
Zenbook นั้นเป็นตระกูลที่แยกออกมากันหลากหลายรุ่นครับ แตในรุ่นหลักนั้นยังคงความพรีเมี่ยมและความบางเบาที่ดีกว่าเดิมไปอีกขั้น และแน่ๆเลยคือด้านการออกแบบนั้นทำได้ดีและน่าสนใจขึ้นรวมถึงการใส่ลำโพงให้มาทั้งหมด 4 ตัวที่มากขึ้นและเสียงที่ให้มานั้นดีมากๆ และ ในเรื่องของสเปคนั้นใช้งานทาง AMD Ryzen 7 ตัวแรงกันเลย ส่วนเรื่องวัสดุนั้นใช้อลูมิเนียม ขัดเงาทั้งเครื่องให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมและมีความแข็งแรงอย่างมาก และยังคงใช้เทคโนโลยีการยกตัวเครื่องที่ทำให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น สะท้อนเสียงลำโพงได้ดีขึ้น และ พิมพ์ได้สะดวกขึ้น เป็นเทคโนโลยีที่ยังคงชื่นชอบครับ ส่วนในแง่ของการใช้งานต่างๆนั้นจะดีขึ้นหรือมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนต้องมาชมรีวิวกัน

ASUS Zenbook 14 รุ่นนี้มาพร้อมการออกแบบที่แปลกใหม่มากขึ้นในด้านในและรวมถึงวัสดุที่สวยงามและมีความแข็งแรงทั้งในด้านการออกแบบที่ใช้วัสดุอลูมิเนียมทั้งเครื่องแบบตัดขอบสวยงาม และ รองรับ MIL-STD810G ถือว่าเรื่องของความแข็งแรงนั้นใช้ได้เลยครับ และยังคงความบางเบาที่ดีกว่ารุ่นเดิมและหนักแค่ 1.39 กิโลเท่านั้นเองครับ รวมถึงหน้าจอมาพร้อมกับ IPS LED หน้าจอแบบ NanoEdge ที่ sRGB100% ครับ แน่นอนว่าเป็นหน้าจอแบบด้านด้วย ส่วนในเรื่องของสเปค Ryzen 7 ตัวแรงล่าสุด มาพร้อมกับการ์ดจอในตัว VEGA 10 และไม่มีการ์ดจอแยกนะครับ ส่วนในเรื่องของ RAM 8GB และมาพร้อม SSD 512GB ครบๆเลยครับ ส่วนเรื่องของ ระบบเสียงตัวนี้จัดเต็มมาก ลำโพง 4 ตัว จากทาง Harman/Kardon และ ยังมีระบบสแกนนิ้วมาด้วย และที่ค่อนช้างชอบเลยคือ รุ่นนี้มีช่องใส่ SD Card มาให้ใช้งานแม้จะขนาดตัวเล็กแค่นี้ และมีกล้องหน้ามาให้ไม่ตัดออกไปครับ รวมๆนั้นถือว่าค่อนข้างครบ อีกทั้งสเปคที่ให้มาก็น่าสนใจครับในภาพรวม และประกัน 2 ปีมาให้เช่นเดิม

ASUS ZENBOOK 14 UM431DA
RYZEN 7 RAM 8GB SSD 512GB สำหรับราคานั้น เปิดมาที่ 24,990 บาท ในสี Utopia Blue

UNBOX
ตัวกล่องนั้นมาในโทนสีฟ้าอ่อนแน่นอนว่าเป็นธีมสี Utopia Blue ที่เป็นชื่อเรียกสีใหม่ของตัวเครื่องมันจะออกเงินๆฟ้าๆครับอ่อนๆสวยงามเลยทีเดียว ส่วนอุปกรณ์ในกล่องนั้นมาให้ครบเหมือนเดิมทั้ง ซองใส่เครื่อง และ ที่ชาร์จไฟครับ

DESIGN
ในด้านการออกแบบในภาพรวมนั้นยังคงเอกลักษณ์การออกแบบไว้ได้แต่มีการเปลี่ยนวัสดุการเล่นโทนสีรวมถึงเปลี่ยนแปลงเสริมตำแหน่งลำโพงมาไว้ด้านหน้าเพิ่มเติมในด้านข้างคียบอร์ดครับ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดี และ มีข้างล่างอีก 2 ตัวเช่นกันครับจัดเต็มมาให้ 4 ตัว ส่วนงานประกอบความแข็งแรงนั้นเนียนและสวยงามมากๆน่าจะเป็นการใช้วัสดุที่เล่นลวดลายที่ปัดเงาทั้งตัวเครื่องมีความรู้สึกพรีเมี่ยมกว่ารุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจนครับ จะเป็นสีเงินอมฟ้าเล็กน้อย แต่ขอบหน้าจอนั้นยังมีกล้องหน้าอยู่ทำให้ไม่ได้บางมากนัก และตรงส่วนนั้นยังคงเป็นพลาสติกดำด้านครับ แต่ความแข็งแรงนั้นทำได้ดี ส่วนน้ำหนักในภาพรวมนั้นถือว่าเบา และ บางขึ้น รวมถึงการยกตัวเครื่องที่สูงและโปร่งกว่าเดิม

การออกแบบทั้งภายในและภายนอกตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นชิ้นเดียวกันสีเดียวกันทั้งหมดผิวสัมผัสในการใช้งานทำออกมาดีครับ เป็นอลูมิเนียมทั้งหมดและยังรองรับมาตรฐานการทดสอบระดับเกรดทหาร ตก ทนในหลายๆอุณหภูมิได้ และแน่นอนว่าตัวเครื่องนั้นทั้งบางและทำได้เบาขึ้น ส่วนเรื่องของดีไซน์ฝาหลังยังไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่มีการเล่นลวดลายข้างในที่เป็นปัดลายทางเฉียงๆที่สวยกว่าเดิมครับ และ การใช้โทนสียังคงเป็นสีเงินและสีทองเล็กน้อยครับ การจัดวาง Layout ในภาพรวมไมไ่ด้ต้องปรับตัวจากรุ่นก่อนหน้านี้เท่าไรครับถือว่าคล้ายๆตัวเดิมเลยแหละ

ฝาหลังยังคงใช้ลาย Zen ปัดเป็นวงกลม สวยงามตามแบบฉบับ Zenbook ครับและใช้โลโก้เป็นโครมเมี่ยมทีสีทองตัดกับโทนสีเงินของฝาหลัง วัสดุแบบนี้จะค่อนข้างติดลายนิ้วมือได้ง่ายพอสมควรครับ แต่จะเด่นเวลาสะท้อนแสงได้ดีมากๆ ในส่วนของ ฐานข้างล่างก็ยังใช้วัสดุเช่นเดียวกับตัวบอดี้มีน็อตยึดกรอบๆครับ เป็นหัวแบบ 6 แฉกเล็กๆครับ และ เป็นที่อยู่ของลำโพงคู่ Harman/Kardon ในด้านล่างมุมขวาซ้าย และ มีช่องระบายมาให้ในแนวยาวด้านหลังเครื่องเลยครับ ส่วนฐานรองทั้ง 4 มุมเป็นยางรูปทรงกลมทั้งหมด แต่ก็จะมีส่วนยกขึ้นตรงขอบจอมียางรองเพิ่มเข้ามาครับ

ในส่วนช่องระบายเสริมอื่นๆนั้นจะเป็นในตำแหน่งที่หลายๆรุ่นใช้กันคือยิงออกไปด้านหลังตรงส่วนด้านล่างของหน้าจอเป็นแนวยาวๆทั้งตัวเครื่องครับถือว่าเป็นจุดที่ระบายได้ดีและลมจากด้านล่างเครื่องที่ยกขึ้นมาก็ดูดเข้าและปล่อยออกมาได้ค่อนข้างดี และลมเข้าเยอะกว่าแบบปกติครับ ส่วนการออกแบบแถบสีทองที่มีแนวยาวเหนือโลโก้นั้นยังคงมีมาให้แต่มีการเปลี่ยนพื้นผิวเล็กน้อยเป็นการยิงลายจุดลงไปไม่ใช่เป็นแบบนูนๆแล้วนั้นเองครับก็สวยไปอีกแบบแต่ยังชอบแบบพื้วผิวที่เป็นนูนๆ 3 มิติมากกว่า อันนี้เวลาสัมผัสนั้นจะเรียบๆไปนิดนึงแต่จะสะท้อนแสงได้ดีกว่าแบบเดิมครับ

Ergo Lift นั้นก็ยังเป็นจุดที่ชื่นชอบอยู่เช่นเดิมทั้งเรื่องของการวางองศานิ้วเวลาพิมพ์นั้นสะดวกมากๆ และยังช่วยเรื่องระบายความร้อน และ สะท้อนเสียงที่ดีกว่าเดิมในรุ่นนี้รู้สึกว่าจะยกขึ้นสูงและเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างสบายเลยแหละ ยางรองตรงขอบที่ยกก็มีมาให้แบบเป็นเส้นๆเต็มๆครับ พร้อมกับตัวโลโก้บอกชื่อรุ่นอยู่ตรงกลางว่า Zenbook Series

การตัดขอบเครื่องทั้งหมดเป็นการปาดขอบเอียงทั้งหมดและปัดเงาทำให้สะท้อนแสงได้สวยงามและหรูกว่าแบบทั่วไปเยอะมากๆครับ ตัดขอบทั้งตัวของฝาหลังและฐานเครื่องในทุกๆมุมเลยทีเดียวและทำให้รู้สึกว่ามันเป็นอลูมิเนียมชิ้นเดียวกันทั้งหมดและค่อนข้างแข็งแรงพอสมควร ส่วนข้างในนั้นจะเป็นวัสดุแบบปัดลายเฉียงและกึ่งเงาเล็กน้อยครับเป็นวัสดุแบบเดียวกันทั้งหมดให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมแต่ถ้าใครใช้อาจจะมีไฟสถิตเล็กๆน้อยครับเป็นปกติที่เจอในคอมพิวเตอร์ที่เป็นวัสดุแนวๆนี้ครับผม ส่วนตัวลำโพงด้านหน้าก็ใส่มาทั้งซ้ายขวา แบบในภาพเลยเจาะรูลำโพงมีการเว้นช่องว่างทรงสี่เหลี่ยมให้ดูมีอะไรมากกว่าการเจาะรูทั่วไปเล็กน้อยครับ แต่ก็อาจจะดูแลระวังเรื่องฝุ่นที่อาจจะเข้าไปได้ง่ายนิดหน่อย

SPEC
- Windows 10 Home
- AMD Ryzen™ 7 3700U Mobile Processor (4C/8T, 6MB cache, 4.0GHz Boost)
- Radeon™ RX Vega 10 Itergrated Graphics with R7 processor
- Display 14” LED-backlit Full HD (1920 x 1080) 16:9 slim-bezel NanoEdge anti-glare 6.45mm-thin bezel with 86% screen-to-body ratio displayWide 100% sRGB color gamut 178° wide-view technology
- 8GB 2400MHz DDR4
- 512GB PCIe® x2 SSD
- 1 x USB 3.1 Gen 1 Type-C™ (up to 5Gbps)1 x USB 3.1 Gen 1 Type-A (up to 5Gbps)1 x USB 2.0 1 x Standard HDMI1 x SD card reader 1 x Audio combo jack 1 x DC-in
- Keyboard Full-size backlit, with 1.4mm key travel
- PET film-covered; intelligent palm-rejection Precision Touchpad (PTP) technology supports up to four-finger smart gestures
- Audio ASUS SonicMaster stereo audio system with surround-sound; smart amplifier for maximum audio performance – Array microphone with Cortana voice-recognition support 3.5mm headphone jack Certified by Harman Kardon
- HD camera
- Wi-FiDual-band Wi-Fi 5 (802.11ac)
- Bluetooth 5.0
- Height: 1.59cm (0.62 inches) Width: 32.4cm (12.7 inches) Depth: 21.2cm (8.34 inches)
- Weight 1.39kg

PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้มาพร้อมกับ ค่ายแดง AMD แต่ไม่มีการ์ดจอแยกมาให้นะครับจะเป็นการ์ดจอ OnBoard อย่างเดียวที่ติดมากับ Ryzen 7 3700U ที่ใช้งานเทคโนโลยีการผลิตที่ 12nm มาพร้อมกับ 4Core 8 Thread และรองรับ 2.3Ghz และ สูงสุดได้ที่ 4.0Ghz และในส่วนของการ์ดจอนั้นเป็นตัวใหม่ล่าสุด VEGA 10 ในตัว 14nm แน่นอนว่า ตัวนี้เคลมกันไว้ว่าแรงกว่าตัว UHD 620 ของทาง Intel พอสมควรเลยแหละครับ ส่วนในตัว RAM 8GB ตัวนี้มาพร้อมกับ 2133MHz LPDDR3 onboard ซึ่งไม่สามารถเพิ่มได้นะครับ และ ในด้านของความจุเครื่องนั้น ตัวนี้ให้มาเป็น SSD 512GB PCIe® ครับ ซึ่งสามารถใส่ SATA SSD เพิ่มเติมได้ด้วยครับ

PCMARK คะแนนทำได้ 3141 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะ ในตัว CPU Ryzen 7 ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และไม่มีการ์ดจอแยกครับ แน่นอนว่าทำงานหลายๆอย่างนั้นไม่มีปัญหา ทำงานพร้อมกันหลายๆโปรแกรมก็รองรับได้สบายอยู่แล้วในค่ายนี้ครับถือว่าไม่ต้องกังวลเท่าไร

3DMARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ SKY Driver Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยแหละคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 6593 ในแง่ของการประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ตามเรทราคาและพวก Ultrabook ส่วนเรื่องคะแนน Skydriver ที่จะโหดขึ้นมาหน่อยนั้นำทำไปได้ 5889 คะแนน คะแนนถือว่า CPU ที่ใส่เข้ามาในตัวนี้ถือว่าสบายๆรองรับการทำงานระดับเริ่มต้น-ปานกลางได้เลยครับ ซึ่งถ้าเอมาทำงานหนักๆนั้น RAM 8GB อาจจะไม่ไหว ก็ลองดูตัว 16GB กันได้

CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 588 ทำได้ดีครับสมราคา อย่างที่บอกว่าทำได้ค่อนข้างดีและเกือบไปเท่ากับตัว i7-3770U และ ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1212cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU และทำความร้อนได้ดีด้วยนะจากที่ได้ลอง แต่ก็น่าเสียดายในส่วนของ SSD แม้จะใส่มาให้แต่เรื่องของความเร็วนั้นทำได้ปานกลางไม่ใช่ตัวแรงเท่าไรครับ อ่านไปได้ที่ 1641 และ เขียนที่ 847 จริงๆถ้าใส่ตัวอ่านเขียนแรงๆนั้นน่าจะทำงานร่วมกับ Ryzen 7 ได้เต็มที่กว่าเดิมเยอะเลย
[SR] รีวิว ASUS ZENBOOK 14 (UM431D) พรีเมี่ยม บางเบา Ryzen 7 พร้อมลำโพง Harman/Kardon 4 ตัว !
Zenbook นั้นเป็นตระกูลที่แยกออกมากันหลากหลายรุ่นครับ แตในรุ่นหลักนั้นยังคงความพรีเมี่ยมและความบางเบาที่ดีกว่าเดิมไปอีกขั้น และแน่ๆเลยคือด้านการออกแบบนั้นทำได้ดีและน่าสนใจขึ้นรวมถึงการใส่ลำโพงให้มาทั้งหมด 4 ตัวที่มากขึ้นและเสียงที่ให้มานั้นดีมากๆ และ ในเรื่องของสเปคนั้นใช้งานทาง AMD Ryzen 7 ตัวแรงกันเลย ส่วนเรื่องวัสดุนั้นใช้อลูมิเนียม ขัดเงาทั้งเครื่องให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมและมีความแข็งแรงอย่างมาก และยังคงใช้เทคโนโลยีการยกตัวเครื่องที่ทำให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น สะท้อนเสียงลำโพงได้ดีขึ้น และ พิมพ์ได้สะดวกขึ้น เป็นเทคโนโลยีที่ยังคงชื่นชอบครับ ส่วนในแง่ของการใช้งานต่างๆนั้นจะดีขึ้นหรือมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนต้องมาชมรีวิวกัน
ASUS Zenbook 14 รุ่นนี้มาพร้อมการออกแบบที่แปลกใหม่มากขึ้นในด้านในและรวมถึงวัสดุที่สวยงามและมีความแข็งแรงทั้งในด้านการออกแบบที่ใช้วัสดุอลูมิเนียมทั้งเครื่องแบบตัดขอบสวยงาม และ รองรับ MIL-STD810G ถือว่าเรื่องของความแข็งแรงนั้นใช้ได้เลยครับ และยังคงความบางเบาที่ดีกว่ารุ่นเดิมและหนักแค่ 1.39 กิโลเท่านั้นเองครับ รวมถึงหน้าจอมาพร้อมกับ IPS LED หน้าจอแบบ NanoEdge ที่ sRGB100% ครับ แน่นอนว่าเป็นหน้าจอแบบด้านด้วย ส่วนในเรื่องของสเปค Ryzen 7 ตัวแรงล่าสุด มาพร้อมกับการ์ดจอในตัว VEGA 10 และไม่มีการ์ดจอแยกนะครับ ส่วนในเรื่องของ RAM 8GB และมาพร้อม SSD 512GB ครบๆเลยครับ ส่วนเรื่องของ ระบบเสียงตัวนี้จัดเต็มมาก ลำโพง 4 ตัว จากทาง Harman/Kardon และ ยังมีระบบสแกนนิ้วมาด้วย และที่ค่อนช้างชอบเลยคือ รุ่นนี้มีช่องใส่ SD Card มาให้ใช้งานแม้จะขนาดตัวเล็กแค่นี้ และมีกล้องหน้ามาให้ไม่ตัดออกไปครับ รวมๆนั้นถือว่าค่อนข้างครบ อีกทั้งสเปคที่ให้มาก็น่าสนใจครับในภาพรวม และประกัน 2 ปีมาให้เช่นเดิม
ASUS ZENBOOK 14 UM431DA
RYZEN 7 RAM 8GB SSD 512GB สำหรับราคานั้น เปิดมาที่ 24,990 บาท ในสี Utopia Blue
UNBOX
ตัวกล่องนั้นมาในโทนสีฟ้าอ่อนแน่นอนว่าเป็นธีมสี Utopia Blue ที่เป็นชื่อเรียกสีใหม่ของตัวเครื่องมันจะออกเงินๆฟ้าๆครับอ่อนๆสวยงามเลยทีเดียว ส่วนอุปกรณ์ในกล่องนั้นมาให้ครบเหมือนเดิมทั้ง ซองใส่เครื่อง และ ที่ชาร์จไฟครับ
DESIGN
ในด้านการออกแบบในภาพรวมนั้นยังคงเอกลักษณ์การออกแบบไว้ได้แต่มีการเปลี่ยนวัสดุการเล่นโทนสีรวมถึงเปลี่ยนแปลงเสริมตำแหน่งลำโพงมาไว้ด้านหน้าเพิ่มเติมในด้านข้างคียบอร์ดครับ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดี และ มีข้างล่างอีก 2 ตัวเช่นกันครับจัดเต็มมาให้ 4 ตัว ส่วนงานประกอบความแข็งแรงนั้นเนียนและสวยงามมากๆน่าจะเป็นการใช้วัสดุที่เล่นลวดลายที่ปัดเงาทั้งตัวเครื่องมีความรู้สึกพรีเมี่ยมกว่ารุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจนครับ จะเป็นสีเงินอมฟ้าเล็กน้อย แต่ขอบหน้าจอนั้นยังมีกล้องหน้าอยู่ทำให้ไม่ได้บางมากนัก และตรงส่วนนั้นยังคงเป็นพลาสติกดำด้านครับ แต่ความแข็งแรงนั้นทำได้ดี ส่วนน้ำหนักในภาพรวมนั้นถือว่าเบา และ บางขึ้น รวมถึงการยกตัวเครื่องที่สูงและโปร่งกว่าเดิม
การออกแบบทั้งภายในและภายนอกตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นชิ้นเดียวกันสีเดียวกันทั้งหมดผิวสัมผัสในการใช้งานทำออกมาดีครับ เป็นอลูมิเนียมทั้งหมดและยังรองรับมาตรฐานการทดสอบระดับเกรดทหาร ตก ทนในหลายๆอุณหภูมิได้ และแน่นอนว่าตัวเครื่องนั้นทั้งบางและทำได้เบาขึ้น ส่วนเรื่องของดีไซน์ฝาหลังยังไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่มีการเล่นลวดลายข้างในที่เป็นปัดลายทางเฉียงๆที่สวยกว่าเดิมครับ และ การใช้โทนสียังคงเป็นสีเงินและสีทองเล็กน้อยครับ การจัดวาง Layout ในภาพรวมไมไ่ด้ต้องปรับตัวจากรุ่นก่อนหน้านี้เท่าไรครับถือว่าคล้ายๆตัวเดิมเลยแหละ
ฝาหลังยังคงใช้ลาย Zen ปัดเป็นวงกลม สวยงามตามแบบฉบับ Zenbook ครับและใช้โลโก้เป็นโครมเมี่ยมทีสีทองตัดกับโทนสีเงินของฝาหลัง วัสดุแบบนี้จะค่อนข้างติดลายนิ้วมือได้ง่ายพอสมควรครับ แต่จะเด่นเวลาสะท้อนแสงได้ดีมากๆ ในส่วนของ ฐานข้างล่างก็ยังใช้วัสดุเช่นเดียวกับตัวบอดี้มีน็อตยึดกรอบๆครับ เป็นหัวแบบ 6 แฉกเล็กๆครับ และ เป็นที่อยู่ของลำโพงคู่ Harman/Kardon ในด้านล่างมุมขวาซ้าย และ มีช่องระบายมาให้ในแนวยาวด้านหลังเครื่องเลยครับ ส่วนฐานรองทั้ง 4 มุมเป็นยางรูปทรงกลมทั้งหมด แต่ก็จะมีส่วนยกขึ้นตรงขอบจอมียางรองเพิ่มเข้ามาครับ
ในส่วนช่องระบายเสริมอื่นๆนั้นจะเป็นในตำแหน่งที่หลายๆรุ่นใช้กันคือยิงออกไปด้านหลังตรงส่วนด้านล่างของหน้าจอเป็นแนวยาวๆทั้งตัวเครื่องครับถือว่าเป็นจุดที่ระบายได้ดีและลมจากด้านล่างเครื่องที่ยกขึ้นมาก็ดูดเข้าและปล่อยออกมาได้ค่อนข้างดี และลมเข้าเยอะกว่าแบบปกติครับ ส่วนการออกแบบแถบสีทองที่มีแนวยาวเหนือโลโก้นั้นยังคงมีมาให้แต่มีการเปลี่ยนพื้นผิวเล็กน้อยเป็นการยิงลายจุดลงไปไม่ใช่เป็นแบบนูนๆแล้วนั้นเองครับก็สวยไปอีกแบบแต่ยังชอบแบบพื้วผิวที่เป็นนูนๆ 3 มิติมากกว่า อันนี้เวลาสัมผัสนั้นจะเรียบๆไปนิดนึงแต่จะสะท้อนแสงได้ดีกว่าแบบเดิมครับ
Ergo Lift นั้นก็ยังเป็นจุดที่ชื่นชอบอยู่เช่นเดิมทั้งเรื่องของการวางองศานิ้วเวลาพิมพ์นั้นสะดวกมากๆ และยังช่วยเรื่องระบายความร้อน และ สะท้อนเสียงที่ดีกว่าเดิมในรุ่นนี้รู้สึกว่าจะยกขึ้นสูงและเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างสบายเลยแหละ ยางรองตรงขอบที่ยกก็มีมาให้แบบเป็นเส้นๆเต็มๆครับ พร้อมกับตัวโลโก้บอกชื่อรุ่นอยู่ตรงกลางว่า Zenbook Series
การตัดขอบเครื่องทั้งหมดเป็นการปาดขอบเอียงทั้งหมดและปัดเงาทำให้สะท้อนแสงได้สวยงามและหรูกว่าแบบทั่วไปเยอะมากๆครับ ตัดขอบทั้งตัวของฝาหลังและฐานเครื่องในทุกๆมุมเลยทีเดียวและทำให้รู้สึกว่ามันเป็นอลูมิเนียมชิ้นเดียวกันทั้งหมดและค่อนข้างแข็งแรงพอสมควร ส่วนข้างในนั้นจะเป็นวัสดุแบบปัดลายเฉียงและกึ่งเงาเล็กน้อยครับเป็นวัสดุแบบเดียวกันทั้งหมดให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมแต่ถ้าใครใช้อาจจะมีไฟสถิตเล็กๆน้อยครับเป็นปกติที่เจอในคอมพิวเตอร์ที่เป็นวัสดุแนวๆนี้ครับผม ส่วนตัวลำโพงด้านหน้าก็ใส่มาทั้งซ้ายขวา แบบในภาพเลยเจาะรูลำโพงมีการเว้นช่องว่างทรงสี่เหลี่ยมให้ดูมีอะไรมากกว่าการเจาะรูทั่วไปเล็กน้อยครับ แต่ก็อาจจะดูแลระวังเรื่องฝุ่นที่อาจจะเข้าไปได้ง่ายนิดหน่อย
SPEC
- Windows 10 Home
- AMD Ryzen™ 7 3700U Mobile Processor (4C/8T, 6MB cache, 4.0GHz Boost)
- Radeon™ RX Vega 10 Itergrated Graphics with R7 processor
- Display 14” LED-backlit Full HD (1920 x 1080) 16:9 slim-bezel NanoEdge anti-glare 6.45mm-thin bezel with 86% screen-to-body ratio displayWide 100% sRGB color gamut 178° wide-view technology
- 8GB 2400MHz DDR4
- 512GB PCIe® x2 SSD
- 1 x USB 3.1 Gen 1 Type-C™ (up to 5Gbps)1 x USB 3.1 Gen 1 Type-A (up to 5Gbps)1 x USB 2.0 1 x Standard HDMI1 x SD card reader 1 x Audio combo jack 1 x DC-in
- Keyboard Full-size backlit, with 1.4mm key travel
- PET film-covered; intelligent palm-rejection Precision Touchpad (PTP) technology supports up to four-finger smart gestures
- Audio ASUS SonicMaster stereo audio system with surround-sound; smart amplifier for maximum audio performance – Array microphone with Cortana voice-recognition support 3.5mm headphone jack Certified by Harman Kardon
- HD camera
- Wi-FiDual-band Wi-Fi 5 (802.11ac)
- Bluetooth 5.0
- Height: 1.59cm (0.62 inches) Width: 32.4cm (12.7 inches) Depth: 21.2cm (8.34 inches)
- Weight 1.39kg
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้มาพร้อมกับ ค่ายแดง AMD แต่ไม่มีการ์ดจอแยกมาให้นะครับจะเป็นการ์ดจอ OnBoard อย่างเดียวที่ติดมากับ Ryzen 7 3700U ที่ใช้งานเทคโนโลยีการผลิตที่ 12nm มาพร้อมกับ 4Core 8 Thread และรองรับ 2.3Ghz และ สูงสุดได้ที่ 4.0Ghz และในส่วนของการ์ดจอนั้นเป็นตัวใหม่ล่าสุด VEGA 10 ในตัว 14nm แน่นอนว่า ตัวนี้เคลมกันไว้ว่าแรงกว่าตัว UHD 620 ของทาง Intel พอสมควรเลยแหละครับ ส่วนในตัว RAM 8GB ตัวนี้มาพร้อมกับ 2133MHz LPDDR3 onboard ซึ่งไม่สามารถเพิ่มได้นะครับ และ ในด้านของความจุเครื่องนั้น ตัวนี้ให้มาเป็น SSD 512GB PCIe® ครับ ซึ่งสามารถใส่ SATA SSD เพิ่มเติมได้ด้วยครับ
PCMARK คะแนนทำได้ 3141 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะ ในตัว CPU Ryzen 7 ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และไม่มีการ์ดจอแยกครับ แน่นอนว่าทำงานหลายๆอย่างนั้นไม่มีปัญหา ทำงานพร้อมกันหลายๆโปรแกรมก็รองรับได้สบายอยู่แล้วในค่ายนี้ครับถือว่าไม่ต้องกังวลเท่าไร
3DMARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ SKY Driver Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยแหละคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 6593 ในแง่ของการประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ตามเรทราคาและพวก Ultrabook ส่วนเรื่องคะแนน Skydriver ที่จะโหดขึ้นมาหน่อยนั้นำทำไปได้ 5889 คะแนน คะแนนถือว่า CPU ที่ใส่เข้ามาในตัวนี้ถือว่าสบายๆรองรับการทำงานระดับเริ่มต้น-ปานกลางได้เลยครับ ซึ่งถ้าเอมาทำงานหนักๆนั้น RAM 8GB อาจจะไม่ไหว ก็ลองดูตัว 16GB กันได้
CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 588 ทำได้ดีครับสมราคา อย่างที่บอกว่าทำได้ค่อนข้างดีและเกือบไปเท่ากับตัว i7-3770U และ ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1212cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU และทำความร้อนได้ดีด้วยนะจากที่ได้ลอง แต่ก็น่าเสียดายในส่วนของ SSD แม้จะใส่มาให้แต่เรื่องของความเร็วนั้นทำได้ปานกลางไม่ใช่ตัวแรงเท่าไรครับ อ่านไปได้ที่ 1641 และ เขียนที่ 847 จริงๆถ้าใส่ตัวอ่านเขียนแรงๆนั้นน่าจะทำงานร่วมกับ Ryzen 7 ได้เต็มที่กว่าเดิมเยอะเลย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้