
ผมจบสายศิลป์และไม่ชอบวิทยาศาสตร์เอาเสียเลยตอนสมัยเรียน มันยุ่ง มันยากต้องจำอะไรไม่รู้เยอะไปหมด
พอโตขึ้นมีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์มากขึ้นจากสื่อต่างๆทำให้รู้สึกว่าวิทยาศาสตร์มันไม่ยากและสำคัญต่อชีวิตไม่น้อยเลย
วันนี้มีโอกาสไปเดินเที่ยวงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติในช่วง 2 วันสุดท้ายของการจัดงาน 9 วัน เลยมารีวิว
ให้ดูกันครับ

สัญลักษณ์ของงาน เดินด้อมๆมองๆสักพักก็มาอ่านคำอธิบาย ยังไม่ทันได้เริ่มอ่านคำแรกน้องเจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็เริ่มอธิบายถึง
แนวคิดของงานชิ้นนี้ให้ฟัง น้องอธิบายได้ดีเลยครับ ทำให้ได้เข้าใจแนวคิดขึ้นอีกเยอะเลย

ตัวอย่างสิ่งที่เด็กๆที่มาดูงานจะได้ลอง ภาพบนเป็นการพิสูจน์สมมติฐานและหาคำตอบในบรรทัดสุดท้าย ภาพล่างเป็นการเดินตามช่อง
เพื่อปฏิบัติภาระกิจโดยมีคนเดินและคนสั่ง โดยคนสั่งต้องทำชุดคำสั่งไว้ล่วงหน้า

ถัดมาเป็นบูทของกระทรวงกลาโหม เอาโดรนและอุปกรณ์ต่างๆมาจัดแสดงไว้เยอะทีเดียว มีคอมพิวเตอร์จำลองให้เด็กๆได้ขับเรือด้วย
อีกบูทที่คนมาถ่ายรูปเยอะก็เป็นบูทที่ทำหุ่นเชิด ซึ่งสามารถศึกษาเรื่องระบบการขยับหุ่นได้

การนำเสนอเรื่องข้าวจัดพื้นที่มาได้ใหญ่โตและสวยงามทีเดียว มีเกมให้เด็กๆจำลองการปลูกข้าวด้วย นอกจากนั้นยังนำเสนอการใช้
ประโยชน์จากข้าวและอาหารที่เกี่ยวกับข้าวในภูมิภาคอาเซียน มีข้าวหลายแบบให้ส่องดูกันด้วยนะ

บูทที่เด็กแน่นที่สุดบูทหนึ่งคือเลโก ผมชอบเลโกเป็นการส่วนตัวตรงที่สามารถนำตัวต่อที่ดูจะเป็นของเล่นมาทำเป็นหุ่นหรือเครื่องจักร
ย่อมๆได้ เครื่องนี้เป็นเครื่องหมุนรูบิค

บูทนี้ก็ตกแต่งดี เป็นเรื่องโครงการ Apollo ที่ขึ้นสำรวจดวงจันทร์


อีกบูทหนึ่งที่เกี่ยวกับดวงจันทร์ การจัดภายในสวยทีเดียว บูทนี้มีอะไรให้ทำค่อนข้างเยอะกว่าบูทอื่นๆ เช่น จำลองการเดินบนดวงจันทร์
จำลองภาวะไร้น้ำหนัก มีหนัง 4D ให้ดูด้วย

อีกบูทที่ชอบมากคือการแสดงเกี่ยวกับสัตว์ ภายในจำลองเหมือนห้องสมุดของนักสำรวจมีเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลต่างๆกับผู้เข้าชม มีสัตว์ดอง
ไว้ให้ดู รวมไปถึงการสตัฟสัตว์ ซึ่งแสดงการทำให้ดูแบบจะๆ สยองเล็กน้อย แต่เด็กๆไม่กลัวกันเลยยืนติดขอบโต๊ะถามคำถามกันอย่าง
สนุกสนาน
หลังบรรทัดนี้คือความคิดของผมเท่านั้นนะครับ
งานจัดมาได้อย่างยิ่งใหญ่ ใช้อิมแพคฮอล 6-12 ซึ่งพื้นที่โดยรวมเยอะมากๆ และมันทำให้ผมรู้สึก "เสียดาย" เพราะ
1. บูทส่วนใหญ่จะให้ข้อมูลผ่านบอร์ดและตัวหนังสือ สิ่งที่เห็นคือเด็กนักเรียนมาถ่ายรูปแล้วก็ไป บางคนจดอย่างกับจะไปสอบแล้วก็ไป
ผมรู้สึกว่าวิทยาศาสตร์มันสนุกและมันคือการทดลอง แต่หลายบูทไม่มีอะไรให้ทดลอง ให้จับ ทำได้แค่อ่านแล้วก็เลยไป
2. กิจกรรมบางอย่างไม่สื่อถึงสิ่งที่อยากจะสื่อ เช่น ผมเดินผ่านบูทหนึ่งจัดกิจกรรมให้เด็กมารวมทีมเล่น ROV กันมันไม่เกี่ยวอะไรกับสิ่ง
ที่บูทนั้นนำเสนอเลย และหลายบูทนำเกม VR มาให้เด็กเล่น ซึ่งเกมก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อหาของบูท
3. บูทร้าง อันนี้เสียดายมาก บางบูทมีแค่บอร์ดและจอโทรทัศน์ฉายวนไปเรื่อยๆ แต่นอกนั้นไม่มีอะไรเลยแม้แต่เจ้าหน้าที่ที่จะเล่าเรื่องต่างๆ
ทั้งๆที่เป็นบูทที่มีเรื่องให้เล่า มีอะไรให้ทำ (ถ้าเจ้าของบูทคิดจะทำ) ได้เยอะมาก
งานนี้ยิ่งใหญ่ในแง่ขนาดและจำนวนคนเข้างาน แน่นอนล่ะ แค่เด็กนักเรียนมากันก็เท่าใหร่แล้ว แต่ผมกลับไม่รู้สึกยิ่งใหญ่เลยในสิ่งที่เด็กและ
คนเข้าร่วมงานจะได้กลับไป
เดี๋ยวนี้การทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆมันเยะแยะตามสื่อต่างๆ ถ้าผู้จัดงานเอาการทดลองง่ายๆ มาประยุกต์ให้เด็กๆและผู้เข้างานได้ทดลอง
ได้สัมผัส ผมว่างานนี้จะเป็นแหล่งความรู้และแรงบันดาลใจให้เด็กๆได้อีกเยอะเลยครับ
[CR] รีวิว งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ...งานดีที่น่าเสียดาย
พอโตขึ้นมีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์มากขึ้นจากสื่อต่างๆทำให้รู้สึกว่าวิทยาศาสตร์มันไม่ยากและสำคัญต่อชีวิตไม่น้อยเลย
วันนี้มีโอกาสไปเดินเที่ยวงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติในช่วง 2 วันสุดท้ายของการจัดงาน 9 วัน เลยมารีวิว
ให้ดูกันครับ
แนวคิดของงานชิ้นนี้ให้ฟัง น้องอธิบายได้ดีเลยครับ ทำให้ได้เข้าใจแนวคิดขึ้นอีกเยอะเลย
เพื่อปฏิบัติภาระกิจโดยมีคนเดินและคนสั่ง โดยคนสั่งต้องทำชุดคำสั่งไว้ล่วงหน้า
อีกบูทที่คนมาถ่ายรูปเยอะก็เป็นบูทที่ทำหุ่นเชิด ซึ่งสามารถศึกษาเรื่องระบบการขยับหุ่นได้
ประโยชน์จากข้าวและอาหารที่เกี่ยวกับข้าวในภูมิภาคอาเซียน มีข้าวหลายแบบให้ส่องดูกันด้วยนะ
ย่อมๆได้ เครื่องนี้เป็นเครื่องหมุนรูบิค
จำลองภาวะไร้น้ำหนัก มีหนัง 4D ให้ดูด้วย
ไว้ให้ดู รวมไปถึงการสตัฟสัตว์ ซึ่งแสดงการทำให้ดูแบบจะๆ สยองเล็กน้อย แต่เด็กๆไม่กลัวกันเลยยืนติดขอบโต๊ะถามคำถามกันอย่าง
สนุกสนาน
หลังบรรทัดนี้คือความคิดของผมเท่านั้นนะครับ
งานจัดมาได้อย่างยิ่งใหญ่ ใช้อิมแพคฮอล 6-12 ซึ่งพื้นที่โดยรวมเยอะมากๆ และมันทำให้ผมรู้สึก "เสียดาย" เพราะ
1. บูทส่วนใหญ่จะให้ข้อมูลผ่านบอร์ดและตัวหนังสือ สิ่งที่เห็นคือเด็กนักเรียนมาถ่ายรูปแล้วก็ไป บางคนจดอย่างกับจะไปสอบแล้วก็ไป
ผมรู้สึกว่าวิทยาศาสตร์มันสนุกและมันคือการทดลอง แต่หลายบูทไม่มีอะไรให้ทดลอง ให้จับ ทำได้แค่อ่านแล้วก็เลยไป
2. กิจกรรมบางอย่างไม่สื่อถึงสิ่งที่อยากจะสื่อ เช่น ผมเดินผ่านบูทหนึ่งจัดกิจกรรมให้เด็กมารวมทีมเล่น ROV กันมันไม่เกี่ยวอะไรกับสิ่ง
ที่บูทนั้นนำเสนอเลย และหลายบูทนำเกม VR มาให้เด็กเล่น ซึ่งเกมก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อหาของบูท
3. บูทร้าง อันนี้เสียดายมาก บางบูทมีแค่บอร์ดและจอโทรทัศน์ฉายวนไปเรื่อยๆ แต่นอกนั้นไม่มีอะไรเลยแม้แต่เจ้าหน้าที่ที่จะเล่าเรื่องต่างๆ
ทั้งๆที่เป็นบูทที่มีเรื่องให้เล่า มีอะไรให้ทำ (ถ้าเจ้าของบูทคิดจะทำ) ได้เยอะมาก
งานนี้ยิ่งใหญ่ในแง่ขนาดและจำนวนคนเข้างาน แน่นอนล่ะ แค่เด็กนักเรียนมากันก็เท่าใหร่แล้ว แต่ผมกลับไม่รู้สึกยิ่งใหญ่เลยในสิ่งที่เด็กและ
คนเข้าร่วมงานจะได้กลับไป
เดี๋ยวนี้การทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆมันเยะแยะตามสื่อต่างๆ ถ้าผู้จัดงานเอาการทดลองง่ายๆ มาประยุกต์ให้เด็กๆและผู้เข้างานได้ทดลอง
ได้สัมผัส ผมว่างานนี้จะเป็นแหล่งความรู้และแรงบันดาลใจให้เด็กๆได้อีกเยอะเลยครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้