[Eurovision Magazine] 5 เมืองดัชต์เสนอตัวเป็นเจ้าภาพปี 2020/ คาดเดาพิธีกรปี 2020 และข่าวอื่นอีกเพียบ


การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 65 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2020)
ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์



วันที่ 12 กรกฎาคม 2562 


สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
ไม่ได้เจอกันตั้งนาน กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ
เอาจริงๆ ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องตั้งกระทู้ก็ได้ แต่แชมป์ปีนี้และเจ้าภาพปีหน้าอย่างเนเธอร์แลนด์มีความคืบหน้า
และมีความพร้อมมากถึงมากที่สุด มีความเอาจริงในการเป็นเจ้าภาพปีหน้า เลยเกิดกระทู้ในครั้งนี้ขึ้นค่ะ

ในช่วงที่ผ่านมา เมืองต่างๆในเนเธอร์แลนด์ได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพปีหน้ากันอย่างคับคั่ง แต่ในเวลาต่อมาบางเมืองได้ทยอยถอนตัวเพราะเหตุผลบางประการ จนในที่สุดเมื่อวันที่ 10 กรกฏาคมที่ผ่านมา มีเพียง 5 เมืองที่ยังยื่นเจตจำนงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ และมีพิธีส่งหนังสือการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามาดูกันว่ามีเมืองไหนอยู่ในสังเวียนนี้


© EBU


เริ่มที่เมืองแรก เมืองอาร์เน็ม ทางภาคตะวันออกของประเทศ เมืองนี้เป็นเมืองเล็กที่ใกล้ชายแดนเยอรมนี

เมืองนี้ได้เสนอตัวโดยส่งสนาม GelreDome สนามฟุตบอลของทีม Vitesse โดยจุประมาณ 34,000 คน (ในการจัดคอนเสิร์ต) และมีหลังคาเปิดปิดได้ โดยสนามนี้เป็นหนึ่งในสนามที่ใช้จัดฟุตบอลยูโร 2000 ที่เนเธอร์แลนด์และเบลเยี่ยมเป็นเจ้าภาพร่วม และใช้เป็นฮอลล์คอนเสิร์ตศิลปินดังๆทั้งในประเทศและระดับโลกมานักต่อนักแล้ว




จุดเด่น สนามนี้ใหญ่ที่สุดถ้าเทียบกับสถานที่ที่เมืองอื่นๆเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ

จุดด้อย เนื่องจากเป็นเมืองขนาดเล็ก สนามบินในเมืองนี้เลยมีขนาดเล็กสำหรับเครื่องบินขนาดเล็กเท่านั้น แต่ยังพอจะมีเส้นทางรถไฟความเร็วระหว่างประเทศที่เชื่อมกับเยอรมนีไว้แก้ขัดได้อยู่ นอกจากนี้บริเวณรอบๆสนาม ไม่มีระบบขนส่งมวลชนเข้าถึงเลย ซึ่งนี่แหล่ะจะเป็นจุดที่จะเสียเปรียบอย่างมากๆ และเรื่องการเจรจาของทีมฟุตบอลเจ้าของสนามที่แม้ว่าจะตกลงกันได้ แต่ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะไฟเขียวหรือไม่

เมืองต่อไป เมืองสเฮิร์ทโทเกนบอช ทางภาคใต้ของประเทศ เมืองไม่ได้มีขนาดใหญ่เช่นกัน ซึ่งนั่นก็จะเป็นข้อเสียเปรียบเช่นกัน

แต่เมืองนี้ได้ส่งฮอลล์ Brabanthallen ที่มีความจุประมาณ 10,000 คนมาเป็นตัวเลือก



จุดเด่น ยังหาจุดเด่นไม่เจอ

จุดด้อย เนื่องจากเมืองนี้เมืองเล็ก ไม่มีสนามบิน มีแต่รถไฟที่เป็นระบบธรรมดาจากกรุงอัมสเตอร์ดัมเท่านั้น การเดินทางจากเมืองหลวงมาที่นี่เลยอาจจะต้องใช้เวลา และนอกจากนี้ ขนาดฮอลล์ที่เราว่ายังเล็กเกินไป รวมกับระบบขนส่งมวลชนที่ไม่มีป้ายรถเมล์หรือสถานีรถไฟที่อยู่หน้าฮอลล์โดยตรง (ใกล้สุดคือสถานีของเมืองนี้ ซึ่งต้องเดินไปอีก) ซึ่งนั่นอาจจะนก

เมืองต่อมา เมืองร็อตเตอร์ดัม เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ เมืองแห่งความทันสมัย เพราะสร้างเมืองใหม่เกือบทั้งหมดจากผลพวงความเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นี่เคยจัดจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2007 มาแล้ว

เมืองนี้ส่งอะฮอยร็อตเตอร์ดัม เป็นศูนย์การประชุมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง จุได้ถึง 16,000 คน ซึ่งพอดีสำหรับยูโรวิชั่นได้ และที่นี่เคยจัดจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2007 มาแล้วด้วย




จุดเด่น เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองขนาดใหญ่และเป็นเมืองท่องเที่ยว ดังนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงยูโรวิชั่น

และเราว่าเมืองนี้มีความพร้อมมากที่สุดแล้ว (แถมงบอัดฉีดพร้อมไว้แล้ว) ไม่ใช่แค่นั้น ขนาดของฮอลล์ที่มาตรฐานยูโรวิชั่นได้เลย การเดินทางก็สะดวก เพราะเมืองนี้มีสนามบินขนาดใหญ่ (แต่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศไม่มากนัก) มีระบบรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศ และเชื่อมจากเมืองหลวงเดินทางสะดวก บริเวณฮอลล์มีรถเมล์และรถไฟใต้ดินผ่านด้วย

จุดด้อย เนื่องจากเมืองนี้มีสนามบินที่ยังไม่สามารถรองรับเที่ยวบินต่างประเทศมากพอ เลยต้องไปใช้ที่อัมสเตอร์ดัมและต้องต่อมาที่นี่ แต่อย่างไรก็ตาม ระบบรถไฟก็น่าจะพอช่วยได้อยู่

เมืองต่อมา เมืองมาสตริกช์ เมืองทางภาคใต้ของประเทศติดกับเบลเยี่ยม (แถมอยู่ส่วนที่แคบที่สุดของประเทศด้วย) เมืองนี้เป็นเมืองเก่าที่รอดพ้นจากความเสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งยังหลงเหลือความคลาสสิก แต่เมืองนี้ไม่ได้ใหญ่มากพอซักเท่าไหร่สำหรับเรา

เมืองนี้ส่ง MECC Maastricht ศูนย์การประชุมความจุ 20,000 คน เป็นตัวเลือก




จุดเด่น เมืองนี้ร่ำรวยทางด้านสถาปัตยกรรม แถมเป็นเมืองยอดนิยมในการฮันนี่มูนด้วย และเนื่องจากอยู่ส่วนที่แคบที่สุดในประเทศ การเดินทางไปเบลเยี่ยม และเยอรมนีจากเมืองนี้จะสะดวก ซึ่งตัวแทนสองประเทศในปีหน้าคงหวานหมูเดินทางด้วยรถยนต์ใช้เส้นมอเตอร์เวย์ก็เหลือเฟือแล้ว และนอกจากนี้ฮอลล์ที่ส่งมาก็มีขนาดใหญ่เป็นรองเมืองอาร์เน็มเท่านั้น แถมอยู่ในตัวเมืองอีกด้วย

จุดด้อย แม้มีเสียงสนับสนุนเมืองนี้มากมาย แต่...เมืองนี้เป็นเมืองขนาดเล็ก จะสามารถรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงยูโรวิชั่นที่มีจำนวนมากได้อย่างไร และที่สำคัญการเดินทาง แม้จะมีสนามบิน แต่เป็นแค่สนามบินภายในประเทศ ซึ่งต้องเดินทางต่อจากอัมสเตอร์ดัมอีกที

และเมืองสุดท้าย เมืองอูเทรคต์ ทางภาคกลางของประเทศ ถ้ายังจำข่าวได้เมื่อต้นปี มีการก่อการร้ายในเมืองนี้ด้วย แต่ถ้ามองข้ามเรื่องนี้ เมืองนี้มีความสวยงามอยู่นะ

เมืองนี้ได้ส่ง Jaarbeurs ศูนย์การประชุมขนาดความจุ 11,000 คน ไว้เป็นตัวเลือก โดยสถานที่นี้เคยใช้จัดการชิงตัวแทนในบ้านเขาปี 1974 และ 1975 มาแล้ว



จุดเด่น สถานที่จัดใกล้สถานีรถไฟกลาง มีรถเมล์ผ่านหลายสาย รวมถึงรถรางด้วย ซึ่งเดินทางสะดวก

จุดด้อย เมืองนี้ไม่มีสนามบิน การเดินทางมาเมืองนี้ต้องต่อรถจากอัมเตอร์ดัม และขนาดฮอลล์ที่เราว่ายังเล็กเกินไป ซึ่งไม่อาจตอบโจทย์ยูโรวิชั่นได้

เรารู้ 5 เมืองที่เสนอตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามาทวนความจำที่เราเสนอ ในกระทู้นี้ ที่เราพูดถึงเมืองเสนอตัวเป็นเจ้าภาพปีหน้าใหม่ๆหลังรอบชิงๆ ซึ่งจะมีบางเมืองที่เดินจะเสนอตัว แต่ต่อมาถอนตัวได้แก่...

กรุงอัมสเตอร์ดัม นี่เสียดายมากๆเลยนะ เพราะเมืองหลวงปาร์ตี้ยูโรวิชั่น ที่มีความพร้อมสนามมากๆ แถมอะไรๆก็ครบครัน เมืองนี้ส่งสามสนามได้แก่ Amsterdam RAI (ที่เคยจัดยูโรวิชั่น 1970) โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า และ ซิกโก้โดม โดยเหตุผลที่ถอนตัวคือ ไม่มีสนามไหนว่างอย่างน้อยตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเพื่อเตรียมสถานที่จัดได้เลย โดยเฉพาะโยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่าของทีมฟุตบอลอาแจ๊กซ์ที่ไม่ต้องการมีอะไรกระทบตอนใกล้ปิดฤดูกาลบอลลีค

กรุงเฮค เมืองเจ้าภาพปี 1976 และ 1980 สาเหตุที่ถอนตัวไปเพราะไม่มีสนามไหนพร้อม โดยเดิมทีจะส่งสนาม Cars Jeans Stadion ที่ไม่มีหลังคาคลุม ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะสามารถปรับปรุงให้ทัน ต่อมา เมืองนี้เลยสนับสนุนเมืองร็อทเตอร์ดัม เพราะอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกัน

เมืองเบรดา ส่ง Breepark เป็นตัวเลือก แต่ถอนตัวไปเพราะขาดงบประมาณ

และ เมืองเลวาร์เดิน ส่ง WTC Expo เป็นตัวเลือก แต่ถอนตัว เพราะขนาดฮอลล์หลังคาเตี้ยเกินไป

ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้



ทีนี้เรามาดูภาพบรรยากาศการส่งหนังสือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจากเมืองต่างๆ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจัดที่สำนักงานของช่อง NPO อยู่ที่มีเดียเซ็นเตอร์ เมืองฮิลเวอร์ซัม ชานกรุงอัมสเตอร์ดัม (ซึ่งช่อง NOS และ AVROTROS ที่เป็นเจ้าร่วมด้วย สำนักงานอยู่แถวนั้นเช่นกัน)

ผู้แทนของช่อง NPO รับหนังสือจากทั้ง 5 เมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

© AVROTROS
© AVROTROS


เริ่มด้วยตัวแทนจากเมืองอูเทรคต์ส่งมอบหนังสือ นี่เล่นคนส่งพัสดุทางจักรยานมามอบเลยนะจ๊ะ มีลูกเล่นมากๆ
© NPO


แถมข้างหลังมีคำว่า "โปรดจงตัดสินใจ" ล้อกับชื่อเพลง Making Your Mind Up เพลงแชมป์ปี 1981 จากยูเคซะด้วย

© AVROTROS


ต่อมาเมืองมาสตริกช์ ส่งมอบหนังสือ โดยนายกเทศมนตรีของเมือง

© NPO


เมืองนี้ทำคลิปโปรโมตเพื่อข่มเมืองอื่นๆแล้ว โดยใช้คำขวัญว่า Come Closer
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ต่อมาเมืองสเฮิร์ทโทเกนบอช ส่งมอบหนังสือ โดยตัวแทนของสภาเมือง

© NPO



ต่อมาเมืองร็อทเตอร์ดัมได้ส่งหนังสือ โดยสท. ฝ่ายวัฒนธรรมของเมือง


© NPO
มีผ้าพันคอมีข้อความว่า "ร็อทเตอร์ดัมต้องเป็นตัวจริง" ด้วย


© AVROTROS
เมืองนี้มีคลิปโปรโมตด้วยนะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
และเมืองสุดท้ายเมืองอาร์เน็มส่งมอบหนังสือ โดยนายกเทศมนตรีเมือง
© NPO



นับจากนี้จะเป็นช่วงกระบวนการคัดเลือกเมือง ซึ่งทุกเมืองจะต้องนำเสนอตามพร้อม และทางช่องเจ้าภาพปีหน้าและอีบียูจะเข้าไปตรวจความพร้อมของทุกเมืองก่อนที่จะประกาศเมืองเจ้าภาพอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ เพราะฉะนั้น โปรดติดตามกันต่อไปค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่