เรากำลังอยู่ในยุคที่คนรวยคือคนที่เรียนหนังสือปานกลาง ส่วนคนที่เรียนเก่งคือคนที่ไม่รวยใช่มั้ยครับ

นี่คือทั้งจากประสบการณ์ตรงที่พบเจอ จากที่เห็นในเฟชบุ๊ค(ผมมีเพื่อนในเฟชบุ๊คเกือบห้าพันคนเพราะสมัยก่อนเคยรับแอดมั่ว) และจากที่เห็นผ่านคนรอบข้าง  คนรุ่นผม (อายุน้อยกว่า30) เยอะมากๆๆๆ ที่ตอนนี้กลายเป็นเสมือนเศรษฐีใหม่เป็นคนที่มีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่เเสนกว่าหรืออาจจะถึงเกือบสิบล้านต่อเดือนก็มี คนกลุ่มนี้ไม่มีไครจบมหาลัยดังสักคน ไม่ใช่ตัวท็อปคณะ ส่วนใหญ่เริ่มจากขายของออนไลน์ รีวิวสินค้า จนมีทุนเปิดร้านค้าของตัวเอง มีแบรนด์ของตัวเอง บางคนเปิดคลินิคความงาม บางคนเปิดร้านกาแฟ บางคนผันตัวเป็นช่างแต่งหน้า บางคนเปิดร้านจัดดอดไม้จัดอีเวนท์ บางคนที่หน้าตาดีดีพูดเก่งหน่อยก็เป็นเน็ตไอดอลรีวิวสินค้า รายได้ต่อเดือนแต่ละคนเท่าที่ทราบคือสูงมากกกกกกก บางคนได้ต่อวันได้ต่อวันเป็นแสนครับ. 

มองกลับไปที่คนรอบข้างที่เรียนเก่งๆ เกียรตินิยม จบมหาลัยดังส่วนใหญ่เท่าที่เห็น เรียนจบออกมาจะพยายามอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อสอบราชการในตำแหน่งดีดี หรือทำงานบริษัทเอกชน รายได้เสริมบางคนอาจจะทำแต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำ เพราะภาระงานประจำค่อนข้างหนัก บางคนได้เป็นข้าราชการแล้วก็ยังอ่านหนังสือเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่ดีกว่าเดิม เสียเวลาไปกับการอ่านหนังสือจนไม่มีเวลาหาเงินเสริม รับเฉพาะเงินเดือนจากงานประจำทางเดียว ส่วนใหญ่จะบ่นเครียดงานบ่อยแล้วก็มีหนี้บัตรเครดิต ทั้งหนี้ที่เกิดจากการเสียค่าติว/หนี้ที่เรียนป.โท/หนี้จิปาถะ

เหล่านี้มันท้อนว่ากาาเรียนหนังสือเก่งในยุคนี้ไม่ได้การันตีว่าชีวิตจะสบายแล้วใช่มั้ยครับ

ปล. กลุ่มคนที่เรียนไม่เก่งด้านบนในที่นี้คือกลุ่มคนที่นังเรียนหนังสือและมีความใฝ่ดีนะครับ ไม่ใช่เด็กแวนซ์ที่ขี่รถผลาญเงินพ่อแม่ไปวันๆ

 

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ผมได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนนักลงทุนต่างวัยคนนึง พูดถึงเรื่องนี้ครับ
คนเรียนเก่งทำไมไปเป็นลูกน้อง ส่วนคนเรียนโง่เป็นเจ้านาย???

เคยสงสัยไหมในไทยวิชาแนะแนว มักจะชี้นำให้เราเป็นลูกน้อง  วิชาแต่ละตัวที่เรียนที่สอน มันก็วิชาของพนักงานทั้งนั้น แล้วก็มักจะส่งเราไปเป็นหมอมั่ง ราชการมั่ง แต่มันไม่เคยมีใครสอนทำธุรกิจหรอกครับ ว่าวิชาเถ้าแก่ทำยังไง วิชาเริ่มธุรกิจทำยังไง

คนที่เรียนเก่งมักจะมีทางเลือกเสมอ ใครๆก็จองตัว นั่นแปลว่าเขาอยู่ในเซฟโซน ส่วนคนที่เรียนไม่เก่ง มันไม่มีทางเลือก ต้องดิ้นรน ใช้เวลานอกห้องเรียนมากกว่า รู้จักคนมากกว่า (การรู้จักคน=ช่องทาง) ทำให้เขามีโอกาสก้าวหน้ามากกว่า แต่คนที่เรียนไม่ดีมีโอกาสจนมากกว่าคนเรียนดี แต่คนเรียนดีมีโอกาสเป็นเถ้าแก่น้อยกว่าคนเรียนไม่ดี มันฟังดูแปลกๆนะว่าไหม

สรุปง่ายๆเลยคือคนเรียนไม่ดี ไม่จนขี้แตกก็รวยไปเลย
คนเรียนดีมีโอกาสจนน้อยกว่า แต่ก็เพราะความเสี่ยงต่ำจึงเลือกเป็นลูกน้อง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
มาพูดในฐานะ พ่อที่มีลูกในวัยเรียนขณะนี้

ตรรกะแบบ...

ไม่เห็นต้องเรียนหนังสือสูงก็ได้

ไม่ต้องเรียนเก่ง ไม่ต้องเรียนเยอะ

ไม่ต้องเรียนพิเศษ ไม่ต้องแย่งเข้า ม.ดัง

ผมว่ามันเป็น ความคิดของคนที่มองด้านเดียวนะครับ

....

ใช่หลายคนไม่จำเป็นต้องเรียนสูง ไม่จำเป็นต้องเรียนเก่ง เรียนเยอะ เห็นประสบผลสำเร็จในอาชีพการงานและสร้างฐานะ มีหน้าตาในสังคม

แต่จะมีสักกี่คนเล่าครับที่ถึงจุดนั้น คนที่ได้มาถึงจุดนั้นได้ เขาต้องมีองค์ประกอบอื่นมาแทรกอยู่ด้วย หาไม่แล้ว มันยากมากที่จะได้แบบนั้น

เด็กๆที่เข้ามาอ่าน ผู้ปกครองที่ได้มาเห็น เชื่อผมเถอะครับ อย่างไรการศึกษา การเรียนรู้ การตั้งใจเรียนมันคือรากฐาน ในการดำเนินชีวิตใน

อนาคต ของน้องๆ ถ้าน้องจะลองเสี่ยงดูว่าชีวิตนี้ ไม่ต้องเรียนเยอะ ไม่ต้องเรียนสูง ไม่ต้องสอบเข้า ม.ดัง เดี่ยวก็มีโอกาสเองล่ะถ้ามีช่องทาง

มันเป็นการเสี่ยงที่ ลงทุนสูงมากทั้งชีวิตเลยนะครับ
ความคิดเห็นที่ 10
ตรรกะป่วยๆ ของพวก Loser
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่