เมื่อมารู้ทีหลังว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ

เรื่องมีอยู่ว่าผมกับภรรยาได้หย่าร้างกันเมื่อไม่นานนี้เพราะจับได้ว่าเธอไปมีชู้. หลังจากนั้นผมขอหย่าเพราะต้องการเอาลูกไว้. 1 • เพื่อมีสิทธิ์ขาดในการเลี้ยงดู
และ 2•. ผมจะได้มีสิทธิ์ในการตรวจ dna.   เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันผมจับได้หลายครั้ง.ว่าเธอแอบคุยกับชายอื่นแต่ก็ไม่มีหลักฐานพอที่จะไปหย่า. และเลี้ยงดูเธอกับลูกเสมอมา ผมมีลูกสองคน. ซึ่งผมเองก็สงสัยเสมอว่าจะใช่ลูกหรือไม่เพราะลักษณะใบหน้า เส้นผม. รูปร่างไม่มีใครเหมือนผมเลยสักคน. ได้แต่เก็บไว้บางทีผมอยากรู้ก็ถามเธอไปตรงๆ. เธอไม่ตอบอะไร. เธอนิ่ง. และบอกว่าลูกพี่นั่นแหละ. แต่ก็ห้ามความสงสัยไว้ไม่ได้.  แต่พอครั้งสุดท้ายที่จับได้ว่าเธอไปมีชู้และผมตัดสินใจหย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอ เซ็นต์ยกลูกทั้งสองให้ผมทันที. หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ส่งข้อความมาบอกผมว่า ลูกทั้งสองไม่ใช่ลูกผมเลยสักคน. ทำให้ผมเริ่มคิด. และมันก็มีโอกาสเป็นไปได้มาก ผมจึงอยากตรวจ. ดีเอ็นเอ. เพราะความอยากรู้.   
ผมรักลูกสองคนนี้มาก แม้จะสงสัยว่าเขาคือลูกหรือไม่ก็ตาม. ผมเสียใจกับสิ่งที่เธอทำ   ตอนนี้ผมกับลูกใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังพ่อลูกไม่มีใครอื่น. ตายายของเด็กก็มาขอผมเอาไปเลี้ยงผมรู้ว่าเขารักหลานมาก แต่เขาก็ทำร้ายลูกหลานที่เขารักด้วยความรักที่มีมากไป. คือตามใจ โอ๋.  อ้อน. แบบไร้สาระไร้ความพอดี 
  ตอนนี้ลูกก็รู้สึกใกล้ชิดผูกพันธ์กับผมมากขึ้น. ผมน้ำตาไหลออกมาครั้งที่ผมได้ยินแม่เด็กบอกว่าไม่ใช่ลูกผมทั้งสองคนเพราะรักและสงสาร. คนหนึ่ง7 ขวบ. คนสอง 5 ขวบ. เขาน่ารักแสนซน. ดื้อตามประสาเด็ก. ทำไมเขาต้องมาประสบชะตากรรมแบบนี้. ผมก็มายุเลขสามแล้ว ยังรู้สึกเจ็บ. แต่เด็กล่ะ. จะได้รับผลกระทบกับชีวิตจิตใจและอนาคตอย่างไร.    
ถ้าตรวจแล้วเขาเป็นลูกเราก็ดี
แต่ถ้าไม่ใช่.  ผมคงทำใจรับไม่ได้ที่จะต้องรับผิดชอบลูกคนอื่น.  ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงเสียใจมาก. ที่เด็กเล็กๆ. จะต้องสูญเสียพ่อและญาติพี่น้อง.  ที่ผมพูดแบบนี้เพราะแม่ของเด็กก็บอกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อที่แท้จริง(เธอแอบไปมีชู้มาก่อนหน้านั้นอีก) ของเด็กอยู่ที่ไหนเธอหาไม่ได้. นั่นแสดงว่าเด็กจะไม่มีพ่อและญาติ.  รักเขาสองคนมาก. และแนวโน้มที่ว่าจะไม่ใช่ลูกผมเลยทั้งสองคนก็มีสูง. รอแต่ผลการตรวจดีเอ็นเอ.    ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวเตรียมใจยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า. และหาวิธีรับมือกับเรื่องนี้ หาทางออกที่ดีให้กับ. ลูกๆถ้าเกิดเขาไม่ใช่ลูกเราทั้งสองคน. แต่ถ้าเป็นลูกผมสักคน ผมก็จะเลี้ยงเขาทั้งสองคนไว้ตลอดไป.    ถ้าไม่ใช่ก็คิดเสียว่าบุญวาสนาที่จะได้อยู่ด้วยกันมีมาแค่นี้.  กรรมที่แม่เขาก่อได้ส่งผลมาถึงเขาด้วย
แล้วผมก็ยังมาซ้ำเติมเขาด้วยเรื่องนี้อีก. อนาถใจจริงๆ.  ตอนนี้ผมได้แต่บ่มเพาะสั่งสอนเขาเพื่อให้เขาเลิกนิสัยที่ไม่ดีและช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดชี้นำเพื่อให้เขาเกิดเจตคติที่ดี. เพราะบางครั้งหากเขาต้องไปอยู่กับตายายเขาจะได้เข้าใจว่าอะไรที่เขาควรได้. และไม่ได้. เพราะเขาจะถูกตามใจและเลี้ยงเหมือนไข่ในหิน. เป็นห่วงเรื่องนี้มากที่สุดครับ
ในทางกฎหมายผมควรทำอย่างไรบ้างครับ. 
ขอบคุณครับ. 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่