สวัสดีค่ะ ! เรื่องที่เราจะเล่าให้ทุกคนฟังต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงของเราเอง เป็นอดีตที่นานมาแล้วแต่เราไม่เคยลืมและเป็นสิ่งที่คอยเตือนใจเราอยู่เสมอ
เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ถ้ารักใครสักคนแล้วจะรักแบบไม่เผื่อใจ แบบที่ว่าถ้าอกหักก็ใช้เวลานานกว่าที่จะทำใจได้ แต่เราเป็นประเภทที่ว่าตอนมีแฟนเป็นจริงเป็นจังจะมีช่วงเวลาช่วงหนึ่งที่จะมีมือที่สามเข้ามาเสมอ และทุกครั้งจะเป็นเราเสมอที่เป็นคนเปิดโอกาสให้มือที่สามเข้ามาในความสัมพันธ์ หรือบางครั้งเราก็ชอบคุยเผื่อเลือก โดยที่เราเองไม่ได้แคร์ความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามเลย ทุกคนที่เข้ามาส่วนใหญ่เค้าเข้ามาเพราะอยากจริงจังกับเรา แต่เราเองกลับรู้สึกสนุกที่ได้แอบคุยกับคนหลายคนในเวลาเดียวกัน !
เรื่องมีอยู่ว่า...สมัยตอนที่เราเรียนอยู่มัธยมเราเป็นคนคุยเก่ง แต่คุยด้วยเฉพาะที่เรารู้จักหรือสนิทจริงๆ เราเป็นนางรำของโรงเรียนและเป็นเด็กกิจกรรมทำให้มีคนรู้จักเราเยอะ ตอนนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาจีบเรื่อยๆ แต่เราไม่ค่อยจะจริงจังแค่รู้สึกดีเวลามีคนเข้ามาชอบ ต่อมาเราก็มีโอกาสได้คุยกับผู้ชายคนหนึ่งเค้าอยู่ห้องเดียวกันกับเรา มันทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับชายคนนี้มากกว่าผู้ชายคนอื่นที่เราคุย จนเราคุยกันมาพอสมควรเค้าก็ขอเราคบ ในตอนนั้นเราไม่กล้าปฏิเสธเค้า เราเลยตอบตกลงไปทั้งๆที่เราเองก็ยังมีคนคุยอยู่เรื่อยๆ แน่นอนเค้าขอให้เราขึ้นสถานะกันแต่เราไม่ขึ้น ให้เหตุผลเค้าว่า "คนเราจะคบกันไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้ว่าเราคบกันก็ได้ เรารู้ดีว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน" และเค้าก็ยอมเรา ส่วนรหัสเฟสหรือของส่วนตัวเรา เราจะไม่ยุ่งซึ่งกันและกัน เพราะถ้าเค้ารักเราเค้าต้องเชื่อใจเรา....
ณ ช่วงเวลานั้นเราเป็นแฟนเค้าแล้วแต่รู้กันแค่สองคน เราคุยกันในแชทเป็นส่วนใหญ่ โทรหากันบ้างแต่ไม่บ่อย ไปเรียนไม่เคยคุยกันแต่แอบยิ้มให้กัน เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นแฟนแต่แสดงออกไม่ได้สักทาง เค้าไม่เคยระแคะระคายคนคุยของเราเลย จนกระทั่งเราไปคุยกับหัวโจกเด็กเกเรกลุ่มหนึ่งของโรงเรียน ซึ่งแน่นอนผู้ชายที่เราคุยเป็นคนเปิดเผย พอเราคุยกับเค้าได้สักระยะเค้าก็ออกแนวควงเราทุกวัน เฝ้าเราทุกเวลา รอรับกลับบ้านทุกเย็น และเป็นครั้งแรกที่แฟนเราจับได้ว่าเราคบซ้อนแต่เค้าเองก็ยังให้โอกาสเราอีกครั้ง เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น ผู้ชายคนที่เป็นหัวโจกนางรู้ความจริงว่าเราคุยซ้อนซึ่งแน่นอนนางเป็นอันตพานและนางไม่ยอมจบง่ายๆ นางสั่งคนให้มาตามเช็คว่าเราคุยกับใครบ้างและนางก็ตามเล่นงานทุกคนที่คุยกับเรา เป็นครั้งแรกที่เราโดนเรียกเข้าห้องปกครอง และแฟนเราก็บอกเลิกเราหลังจากนั้น
หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นเราก็โสดมาสักพักแต่ก็ยังมีคนใหม่ๆเข้ามาคุยด้วยเสมอและยังต้องเจอกับแฟนเก่าเราทุกวันเป็นเวลา 2 ปีกว่าจะจบภาคเรียน ตลอดเวลา 2 ปี เราไม่เคยคุยกับแฟนเก่าเราเลยจนว่าที่รับจบ เราอยากให้เค้าเขียนเสื้อให้เรา เราเลยใจกล้าหน้าด้านไปให้เค้าเขียนให้และเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เรากอดกัน..
จากนั้นเราก็เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่กรุงเทพและคบกับผู้ชายคนใหม่ เป็นเพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันแต่คนนี้เราคบแบบเปิดเผย เป็นแฟนที่เป็นแฟนจริงๆเราอยากเริ่มต้นใหม่กับผู้ชายคนนี้ เราคบกับคนนี้ได้ 1 ปีกว่าๆเค้าไม่เคยมีเรื่องโกหก หรือเรื่อง ผู้หญิงให้เราต้องเสียใจเลย แต่เราก็ยังมีบ้างแบบว่ามีคนทักเข้ามาจีบ แต่เราเองก็ไม่ได้สนใจอะไร แค่ตอบตามมารยาทเพราะแฟนเรามีรหัสแฟน สักพักนางก็จะเข้าไปตอบแชทเองตลอดๆ ตอนนี้ทุกอย่างในความสัมพันธ์ดูลงตัวไปหมด ไม่มีเรื่องให้ต้องทะเลาะอะไรใหญ่โตมากนัก
จนกระทั่ง....เราเริ่มทำงานพาสไทม์เป็นพนักงานเซเว่น ส่วนแฟนเราก็ทำงานพาสไทม์ในห้างเหมือนกันทำให้มีเวลาคุยกันไม่มากเหมือนแต่ก่อน แค่บอกฝักดีก่อนเข้านอนเท่านั้น เพราะตอนเช้าเราต้องตื่นไปเรียนแล้วเดี๋ยวก็ต้องเจอกันอยู่ดี เราทำงานได้สักระยะก็มีพนักงานใหม่เข้ามาเป็นน้องชายของผู้จัดการร้านเรา พี่คนนี้อายุมากกว่าเรารูปร่างทรงโจนมาก เราเป็นคนขี้เล่นก็แซวไปเรื่อย แต่พี่เค้ากลับไม่คิดแบบเราเค้ากลับชอบเราขึ้นมาจริงๆ เราแอบคุยกันในไอจีเพราะแฟนเราไม่ได้เล่น พี่เค้ารู้ว่าเรามีแฟนแล้วแต่เค้าบอกว่าเค้าชอบเราเค้าขอแค่คุยกับเราแค่นั้น แต่มันก็ไม่แค่นั้นน่ะสิ !! เราไปทำงานทุกวันก็เจอพี่เค้าตลอด สนิทจนคนที่ร้านรู้ถึงความสัมพันธ์กับพี่คนนี้ และด้วยเค้าเป็นน้องชาย ผจก. น้องขอพี่ก็ต้องให้เป็นธรรมดา แน่นอนเค้าขอให้อยู่ผลัดเดียวกับเราตลอด แล้วก็ไปรับไปส่งเราที่บ้านบ่อยๆ (ลืมบอกแฟนเรากับเราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน บ้านเราไกลกันมาก) แต่ความลับไม่มีในโลกสุดท้ายแฟนเราก็รู้ความจริงแต่ไม่ทั้งหมด เราบอกแฟนเราแค่ว่าพี่เค้าชอบเรา ที่คุยก็แค่ไม่อยากให้มองหน้ากันไม่ติดเวลาไปทำงานแค่นั้น..
และภาพเก่าม้วนเดิมก็วนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง วันนั้นเป็นวันลอยกระทงแฟนเราหยุดงานมาเพื่อจะรับเราไปลอยกระทงด้วยกัน เราเลิกงาน 4 ทุ่มแฟนเรามารอตั้งแต่ 3 ทุ่มและเค้าก็มองเราจากด้านนอกตลอดเวลา เราแอบกดดันและก็ทำตัวไม่ถูก ตอนนั้นเรายืนเคาน์เตอร์ 1 พี่เค้ายื่นเคาน์เตอร์ 2 เราต่างทำหน้าที่ตามปกติ แต่พี่เค้าไม่ปกติ เค้ากลับแกล้งเรา หยอกเราต่อหน้าแฟน เราก็บอกพี่เค้าว่า "อย่าทำแบบนี้ ไม่อยากมีปัญหากับแฟน" แต่เค้าก็ยังคงแกล้งต่อไม่สนใจแฟนเรา จนแฟนเราทนไม่ไหวเดินเข้ามามองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร แล้วได้แต่แกล้งเป็นทักแฟนว่ารอเค้าอีกหน่อยนะจะเลิกงานแล้ว เพื่อให้สถานะการณ์ไม่ตึงเกินไป แฟนเราพยักหน้าแล้วเดินไปหยิบน้ำ ตอนมาคิดเงินเราเรียกให้แฟนเรามาคิดเครื่องเรา แต่แฟนเรากลับยืนมองหน้าพี่เค้าแบบหาเรื่อง เราคิดในใจว่าอย่ามีเรื่องกันเลย แต่ดีที่แฟนเรายังมาคิดตังกับเรา แต่คนทั้งคู่ก็มองหน้ากันไม่พัก จนถึงเวลาเราเลิกงานเรารีบเคลียร์ตัวเองให้เร็วที่สุด แต่ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจพี่เค้าสนใจแค่แฟนเราเท่านั้น
เรากำลังออกจากร้านแต่ออกมาได้ไม่นานเท่าไหร่ก็เจอรถพี่เค้าที่ซ้อนมากับเพื่อนอีกคน พี่เค้าถือไม้กวาดแล้วก็ตีรถคู่มากับรถเรา เค้าเอาด้ามไม้กวาดตีไปที่รถเรา แล้วพูดว่า "เป็นอะไร เก๋านักหรอไอ้สัส" ตอนนั้นเราอึ้ง !! ทำไรไม่ถูก พี่เค้าพยายามจะถีบรถของเราแฟนเราเลยบอกว่า "อย่าถีบ เดี๋ยวเราเจ็บ"
พี่เค้าเลยฟังแล้วบอกให้เราสองคนจอดรถข้างทาง แต่ไม่เท่านั้นเราตีคู่มาได้สักพักก็มีรถมาเพิ่มอีก 3 คัน คนซ้อนทุกคัน ตอนนั้นกอดแฟนแน่นมากเพราะทั่งกลัวทั้งรถก็ขับเร็วมาก แฟนเราตัดสิ้นใจจอดเพราะกลัวมันถีบรถ พอจอดทุกอย่างก็ประดังเข้ามาพร้อมๆกัน ทั้งมัด มือ ไม้ ตีเข้าไปที่แฟนเรา เราได้แต่เอาแขนเข้าไปบังหัวให้แฟนเราเท่านั้นเราทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ร้องขอให้พี่เค้าเห็นใจแล้วหยุด เค้าบอกเพื่อนเค้าว่าอย่าตีเราให้ตีแค่แฟนเราคนเดียว จนสุดท้ายก็มีคนได้ยินเสียงเราขอความช่วยเหลือ แล้วพวกมันก็ขับรถหนีไป แฟนเราหัวแตกเย็บไปทั้งหมด 5 เข็ม ส่วนเราแขนซ้น แต่แฟนเราไม่ได้ไปแจ้งความแล้วพี่เค้าก็ลาออกไปเลยหลังจากเกิดเรื่อง...
เหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้เรากลัวทุกครั้งที่นึกถึง มันเป็นวินาทีที่เราไม่สามารถปกป้องคนที่เรารักให้ปลอดภัยได้เลย เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเราคิดเสมอว่าเป็นความผิดของเราที่ทำให้แฟนเราต้องเจ็บตัว แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเรา
ปล.สิ่งที่เราเคยทำมันไม่ดีหรอกเราจะมาคิดได้ตอนที่เรามองกลับไปแล้วมันเหลือแต่ความว่างเปล่า อยากฝากกระทู้นี้ไว้เตือนใจใครหลายๆคนที่ชอบคุยเผื่อเลือก หรือแอบคุยซ้อน ไม่มีใครชอบเป็นตัวเลือกของใครหรอก และไม่มีใครอยากโดนคนที่รักหักหลัก #คิดให้ได้ก่อนที่จะสายเกินไป
ไม่มีใครอยากเป็นช้อยส์สำหรับใคร ?
เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ถ้ารักใครสักคนแล้วจะรักแบบไม่เผื่อใจ แบบที่ว่าถ้าอกหักก็ใช้เวลานานกว่าที่จะทำใจได้ แต่เราเป็นประเภทที่ว่าตอนมีแฟนเป็นจริงเป็นจังจะมีช่วงเวลาช่วงหนึ่งที่จะมีมือที่สามเข้ามาเสมอ และทุกครั้งจะเป็นเราเสมอที่เป็นคนเปิดโอกาสให้มือที่สามเข้ามาในความสัมพันธ์ หรือบางครั้งเราก็ชอบคุยเผื่อเลือก โดยที่เราเองไม่ได้แคร์ความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามเลย ทุกคนที่เข้ามาส่วนใหญ่เค้าเข้ามาเพราะอยากจริงจังกับเรา แต่เราเองกลับรู้สึกสนุกที่ได้แอบคุยกับคนหลายคนในเวลาเดียวกัน !
เรื่องมีอยู่ว่า...สมัยตอนที่เราเรียนอยู่มัธยมเราเป็นคนคุยเก่ง แต่คุยด้วยเฉพาะที่เรารู้จักหรือสนิทจริงๆ เราเป็นนางรำของโรงเรียนและเป็นเด็กกิจกรรมทำให้มีคนรู้จักเราเยอะ ตอนนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาจีบเรื่อยๆ แต่เราไม่ค่อยจะจริงจังแค่รู้สึกดีเวลามีคนเข้ามาชอบ ต่อมาเราก็มีโอกาสได้คุยกับผู้ชายคนหนึ่งเค้าอยู่ห้องเดียวกันกับเรา มันทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับชายคนนี้มากกว่าผู้ชายคนอื่นที่เราคุย จนเราคุยกันมาพอสมควรเค้าก็ขอเราคบ ในตอนนั้นเราไม่กล้าปฏิเสธเค้า เราเลยตอบตกลงไปทั้งๆที่เราเองก็ยังมีคนคุยอยู่เรื่อยๆ แน่นอนเค้าขอให้เราขึ้นสถานะกันแต่เราไม่ขึ้น ให้เหตุผลเค้าว่า "คนเราจะคบกันไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้ว่าเราคบกันก็ได้ เรารู้ดีว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน" และเค้าก็ยอมเรา ส่วนรหัสเฟสหรือของส่วนตัวเรา เราจะไม่ยุ่งซึ่งกันและกัน เพราะถ้าเค้ารักเราเค้าต้องเชื่อใจเรา....
ณ ช่วงเวลานั้นเราเป็นแฟนเค้าแล้วแต่รู้กันแค่สองคน เราคุยกันในแชทเป็นส่วนใหญ่ โทรหากันบ้างแต่ไม่บ่อย ไปเรียนไม่เคยคุยกันแต่แอบยิ้มให้กัน เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นแฟนแต่แสดงออกไม่ได้สักทาง เค้าไม่เคยระแคะระคายคนคุยของเราเลย จนกระทั่งเราไปคุยกับหัวโจกเด็กเกเรกลุ่มหนึ่งของโรงเรียน ซึ่งแน่นอนผู้ชายที่เราคุยเป็นคนเปิดเผย พอเราคุยกับเค้าได้สักระยะเค้าก็ออกแนวควงเราทุกวัน เฝ้าเราทุกเวลา รอรับกลับบ้านทุกเย็น และเป็นครั้งแรกที่แฟนเราจับได้ว่าเราคบซ้อนแต่เค้าเองก็ยังให้โอกาสเราอีกครั้ง เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น ผู้ชายคนที่เป็นหัวโจกนางรู้ความจริงว่าเราคุยซ้อนซึ่งแน่นอนนางเป็นอันตพานและนางไม่ยอมจบง่ายๆ นางสั่งคนให้มาตามเช็คว่าเราคุยกับใครบ้างและนางก็ตามเล่นงานทุกคนที่คุยกับเรา เป็นครั้งแรกที่เราโดนเรียกเข้าห้องปกครอง และแฟนเราก็บอกเลิกเราหลังจากนั้น
หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นเราก็โสดมาสักพักแต่ก็ยังมีคนใหม่ๆเข้ามาคุยด้วยเสมอและยังต้องเจอกับแฟนเก่าเราทุกวันเป็นเวลา 2 ปีกว่าจะจบภาคเรียน ตลอดเวลา 2 ปี เราไม่เคยคุยกับแฟนเก่าเราเลยจนว่าที่รับจบ เราอยากให้เค้าเขียนเสื้อให้เรา เราเลยใจกล้าหน้าด้านไปให้เค้าเขียนให้และเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เรากอดกัน..
จากนั้นเราก็เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่กรุงเทพและคบกับผู้ชายคนใหม่ เป็นเพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันแต่คนนี้เราคบแบบเปิดเผย เป็นแฟนที่เป็นแฟนจริงๆเราอยากเริ่มต้นใหม่กับผู้ชายคนนี้ เราคบกับคนนี้ได้ 1 ปีกว่าๆเค้าไม่เคยมีเรื่องโกหก หรือเรื่อง ผู้หญิงให้เราต้องเสียใจเลย แต่เราก็ยังมีบ้างแบบว่ามีคนทักเข้ามาจีบ แต่เราเองก็ไม่ได้สนใจอะไร แค่ตอบตามมารยาทเพราะแฟนเรามีรหัสแฟน สักพักนางก็จะเข้าไปตอบแชทเองตลอดๆ ตอนนี้ทุกอย่างในความสัมพันธ์ดูลงตัวไปหมด ไม่มีเรื่องให้ต้องทะเลาะอะไรใหญ่โตมากนัก
จนกระทั่ง....เราเริ่มทำงานพาสไทม์เป็นพนักงานเซเว่น ส่วนแฟนเราก็ทำงานพาสไทม์ในห้างเหมือนกันทำให้มีเวลาคุยกันไม่มากเหมือนแต่ก่อน แค่บอกฝักดีก่อนเข้านอนเท่านั้น เพราะตอนเช้าเราต้องตื่นไปเรียนแล้วเดี๋ยวก็ต้องเจอกันอยู่ดี เราทำงานได้สักระยะก็มีพนักงานใหม่เข้ามาเป็นน้องชายของผู้จัดการร้านเรา พี่คนนี้อายุมากกว่าเรารูปร่างทรงโจนมาก เราเป็นคนขี้เล่นก็แซวไปเรื่อย แต่พี่เค้ากลับไม่คิดแบบเราเค้ากลับชอบเราขึ้นมาจริงๆ เราแอบคุยกันในไอจีเพราะแฟนเราไม่ได้เล่น พี่เค้ารู้ว่าเรามีแฟนแล้วแต่เค้าบอกว่าเค้าชอบเราเค้าขอแค่คุยกับเราแค่นั้น แต่มันก็ไม่แค่นั้นน่ะสิ !! เราไปทำงานทุกวันก็เจอพี่เค้าตลอด สนิทจนคนที่ร้านรู้ถึงความสัมพันธ์กับพี่คนนี้ และด้วยเค้าเป็นน้องชาย ผจก. น้องขอพี่ก็ต้องให้เป็นธรรมดา แน่นอนเค้าขอให้อยู่ผลัดเดียวกับเราตลอด แล้วก็ไปรับไปส่งเราที่บ้านบ่อยๆ (ลืมบอกแฟนเรากับเราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน บ้านเราไกลกันมาก) แต่ความลับไม่มีในโลกสุดท้ายแฟนเราก็รู้ความจริงแต่ไม่ทั้งหมด เราบอกแฟนเราแค่ว่าพี่เค้าชอบเรา ที่คุยก็แค่ไม่อยากให้มองหน้ากันไม่ติดเวลาไปทำงานแค่นั้น..
และภาพเก่าม้วนเดิมก็วนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง วันนั้นเป็นวันลอยกระทงแฟนเราหยุดงานมาเพื่อจะรับเราไปลอยกระทงด้วยกัน เราเลิกงาน 4 ทุ่มแฟนเรามารอตั้งแต่ 3 ทุ่มและเค้าก็มองเราจากด้านนอกตลอดเวลา เราแอบกดดันและก็ทำตัวไม่ถูก ตอนนั้นเรายืนเคาน์เตอร์ 1 พี่เค้ายื่นเคาน์เตอร์ 2 เราต่างทำหน้าที่ตามปกติ แต่พี่เค้าไม่ปกติ เค้ากลับแกล้งเรา หยอกเราต่อหน้าแฟน เราก็บอกพี่เค้าว่า "อย่าทำแบบนี้ ไม่อยากมีปัญหากับแฟน" แต่เค้าก็ยังคงแกล้งต่อไม่สนใจแฟนเรา จนแฟนเราทนไม่ไหวเดินเข้ามามองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร แล้วได้แต่แกล้งเป็นทักแฟนว่ารอเค้าอีกหน่อยนะจะเลิกงานแล้ว เพื่อให้สถานะการณ์ไม่ตึงเกินไป แฟนเราพยักหน้าแล้วเดินไปหยิบน้ำ ตอนมาคิดเงินเราเรียกให้แฟนเรามาคิดเครื่องเรา แต่แฟนเรากลับยืนมองหน้าพี่เค้าแบบหาเรื่อง เราคิดในใจว่าอย่ามีเรื่องกันเลย แต่ดีที่แฟนเรายังมาคิดตังกับเรา แต่คนทั้งคู่ก็มองหน้ากันไม่พัก จนถึงเวลาเราเลิกงานเรารีบเคลียร์ตัวเองให้เร็วที่สุด แต่ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจพี่เค้าสนใจแค่แฟนเราเท่านั้น
เรากำลังออกจากร้านแต่ออกมาได้ไม่นานเท่าไหร่ก็เจอรถพี่เค้าที่ซ้อนมากับเพื่อนอีกคน พี่เค้าถือไม้กวาดแล้วก็ตีรถคู่มากับรถเรา เค้าเอาด้ามไม้กวาดตีไปที่รถเรา แล้วพูดว่า "เป็นอะไร เก๋านักหรอไอ้สัส" ตอนนั้นเราอึ้ง !! ทำไรไม่ถูก พี่เค้าพยายามจะถีบรถของเราแฟนเราเลยบอกว่า "อย่าถีบ เดี๋ยวเราเจ็บ"
พี่เค้าเลยฟังแล้วบอกให้เราสองคนจอดรถข้างทาง แต่ไม่เท่านั้นเราตีคู่มาได้สักพักก็มีรถมาเพิ่มอีก 3 คัน คนซ้อนทุกคัน ตอนนั้นกอดแฟนแน่นมากเพราะทั่งกลัวทั้งรถก็ขับเร็วมาก แฟนเราตัดสิ้นใจจอดเพราะกลัวมันถีบรถ พอจอดทุกอย่างก็ประดังเข้ามาพร้อมๆกัน ทั้งมัด มือ ไม้ ตีเข้าไปที่แฟนเรา เราได้แต่เอาแขนเข้าไปบังหัวให้แฟนเราเท่านั้นเราทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ร้องขอให้พี่เค้าเห็นใจแล้วหยุด เค้าบอกเพื่อนเค้าว่าอย่าตีเราให้ตีแค่แฟนเราคนเดียว จนสุดท้ายก็มีคนได้ยินเสียงเราขอความช่วยเหลือ แล้วพวกมันก็ขับรถหนีไป แฟนเราหัวแตกเย็บไปทั้งหมด 5 เข็ม ส่วนเราแขนซ้น แต่แฟนเราไม่ได้ไปแจ้งความแล้วพี่เค้าก็ลาออกไปเลยหลังจากเกิดเรื่อง...
เหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้เรากลัวทุกครั้งที่นึกถึง มันเป็นวินาทีที่เราไม่สามารถปกป้องคนที่เรารักให้ปลอดภัยได้เลย เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเราคิดเสมอว่าเป็นความผิดของเราที่ทำให้แฟนเราต้องเจ็บตัว แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเรา
ปล.สิ่งที่เราเคยทำมันไม่ดีหรอกเราจะมาคิดได้ตอนที่เรามองกลับไปแล้วมันเหลือแต่ความว่างเปล่า อยากฝากกระทู้นี้ไว้เตือนใจใครหลายๆคนที่ชอบคุยเผื่อเลือก หรือแอบคุยซ้อน ไม่มีใครชอบเป็นตัวเลือกของใครหรอก และไม่มีใครอยากโดนคนที่รักหักหลัก #คิดให้ได้ก่อนที่จะสายเกินไป