ทำไมถึงจะต้องบังคับชายไทยทุกคนเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ? การเกณฑ์ทหารใช่ว่าจะช่วยให้ประเทศเจริญหรือพัฒนาก้าวหน้าไปได้ แต่แน่นอนมันก็มีข้อดีอยู่บ้าง แต่มันก็มีข้อเสียอยู่มากด้วยเช่นกัน การบังคับให้ใครสักคนไปทำในสิ่งที่ตนเองไม่ต้องการมันก็จะส่งผลมาตอนท้ายอยู่แล้วนั้นก็คือ ความล้มเหลว ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลย ถ้าพ่อแม่ส่งลูกไปเรียน แพทย์ พยาบาล แต่ลูกไม่ชอบไม่อยากเรียนไม่ใช่สิ่งที่ตนเองชอบ แต่พ่อแม่บอกว่ามันจะทำให้อนาคตของลูกเจอแต่สิ่งที่ดี ถ้าถามว่าใช่บางคนจบออกมาจากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นชอบได้ แต่บางคนจากที่ไม่ชอบอาจจะเกลียดไปเลยก็ได้และผลสุดท้ายก็จะได้แพทย์ พยาบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากไม่มีความชื่นชอบอยู่แล้ว และมันก็จะส่งผลทำให้ประสิทธิในการรักษาไม่เต็มที่ การเกณฑ์ทหารก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าคุณจะอ้างว่า การรับเข้าเป็นทหารทำเพื่อชาติ (บนโลกใบนี้การทำเพื่อชาติไม่ได้มีแค่การเป็นทหารอย่างเดียว) และบอกว่าเป็นหน้าที่ของชายไทยที่จะต้องทำมันเป็นหน้าที่ (หน้าที่นี้มันก็สามารถรับเปลี่ยนได้หรือป่าว ขนาดในสมัยก่อนหน้าที่ดูแลงานบ้านปกติจะต้องเป็นของฝ่ายผู้หญิงเท่านั้น แต่ทำไมในสมัยปัจจุบันความคิดนี้ถึงเปลี่ยนแปลงได้ละ ทำไมถึงไม่คิดบ้างละว่าก็มันเป็นหน้าที่ที่กำหนดมาแล้วตั้งแต่สมัยก่อน มันก็ควรที่จะปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยให้มันเหมาะสม ความคิดบางอย่างมันสามารถใช้ได้แค่ในช่วงยุคสมัยหนึ่งเท่านั้นไม่สามารถที่จะใช้ได้ไปตลอดกาล) การเลือกที่ดีที่สุดคือให้มีระบบของการรับสมัครแทนการรับไปทั้งหมด การรับสมัคร คือ คุณจะต้องมีใจที่พร้อมและร่างกายที่พร้อมอยู่แล้วในการจะเป็นทหาร แต่การเกณฑ์ทหารนั้นก็คือต่อให้คุณจะพร้อมหรือไม่พร้อม คุณก็ต้องไป ถ้าสมมติว่าเกิดเหตุสงครามขึ้นจริง ๆ ในอีก 1 เดือนข้างหน้า กลุ่มคนที่จะไปรบได้จริง ๆ คงมีแต่พวกนักเพาะกล้าม นักกีฬา อาชีพที่ใช้กำลังกายซะมากกว่า ส่วนอาชีพพนังงานออฟฟิส พนังงานขับรถ พนังงานทำความสะอาด ฯลฯ คงไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะไปสู้รบกับใครแน่นอน ถ้าเอาไปก็เหมือนกับว่าเอาไปให้ตายฟรีเล่น ๆ เพราะร่างกายก็ไม่พร้อม ยิ่งจิตใจไม่ต่อพูดถึงไม่พร้อมมากกว่าแน่นอน และสำหรับเด็กที่เพิ่งจบมาใหม่มันทำให้เสียโอกาสเป็นอย่างมากในการสร้างชีวิตของตนเอง เพราะส่วนมากที่ทำงานจะไม่ค่อยมีใครอยากที่จะรับเข้าทำงานเพราะมันจะส่งผลต่อตำแหน่งได้ถ้าเกิดจะต้องไปเข้าเป็นทหาร จึงทำให้เด็กที่จบมาใหม่เกิดอัตราการว่างงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางคนจบมาก็อยากที่จะทำงานใช้หนี้ สร้างอนาคต แต่จบมาทำงานไม่ได้ไปไหนไม่ได้ ต้องไปทำงาน part-time แทนซึ่งมันก็ไม่ได้ใช้ความรู้ที่ตนเองเรียนมา บางคนที่กู้เรียนมาจบมาก็ไม่มีงานทำยังไม่มีรายได้ แต่มีการทวงเงินจากการกู้ยืมแล้ว (ประสบการณ์จากเพื่อนผม เพิ่งจบมาใหม่ไม่สามารถเข้าไปทำงานที่ไหนได้เพราะติดเรื่องการเกณฑ์ทหารแต่กลับมีข้อความส่งว่ามาจะต้องชำระหนี้) ซึ่งมันอาจจะเป็นปัญหาเล็กๆน้อย ๆ สำหรับใครหลายๆ คนแต่สำหรับบางคนมันเป็นเรื่องใหญ่มาก ภายใน 1 ปี คุณลองคำนวณดูสิว่า ถ้าคุณทำงาน part-time และต้องดูแลครอบครัวและยังต้องใช้หนี้ที่กู้มาเรียนอีก จากที่จบมาจะมีอนาคตที่ดีกลับกลายเป็นว่าจะต้องอดทนอีก 1-2 ปี ไปอีกการเรียนจบและมีงานทำมันเป็นสิ่งที่นักศึกษาต้องการ ไม่ใช่จบมาแล้วยังจะต้องกลุ้มใจต่ออีกว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี ทำงานในสาขาที่ตนเองเรียนมาก็ไม่ได้ ต้องไปทำงาน part-time แทนก่อน บางคนหลังจากเกรณฑ์ทหารออกมาชีวิตอาจจะเปลี่ยนไปอีกแบบเลยหรือบางคนที่เคยทำงานอยู่ก่อนมาแล้วพอไปเป็นทหารกลับออกมาก็ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่มันทำให้ชีวิตหลาย ๆ คนพังได้เลยเช่นกัน
ปล.บางคนที่บอกว่าก็มี รด. ให้เรียนแล้วไงทำไมไม่วางแผนตั้งแต่แรกละ สำหรับบางคนวางแผนแล้วนะครับอย่างเช่นผม แต่สมัครสอบ รด. สองครั้ง ก็ไม่ผ่านร่างกายไม่พร้อมไม่ผ่านทั้งสองครั้ง
ทางที่ดีที่สุดคือการให้มีระบบสมัครทหารแทนเป็นสิ่งที่ดีกว่าอย่างแน่นอน 100 % ไม่งั้นมันคงไม่เกิดปัญหามากมาย ทุกๆอย่างบนโลกนี้ล้วนสร้างปัญหาอยู่ที่ว่ามันจะสร้างปัญหาให้มากหรือน้อยเท่านั้นเอง แต่สำหรับปัญหาการเกณฑ์ทหารนี้มันทำให้เกิดปัญหามากกว่า ประโยชน์ ถ้ามันทำให้เกิดประโยชน์มากกว่าปัญหาคงไม่มีใครเดือดร้อนมากมาย
สำหรับคนที่บอกว่าก็เป็นๆไปเถอะไม่กี่ปีเอง งั้นลองคิดแบบนี้นะครับ ถ้าคุณมีลูกชายแล้วจบมาเขาเป็นความหวังเดียวของครอบครัวคุณ แต่จบมาแล้วทำงานตามสาขาไม่ได้ ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวย คุณจะรู้สึกอย่างไรที่เห็นลูกตัวเอง ไปไหนก็ไม่ได้ทำงานที่ไหนก็ยังไม่ได้ต้องไปทำงาน part-time เอาก่อนคุณว่าคุณอยากเห็นลูกของคุณเองเป็นแบบนั้นใช่หรือไม่ (สำหรับคนที่มีธุรกิจทางบ้านอยู่แล้วคงไม่มีปัญหาแต่สำหรับคนที่ไม่มีอะไรเลยต้องเริ่มสร้างจากจุดเริ่มต้นมันเป็นอะไรที่ลำบากมาก ๆ แล้วคุณไปหยุดเขาไว้ 1-2 ปีในการสร้างอนาคตที่ดีใน 1-2 ปีที่หายไปนั้นมันอาจจะมีโอกาสที่ทำให้ชีวิตเขาเจออะไรที่ดีก็ได้ เหมือนกับว่าคุณไปปิดกั้นโอกาสของคนๆหนึ่งเอาไว้)
สำหรับคนที่บอกว่าคนไปเป็นทหารแล้วได้ระเบียบได้วินัยมาเยอะแยะ งั้นลองดูสังคมในปัจจุบันนะครับว่า เป็นระเบียบมีวินัยกันดีหรือยัง ทั้งการฝ่าไฟแดง ทั้งการขับรถบนทางเท้า การขายของในที่ที่ห้ามขาย ฯลฯ และคนเหล่านั้นก็เคยผ่านช่วงในวัยเกณฑ์ทหารมาแล้วทั้งสิ้นแต่ทำไมยังมีพฤติกรรมที่กล่าวมานี้อยู่ทั่วไปจนเรามองมันเป็นเรื่องธรรมดาไปกันแล้ว
มนุษย์เป็นสิ่งที่มีหัวใจมีจิตใจการไปบังคับทุกอย่าง โดยอ้างว่าก็มันเป็นกฎไง มันคือกฎไง แต่กฎที่เป็นสัจธรรมที่สุดคือ กฎของธรรมชาติ และธรรมชาติของมนุษย์นั้นคือการมีอิสระทางความคิด กฎมันคือสิ่งที่กลุ่มคนบางกลุ่มสร้างขึ้นมาเพื่อบังคับใช้กับคนหมู่มาก แต่บางกฎมันใช้ได้แค่กับคนกลุ่มเดียวเท่านั้นไม่สามารถใช้ได้กับคนทุกคนแต่การที่ยัดเหยียดบังคับให้ใช้กับทุกคนนั้นโดยอ้างว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ถ้าขัดขืนถ้าไม่ทำตามก็จะโดนมองว่าเป็นคนไม่ดี แล้วธรรมชาติของมนุษย์เรานั้นไม่ต้องการให้คนอื่นมามองว่าเราไม่ดี สิ่งที่มนุษย์นั้นชื่นชอบมากคือการที่มีคนรอบข้างนั้นยอมรับและไม่ถูกมองว่าแปลกแยก เลยยินยอมทำตามไปแต่โดยดีเพราะไม่อยากรู้สึกแปลกแยก เพราะมันทำให้รู้สึกว่าปลอดภัย
ทำไมระบบการเกณฑ์ทหารจะต้องบังคับชายไทยทุกคนให้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร
ปล.บางคนที่บอกว่าก็มี รด. ให้เรียนแล้วไงทำไมไม่วางแผนตั้งแต่แรกละ สำหรับบางคนวางแผนแล้วนะครับอย่างเช่นผม แต่สมัครสอบ รด. สองครั้ง ก็ไม่ผ่านร่างกายไม่พร้อมไม่ผ่านทั้งสองครั้ง
ทางที่ดีที่สุดคือการให้มีระบบสมัครทหารแทนเป็นสิ่งที่ดีกว่าอย่างแน่นอน 100 % ไม่งั้นมันคงไม่เกิดปัญหามากมาย ทุกๆอย่างบนโลกนี้ล้วนสร้างปัญหาอยู่ที่ว่ามันจะสร้างปัญหาให้มากหรือน้อยเท่านั้นเอง แต่สำหรับปัญหาการเกณฑ์ทหารนี้มันทำให้เกิดปัญหามากกว่า ประโยชน์ ถ้ามันทำให้เกิดประโยชน์มากกว่าปัญหาคงไม่มีใครเดือดร้อนมากมาย
สำหรับคนที่บอกว่าก็เป็นๆไปเถอะไม่กี่ปีเอง งั้นลองคิดแบบนี้นะครับ ถ้าคุณมีลูกชายแล้วจบมาเขาเป็นความหวังเดียวของครอบครัวคุณ แต่จบมาแล้วทำงานตามสาขาไม่ได้ ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวย คุณจะรู้สึกอย่างไรที่เห็นลูกตัวเอง ไปไหนก็ไม่ได้ทำงานที่ไหนก็ยังไม่ได้ต้องไปทำงาน part-time เอาก่อนคุณว่าคุณอยากเห็นลูกของคุณเองเป็นแบบนั้นใช่หรือไม่ (สำหรับคนที่มีธุรกิจทางบ้านอยู่แล้วคงไม่มีปัญหาแต่สำหรับคนที่ไม่มีอะไรเลยต้องเริ่มสร้างจากจุดเริ่มต้นมันเป็นอะไรที่ลำบากมาก ๆ แล้วคุณไปหยุดเขาไว้ 1-2 ปีในการสร้างอนาคตที่ดีใน 1-2 ปีที่หายไปนั้นมันอาจจะมีโอกาสที่ทำให้ชีวิตเขาเจออะไรที่ดีก็ได้ เหมือนกับว่าคุณไปปิดกั้นโอกาสของคนๆหนึ่งเอาไว้)
สำหรับคนที่บอกว่าคนไปเป็นทหารแล้วได้ระเบียบได้วินัยมาเยอะแยะ งั้นลองดูสังคมในปัจจุบันนะครับว่า เป็นระเบียบมีวินัยกันดีหรือยัง ทั้งการฝ่าไฟแดง ทั้งการขับรถบนทางเท้า การขายของในที่ที่ห้ามขาย ฯลฯ และคนเหล่านั้นก็เคยผ่านช่วงในวัยเกณฑ์ทหารมาแล้วทั้งสิ้นแต่ทำไมยังมีพฤติกรรมที่กล่าวมานี้อยู่ทั่วไปจนเรามองมันเป็นเรื่องธรรมดาไปกันแล้ว
มนุษย์เป็นสิ่งที่มีหัวใจมีจิตใจการไปบังคับทุกอย่าง โดยอ้างว่าก็มันเป็นกฎไง มันคือกฎไง แต่กฎที่เป็นสัจธรรมที่สุดคือ กฎของธรรมชาติ และธรรมชาติของมนุษย์นั้นคือการมีอิสระทางความคิด กฎมันคือสิ่งที่กลุ่มคนบางกลุ่มสร้างขึ้นมาเพื่อบังคับใช้กับคนหมู่มาก แต่บางกฎมันใช้ได้แค่กับคนกลุ่มเดียวเท่านั้นไม่สามารถใช้ได้กับคนทุกคนแต่การที่ยัดเหยียดบังคับให้ใช้กับทุกคนนั้นโดยอ้างว่ามันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ถ้าขัดขืนถ้าไม่ทำตามก็จะโดนมองว่าเป็นคนไม่ดี แล้วธรรมชาติของมนุษย์เรานั้นไม่ต้องการให้คนอื่นมามองว่าเราไม่ดี สิ่งที่มนุษย์นั้นชื่นชอบมากคือการที่มีคนรอบข้างนั้นยอมรับและไม่ถูกมองว่าแปลกแยก เลยยินยอมทำตามไปแต่โดยดีเพราะไม่อยากรู้สึกแปลกแยก เพราะมันทำให้รู้สึกว่าปลอดภัย