ใครทัน " วิกฤตต้มยำกุ้ง ฟองสบู่แตก ปี 2540 " บ้าง

ใครทันวิกฤตฟองสบู่แตกในปี 2540 เมื่อ22ปีก่อนบ้างครับ ท่านได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง //


วิกฤตดังกล่าวเริ่มขึ้นในประเทศไทย เมื่อค่าเงินบาทลดลงอย่างมากอันเกิดจากการตัดสินใจของรัฐบาลไทย ซึ่งมีพลเอกชวลิต ยงใจยุทธเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ลอยตัวค่าเงินบาท ตัดการอิงเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ หลังจากความพยายามทั้งหมดที่จะสนับสนุนค่าเงินบาทเมื่อเผชิญกับการแผ่ขยายแบบเกินเลยทางการเงิน (financial overextension) อย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนขับเคลื่อนอสังหาริมทรัพย์ ในเวลานั้น ประเทศไทยมีภาระหนี้สาธารณะซึ่งทำให้ประเทศอยู่ในสภาพล้มละลายก่อนหน้าการล่มสลายของค่าเงิน และเมื่อวิกฤตดังกล่าวขยายออกนอกประเทศ ค่าเงินของประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่นก็ได้ทรุดตัวลงเช่นกัน ตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงและรวมไปถึงราคาสินทรัพย์อื่น ๆ และทำให้หนี้เอกชนเพิ่มสูงขึ้น[1]

แม้จะทราบกันดีแล้วว่าวิกฤตการณ์นี้มีอยู่และมีผลกระทบอย่างไร แต่ที่ยังไม่ชัดเจนคือสาเหตุของวิกฤตการณ์ดังกล่าว เช่นเดียวกับขอบเขตและทางแก้ไข อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และไทยได้รับผลกระทบมากที่สุดจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว ฮ่องกงมาเลเซีย ลาวและฟิลิปปินส์ก็เผชิญกับปัญหาค่าเงินทรุดเช่นกัน สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดียไต้หวัน สิงคโปร์ บรูไนและเวียดนามได้รับผลกระทบน้อยกว่า ถึงแม้ว่าทุกประเทศที่กล่าวมานี้จะได้รับผลกระทบจากการสูญเสียอุปสงค์และความเชื่อมั่นตลอดภูมิภาค

สัดส่วนหนี้ต่างประเทศต่อจีดีพีเพิ่มสูงขึ้นจาก 100% เป็น 167% ในสี่ประเทศใหญ่อาเซียนระหว่างปี พ.ศ. 2536 - 2538 ก่อนจะขึ้นไปสูงถึง 180% ในช่วงที่วิกฤตการณ์เลวร้ายที่สุด ในเกาหลีใต้ สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 13% เป็น 21% และแตะระดับสูงสุดที่40%ขณะที่ประเทศอุตสาหกรรมใหม่ที่อยู่ทางเหนือได้รับผลกระทบน้อยกว่ามาก มีเพียงในไทยและเกาหลีใต้เท่านั้นที่หนี้สัดส่วนบริการต่อการส่งออกเพิ่มขึ้น[2]

ถึงแม้ว่ารัฐบาลส่วนใหญ่ในเอเชียได้ออกนโยบายการเงินที่ดูแล้วสมบูรณ์ แต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ก้าวเข้ามาเพื่อริเริ่มโครงการมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อรักษาเสถียรภาพของสกุลเงินในเกาหลีใต้ ไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว ความพยายามที่จะยับยั้งวิกฤตการณ์เศรษฐกิจระดับโลกได้ช่วยรักษาเสถียรภาพสถานการณ์ในประเทศในอินโดนีเซียได้เพียงเล็กน้อย ประธานาธิบดีซูฮาร์โตถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 หลังจากครองอำนาจมายาวนานกว่า 30 ปี ท่ามกลางการจลาจลที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าอย่างรุนแรง อันเป็นผลมาจากค่าเงินรูเปียห์อ่อนตัวลงอย่างร้ายแรง ผลกระทบของวิกฤตการณ์ดังกล่าวกินเวลาไปจนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2541 ในปีเดียวกันนั้น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ มีเพียงสิงคโปร์และไต้หวันเท่านั้นที่พิสูจน์แล้วว่าเกือบจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในวิกฤตการณ์เลย แต่ทั้งสองประเทศก็ยังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงตามปกติ สิงคโปร์ได้รับผลกระทบมากกว่าเนื่องจากขนาดและที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ระหว่างมาเลเซียกับอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม จนถึงปี พ.ศ. 2542 นักวิเคราะห์ได้มองเห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจเอเชียกำลังเริ่มฟื้นตัว

จาก วิกิพีเดีย
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ตอนนั้นมันเป็นวิกฤติที่มีโอกาส


จุดเริ่มต้นวิกฤตจริงๆมันเกิดจากการ เปิดเสรีให้มีการนำเงินจากต่างประเทศเข้ามาโดยไม่มีการควบคุม     จนทำให้เกิดพวกจับเสือมือเปล่า  กู้เงิน ตปท เอามาปั่นราคาซื้อขายเปลี่ยนมืออสังหา กันอย่างเมามัน   แต่พอทุกอย่างพังทลายดันโบ้ยย้อยหลังกลับไปโยนขี้ให้คนอื่น

วิกฤติมันมาพร้อมโอกาส   หุ้นตัวละหลายร้อย  ลดราคาลงมาขาย 2ตัว บาท เยอะแยะไปหมด

รถใหม่ป้ายแดง  เพิ่งถอยมาคันละ 500,000  ขาย 100,000 เดียว



มันต่างกับยุคนี้โดยสิ้นเชิง   ที่เป็นวิกตที่ไร้โอกาส   มีแต่ของแพง  กับคำพูดลวงโลก ให้ปรับตัว บลาๆๆๆๆๆๆ
ความคิดเห็นที่ 56
กรณีต้มยำกุ้งเป็นกรณีคลาสิกที่เป็นกรณีตัวอย่างให้คนทั้งโลกตื่นจากโลกการเงินที่หลอกลวงและสวยงาม และตระหนักถึงการให้ความสำคัญกับการบริหาร และวินัยทางการเงินมากขึ้น
ไล่ประวัติศาสตร์ก่อนเกิดต้มยำกุ้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลังจากประกาศเงินบาทลอยตัวเกิดอะไรขึ้นบ้าง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผลกระทบที่เจอกับตัวเอง และคนรอบๆตัว

- แผนการจะไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นหมันทันที ตอนนั้นที่บ้านฐานะปานกลาง แต่ด้วยก่อนหน้านี้เศรษฐกิจดีมาก เพื่อนพ่อแม่ก็ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศกันเป็นส่วนมาก ก็เลยมีแผนจะดูที่เรียนต่อเมืองนอกเอาไว้ จะโชคดีหรือโชคร้ายไม่รู้ ที่ฟองสบูแตกซะก่อน (คือถ้าแตกที่หลังอาจจะหนักกว่านี้ก็ได้)

- ป้าข้างบ้าน ขายที่ได้ต่อมาเลยไปเป็นนายหน้าขายที่ ใส่ทองเต็มตัว ขับเบนซ์ แต่ไม่กี่วันต่อมาหลังต้มยำกุ้ง แกโดนยึดบ้าน ยึดที่ แล้วต้องย้ายไปบ้านนอก จะว่าไปก็ไม่เจอแกอีกเลย

- เพื่อนหลายคนหายไปจากห้องเรียน และไม่ได้เจอกันอีกเลย
ความคิดเห็นที่ 13
ตอนนั้นทำงานได้ปีเศษ บริษัทที่ทำงานลดคนหลายครั้ง ลดเงินเดือน ลดวันทำงาน ค่าเงินเปลี่ยนจาก 25 บาทไปเป็น 50 กว่าบาท เวลาเสนอราคาลูกค้าต้องระบุอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงไว้ด้วย ยืนราคาแค่ 7 วัน และไม่ยืนราคาเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเกินที่ระบุไว้

ประสบการณ์ตรงที่จำไม่ลืมคือ ตอนนั้นรับผิดชอบงานโครงการราชการ (ซึ่งเป็นลูกค้าที่ดีที่สุดตอนนั้น เนื่องจากไม่เบี้ยวหนี้แน่นอน) วันนั้นวันศุกร์ปลายเดือนเวลาประมาณบ่ายโมงเศษๆ เจ้านายเดินมาที่โต๊ะ เอากุญแจรถแกมาให้ แล้วบอกให้ขับรถไปวางบิลเบิกเงินที่หน่วยงานราขการที่มวกเหล็กให้หน่อย ต้องไปวางบิลให้ได้ก่อนบ่ายสามโมงครึ่ง ไม่เช่นนั้นวันจันทร์ซึ่งเป็นวันเงินเดือนออก ทั้งบริษัทจะไม่มีเงินจ่าย (เป็นบริษัทขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ เงินเดือนพนักงานทั้งบริษัทประมาณ 10 กว่าล้านต่อเดือน) แกบอกให้เอารถแกไป จะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำมัน เรื่องถนอมรถ อัดให้เต็มที่ ไปให้ทันเป็นพอ สุดท้ายไปถึงแบบฉิวเฉียด จำมาจนทุกวันนี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่