"เพื่อไทย" แนะรัฐบาล ชู "ตลาดอินเดีย" ทางออกท่องเที่ยวไทยช่วงโลว์ซีซัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_1649745
แนะรัฐบาลชูตลาดอินเดีย-เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีปัญหาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ว่า
การท่องเที่ยวจากที่เคยเป็นโอกาส กลับกลายเป็นปัญหา ทั้งต่อผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งระบบ และกระทบต่อรายได้ของประเทศจากการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง ลักษณะจำเพาะของการท่องเที่ยวคือแปรผันตรงต่อเศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นั่นหมายถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลกมีสูง และไทยยังพึ่งพิงนักท่องเที่ยวจีนในสัดส่วนที่สูงมาก
นาย
เผ่าภูมิ กล่าวว่า ฉะนั้นรายได้การท่องเที่ยวไทย จึงผูกกับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนเป็นอย่างมาก อีกหนึ่งลักษณะจำเพาะที่สำคัญของการท่องเที่ยวคือ ฤดูกาล โดยจะเฟื่องฟูในฤดูกาลท่องเที่ยว และจะฟุบในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว ทำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โรงแรม ร้านค้า ผู้ประกอบการขนาดย่อม ต่างประสบปัญหาในช่วงโลว์ซีซันส์ธุรกิจที่สายป่านสั้นก็จะมีปัญหา เฉพาะผู้ประกอบการที่สายป่านยาวเท่านั้น ที่จะทนผ่านช่วงโลว์ซีซันส์ได้ หนึ่งในทางแก้ไขปัญหานี้ ตนมองไปที่การสร้างการกระจายตัวของนักท่องเที่ยว โดยการสลับส่งเสริมการท่องเที่ยวแบ่งตามฤดูกาลผ่านการสนับสนุนการท่องเที่ยวจาก อินเดียในช่วงโลว์ซีซัน
นาย
เผ่าภูมิ กล่าวว่า จุดเด่นที่สำคัญของอินเดีย คือฤดูกาลท่องเที่ยวของอินเดียตรงกับช่วงโลว์ซีซันส์ของไทย โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ของทุกปี ซึ่งสลับกับนักท่องเที่ยวจีน ตรงนี้น่าสนใจ เพราะจะสามารถแก้ปัญหาทั้งของผู้ประกอบการและรายได้ประเทศจากการท่องเที่ยวหดตัวในช่วงโลว์ซีซันส์ได้ หากเราสามารถสร้างตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียในช่วงโลวซีซันส์ และสร้างตลาดจีนในช่วงไฮซีซันส์ ต้องแยกยุทธศาสตร์การสร้างตลาด 2 ประเทศนี้ออกจากกัน โดยแบ่งตามฤดูกาล เพราะมีลักษณะจำเพาะที่แตกต่างกัน เช่น นักท่องเที่ยวอินเดียจะเน้นไปที่การท่องเที่ยวสุขภาพ กลุ่มคู่รักหลังแต่งงาน กลุ่มการจัดงานแต่งงาน
“ซึ่งชาวอินเดียใช้เงินสำหรับการแต่งงานเฉลี่ยคิดเป็น 1 ใน 5 ของรายได้สะสมตลอดชีวิต ชนชั้นกลางของอิเดียกำลังขยายตัวอย่างมหาศาล จะขยายจำนวนถึง 7 เท่า ในอีก 7 ปีข้างหน้า อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก และจะมีประชากรเป็นอันดับ 1 แทนจีนในปี 2565 ซึ่งเป็นโอกาสอันมหาศาลของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย อยากฝากไปยังรัฐบาลว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ และผูกพันหลายภาคส่วนในวงกว้าง เป็นโอกาสอันมหาศาลถ้ามองอย่างชาญฉลาด แต่สามารถเป็นปัญหาทรุดทั้งระบบได้ถ้าปล่อยไปตามยถากรรม” นาย
เผ่าภูมิ กล่าว
'เท่าพิภพ' โพสต์เล่า เรื่องร้องเรียนของชาวฝั่งธนฯ ฝุ่น-เสียงดัง จากการก่อสร้างในยามวิกาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_1649611
‘เท่าพิภพ’ โพสต์เล่า เรื่องร้องของชาวฝั่งธนฯ เสียงดัง-ฝุ่น จากการก่อสร้างในยามวิกาล
วันนี้ (30 ส.ค.)
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.คลองสาน ธนบุรี บางกอกใหญ่ กทม. พรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ผ่านแฟนเพจ
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร – Taopiphop Limjittrakorn ในหัวข้อ
“ข้อร้องเรียนการก่อสร้างเสียงดังยามวิกาลของรถไฟฟ้าสายสีทอง” ใจความว่า
“หลังจากที่ได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทองว่า รบกวนความเป็นอยู่ของชาวบ้านในบริเวณนั้นมาค่อนข้างมาก ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ก่อนหน้านี้ได้นำเรื่องเข้ายังที่ประชุมประจำเดือนเขตคลองสาน แต่ได้รับคำตอบว่า การก่อสร้างได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างในช่วงกลางคืนเพื่อเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็ว แต่ก็มีบางครอบครัวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เขียนจดหมายร้องเรียนมาถึงผม
เมื่อวานนี้ผมได้เข้าไปพบครอบครัวผู้เสียหายและได้อยู่ตรวจสอบที่เกิดเหตุถึงเวลา 1.00 น. พบว่า
1. บริเวณนั้นมีครอบครัวที่ได้รับความเสียหายอยู่ 3 ครอบครัว โดยครอบครัวที่แจ้งผมมานั้นประกอบไปด้วยผู้สูงอายุ 2 ท่าน ผู้ใหญ่วัยทำงาน 3 ท่าน และเด็กวัยเรียน 2 ท่าน ทั้งหมดประสบกับปัญหานอนไม่หลับเนื่องจากการก่อสร้างเสียงดัง เจ็บป่วย ได้รับฝุ่นผงจากการก่อสร้าง การเดินทางเข้าบ้านที่ยากลำบาก โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งไปยังบริษัทรับเหมาก่อสร้างโดยตรง ซึ่งทางบริษัทสัญญาว่าจะชดเชยค่าเสียหายให้ แต่เวลาล่วงมาเป็นเดือนก็ยังไร้วี่แวว จึงติดต่อผมเพื่อขอความช่วยเหลือ
2. รถบรรทุกการก่อสร้างจะเข้ามาบริเวณไซต์งานได้เวลา 23.00 น. เนื่องจากต้องรอให้ทางห้างนำรถออกหมดตอน 22.30 น.
เป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่เมื่อวานมีสำนักข่าวมาถ่ายสกู๊ปการทำงานของผม จึงได้สัมภาษณ์ผู้เสียหาย โดยตรง นอกจากนี้ผมยังได้พาผู้สื่อข่าวไปยังการก่อสร้างคอนโดที่มีกรณีพิพาทกับชาวบ้าน ซึ่งเขตธนบุรี คลองสาน บางกอกใหญ่ประสบปัญหานี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากการขยายตัวของเมือง ผมยืนยันว่า ความเจริญควรเข้าถึงทุกคน แต่ต้องไม่เป็นปัญหากับท้องถิ่น ซึ่งเรื่องนี้ต้องหาทางแก้ไขกันต่อไป แต่ก็หวังว่าสื่อจะมีส่วนช่วยในการกดดันให้เกิดความถูกต้องในสังคมครับ”
https://www.facebook.com/Taopiphop/posts/409818789664163
JJNY : พท.แนะรบ.ชูตลาดอินเดียท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซัน/เท่าพิภพเล่าเรื่องร้องเรียนของชาวฝั่งธนฯ/แบงก์ชาติจับตาว่างงานเพิ่ม
https://www.matichon.co.th/politics/news_1649745
การท่องเที่ยวจากที่เคยเป็นโอกาส กลับกลายเป็นปัญหา ทั้งต่อผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งระบบ และกระทบต่อรายได้ของประเทศจากการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง ลักษณะจำเพาะของการท่องเที่ยวคือแปรผันตรงต่อเศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นั่นหมายถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลกมีสูง และไทยยังพึ่งพิงนักท่องเที่ยวจีนในสัดส่วนที่สูงมาก
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ฉะนั้นรายได้การท่องเที่ยวไทย จึงผูกกับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนเป็นอย่างมาก อีกหนึ่งลักษณะจำเพาะที่สำคัญของการท่องเที่ยวคือ ฤดูกาล โดยจะเฟื่องฟูในฤดูกาลท่องเที่ยว และจะฟุบในช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว ทำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โรงแรม ร้านค้า ผู้ประกอบการขนาดย่อม ต่างประสบปัญหาในช่วงโลว์ซีซันส์ธุรกิจที่สายป่านสั้นก็จะมีปัญหา เฉพาะผู้ประกอบการที่สายป่านยาวเท่านั้น ที่จะทนผ่านช่วงโลว์ซีซันส์ได้ หนึ่งในทางแก้ไขปัญหานี้ ตนมองไปที่การสร้างการกระจายตัวของนักท่องเที่ยว โดยการสลับส่งเสริมการท่องเที่ยวแบ่งตามฤดูกาลผ่านการสนับสนุนการท่องเที่ยวจาก อินเดียในช่วงโลว์ซีซัน
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า จุดเด่นที่สำคัญของอินเดีย คือฤดูกาลท่องเที่ยวของอินเดียตรงกับช่วงโลว์ซีซันส์ของไทย โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ของทุกปี ซึ่งสลับกับนักท่องเที่ยวจีน ตรงนี้น่าสนใจ เพราะจะสามารถแก้ปัญหาทั้งของผู้ประกอบการและรายได้ประเทศจากการท่องเที่ยวหดตัวในช่วงโลว์ซีซันส์ได้ หากเราสามารถสร้างตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียในช่วงโลวซีซันส์ และสร้างตลาดจีนในช่วงไฮซีซันส์ ต้องแยกยุทธศาสตร์การสร้างตลาด 2 ประเทศนี้ออกจากกัน โดยแบ่งตามฤดูกาล เพราะมีลักษณะจำเพาะที่แตกต่างกัน เช่น นักท่องเที่ยวอินเดียจะเน้นไปที่การท่องเที่ยวสุขภาพ กลุ่มคู่รักหลังแต่งงาน กลุ่มการจัดงานแต่งงาน
“ซึ่งชาวอินเดียใช้เงินสำหรับการแต่งงานเฉลี่ยคิดเป็น 1 ใน 5 ของรายได้สะสมตลอดชีวิต ชนชั้นกลางของอิเดียกำลังขยายตัวอย่างมหาศาล จะขยายจำนวนถึง 7 เท่า ในอีก 7 ปีข้างหน้า อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก และจะมีประชากรเป็นอันดับ 1 แทนจีนในปี 2565 ซึ่งเป็นโอกาสอันมหาศาลของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย อยากฝากไปยังรัฐบาลว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ และผูกพันหลายภาคส่วนในวงกว้าง เป็นโอกาสอันมหาศาลถ้ามองอย่างชาญฉลาด แต่สามารถเป็นปัญหาทรุดทั้งระบบได้ถ้าปล่อยไปตามยถากรรม” นายเผ่าภูมิ กล่าว
'เท่าพิภพ' โพสต์เล่า เรื่องร้องเรียนของชาวฝั่งธนฯ ฝุ่น-เสียงดัง จากการก่อสร้างในยามวิกาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_1649611
‘เท่าพิภพ’ โพสต์เล่า เรื่องร้องของชาวฝั่งธนฯ เสียงดัง-ฝุ่น จากการก่อสร้างในยามวิกาล
วันนี้ (30 ส.ค.) นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.คลองสาน ธนบุรี บางกอกใหญ่ กทม. พรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ผ่านแฟนเพจ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร – Taopiphop Limjittrakorn ในหัวข้อ “ข้อร้องเรียนการก่อสร้างเสียงดังยามวิกาลของรถไฟฟ้าสายสีทอง” ใจความว่า
“หลังจากที่ได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทองว่า รบกวนความเป็นอยู่ของชาวบ้านในบริเวณนั้นมาค่อนข้างมาก ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ก่อนหน้านี้ได้นำเรื่องเข้ายังที่ประชุมประจำเดือนเขตคลองสาน แต่ได้รับคำตอบว่า การก่อสร้างได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างในช่วงกลางคืนเพื่อเร่งรัดให้เสร็จโดยเร็ว แต่ก็มีบางครอบครัวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เขียนจดหมายร้องเรียนมาถึงผม
เมื่อวานนี้ผมได้เข้าไปพบครอบครัวผู้เสียหายและได้อยู่ตรวจสอบที่เกิดเหตุถึงเวลา 1.00 น. พบว่า
1. บริเวณนั้นมีครอบครัวที่ได้รับความเสียหายอยู่ 3 ครอบครัว โดยครอบครัวที่แจ้งผมมานั้นประกอบไปด้วยผู้สูงอายุ 2 ท่าน ผู้ใหญ่วัยทำงาน 3 ท่าน และเด็กวัยเรียน 2 ท่าน ทั้งหมดประสบกับปัญหานอนไม่หลับเนื่องจากการก่อสร้างเสียงดัง เจ็บป่วย ได้รับฝุ่นผงจากการก่อสร้าง การเดินทางเข้าบ้านที่ยากลำบาก โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งไปยังบริษัทรับเหมาก่อสร้างโดยตรง ซึ่งทางบริษัทสัญญาว่าจะชดเชยค่าเสียหายให้ แต่เวลาล่วงมาเป็นเดือนก็ยังไร้วี่แวว จึงติดต่อผมเพื่อขอความช่วยเหลือ
2. รถบรรทุกการก่อสร้างจะเข้ามาบริเวณไซต์งานได้เวลา 23.00 น. เนื่องจากต้องรอให้ทางห้างนำรถออกหมดตอน 22.30 น.
เป็นความโชคดีอย่างหนึ่งที่เมื่อวานมีสำนักข่าวมาถ่ายสกู๊ปการทำงานของผม จึงได้สัมภาษณ์ผู้เสียหาย โดยตรง นอกจากนี้ผมยังได้พาผู้สื่อข่าวไปยังการก่อสร้างคอนโดที่มีกรณีพิพาทกับชาวบ้าน ซึ่งเขตธนบุรี คลองสาน บางกอกใหญ่ประสบปัญหานี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากการขยายตัวของเมือง ผมยืนยันว่า ความเจริญควรเข้าถึงทุกคน แต่ต้องไม่เป็นปัญหากับท้องถิ่น ซึ่งเรื่องนี้ต้องหาทางแก้ไขกันต่อไป แต่ก็หวังว่าสื่อจะมีส่วนช่วยในการกดดันให้เกิดความถูกต้องในสังคมครับ”
https://www.facebook.com/Taopiphop/posts/409818789664163