[CR] Midsommar หลอกกันกลางวันแสกๆ

Midsommar
หลอกกันกลางวันแสกๆ

ณ แหล่งชุมชนแห่งหนึ่งในสวีเดนที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญ ห่างไกลจากแสงสี ห่างไกลจากผู้คนทั่วไป มันตั้งอยู่ห่างไกลเสียคนจนภายนอกไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว คนภายในก็แทบจะไม่ออกไปไหนกันเลย ผู้คนที่อาศัยอยู่ในแหล่งชุมชนนี้มีภาษาเป็นของตัวเอง มีวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างเรามาก แต่บางอย่างก็แปลกแตกต่างเสียจนน่าตกใจ

ถ้าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังของ อารี แอสเตอร์ ผู้กำกับที่สร้างชื่อจากหนังสยองขวัญเรื่อง Hereditary ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยนจนหลายคนชื่นชอบ Midsommar ก็อาจจะไม่ได้รับความสนใจตั้งแต่หนังยังไม่ได้ฉายมากมายเช่นนี้ อย่างไรก็ดีผลงานหนังเรื่องล่าสุดนี้ของ อารี แอสเตอร์ กลับออกมาแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับผลงานเรื่องก่อน ถ้า Hereditary คือหนังผีสยองขวัญที่หลอกหลอนคนดูให้รู้สึกสะพรึงได้ Midsommar ไม่ใช่หนังผีที่ชวนขนหัวลุกหรือน่ากลัว แต่เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกหวาดระแวงจากบรรยากาศและผู้คนที่เหมือนจะปกติดีแต่แท้จริงแล้วไม่ใช่

กลุ่มเพื่อนนักศึกษาจากอเมริกาเดินทางมายังประเทศสวีเดนตามคำเชื้อเชิญจากเพื่อนชาวสวีเดนที่เคยอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมือง เขาชวนเพื่อนๆมายังมาชุมชนบ้านเกิดแห่งนี้ที่ซึ่งมีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นและนี่อาจจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับการทำวิทยานิพนธ์ของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม อีกทั้งยังตรงกับช่วงที่มีการจัดเทศกาลเฉลิมฉลองอีกด้วย ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์จะส่องแสงเจิดจ้าตลอดเวลาราวกับว่าไม่มีช่วงเวลากลางคืนเลย นับเป็นโอกาสดีที่คนจากภายนอกจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่เคยพบและไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน

อย่างแรกสุดที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอในหนังเรื่องนี้ นั่นคือ เนื้อเรื่องที่คาดเดาได้ไม่ยาก ไม่มีอะไรแปลกใหม่ และอาจจะเรียกว่าธรรมดาด้วยซ้ำไป นี่อาจเป็นความตั้งใจของผู้กำกับที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเนื้อเรื่องหลักของหนังมากนัก แต่ให้ความสำคัญกับลูกเล่นของรายละเอียดอย่างเช่น จุดขายอย่างบรรยากาศหน้าร้อนในช่วงที่แสงแดดเจิดจ้าตลอดทั้งวันทั้งคืน ดอกไม้สีสันสวยงามที่ชวนเคลิบเคลิ้มแต่น่าหวาดระแวง ผู้คนที่หน้าตายิ้มแย้มแต่ลับหลังกลับทำเรื่องน่ากลัว พิธีกรรมแปลกประหลาดสุดโต่งที่น่าสยดสยองเกินกว่าที่คนทั่วไปจะรับได้ และความตั้งใจให้คนดูได้เห็นภาพร่างกายมนุษย์ในสภาพที่ไม่น่ามอง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความตั้งใจส่วนตัวของผู้กำกับที่ต้องการให้คนดูได้มีประสบการณ์ที่แปลกแตกต่างซึ่งมันท้าทายคนดูเป็นอย่างยิ่งที่จะตอบกับตัวเองว่า เรารับได้หรือไม่กับสิ่งที่หนังตั้งใจนำเสนอสิ่งเหล่านี้

ไม่ว่าจะเกิดคำถามหรือข้อสงสัยใดๆก็ตามหลังดูหนังเรื่องนี้จบ สิ่งหนึ่งที่พูดได้อย่างเต็มปากว่า ชอบ จากหนังเรื่องนี้ นั่นคือ งานภาพที่มีความตั้งใจเล่นภาพมุมสูงในหลายๆฉากเพื่อให้ออกมาดูแปลกตา และการคุมโทนบรรยากาศของหนังที่ดูสดใสสว่างเจิดจ้าในแบบสแกดิเนเวียนแต่ขัดแย้งกับเนื้อหาความรุนแรงที่ค่อยๆเผยให้เห็นทีละน้อย

ความสดใสของดอกไม้แสนสวย หรือรอยยิ้มที่พิมพ์ใจ อาจไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่ตาเรามองเห็น

ขบเคี้ยวหนัง
#Midsommar #เทศกาลสยอง