินหักออกจากเงินมัดจำ มี ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าล้างแอร์ ค่าทำความสะอาด ค่าทำสีห้องใหม่ ค่าเปลี่ยนอุปกรณ์ คือ ก๊อก ชาร์ป สายชำระ ค่าชักโครก รวมแล้วเป็นเงิน 6760 บาทค่ะ ซึ่งผู้ให้เช่าก็ส่งรูปชักโครกมาให้เราดูค่ะ บอกว่ามันร้าวต้องเปลี่ยน 
พอเห็นว่ามีการหักค่าอุปกรณ์ประกอบกับรูป เราก็เลยโทรไปถามค่ะ ว่าทำไมถึงหักค่าอุปกรณ์กับเรา มันเกิดขึ้นจากการที่เราทำให้เสียหายหรอ? เพราะเราคิดว่าเราก็ใช้ชักโครกปกติ (ที่โทรไปคุยคือได้คุย 2 คนค่ะ คนหนึ่งเป็นผู้หญิง อีกคนเป็นผู้ชาย ซึ่งคนแรกที่คุยเป็นผู้หญิงค่ะ)
ผู้ให้เช่าบอกว่า ก็มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เราเช่าอยู่ ตอนที่เราเข้าอยู่เราไม่ได้เช็คหรอว่ามันร้าวมาก่อนมั้ย เค้าอ้างว่าเค้าเช็คก่อนที่จะให้คนเช่าอยู่แล้ว ว่าของอยู่ในสภาพดี
เราก็เลยบอกว่า ตอนที่เราเข้าอยู่เราก็ดูแค่ว่ามันไม่รั่ว ใช้งานได้ปกติ เราก็เข้าใจแล้วว่า มันไม่ชำรุด เพราะเราเองไม่ใช่ช่าง ไม่รู้หรอก และการที่เค้าอ้างว่าเค้าเช็คหมดก็ไม่จริง เพราะว่าตอนที่เราเข้าอยู่ได้ซิงค์ล้างหน้าในห้องน้ำก็รั่วอยู่ก่อน เรามาเห็นเราถึงได้แจ้งให้เค้ามาซ่อม ดังนั้น ถ้าเค้าเช็คจริงก็ต้องไม่รั่วเมื่อเราเข้ามา และระยะเวลาที่เราเช่าที่นี่มาเป็นเวลาประมาณ 3 ปี เค้าไม่คิดบ้างหรอว่าอุปกรณ์เค้าจะชำรุด จากการใช้งาน ที่ชักโครกร้าวมันเกิดขึ้นจากการที่เราไปทำให้ชำรุดหรอ เราไม่เอาอะไรไปทุบหรือทำให้มันเสียหาย 
ผู้ให้เช่าก็บอกว่า ถ้ามันเกิดขึ้นจากการใช้งานจริง ทำไมเราไม่แจ้งให้มาเปลี่ยนในระยะเวลาที่เรายังเช่าอยู่ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเค้าก็จะมาเปลี่ยนให้
เราจึงบอกว่า ก็เราไม่ใช่ช่าง เราไม่รู้หรอกว่านั้นคือพัง เพราะเรายังใช้งานได้ปกติ เราเคยแจ้งให้เค้ามาเปลี่ยนอุปกรณ์บ้าง เช่น พวกสายชำระ แต่อันนั้นคือมันเสียจริงๆใช้ไม่ได้แล้ว เราเลยให้เค้ามาเปลี่ยน คือต้องลักษณะนี้เราถึงจะแบบ อ๋อ เสียนะ ต้องแจ้งเปลี่ยน
เค้าก็ยังยืนยันค่ะ ว่าเราต้องรับผิดชอบ เค้าแจ้งอีกว่า แล้วตอนที่ทำสัญญาครั้งใหม่ (เนื่องจากมีการทำสัญญา 2 ครั้งค่ะ ครั้งแรกคือที่เข้าอยู่ 3 ปีก่อน และอีกครั้งคือตอนที่มีข่าวเรื่องปรับหน่วยราคาค่าน้ำค่าไฟ เค้าเลยให้มีการทำสัญญาใหม่ลดค่าน้ำค่าไฟ แต่เพิ่มค่าเช่าห้องขึ้น) ไม่ได้มาเช็คหรอ ก็เซ็นใหม่ก็ต้องเช็ค (เราก็คิดในใจค่ะ คุณก็ไม่ได้แจ้งว่าจะต้องไปเช็คของใหม่นะ คุณไปถึงก็ให้เซ็นอย่างเดียว เราก็ไว้ใจค่ะ เราก็ว่าโอเคสะเพร่าเอง) 
เราเลยบอกว่า เราก็ยึดถือตามสัญญาเดิมอยู่แล้ว 
เค้าเลยพูดแกลมหัวเราะเลยค่ะ ว่างั้นน้องไปนั่งเพ้อเอาละกัน (!!) แล้วห้องน้องอ่ะนะ ตั้งแต่พี่เปิดหอมาไม่เคยมีห้องไหนทุเรศเท่าห้องน้องเลย สกปรกมาก (อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เราสะเพร่าค่ะ เราไม่ได้ถ่ายห้องก่อนออกมาจากหอ ซึ่งเรายืนยันค่ะว่า ห้องเราไม่ได้สกปรกจนถึงขั้นใช้คำว่า "ทุเรศ" อาจจะมีสกปรกบ้างค่ะ เพราะตรงระเบียงฝุ่นขึ้นง่ายมาก วันเดียวก็ฝุ่นจับชัดแล้วค่ะ เพราะค่อนข้างติดกับถนนใหญ่ แล้วตอนที่ออกมาเราขนของทุกอย่าง ดูปากน้องนัชชานะคะ ว่าทุกอย่าง! ออกจากห้องแล้ว และล้างห้องน้ำให้ กวาดห้องไปให้) พี่คิดค่าทำความสะอาดแค่ 500 อ่ะ ไม่พอหรอก พี่จะคิด 3000 ด้วยซ้ำ (เดี๋ยวนะคะ 3000 นี่ทำความสะอาดบ้านเป็นหลังๆได้เลยนะคะ)
(อีกอย่างที่เราต้องยอมรับค่ะ คือเนื่องจากเรามีขยะที่เราไม่ได้เอามาทิ้งตั้งแต่แรกค่อนข้างเยอะค่ะ เนื่องจากเราเห็นว่ามันเป็นขยะมีค่าค่ะ เป็นกระดาษเป็นกล่องๆเลย โดยตอนแรกเรากะว่าจะให้ยามหรือแม่บ้านที่หอเอาไปชั่งขายค่ะ ซึ่งวันที่ย้ายออกเค้าก็อยู่ที่หอค่ะ เราเลยถามเค้าว่ามีกระดาษที่ยังไม่ได้ทิ้งยามหรือแม่บ้านจะเอาไว้ขายมั้ย เค้าบอกว่าไม่ต้องทิ้งไปเลย เดี๋ยวคนเก็บขยะเค้าก็ไปแยกเอง และเค้าก็บอกว่ามันเยอะเกินนะ คนเก็บขยะไม่เก็บหรอก เราก็งงค่ะ เลยถามว่า ขยะนอกถังนี่คนเก็บขยะไม่เก็บหรอคะ เค้าบอกว่าใช่ค่ะไม่เก็บ เค้าต้องให้พิเศษถึงจะเก็บ เราก็เลยบอกว่าถ้างั้นก็คิดรวมกับค่าใช้จ่ายที่ต้องหักจากมัดจำเราไปละกัน เค้าเลยหักค่าขยะไปอีก 100 บาทค่ะ)
เราก็เลยบอกไปเลยค่ะว่า ถ้าพี่จะบอกแบบนี้ หนูจะไปฟ้อง สคบ. นะคะ

แล้วก็มีผู้ชายมาคุยแทนค่ะ เค้าบอกว่าน้องพูดดีๆ เราบอกเลยค่ะ เดี๋ยวค่ะพี่ ใครที่พูดดีๆ หนูไม่ได้พูดไม่สุภาพเลยนะ (ยอมรับค่ะว่ามีอารมณ์ แต่เราไม่ได้ขึ้นเสียงหรือพูดไม่สุภาพ ด่าว่า หรือพูดหยาบคายเลย คือตอนนี้ที่โกรธเราไม่ได้โกรธที่หักเงินนะ เพราะตั้งใจอยู่แล้วว่าจะถามเหตุผลว่าเราต้องรับผิดชอบจริงๆหรอ ที่มันเสียนี่เกิดขึ้นเพราะเราหรอ คิดว่าคนที่โตๆแล้ว มีการศีกษา น่าจะแจงเหตุผลให้เรายอมรับได้ว่าทำไมเราต้องจ่าย แต่มาพูดกันแบบนี้ก็ไม่โอเคนะคะ มันควรจะเกรงใจกันบ้าง หรืออย่างน้อยก็ต้องพูดให้เกียรติกันบ้าง) พี่ผู้หญิงต่างหากที่ขึ้นเสียง เค้าก็บอก โอเคน้องไม่ได้พูดคำหยาบ (พี่ผู้ชายคนนี้จริงๆสาระที่ตกลงกันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนมากค่ะ แต่ดีตรงที่ไม่ใช้อารมณ์)
เค้าก็พูดเหมือนเดิมค่ะ เหตุผลเดียวกัน เราบอกว่าหนูไม่รู้นะว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร เพราะเราก็ใช้ห้องน้ำตามปกติที่เค้าใช้กัน ล้างห้องน้ำตามปกติ แล้วช่างแจ้งว่าเกิดจากอะไร
เค้าบอกว่า ช่างบอกว่าเกิดจากการกระแทก (!?)
คือแบบ ต้องเอาอะไรกระแทกอ่ะ ชักโครกถึงจะร้าวได้ อันนี้งงจริงๆค่ะ 
เค้าเลยบอกว่างั้นค่าชักโครกเค้าคิดครึ่งนึงล่ะกัน เราก็แบบ งั้นคือเราก็ผิดใช่มั้ย
แล้วก็มีเรื่องค่าทาสีห้องใหม่ค่ะ อันนี้เราก็ยังงงๆค่ะ เพราะเราอยู่ไม่เคยเจาะ ไม่เคยติดอะไรบนผนังเลย แล้วทำไมมาคิดค่าทาสีกับเรา
แล้วเราก็เลยถามไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ อีก คือก๊อก ชาร์ป (อันนี้คือไม่แน่ใจค่ะว่ามันคืออะไร แต่เค้าบอกว่าเป็นตัวกรองข้างล่างซิงค์ล้างหน้า) สายชำระ เราก็เลยถามว่ามันเป็นอะไร 
เค้าแจ้งว่า สนิมขึ้น 
(อันนี้คือเราแบบ อิหยังวะ!?)  เลยบอกเค้าไปว่า งั้นคือเราต้องไม่ใช้งานมันใช่มั้ย มันจะได้ไม่โดนน้ำสนิมจะได้ไม่ขึ้น (คืองงมากจริงๆค่ะ) 
เค้าเลยบอกว่า โอเคงั้นพี่ไม่คิดกับน้องล่ะกันในส่วนนี้ แล้วเค้าก็บอกว่าถ้าน้องไม่พอใจ พี่ก็ไม่รู้จะทำไงแล้ว น้องจะไปทำอะไรก็ไม่ทำเถอะ
แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ตกลงกันเลยนะคะ พี่ผู้หญิงก็มาคุยต่อ

เค้าบอกว่า น้องอยู่มาตั้ง 3 ปีนะ น้องไม่คิดว่ามันจะไม่มีของเสียบ้างเลยหรอ
เราก็แบบ ก็ใช่ค่ะ ก็พี่ไม่คิดบ้างหรอคะว่าตั้งแต่พี่เปิดมาอุปกรณ์ของพี่มันจะไม่ชำรุดบ้างเลยหรอคะ 
สุดท้ายค่ะ เค้าบอกว่า ของคนอื่นเค้าจัดการแบบนี้ ไม่เห็นเคยมีปัญหาอะไร เค้าก็ไม่เคยงี่เง่านะ และเค้าจะไม่คุยแล้ว เราจะไปฟ้องไปทำอะไรก็ไปเลย เค้าไม่อยากคุยกับเราแล้ว แล้วก็ตัดสายไปเลยค่ะ ทั้งๆที่เรายังคุยกันไม่จบอ่ะ

เราเลยข้อความไปขอให้เค้าส่งรูปอุปกรณ์ที่มีการเปลี่ยนทั้งหมดมาให้เราค่ะ 
ผ่านมาวันหนึ่ง เค้าส่งมาให้ค่ะ แต่ส่งอันที่เปลี่ยนใหม่มาให้ (เพื่ออะไรก็ยังงงๆค่ะ คือ เปลี่ยนยังไงเค้าก็เปลี่ยนแน่อยู่แล้ว แต่ก็ควรส่งอันเดิมที่อ้างว่าเราทำพังมาไม่ใช่หรอ?) พร้อมกับบอกว่าโอนมาให้เพิ่มอีก 1000 บาท สุทธิคือได้คืนมา 2240 บาทค่ะ
แล้วยังมาบอกว่ายังไงที่เค้าหักไปก็ยังไม่พอเพราะห้องสภาพไม่ดี และไม่ต้องติดต่อเค้าอีก ให้ติดต่ออีกเบอร์แทน เพราะเค้าไม่ต้องการคุยกับคนที่ไม่ใช่ปัญญาชนค่ะ ดราม่าก็จบลงประมาณนี้ค่ะ ! 

คือเรื่องนี้ก็สอนเราหลายอย่างค่ะ มันมีส่วนที่เราก็ผิดพลาดและสะเพร่าเองทำให้เค้าเอาไปอ้างได้ว่าเราผิด คือ
1. ต้องส่องคะ ส่องให้หมดค่ะก่อนเข้าเช่าที่ไหน เปิดไฟให้หมด เปิดน้ำให้หมด อะไรรั่ว อะไรแตก อะไรหัก ส่องให้ถึงฐานชักโครกเลยนะคะ แล้วก็ขณะที่อยู่ด้วยค่ะ ส่องบ่อยๆค่ะอะไรเสีย อะไรพัง แม้จะร้าวก็เถอะ แจ้งไปก่อนเลย เค้าจะเปลี่ยนจะอะไรก็ช่าง แต่เอาให้มั่นใจว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นจากที่เราตั้งใจหรือประมาททำให้ความเสียหายนั้นเกิดขึ้น
2. เวลาบอกเลิกสัญญา และออกจากห้องต้องถ่ายรูปไว้ให้หมด ทั้งห้อง ห้องน้ำ ฝาผนัง จนได้เงินคืน ไม่มีปัญหาแล้วค่อยลบ หรือถ้าเป็นไปได้ ให้เค้ามาเช็คห้องตั้งแต่ตอนออกไปเลย ให้เราอยู่ดูไปเลยว่าอะไรเสียจริงไม่จริง เพราะถ้าหากว่าออกมาแล้ว และเกิดมีปัญหาจริงๆจะให้เรากลับไป เราก็กลัวอ่ะ เพราะขนาดคุยโทรศัพท์กันยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้ขนาดนั้น แล้วถ้าต่อหน้าจะเป็นยังไง
3. ไว้ใจใครไม่ได้เลย เพราะตอนที่เราเข้าไปเช่า เค้าต้องคุยกับเราดีเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว จะมองในแง่ดีว่าเค้าดีนะ มันไม่ใช่ค่ะ

สุดท้ายค่ะ คือ ขอถามเพื่อนๆหน่อยค่ะ (เพราะเป็นกระทู้ถาม ถ้าไม่ถามคงผิดวัตถุประสงค์ 5555)
1. มีเพื่อนๆที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างมั้ยคะ ที่เจอว่าเงินมัดจำ กลายเป็นเงินที่สุดท้ายแล้วเค้าก็มัดมือชกให้เราจ่าย ยิ่งหากเป็นอพาร์ทเม้นเดียวกันด้วยยิ่งดีเลยค่ะ คือตอนนี้เราตั้งใจจะฟ้อง สคบ. จริงๆค่ะ เพราะเราไม่พอใจจริงๆค่ะ กับพฤติกรรมที่เค้าทำกับเรา มันคือการไม่ให้เกียรติกันเลยค่ะ และ
2. มีเพื่อนๆที่เคยฟ้อง สคบ. ในกรณีคล้ายๆกันบ้างมั้ยคะ และหากมีเรื่องจะแนะนำอะไรก็ขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยนะค่ะ
3. มีใครพอจะทราบมั้ยคะ ว่าการที่ชักโครกเกิดการร้าวที่บริเวณฐานคือเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง คือถ้ามันเกิดขึ้นจากลักษณะการใช้ที่เรารู้เท่าไม่ถึงการจริงๆ เราอาจจะยอมรับได้มากกว่านี้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่