เมื่อปี 2018 ช่วงกันยาน หลังกลับจากอินเดีย
มารดาได้กล่าวชวนว่า ไม่ได้พม่านานแล้ว ไปกันนะ
นานของมารดานั้นคือ ไม่ถึง 1 ปี เนื่องจากเพิ่งจะไปเมื่อช่วงต้นปี 2018
แต่อย่างว่า ขัดไม่ได้ ต้องพาไป
ประจวบเหมาะกับเพิ่งสั่งกล้องฟิลม์ตัวใหม่ของเรา แต่น่าจะเก่าของคนอื่นมา
ก็เลยพกไปด้วยให้หนักเล่น ๆ
ทริปนี้ กดไม่หมดเลยกลับมาถ่ายรูปที่บ้าน กรุงเทพอีก 4 ใบจะลงให้ดูท้ายกระทู้
เล่าก่อนว่าปกติเวลาไปเที่ยวกับมารดา ก็ใช้บริการทัวร์ ง่าย สะดวก ไม่มีปัญหามาก
หรือเราเป็นคนง่าย ๆ ก็ไม่แน่ใจนะ
แต่ข้อดีก็คือ ร้อน หนาว ฝนตก หิว มีคนบริการหมด
มารดาถูกใจมาก ทิปไกด์ คนขับ เด็กยกกระเป๋า ร่วม ๆ สี่พันบาท
เราใช้กล้อง Olympus Trip 35 ใช้ง่าย เล็ง กด ๆๆ
ฟิลม์ก็เลือก Kodak color plus 400
เราไปช่วงหน้าฝน คือเช้าฝนตก เที่ยงแดดแจ่ม เอาใจกล้องไม่ถูกเลยใช้ฟิลม์สามัญประจำบ้าน
ออกตัวก่อนว่าไม่ได้จับกล้องฟิลม์มานานนับ 12-15 ปี หลังจากเรียนจบ
หากจะหลุดโฟกัส หรือมุมมองภาพแปลก ๆ ก็ขออภัย
วัดพระนอนชเวตาเลียว
พระพุทธไสยาสน์ชเตาเลียว เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์อันดับสองของเมืองหงสาวดี รองจากพระมหาธาตุมุเตา และเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่มีความยาว 181 ฟุต สูง 50 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าเมงกะติปะ พ.ศ.1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาท ต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน เล่าขานว่าเป็นพระรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน
(ข้อมูลจากหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่ทางบริษัททัวร์แจก)
วัดนี้มารดาชอบมาก เนื่องจากของขายหน้าวัดเยอะ เราเองก็ซื้อผ้านุ่งหมดไปเยอะอยู่

วัดเจดีย์ไจ๊ปุ่น มีอายุกว่า 500 ปี เป็นวัดที่สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ไปทุกทิศ แทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ มีตำนานเล่าว่า พระราชธิดาทั้งสี่องค์ของกษัตริย์มอญที่อุทิศตนแด่พุทธศาสนา จึงสร้างพระพุทธรูปแทนตนเองและได้สาบานไว้ว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ต่อมาน้องสาวคนสุดท้อง กลับพบรักกับชายหนุ่มและแต่งงานกัน จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปที่แทนตัวของน้องสาวคนสุดท้องพังทลายลงมา จนต้องมีการสร้างขึ้นมาใหม่ตามที่เห็นในปัจจุบัน โดยพระพุทธรูปองค์นี้จะมีลักษณะแตกต่างจากองค์อื่น ๆ คือจะเป็นศิลปะแบบพม่า
วัดนี้ถ้ามาช่วงหน้าร้อนก็จะร้อนมาก เนื่องจากไม่มีร่มให้เดินชมรอบ ๆ องค์พระ
ร้านขายผลไม้หน้าวัดอร่อย ฝรั่ง มะม่วง ราคาแพง แต่ถือว่าอุดหนุนคนท้องถิ่น

เจดีย์เยเลพญา หรือ เจดีย์กลางน้ำ ตามตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยมีคหบดีชาวมอญเป็นผู้สร้างและยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ ถ้ามีผู้คนมากราบไหว้จำนวนมากเท่าไหร่ก็ขอให้ไม่มีวันเต็มล้นพื้นที่ และยังขึ้นชื่อเรื่องการขอพรด้านการค้าขาย ถ้าใครไปเองน่าจะมีเวลานั่งเล่น ให้อาหารปลาที่วัดนี้ได้นาน ๆ นั่งรับลมเย็น ๆ แสนสบาย พร้อมดูคนท้องถิ่นแต่งชุดสวยมาเที่ยววัด
ส่วนตัวเราชอบวัดนี้ ถ่ายมาถึง 3 ใบ

พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เราไปตอนมืดมากแล้ว จริง ๆ ถ่ายมา 3 ภาพ ภาพเจดีย์ค่อนข้างมืด เลยไม่ได้ลงให้ชม

เทพทันใจนัตโบโบยี เจดีย์โบตาทาวน์
เราแอบถ่ายคุณน้าผู้กำลังจัดของสำหรับไหว้เทพทันใจ

เจดีย์อยู่ในช่วงบูรณะ เราเลยถ่ายภาพของยอดเจดีย์มา ถ้าดูใกล้ ๆ จะเห็นต่างหู แหวน สร้อย ที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายเป็นพุทธบูชา

ระหว่างทางไปพระธาตุอินทร์แขวน คนพม่าเรียกว่า
ไจ่ก์ทิโย

เจดีย์ไจ้ทีโย หรือ พระธาตุอินทร์แขวน Kyaikhtiyo Pagoda (Golden Rock)

ยามเช้าที่บันได
พม่า กับ ฟิลม์ 1 ม้วน
มารดาได้กล่าวชวนว่า ไม่ได้พม่านานแล้ว ไปกันนะ
นานของมารดานั้นคือ ไม่ถึง 1 ปี เนื่องจากเพิ่งจะไปเมื่อช่วงต้นปี 2018
แต่อย่างว่า ขัดไม่ได้ ต้องพาไป
ประจวบเหมาะกับเพิ่งสั่งกล้องฟิลม์ตัวใหม่ของเรา แต่น่าจะเก่าของคนอื่นมา
ก็เลยพกไปด้วยให้หนักเล่น ๆ
ทริปนี้ กดไม่หมดเลยกลับมาถ่ายรูปที่บ้าน กรุงเทพอีก 4 ใบจะลงให้ดูท้ายกระทู้
เล่าก่อนว่าปกติเวลาไปเที่ยวกับมารดา ก็ใช้บริการทัวร์ ง่าย สะดวก ไม่มีปัญหามาก
หรือเราเป็นคนง่าย ๆ ก็ไม่แน่ใจนะ
แต่ข้อดีก็คือ ร้อน หนาว ฝนตก หิว มีคนบริการหมด
มารดาถูกใจมาก ทิปไกด์ คนขับ เด็กยกกระเป๋า ร่วม ๆ สี่พันบาท
เราใช้กล้อง Olympus Trip 35 ใช้ง่าย เล็ง กด ๆๆ
ฟิลม์ก็เลือก Kodak color plus 400
เราไปช่วงหน้าฝน คือเช้าฝนตก เที่ยงแดดแจ่ม เอาใจกล้องไม่ถูกเลยใช้ฟิลม์สามัญประจำบ้าน
ออกตัวก่อนว่าไม่ได้จับกล้องฟิลม์มานานนับ 12-15 ปี หลังจากเรียนจบ
หากจะหลุดโฟกัส หรือมุมมองภาพแปลก ๆ ก็ขออภัย
วัดพระนอนชเวตาเลียว
พระพุทธไสยาสน์ชเตาเลียว เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์อันดับสองของเมืองหงสาวดี รองจากพระมหาธาตุมุเตา และเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่มีความยาว 181 ฟุต สูง 50 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าเมงกะติปะ พ.ศ.1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาท ต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน เล่าขานว่าเป็นพระรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน
(ข้อมูลจากหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่ทางบริษัททัวร์แจก)
วัดนี้มารดาชอบมาก เนื่องจากของขายหน้าวัดเยอะ เราเองก็ซื้อผ้านุ่งหมดไปเยอะอยู่
วัดเจดีย์ไจ๊ปุ่น มีอายุกว่า 500 ปี เป็นวัดที่สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ไปทุกทิศ แทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ มีตำนานเล่าว่า พระราชธิดาทั้งสี่องค์ของกษัตริย์มอญที่อุทิศตนแด่พุทธศาสนา จึงสร้างพระพุทธรูปแทนตนเองและได้สาบานไว้ว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ต่อมาน้องสาวคนสุดท้อง กลับพบรักกับชายหนุ่มและแต่งงานกัน จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปที่แทนตัวของน้องสาวคนสุดท้องพังทลายลงมา จนต้องมีการสร้างขึ้นมาใหม่ตามที่เห็นในปัจจุบัน โดยพระพุทธรูปองค์นี้จะมีลักษณะแตกต่างจากองค์อื่น ๆ คือจะเป็นศิลปะแบบพม่า
วัดนี้ถ้ามาช่วงหน้าร้อนก็จะร้อนมาก เนื่องจากไม่มีร่มให้เดินชมรอบ ๆ องค์พระ
ร้านขายผลไม้หน้าวัดอร่อย ฝรั่ง มะม่วง ราคาแพง แต่ถือว่าอุดหนุนคนท้องถิ่น
เจดีย์เยเลพญา หรือ เจดีย์กลางน้ำ ตามตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยมีคหบดีชาวมอญเป็นผู้สร้างและยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ ถ้ามีผู้คนมากราบไหว้จำนวนมากเท่าไหร่ก็ขอให้ไม่มีวันเต็มล้นพื้นที่ และยังขึ้นชื่อเรื่องการขอพรด้านการค้าขาย ถ้าใครไปเองน่าจะมีเวลานั่งเล่น ให้อาหารปลาที่วัดนี้ได้นาน ๆ นั่งรับลมเย็น ๆ แสนสบาย พร้อมดูคนท้องถิ่นแต่งชุดสวยมาเที่ยววัด
ส่วนตัวเราชอบวัดนี้ ถ่ายมาถึง 3 ใบ
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เราไปตอนมืดมากแล้ว จริง ๆ ถ่ายมา 3 ภาพ ภาพเจดีย์ค่อนข้างมืด เลยไม่ได้ลงให้ชม
เทพทันใจนัตโบโบยี เจดีย์โบตาทาวน์
เราแอบถ่ายคุณน้าผู้กำลังจัดของสำหรับไหว้เทพทันใจ
เจดีย์อยู่ในช่วงบูรณะ เราเลยถ่ายภาพของยอดเจดีย์มา ถ้าดูใกล้ ๆ จะเห็นต่างหู แหวน สร้อย ที่ผู้มีจิตศรัทธานำมาถวายเป็นพุทธบูชา
ระหว่างทางไปพระธาตุอินทร์แขวน คนพม่าเรียกว่า ไจ่ก์ทิโย
เจดีย์ไจ้ทีโย หรือ พระธาตุอินทร์แขวน Kyaikhtiyo Pagoda (Golden Rock)
ยามเช้าที่บันได