การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 65 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2020)
วันที่ 12, 14 และ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
ณ เมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562
สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กลับมาพบกันอีกครั้งในรอบหลายวันนะคะ หลังจากเราได้นำเสนอข่าวการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของเมืองต่างๆในเนเธอร์แลนด์เมื่อวานนี้เมื่อเดือนที่แล้ว
ทางกระทู้นี้ ผ่านมาไม่ทันไร เราก็ได้รู้เมืองเจ้าภาพปีหน้าเป็นที่เรียบร้อย เมื่อประมาณห้าโมงเย็นที่ผ่านมาตามเวลาในบ้านเรา และเมืองที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพคือ...
เมืองร็อตเตอร์ดัมค่ะ !!!!
โดยผู้ที่ทำหน้าที่ประกาศเมืองเจ้าภาพในปีหน้าคือ ดันแคน ลอว์แรนซ์ แชมป์ปีนี้จากบ้านเขา โดยประกาศผ่านทางคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า โดยออกอากาศสดเวลาประมาณห้าโมงเย็นที่ผ่านมา ตามเวลาในบ้านเรา ทางช่อง NPO1 ค่ะ ให้เดาว่าดันแคนต้องบันทีกคลิปทั้งสองเมืองว่าอาจจะเป็นเมืองใดเมืองหนึ่ง ซึ่งทางอีบียู หน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดยูโรวิชั่น และช่อง NPO, NOS และ AVROTROS ช่องเจ้าภาพปีหน้าจะเป็นผู้ตัดสินเมืองเจ้าภาพในนาทีสุดท้าย ซึ่งท้ายที่สุด ดันแคนประกาศเมืองร็อตเตอร์ดัม ในบรรยากาศเมืองร็อตเตอร์ดัมที่มีสะพานอีรัสมัสเบิร์กอยู่ฉากหลัง
คลิปเมื่อวันก่อนเพื่อโหมโรงก่อนประกาศเมืองเจ้าภาพค่ะ
ซึ่งหลังประกาศเมืองเจ้าภาพแล้ว เจ้าตัวโพสทางทวิตเพื่อบอกว่าร็อตเตอร์ดัมเป็นเจ้าภาพปีหน้า แล้วร็อตเตอร์ดัมพร้อมหรือยัง
ทีนี้เรามารู้จักเมืองนี้กัน เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ อดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกสมัยที่ประเทศเป็นเจ้าอาณานิคม แต่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีทางอากาศจากนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งผลให้เราได้เห็นสิ่งก่อสร้างทันสมัยในเมืองแทนที่เพราะผลจากความเสียหายอย่างหนักนี่เองค่ะ แม้ว่าเมืองนี้เสียแชมป์เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว แต่เรายังได้สัมผัสกลิ่นอายความยิ่งใหญ่สมัยอดีตได้อยู่ และความทันสมัยของเมืองในฐานะศูนย์กลางธุรกิจของประเทศ เมืองนี้เลยยังคงความยิ่งใหญ่ได้อยู่
และสถานที่จัดการแข่งขันปีหน้า แน่นอนค่ะ ว่าต้องเป็นที่ อะฮอยร็อตเตอร์ดัม เป็นศูนย์การประชุมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จุได้ถึง 16,000 คน เคยจัดจูเนียร์ยูโรวิชั่นปี 2007 มาแล้ว เปิดใช้ในปี 1971 ได้รับการปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อปี 2011
และที่ตั้งก็ดีนะ ระบบขนส่งมวลชนสามารถไปได้ถึงสบายๆเลยล่ะ เพราะที่ตั้งใกล้สถานี Zuidplein ในรถไฟใต้ดินสาย D ค่ะ
Google
ก็เป็นไปตามที่เราคาด เพราะจากเมืองที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจากเริ่มต้น 10 เมือง จากนั้นเหลือ 5 เมือง แล้วเหลืออีก 2 เมืองที่ต้องแข่งกับเมืองมาสตริกซ์ เมืองนี้ได้เปรียบอะไรหลายๆอย่าง โดยเฉพาะสถานที่จัดที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่เอาจริงๆ อยากให้กรุงอัมสเตอร์ดัมรับเลือกเป็นเจ้าภาพนะ แต่ต่อมาขอถอนตัว เพราะสถานที่จัดที่เมืองนี้เตรียมถึง 3 ที่ ไม่มีช่วงว่างก่อนเตรียมสถานที่เลย น่าเสียดายมากๆ ไม่งั้นจะเพอร์เฟคเลย แต่เอาจริงๆร็อตเตอร์ดัมก็โอเคนะ เพราะเป็นครั้งแรกที่เมืองนี้เป็นเจ้าภาพ เพราะใน 4 ครั้งที่ผ่านมา กรุงเฮกจัด 2 ครั้งในปี 1976, 1980 กรุงอัมสเตอร์ดัมในปี 1970 และฮิลเวอร์ซัมในปี 1958 ค่ะ
แต่เมื่อสองสามวันที่แล้ว ก่อนที่จะประกาศเมืองเจ้าภาพอย่างเป็นทางการที่จะประกาศในวันที่ 30 ซึ่งคือวันนี้ เกิดมีข้อมูลรั่วไหลค่ะคุณ เพราะมีคนจับได้ว่าเวปยูโรวิชั่นหลุดชื่อเมืองเจ้าภาพซะก่อน ซึ่งคือเมืองร็อตเตอร์ดัม ซึ่งต่อมาก็ถูกลบไปก่อนที่จะมีการแก้ข่าวว่าเป็นความผิดพลาดในช่วงทดสอบระบบก่อนวันประกาศเท่านั้น
ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม....มันก็ตามคาดแหล่ะ แอ๊บตื่นเต้นแป๊ป
แต่อีกฟาก...ที่เมืองมาสตริกซ์ที่คาดหวังไว้มากๆว่าจะได้รับเลือก คงจะเป็นแบบนี้ ใครที่หมายว่าจะไปจัดเมืองบ้านไร่ชายทุ่งที่แสนโรแมนติกมีนกค่ะ
และนี่คือการรายงานสดของช่อง NOS ทันทีที่ประกาศเมืองเจ้าภาพ ซึ่งผู้สื่อข่าวประจำทั้งสองเมือง ซึ่งมันต้องมีคนดีใจคือฝั่งเมืองร็อตเตอร์ดัม และคนผิดหวังที่มาสตริกซ์ค่ะ และได้ข่าวว่าก่อนจะประกาศเพียงไม่กี่นาที มีข่าวหลุดว่าฝั่งเมืองมาสตริกซ์แสดงความผิดหวังที่ไม่ได้รับเลือก ซึ่งต่อมาก็เป็นจริงตามที่เป็นข่าว
แต่อย่างไรก็ตาม... เมืองนี้มีปัญหาที่ต้องแก้คือ...โรงแรมในช่วงนั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะขนาดช่วงปกติก็ไม่พออยู่ทุนเดิมแล้ว ทั้งที่โรงแรมเยอะแยะ แถมราคาแพงอีกต่างหาก ซึ่งทางเมืองต้องรับมือเรื่องนี้ให้ได้ ไม่งั้นคงมีดราม่ายาวๆแน่ๆ
ส่วนวันที่จะจัดการแข่งขันคือวันที่ 12, 14 และ 16 พฤษภาคม ปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะเจาะพอดี เพราะไม่ชนกับวันปลดปล่อยจากกองทัพนาซีซึ่งเป็นวันหยุดราชการและเป็นวันสำคัญของบ้านเขาในวันที่ 5 พฤษภาคม นอกจากนี้ไม่ชนกับวันแข่งรายการแข่งรถ F1 รายการ Dutch Grand Prix ที่เมืองซันโฟสต์ในวันที่ 3 พฤษภาคม และการแข่งฟุตบอลยูโร 2020 ในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่บ้านเขาเป็นประเทศเจ้าภาพร่วมกับอีกหลายประเทศในยุโรปด้วย
ทีนี้เรามาดูว่าใครน่าจะเป็นพิธีกรในปีหน้า โดยเราคัดเลือกความเป็นไปได้โดยอิงจากบุคคลในแวดวงยูโรวิชั่น ผู้ประกาศและพิธีกรจากช่องเจ้าภาพปีหน้าและพิธีกรและบุคคลที่มีชื่อเสียงในบ้านเขา เรามาดูกันว่าน่าจะมีใครบ้าง
คนแรก Cornald Maas เราเห็นหน้าเห็นตาบ่อยมากๆ ทั้งเป็นผู้ร่วมบรรยายการถ่ายทอดสดยูโรวิชั่น และเป็นพิธีกรปาร์ตี้คอนเสิร์ต Eurovison in Concert ที่จัดกันทุกปี คนนี้น่าจะมีโอกาสมากที่สุดเลยล่ะค่ะ
คนที่สอง Edsilia Rombley ตัวแทนปี 1998 และ 2007 คนนี้เราเห็นหน้าเห็นตาในการประกาศผลคะแนนในบางปีและพิธีกร Eurovision in Concert อีกคน
คนที่สาม Marlayne ตัวแทนปี 1999 คนนี้เห็นหน้าเห็นตาจาก Eurovision in Comcert ในบางปี และเธอเป็นพิธีกรรายการทีวีด้วย
คนที่สี่ Sylvie Meis นางแบบและพิธีกรชื่อดังระดับนานาชาติ ซึ่งเราว่าทางเจ้าภาพก็กล้าที่จะดึงเธอมาร่วมแน่ๆ แม้ว่าเธอไม่ได้เกี่ยวอะไรกับยูโรวิชั่น
คนที่ห้า Tim Douwsma คนนี้เป็นศิลปิน เคยประกาศคะแนนในปี 2014 มาแล้ว
คนที่หก Trijntje Oosterhuis ตัวแทนปี 2015 คนนี้เราว่ามีโอกาส เพราะนางมีผลงานการเป็นพิธีกรนอกเหนือจากศิลปินด้วย
คนที่เจ็ด Douwe Bob ตัวแทนปี 2016 เราว่าคนนี้มีโอกาสมากคนหนึ่ง ถ้าได้รับเลือก อยากเห็นเขาจัดปาร์ตี้อีก น่าจะอยู่ที่ห้องกรีนรูมได้เลยนะ
คนที่แปด Emma Wortelboer ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาตอนประกาศคะแนนเมื่อสองเดือนที่แล้ว เราว่านางมีโอกาสมากๆอีกคนนะ ถ้าได้รับเลือกคงจะเริ่ดดี แถมใครที่เป็นผู้ประกาศคะแนนประเทศที่ได้แชมป์มักได้เป็นพิธีกรในปีถัดไป เธอจะตามลูซี่ปีนี้ และฟิโอมีน่าเมื่อปีที่แล้ว ที่เคยเป็นผู้ประกาศคะแนนในปีที่ได้แชมป์และได้เป็นพิธีกรในปีต่อมาได้หรือเปล่า
และคนสุดท้าย แชมป์ปีนี้ ดันแคน ซึ่งเจ้าตัวบอกเองว่าอยากเป็นพิธีกร ซึ่งจะตามรอยโมนส์ที่ได้แชมป์และเป็นพิธีกรในปีต่อมาได้หรือไม่
ทีนี้ต้องมาดูกันต่อไปว่าทางเจ้าภาพจะคัดเลือกใครเป็นพิธีกร ซึ่งเราว่าคงต้องรออีกซักพักเลยล่ะ
ยังมีข่าวที่น่าสนใจในครั้งนี้ค่ะ
[Eurovision Magazine] ร็อตเตอร์ดัมได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่น 2020 พร้อมข่าวอื่นๆ