เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ ขอให้ชื่อย่อตัวเองว่า A และคนรักว่า B เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริงของตัวผมเอง และทุกอย่างที่ผมเล่า รับประกันว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีใส่สีใดๆทั้งสิ้น และเป็นแปลในใจมาจนถึงทุกวันนี้
ผมมีคนรักอยู่คนนึง เราคบกันตั้งแต่สมัยม.ปลาย เราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ผมอยู่ม.6 ส่วนเธออยู่ม.5 เราคบกันเหตุการทั้งหมดก็ปรกติสุขดี ยอมรับเลยว่าผมเองก็เป็นคนที่เจ้าชู้อยู่พอตัวเลย (ลืมบอก ผมเป็นเฟรชชี่บอยนะครับ จึงไม่ขอเอ่ยนาม) ผมก็เคยมีนอกลู่นอกทางไปกับผู้หญิงอื่นบ้าง แต่ผมไม่เคยคิดจะมีอะไรกับใคร ด้วยจิตสำนึกที่ว่าผมสนุกได้ แต่จะไม่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันแย่จนเกินไป เพราะสุดท้ายผมก็เลือกเค้าอยู่ดี จนผมเรียนจบ ผมตัดสินใจที่จะกินอยู่กับเขา ในปีที่ผมเรียนจบ ผมยังไม่ได้คิดจะต่อมหาลัย เพราะงานที่ผมกำลังทำนั้นผมกำลังได้ขึ้นเป็นระดับผู้ช่วยผู้จัดการ ผมเลยพักเรื่องเรียนเอาไว้ก่อน ทุกอย่างก็ปรกติสุขดี จนมาวันนึงผมเกิดไปทำเรื่องไม่ดีเข้าจนถูกจับ (ไม่ได้เล่นยานะครับ เป็นคดีครอบครองอาวุธปืน1กระบอก) ในตอนสิ้นปี 2561 สุดท้ายผมติดอยู่ที่ สน ผมเห็นแฟนผมเสียใจร้องไห้ฟูมฟายมาก และเพื่อนก็ยังมาบอกอีกว่า แฟนของผมต้องตื่นเช้าไปเรียน พอเลิกเรียนก้ทำงานพาร์ททาม หลังจากเลิกงานพาร์ททามแล้วเขายังไปเฝ้าร้านเกมส์กะดึกยันเกือบเช้า เพื่อที่จะหาเงินมาประกันผม บิ๊กไบค์ผมก็ต้องขายรถยนต์ผมก็ต้องยกให้พี่สาวเอาไปส่งต่อ ของสะสมแพงๆที่เคยมีก็ต้องขายหมด ผมสงสารเธอมาก จนสุดท้ายผมประกันตัวออกมา แต่คดีผมยังไม่จบ แค่ประกันออกมาอยู่ข้างนอก รอขึ้นศาล ผมคิดในใจว่ายังไงผมก็ต้องกลับไปติดในตอนนั้นผมคิดไว้จริงๆว่าคดียังไม่จบ และผมต้องเสียเงินไปอีกเยอะแน่ๆ ผมสงสารเธอ ผมรักเธอมาก มากพอที่จะไม่ยอมให้เธอมาลำบากกับผม ผมรู้ว่าถ้าเธอยังอยู่กับผม เธอต้องลำบากกับผมอีกเยอะ ผมเลยตัดสินใจขอเลิกกับเธอโดยที่ผมทิ้งท้ายเอาไว้ว่า รอผมก่อนนะ รอในวันที่ผมพร้อม ผมจะกลับมาหาคุณ เราสองคนต่างให้สัญญา จากต้นปีผ่านมาเรื่อยๆตลอดระยะเวลา 6 เดือน ผมไม่คบกับใครเลย ผมตั้งหน้าตั้งตาทำแต่งาน ผมยังคุยกับเธอตลอด แต่ไม่ได้กลับไปคบ จนวันที่ผมต้องขึ้นศาลนั้นมาถึง สุดท้ายผมโดนตัดสินจำคุก 8 เดือน ก่อนเข้าไปในเรือนจำผมมีเวลาแค่3 นาทีทักไปหาญาติ ผมใช้เวลา 3 นาทีเพื่อนขอโทษเธอ ในวันที่ผมเข้าไปติดอาทิตย์แรก มีแต่แม่มาเยี่ยมผม ผมหวังเล็กๆว่าเธอจะมา แต่อีกใจก็หักดิบตัดใจไปด้วย
สุดท้ายอาทิตย์ที่สองเธอก็มา เธอร้องไห้อีกแล้ว 555555 ผมรู้สึกแย่อีกแล้ว แต่เราก็รู้และเข้าใจว่าเขารักและเป็นห่วงเราเสมอ สุดท้ายเราก็พูดขอคืนดีกันผ่านทางหูโทรศัพท์ โดยที่เห็นหน้ากัน แต่มีลูกกรงและกระจกฝ้าๆกั้นเราไว้ ใช่ครับ เราอยู่ห่างกันเพียงแค่ 2 เมตร แต่เรากลับกอดกันไม่ได้ 5555555
เธอมาเยี่ยมผมตลอดทุกอาทิตย์ เขาคุยเรื่องข้างนอกให้ฟัง ผมก็คุยเรื่องในเรือนจำให้กัน เราก็หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้างบางครั้งก็สองอย่างพร้อมกัน เป็น 15 นาทีที่ทำให้โลกผมสดใสและอยากมีชีวิตต่อไปทั้งอาทิตย์ ผมเขียนจดหมายไปหาเธอตลอด อาทิตย์ละ 3-4 ฉบับ เขียนไปบอกรัก เขียนไปขอโทษ เขียนเรื่องฝันของเรา ผมว่ดรูปได้แย่มากและไม่ชอบวาดรูปเลย แต่ผมก็พยายามวาด เผื่อเธอจะชอบ และผมก็แอบเขียนจดหมายไปหาแม่ผม ว่าผมจะขอเขาแต่งงานผมจะเลิกเรื่องแย่ๆทุกอย่าง และสร้างครอบครัวกับเขา แต่ผมไม่ได้บอกเธอเลย ผมวาดฝันไว้ว่า วันที่ผมปล่อยตัวออกไป ผมจะไปคุกเข่าหน้าบ้านเธอ และขอเธอแต่งงานแบบเซอร์ไพรซ์ ทุกครั้งที่แม่ผมมาเยี่ยม ผมจะคุยเรื่องแต่งงานจริงจังมาก เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องการ์ดเรื่องนู่นนี่นั่นไปไกลมาก ทุกวันก่อนนอนผมก็จะคิดแต่เรื่องนี้ ผมก็เขียนจดหมายไปหาเธอตลอด แต่จดหมายที่เธอส่งมา ผมจะได้แค่เดือนละฉบับเท่านั้นเอง แต่ผมก็คิดว่าเธอคงไม่ว่าง ทั้งเรียนมหาลัย ทั้งทำงานไปด้วย ผมเขียนไป 20 กว่าฉบับ เธอจะตอบมาสักฉบับนึง แต่ไม่เป็นไร ผมก็ยังทำเหมือนเดิม ยังเขียนอาทิตย์ละ 4-5 ฉบับต่อไปเรื่อยๆเหมือนเดิม จนมาเดือนที่ 3-4 เธอก็มาเยี่ยมผมน้อยลง ปลายเดือนที่3นั้นเป็นวันครบรอบ 3 ปีของเรา ผมตั้งใจทำการ์ดวันครบรอบมาก แค่กระดาษใบเดียวผมใช้เวลาทำมากถึง 10 วัน และหลังจากผมส่งไปก็หวังว่าเธอจะดีใจและตอบกลับมา สุดท้ายแล้วจดหมายก็ไม่มี แต่เธอบอกว่าเธอไม่ว่าง ผมก็เข้าใจและรออย่างเข้มแข็ง
จนมาเดือนที่ 5 เธอไม่ได้มาเยี่ยมผม จดหมายก็ไม่มา เธอแค่ฝากแม่ผมมาบอกว่าไม่ว่าง ผมก็เธอคงไม่ว่างทั้งงานทั้งเรียน ผมก็เข้าใจ ไม่เป็นไร ผมก็เขียนจดหมายไปแบบนั้นเรื่อยๆ แม้ว่าผมจะส่งไปแล้วกว่า 40 ฉบับแล้วไม่มีคนตอบกลับก็ตาม และในเดือนที่ 6 ทางเรื่อนจำมีการเยี่ยมญาติใกล้ชิด ซึ่งคือการให้ญาติเข้ามาหานักโทษในเรือนจำได้ ผมฝากแม่ไปถามว่าเขาจะมามั้ย เขาให้สัญญาว่ามาแน่นอน ผมดีใจมาก ใจจดใจจ่อรอที่จะได้กอดเขา ถึงแม้เขาจะไม่ได้มาเยี่ยมผมเกือบสองเดือน แต่ถ้าได้เจอเขาในวันเยี่ยมใกล้ชิด ผมก็กะว่าจะขอเขาแต่งงานท่ามกลางผู้คนในเรือนจำทั้งหมด ผมคิดว่าชีวิตทั้งชีวิตของผมนั้นผมจะมอบให้เขา แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง วันเยี่ยมญาติใกล้ชิด ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ผมใจจดใจจ่อรอที่จะเจอหน้าเขา ผมตื่นเต้นและดีใจมาก ยิ้มไม่หุบเลย แล้วการประกาศเรียกชื่อคนที่ญาติมาแล้วก็ผ่านไปเรื่อยๆ จนประกาศเกือบจะหมด ตอนนั้นผมคิดว่าคงไม่มีใครมากันแล้ว แต่แล้วก็ประกาศชื่อผมขึ้นมา ผมดีใจมาก แต่ดีใจไม่ทันไร ผมก็ได้ยินต่อมาว่ามีญาติมาเยี่ยมแค่ 1 คน พร้อมทั้งเห็นแม่ของผมเดินเข้าประตูมา ใช่ครับ แม่ผมมาคนเดียว ตอนนั้นผมอยากร้องไห้มาก แต่ผมเสียน้ำตาให้แม่เห็นไม่ได้ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาเห็นว่าลูกของแม่ผมนั้นอ่อนแอ ผมได้แต่ยิ้มแล้วเดินเข้าไปกอดแม่เข้ามากอดผม พร้อมกับพูดประโยคที่ผมเคยคิดว่าไม่อยากจะได้ยินมัน "เขาไปแล้วนะลูก ลูกต้องทำใจและเข้มแข็งนะ" เท่านั้นแหละครับ หูผมดับ ทุกอย่างในหัวผมตอนนั้นมันเคว้งไปหมด แล้วฝันผมละ การแต่งงานของเราละ ความรักของเราละ ผมแทบจะทรุด แต่ก็ต้องแข็งใจแล้วปลอบใจตัวเองไว้ ว่าเราอ่อนแอให้ใครเห็นไม่ได้ และแม่ผมก็เล่าทุกอย่างให้ฟังว่า เขามีผู้ชายใหม่ คือแม่ผมขายของทอดครับ แล้วที่ที่แม่ผมขายอยู่ คือหน้าซอยบ้านของ โดยปรกติแม่จะออกไปตั้งร้านตั้งแต่ก่อนตี 4 ทุกวันครับ และแม่ผมเล่าให้ฟังว่า บางวันนั้น แม่เห็นแฟนของผมกลับบ้าน โดยมีผู้ชายมาส่งบ้าง เมากลับมาบ้าง แม่ผมก็ทักไลน์ไปถามว่าผู้ชายที่มาส่งนั่นใคร เขาก็บอกว่าเพื่อน แล้วพอเมื่อวานก่อนมาเยี่ยมใกล้ชิด แม่ก็ทักไปถามว่าเขาจะมามั้ย เขาก็บอกว่าติดธุระ มาไม่ได้ ทั้งๆที่แม่ผมบอกล่วงหน้าเกือบ 2 เดือน แล้วเขาก็สัญญาว่าจะมา พอแม่ทักย้ำไปอีก เขาก็ไม่ตอบแม่ผมแล้ว โทรก็ไม่รับ และแม่ผมยังบอกอีกด้วยว่าวันที่แม่ผมซื้อขนมของกินเข้าไปให้แฟนผมที่บ้านแฟนผม แม่ผมได้เจอแม่ของเขา แม่เขาก็ด่าผมและแม่ผมว่า ผมมันคนไม่มีอนาคต แม่ผมเลี้ยงลูกไม่ดี ถึงผมจะออกมา แม่เขาก็จะไม่ให้แฟนสาวของผม มาคบกับผมต่ออยู่ดี และบ่นอีกหลายอย่าง เอาเป็นประมาณนี้ครับ ในตอนนั้นผมเข้าใจแล้ว ว่าเขาไม่รอผมแล้ว ทั้งๆที่รอมาเกือบปี และเหลืออีกแค่ 2 เดือน แค่ 2 เดือนเราก็จะกลับไปอยู่ด้วยกันแล้ว แหวนกระดาษที่ผมทำมาเพื่อมาขอแต่งงานเธอ ในตอนนี้มันเป็นแค่เศษขยะไปแล้ว หลังจากนั้นเวลาเยี่ยมที่เหบือผมก็พยายามคุยเรื่องของแม่ผม ว่าสบายดีมั้ยเป็นยังไงบ้าง โดยที่พยายามเล่นมุกกับแม่ เพื่อให้แม่ไม่เครียด แต่หลังจากหมดเวลาเยี่ยมและผมต้องกลับเข้าแดน เวลาหลังจากนั้นแหละคือนรกชัดๆ ผมกลับเข้ามาที่หลังเรือนนอนรอจะอาบน้ำ ในตอนนั้นผมเหลือบไปเห็นเศษกระจก ผมหยิบขึ้นมากรีดหัวตัวเองในทันที เพื่อระบายอารมณ์และลงโทษตัวเองที่รั้งเขาไว้ไม่ได้ กรีดไป 2-3 แผล ก็มีคนมาห้ามและปลอบ ผมก็เลยต้องสู้ต่อไป คือนั้นผมนอนไม่หลับเลย ในหัวผมว่าเปล่ามาก จากที่ทุกวันเคยคิดแต่เรื่องงานแต่งงาน แต่ตอนนี้มันเคว้งไปหมด ทำอะไรไม่ถูก วันต่อมาก็มีคนมาล้อผมเรื่องแฟน ทุกท้ายก็วางมวยกัน ชีวิตหลังจากรู้ว่าไม่มีเขาทำให้ผมคิดอะไรไม่ออก พวงกุญแจที่ผมห้อย ก็มีรูปเธอที่ผมเอาไปเคลือบเก็บไว้ดูก่อนนอนหลายรูป ผมก็ไม่ยอมทิ้ง ต่อให้เจ็บผมก็จะมองรูปเหล่านั้น สองเดือนที่เหลือผมจำไม่ได้ว่าทำอะไรไปบ้าง เพราะทุกอย่างมันเคว้งไปหมด ผมบอกแม่ผมว่าไม่ต้องมาเยี่ยมแล้วเพราะผมใกล้ออกแล้ว ผมไม่อยากให้แม่ลำบาก อีกส่วนนึงคือผมกลัวแม่เอาเรื่องเขามาเล่าให้ผมฟัง ผมก็ใช้ชีวิตไปอย่างเคว้งคว้างจนถึงวันปล่อยตัว ผมเห็นคนอื่นที่ปล่อยตัวเขาดีใจกันแทบตาย แต่ผมเป็นคนนึงที่ไม่อยากที่จะออกไป
เดี๋ยวมาต่อนะครับ พิมพ์เกินกำหนดแล้ว 5555555
เรื่องจริงของความรักคนมีคดีที่ดราม่ายิ่งกว่าพลอตหนัง
ผมมีคนรักอยู่คนนึง เราคบกันตั้งแต่สมัยม.ปลาย เราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ผมอยู่ม.6 ส่วนเธออยู่ม.5 เราคบกันเหตุการทั้งหมดก็ปรกติสุขดี ยอมรับเลยว่าผมเองก็เป็นคนที่เจ้าชู้อยู่พอตัวเลย (ลืมบอก ผมเป็นเฟรชชี่บอยนะครับ จึงไม่ขอเอ่ยนาม) ผมก็เคยมีนอกลู่นอกทางไปกับผู้หญิงอื่นบ้าง แต่ผมไม่เคยคิดจะมีอะไรกับใคร ด้วยจิตสำนึกที่ว่าผมสนุกได้ แต่จะไม่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันแย่จนเกินไป เพราะสุดท้ายผมก็เลือกเค้าอยู่ดี จนผมเรียนจบ ผมตัดสินใจที่จะกินอยู่กับเขา ในปีที่ผมเรียนจบ ผมยังไม่ได้คิดจะต่อมหาลัย เพราะงานที่ผมกำลังทำนั้นผมกำลังได้ขึ้นเป็นระดับผู้ช่วยผู้จัดการ ผมเลยพักเรื่องเรียนเอาไว้ก่อน ทุกอย่างก็ปรกติสุขดี จนมาวันนึงผมเกิดไปทำเรื่องไม่ดีเข้าจนถูกจับ (ไม่ได้เล่นยานะครับ เป็นคดีครอบครองอาวุธปืน1กระบอก) ในตอนสิ้นปี 2561 สุดท้ายผมติดอยู่ที่ สน ผมเห็นแฟนผมเสียใจร้องไห้ฟูมฟายมาก และเพื่อนก็ยังมาบอกอีกว่า แฟนของผมต้องตื่นเช้าไปเรียน พอเลิกเรียนก้ทำงานพาร์ททาม หลังจากเลิกงานพาร์ททามแล้วเขายังไปเฝ้าร้านเกมส์กะดึกยันเกือบเช้า เพื่อที่จะหาเงินมาประกันผม บิ๊กไบค์ผมก็ต้องขายรถยนต์ผมก็ต้องยกให้พี่สาวเอาไปส่งต่อ ของสะสมแพงๆที่เคยมีก็ต้องขายหมด ผมสงสารเธอมาก จนสุดท้ายผมประกันตัวออกมา แต่คดีผมยังไม่จบ แค่ประกันออกมาอยู่ข้างนอก รอขึ้นศาล ผมคิดในใจว่ายังไงผมก็ต้องกลับไปติดในตอนนั้นผมคิดไว้จริงๆว่าคดียังไม่จบ และผมต้องเสียเงินไปอีกเยอะแน่ๆ ผมสงสารเธอ ผมรักเธอมาก มากพอที่จะไม่ยอมให้เธอมาลำบากกับผม ผมรู้ว่าถ้าเธอยังอยู่กับผม เธอต้องลำบากกับผมอีกเยอะ ผมเลยตัดสินใจขอเลิกกับเธอโดยที่ผมทิ้งท้ายเอาไว้ว่า รอผมก่อนนะ รอในวันที่ผมพร้อม ผมจะกลับมาหาคุณ เราสองคนต่างให้สัญญา จากต้นปีผ่านมาเรื่อยๆตลอดระยะเวลา 6 เดือน ผมไม่คบกับใครเลย ผมตั้งหน้าตั้งตาทำแต่งาน ผมยังคุยกับเธอตลอด แต่ไม่ได้กลับไปคบ จนวันที่ผมต้องขึ้นศาลนั้นมาถึง สุดท้ายผมโดนตัดสินจำคุก 8 เดือน ก่อนเข้าไปในเรือนจำผมมีเวลาแค่3 นาทีทักไปหาญาติ ผมใช้เวลา 3 นาทีเพื่อนขอโทษเธอ ในวันที่ผมเข้าไปติดอาทิตย์แรก มีแต่แม่มาเยี่ยมผม ผมหวังเล็กๆว่าเธอจะมา แต่อีกใจก็หักดิบตัดใจไปด้วย
สุดท้ายอาทิตย์ที่สองเธอก็มา เธอร้องไห้อีกแล้ว 555555 ผมรู้สึกแย่อีกแล้ว แต่เราก็รู้และเข้าใจว่าเขารักและเป็นห่วงเราเสมอ สุดท้ายเราก็พูดขอคืนดีกันผ่านทางหูโทรศัพท์ โดยที่เห็นหน้ากัน แต่มีลูกกรงและกระจกฝ้าๆกั้นเราไว้ ใช่ครับ เราอยู่ห่างกันเพียงแค่ 2 เมตร แต่เรากลับกอดกันไม่ได้ 5555555
เธอมาเยี่ยมผมตลอดทุกอาทิตย์ เขาคุยเรื่องข้างนอกให้ฟัง ผมก็คุยเรื่องในเรือนจำให้กัน เราก็หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้างบางครั้งก็สองอย่างพร้อมกัน เป็น 15 นาทีที่ทำให้โลกผมสดใสและอยากมีชีวิตต่อไปทั้งอาทิตย์ ผมเขียนจดหมายไปหาเธอตลอด อาทิตย์ละ 3-4 ฉบับ เขียนไปบอกรัก เขียนไปขอโทษ เขียนเรื่องฝันของเรา ผมว่ดรูปได้แย่มากและไม่ชอบวาดรูปเลย แต่ผมก็พยายามวาด เผื่อเธอจะชอบ และผมก็แอบเขียนจดหมายไปหาแม่ผม ว่าผมจะขอเขาแต่งงานผมจะเลิกเรื่องแย่ๆทุกอย่าง และสร้างครอบครัวกับเขา แต่ผมไม่ได้บอกเธอเลย ผมวาดฝันไว้ว่า วันที่ผมปล่อยตัวออกไป ผมจะไปคุกเข่าหน้าบ้านเธอ และขอเธอแต่งงานแบบเซอร์ไพรซ์ ทุกครั้งที่แม่ผมมาเยี่ยม ผมจะคุยเรื่องแต่งงานจริงจังมาก เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องการ์ดเรื่องนู่นนี่นั่นไปไกลมาก ทุกวันก่อนนอนผมก็จะคิดแต่เรื่องนี้ ผมก็เขียนจดหมายไปหาเธอตลอด แต่จดหมายที่เธอส่งมา ผมจะได้แค่เดือนละฉบับเท่านั้นเอง แต่ผมก็คิดว่าเธอคงไม่ว่าง ทั้งเรียนมหาลัย ทั้งทำงานไปด้วย ผมเขียนไป 20 กว่าฉบับ เธอจะตอบมาสักฉบับนึง แต่ไม่เป็นไร ผมก็ยังทำเหมือนเดิม ยังเขียนอาทิตย์ละ 4-5 ฉบับต่อไปเรื่อยๆเหมือนเดิม จนมาเดือนที่ 3-4 เธอก็มาเยี่ยมผมน้อยลง ปลายเดือนที่3นั้นเป็นวันครบรอบ 3 ปีของเรา ผมตั้งใจทำการ์ดวันครบรอบมาก แค่กระดาษใบเดียวผมใช้เวลาทำมากถึง 10 วัน และหลังจากผมส่งไปก็หวังว่าเธอจะดีใจและตอบกลับมา สุดท้ายแล้วจดหมายก็ไม่มี แต่เธอบอกว่าเธอไม่ว่าง ผมก็เข้าใจและรออย่างเข้มแข็ง
จนมาเดือนที่ 5 เธอไม่ได้มาเยี่ยมผม จดหมายก็ไม่มา เธอแค่ฝากแม่ผมมาบอกว่าไม่ว่าง ผมก็เธอคงไม่ว่างทั้งงานทั้งเรียน ผมก็เข้าใจ ไม่เป็นไร ผมก็เขียนจดหมายไปแบบนั้นเรื่อยๆ แม้ว่าผมจะส่งไปแล้วกว่า 40 ฉบับแล้วไม่มีคนตอบกลับก็ตาม และในเดือนที่ 6 ทางเรื่อนจำมีการเยี่ยมญาติใกล้ชิด ซึ่งคือการให้ญาติเข้ามาหานักโทษในเรือนจำได้ ผมฝากแม่ไปถามว่าเขาจะมามั้ย เขาให้สัญญาว่ามาแน่นอน ผมดีใจมาก ใจจดใจจ่อรอที่จะได้กอดเขา ถึงแม้เขาจะไม่ได้มาเยี่ยมผมเกือบสองเดือน แต่ถ้าได้เจอเขาในวันเยี่ยมใกล้ชิด ผมก็กะว่าจะขอเขาแต่งงานท่ามกลางผู้คนในเรือนจำทั้งหมด ผมคิดว่าชีวิตทั้งชีวิตของผมนั้นผมจะมอบให้เขา แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง วันเยี่ยมญาติใกล้ชิด ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ผมใจจดใจจ่อรอที่จะเจอหน้าเขา ผมตื่นเต้นและดีใจมาก ยิ้มไม่หุบเลย แล้วการประกาศเรียกชื่อคนที่ญาติมาแล้วก็ผ่านไปเรื่อยๆ จนประกาศเกือบจะหมด ตอนนั้นผมคิดว่าคงไม่มีใครมากันแล้ว แต่แล้วก็ประกาศชื่อผมขึ้นมา ผมดีใจมาก แต่ดีใจไม่ทันไร ผมก็ได้ยินต่อมาว่ามีญาติมาเยี่ยมแค่ 1 คน พร้อมทั้งเห็นแม่ของผมเดินเข้าประตูมา ใช่ครับ แม่ผมมาคนเดียว ตอนนั้นผมอยากร้องไห้มาก แต่ผมเสียน้ำตาให้แม่เห็นไม่ได้ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาเห็นว่าลูกของแม่ผมนั้นอ่อนแอ ผมได้แต่ยิ้มแล้วเดินเข้าไปกอดแม่เข้ามากอดผม พร้อมกับพูดประโยคที่ผมเคยคิดว่าไม่อยากจะได้ยินมัน "เขาไปแล้วนะลูก ลูกต้องทำใจและเข้มแข็งนะ" เท่านั้นแหละครับ หูผมดับ ทุกอย่างในหัวผมตอนนั้นมันเคว้งไปหมด แล้วฝันผมละ การแต่งงานของเราละ ความรักของเราละ ผมแทบจะทรุด แต่ก็ต้องแข็งใจแล้วปลอบใจตัวเองไว้ ว่าเราอ่อนแอให้ใครเห็นไม่ได้ และแม่ผมก็เล่าทุกอย่างให้ฟังว่า เขามีผู้ชายใหม่ คือแม่ผมขายของทอดครับ แล้วที่ที่แม่ผมขายอยู่ คือหน้าซอยบ้านของ โดยปรกติแม่จะออกไปตั้งร้านตั้งแต่ก่อนตี 4 ทุกวันครับ และแม่ผมเล่าให้ฟังว่า บางวันนั้น แม่เห็นแฟนของผมกลับบ้าน โดยมีผู้ชายมาส่งบ้าง เมากลับมาบ้าง แม่ผมก็ทักไลน์ไปถามว่าผู้ชายที่มาส่งนั่นใคร เขาก็บอกว่าเพื่อน แล้วพอเมื่อวานก่อนมาเยี่ยมใกล้ชิด แม่ก็ทักไปถามว่าเขาจะมามั้ย เขาก็บอกว่าติดธุระ มาไม่ได้ ทั้งๆที่แม่ผมบอกล่วงหน้าเกือบ 2 เดือน แล้วเขาก็สัญญาว่าจะมา พอแม่ทักย้ำไปอีก เขาก็ไม่ตอบแม่ผมแล้ว โทรก็ไม่รับ และแม่ผมยังบอกอีกด้วยว่าวันที่แม่ผมซื้อขนมของกินเข้าไปให้แฟนผมที่บ้านแฟนผม แม่ผมได้เจอแม่ของเขา แม่เขาก็ด่าผมและแม่ผมว่า ผมมันคนไม่มีอนาคต แม่ผมเลี้ยงลูกไม่ดี ถึงผมจะออกมา แม่เขาก็จะไม่ให้แฟนสาวของผม มาคบกับผมต่ออยู่ดี และบ่นอีกหลายอย่าง เอาเป็นประมาณนี้ครับ ในตอนนั้นผมเข้าใจแล้ว ว่าเขาไม่รอผมแล้ว ทั้งๆที่รอมาเกือบปี และเหลืออีกแค่ 2 เดือน แค่ 2 เดือนเราก็จะกลับไปอยู่ด้วยกันแล้ว แหวนกระดาษที่ผมทำมาเพื่อมาขอแต่งงานเธอ ในตอนนี้มันเป็นแค่เศษขยะไปแล้ว หลังจากนั้นเวลาเยี่ยมที่เหบือผมก็พยายามคุยเรื่องของแม่ผม ว่าสบายดีมั้ยเป็นยังไงบ้าง โดยที่พยายามเล่นมุกกับแม่ เพื่อให้แม่ไม่เครียด แต่หลังจากหมดเวลาเยี่ยมและผมต้องกลับเข้าแดน เวลาหลังจากนั้นแหละคือนรกชัดๆ ผมกลับเข้ามาที่หลังเรือนนอนรอจะอาบน้ำ ในตอนนั้นผมเหลือบไปเห็นเศษกระจก ผมหยิบขึ้นมากรีดหัวตัวเองในทันที เพื่อระบายอารมณ์และลงโทษตัวเองที่รั้งเขาไว้ไม่ได้ กรีดไป 2-3 แผล ก็มีคนมาห้ามและปลอบ ผมก็เลยต้องสู้ต่อไป คือนั้นผมนอนไม่หลับเลย ในหัวผมว่าเปล่ามาก จากที่ทุกวันเคยคิดแต่เรื่องงานแต่งงาน แต่ตอนนี้มันเคว้งไปหมด ทำอะไรไม่ถูก วันต่อมาก็มีคนมาล้อผมเรื่องแฟน ทุกท้ายก็วางมวยกัน ชีวิตหลังจากรู้ว่าไม่มีเขาทำให้ผมคิดอะไรไม่ออก พวงกุญแจที่ผมห้อย ก็มีรูปเธอที่ผมเอาไปเคลือบเก็บไว้ดูก่อนนอนหลายรูป ผมก็ไม่ยอมทิ้ง ต่อให้เจ็บผมก็จะมองรูปเหล่านั้น สองเดือนที่เหลือผมจำไม่ได้ว่าทำอะไรไปบ้าง เพราะทุกอย่างมันเคว้งไปหมด ผมบอกแม่ผมว่าไม่ต้องมาเยี่ยมแล้วเพราะผมใกล้ออกแล้ว ผมไม่อยากให้แม่ลำบาก อีกส่วนนึงคือผมกลัวแม่เอาเรื่องเขามาเล่าให้ผมฟัง ผมก็ใช้ชีวิตไปอย่างเคว้งคว้างจนถึงวันปล่อยตัว ผมเห็นคนอื่นที่ปล่อยตัวเขาดีใจกันแทบตาย แต่ผมเป็นคนนึงที่ไม่อยากที่จะออกไป
เดี๋ยวมาต่อนะครับ พิมพ์เกินกำหนดแล้ว 5555555