ตะลุยเที่ยว"ลาวใต้"ในหนึ่งวัน...พาเที่ยว 2 วัด 2 ตาดและคาเฟ่สุดชิคที่โบลาเวน

Daytrip to Southern Laos 
(ที่ราบสูงโบลาเวน-น้ำตกตาดฟาน-น้ำตกตาดเยือง-ร้านกาแฟ Lak 40-วัดพูสะเหลา-วัดพู)
ฝาก page ด้วยนะคะ เข้ามาพูดคุย แนะนำ สอบถามกันได้ค่ะ
https://www.facebook.com/pg/ElamaniTh/

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราเดินทางไปลาวผ่านทางด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี ขับรถจากตัวเมืองอุบลราชธานีใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จอดรถในซอยทางฝั่งด้านซ้ายของด่าน ซึ่งจอดได้ฟรี แต่บริเวณหน้าด่านก็มีที่รับฝากรถอยู่หลายที่พอสมควร และหน้าด่านก็มีร้านขายของ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อเยอะพอสมควร

จากนั้นเราก็ไปทำเรื่องข้ามแดนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็กกันค่ะ เป็นอาคารสีม่วง รูปทรงแปลกตา
สำหรับคนไทย หากใช้พาสปอร์ตสามารถไปต่อคิวเพื่อตรวจเล่มขอข้ามแดนได้เลย ไม่เสียค่าธรรมเนียมอะไร สะดวกสบายมาก เมื่อผ่านมาแล้ว ก็จะต้องมุดอุโมงค์เพื่อลอดไปฝั่งลาวกันค่ะ ซึ่งระหว่างนี้ก็จะมีคนมาถามเพื่อขายซิมมือถือให้เรื่อยๆ
เมื่อถึงฝั่งลาว เราก็ไปแลกเงิน 1,000 บาทค่ะ สำหรับการใช้จ่าย 1 วัน

จากนั้นก็ไปทำเรื่องขอเข้าเมืองทางฝั่งลาวที่ด่านวังเต่า ยื่นพาสปอร์ตอย่างเดียวเช่นกันค่ะ เขาจะให้ใบเข้าออกมา 1 ใบ พร้อมเสียค่าธรรมเนียม ซึ่งเท่าที่ศึกษามาทราบว่าแต่ละคนเสียไม่เท่ากัน มีตั้งแต่ 50-100-150-200 บาท ซึ่งเราเองโดน 200 บาทเต็มค่ะ555

สำหรับการเดินทาง เราเข่ารถพร้อมคนขับของบริษัท CCN Car Rental ค่ะ ถือว่าสะดวกสบาย และรถใหม่มากค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะเช่ารถขับเอง แต่ก็ดูยุ่งยากพอสมควร และไม่มั่นใจในการเปลี่ยนด้านคนขับค่ะ เพราะพวงมาลัยของลาวจะขับเลนซ้าย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเที่ยวลาวใต้ค่ะ
https://www.facebook.com/CCN-car-rental-รถเช่าปากเซ-ລົດເຊົ່າປາກເຊ-1021385861582285/

สถานที่แรก เป็นทางผ่านคือ”หอหลักเมืองโพนทอง”ค่ะ แวะถ่ายรูปกันซักหน่อย
2 ข้างทางทัศนียภาพไม่ต่างจากฝั่งไทยเท่าไหร่นัก ถนนหนทางถือว่าดีมากเลย แต่สิ่งที่ต่างจากไทยคือ นอกจากจะเห็นน้องหมาตามข้างทางแล้ว ที่นี่จะมีแพะด้วยค่ะ ที่เขาเลี้ยงปล่อยอย่างอิสระเสรี เราจึงเห็นฝูงน้องแพะเป็นระยะๆ
สถานที่เป้าหมายแห่งแรกของเราก็คือน้ำตกในบริเวณที่ราบสูงโบลาเวนอันโด่งดังค่ะ 

ที่ราบสูงโบลาเวนอยู่ในพื้นที่จังหวัดจำปาสัก ประเทศลาว อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,000-1,350 เมตร มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน มีน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากมาย และยังเป็นแหล่งปลูกกาแฟอันดับต้นๆของโลก

น้ำตกหรือที่ภาษาลาวเรียกว่า”ตาด”แห่งแรกที่เรามาถึง คือ ตาดฟาน

บริเวณทางเข้าจะมีเฮือนย่าสาย
บริเวณทางเข้าซึ่งเดินไม่ไกลจากที่จอดรถค่ะ
พอเข้ามาถึงครั้งแรก แอบตกใจ นึกว่าจะไม่เห็นสายน้ำตกซะแล้ว เนื่องจากละอองน้ำเยอะมาก กอรปกับวันนั้นอากาศค่อนข้างอึมครึมจากฝนตก

แต่แล้วโชคก็เข้าข้างบ้างแล้วค่ะ เริ่มเห็นสายน้ำตกบางๆ


ละอองน้ำเริ่มจาง… ลุ้นสุดๆ

สุดท้ายยยยยยย… 

เห็นแล้วน้ำตก

ชัดเจนแจ๋วแหวววว

จากนั้น เนื่องจากเช้าอยู่มาก ร่างกายต้องการโหลดคาเฟอีนเข้ากระแสเลือดซักหน่อย และมาเยือนถึงถิ่นปลูกอาราบิก้าและโรบัสต้าอันดับต้นของโลกเช่นนี้แล้ว จึงขอคนขับรถพาไปคาเฟ่ชิคๆแถวนี้หน่อย แล้วคนขับรถก็พาไป Lak 40 Coffee & Tea

https://www.facebook.com/lak40/

ซึ่งบอกเลยว่ากาแฟอร่อยสมคำร่ำลือ แถมที่นี่มีต้นกาแฟ และชา รวมถึงต้นไม้อื่นๆให้ดูด้วย
ตาดแห่งถัดมาที่เรามาเยี่ยมชมคือ”น้ำตกตาดเยือง” ซึ่งที่ตาดเยืองก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกพอสมควร มีห้องน้ำแบบเสียค่าบริการแต่สะอาดมาก
น้ำตกตาดเยือง หนึ่งในน้ำตกที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งในที่ราบสูงโบลาเวน เป็นน้ำตกที่เกิดจากสายแม่น้ำที่ไหลลงสู่หน้าผาสูงประมาณ 80 เมตร เกิดละอองน้ำกระจายสวยงาม โดยที่นี่จะมีบันไดให้เราลงจากหน้าผาสู่ด้านล่าง เพื่อชมความงามของน้ำตกได้ด้วย หากน้ำไม่เยอะสามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน
ภาพด้านบนของน้ำตกค่ะ เป็นเหมือนแม่น้ำสายหนึ่ง ก่อนจะไหลลงหุบเขา
ลงไปดูน้ำตกด้านล่างกันค่ะ บันไดสูงพอสมควร ตอนลงไม่เท่าไหร่ ตอนขึ้นเล่นเอาหอบหนักมาก555
สวยมากกกกกก ก.ไก่อีกล้านตัว
หลังจากที่ช่วงเช้าชมทัศนียภาพของน้ำตกและแวะเที่ยวคาเฟ่แล้ว เราก็กลับมายังตัวเมืองปากเซ เพื่อทานอาหารกลางวันกันค่ะ โดยคนขับรถแนะนำก๋วยจั๊บปู อร่อยจริงๆ อาหารที่นี่ได้รับอิทธิพลจากทางเวียดนามเยอะพอสมควรค่ะ

จากนั้นเราก็ข้ามฝั่งแม่น้ำโขงกลับมาทางสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่นเพื่อไปยังวัดพูสะเหลา

ภาพวิวแม่น้ำโขงถ่ายจากบนสะพาน


วัดพูสะเหลา เมืองปากเซ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา ใกล้กับสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สีทองประดิษฐานอยู่ ณ เชิงเขา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีทัศนียภาพอลังการมาก มองเห็นเวิ้งสายน้ำโขงสุดลูกตา และเมื่อมองไปฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำโขงก็คือเมืองปากเซและบริเวณที่ราบสูงโบลาเวนที่ยังคงเขียวขจีและมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติเป็นอย่างมาก ส่วนของตัววัด ก็มีพระพุทธรูปน้อยใหญ่เรียงรายสวยงาม

วัดพูสะเหลาเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาปากเซ








วิวจากทางลงวัดพูสะเหลา


สถานที่ถัดมาที่เราจะไปเยี่ยมชมคือ”วัดพู” โดยระหว่างทางเราเจอฝูงวัวค่ะ ที่นี่เลี้ยงแบบอิสระ ใครขับรถเองต้องระวังกันหน่อยนะคะ ทางไปวัดพูมีวัวข้างทางเยอะเลย


วัดพูเป็นมรดกโลกแห่งที่ 2 ของประเทศลาว ลักษณะปราสาทเป็นเทวสถานขอม พระเจ้าชัยวรมันได้สร้างปราสาทวัดพู พ.ศ. 893-943 เพื่อถวายพระศิวะ

จากสถานที่จำหน่ายบัตรเยี่ยมชมถึงเทวสถาน จะมีรถกอล์ฟขับพามาส่งค่ะ


มีเพื่อนร่วมเดินทางด้วย ขอเรียกว่าน้องหมาวัดพู

น้องดูชินกับนักเที่ยว และคอยทำหน้าที่มาต้อนรับ เดินเข้าไปครึ่งทางก็วิ่งออกไปรับคนใหม่แล้ว


วัดพูคือปราสาทหินที่เก่าแก่ที่สุด ที่ผ่านเวลามานับพันปี รู้สีกได้ถึงความขลัง





ทับหลังสภาพดีและลวดลายชัดมาก




แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่