{(Diary...ดอก-รัก-เร่...)}...[บทที่6]

กระทู้สนทนา


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

..........รถยนต์ยุโรปหรูแล่นเข้ามาจอดภายในวัด ก่อนถึงบันไดทางขึ้นศาลาหอฉัน แสงแดดยามสายสะท้อนกับสีเคลือบของรถเป็นมันแวววาว ทะเบียนรถหมายเลขเรียงกันบ่งบอกฐานะอันร่ำรวยของเจ้าของได้เป็นอย่างดี

          ครอบครัวอันมีพ่อแม่ลูกกำลังเดินลงบันไดศาลาหอฉัน โรสต้องแปลกใจ เอามือทาบอกร้องอุทานออกมา พ่อรูปหล่อจากไหน มารอใครกันละนี่ เป็นหนุ่มใหญ่อายุประมาณ 45-50 แต่งกายดี ลงมาจากรถมายืนมองหาบางอย่าง พอหันหน้ามาทางบันไดก็พบกับบุคคลเป้าหมายในการมาในครั้งนี้

          แนนนี่ช่วยประคองแขนคุณแม่เพราะบันไดค่อนข้างชัน พอเห็นคนคุ้นเคยได้แต่ส่งเสียงทักทายกับโบกมือให้ หนุ่มใหญ่แย้มไรฟันยิ้มน้อย ๆ เหนือริมฝีปากไว้หนวดที่ถูกตัดแต่งเข้ารูป น้อมใบหน้าลงเป็นการตอบรับ เขาสวมสูทลำลองสีกรม กางเกงขาเดฟ เป็นคนแต่งตัวเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า

          สีหน้าของดาราสาวยิ้มละไมด้วยรู้สึกเขาคนนี้เป็นคนพิเศษ คนเป็นพ่อมองไปที่คนนั้นกับหันมามองลูกสาว มันชักยังไง ๆ อยู่ รู้สึกแปลกปนอึ้ง ท่าทางอำภากับแนนนี่จะรู้จักชายแปลกหน้ารายนี้

          “ใครน่ะ”
          “เสี่ยเจษฎาไงคะพ่อ”
          “ดูไม่แก่เลย พ่อคิดว่าเสี่ยเจษฎาจะแก่กว่านี้เสียอีก เขาอายุ 50 แน่นะลูกแนน ดูยังเหมือนคนอายุ 40 ต้น ๆ ” โรสแอบร้องว้าวในใจ

          “ก็เขาดูแลตัวเองดีไงคะพ่อ ไม่ได้บ้างานจนลืมใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง แบ่งเวลาเข้าฟิตเนสตลอดรูปร่างเลยดี แล้วยังไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ทำลายสุขภาพตัวเองด้วย หนูรู้จักเขาก็ตอนไปเข้าฟิตเนส”

          “เขาเป็นนายทุนแต่ไม่หน้าเลือดเลยนะคะคุณพี่ โฉนดของบ้านเราธนาคาร ประเมินไว้ที่ 40 ล้าน เสี่ยให้ 60 ล้าน แล้วยังไม่คิดดอกเบี้ยด้วย บอกมีตอนไหนก็ให้ ใจสปอร์ตมาก แล้วยังดูแลเราสองคนแม่ลูกมาตลอด งานในวงการก็ได้เสี่ยก็แนะนำให้ ลูกแนนถึงก้าวหน้าได้ไว” อำภาได้ทีเชียร์เพราะใจอยากได้เสี่ยหนุ่มใหญ่รายนี้เป็นลูกเขย แม้ว่าอายุจะไล่เลี่ยกับตนเองผู้เป็นแม่ยายก็ตามที

          โรสหยุดกึกหลังจากก้าวลงมาเหยียบพื้น หันมามองอำภา ดวงตาใต้ขนตางอนคมปลาบ  มองด้วยแววตาตำหนิจนหล่อนหน้าเสีย รู้ว่าต้องถูกดุอีกแน่

          “รู้ได้ไงธนาคารประเมินไว้ 40 ล้าน ที่ดินใจกลางเมือง ที่เจ้านายประทานให้บรรพบุรุษของฉัน มันเป็นที่ดินทำเลทองที่ราคามีแต่ขึ้น เมื่อห้าปีก่อน ฉันมีเพื่อนทำงานธนาคาร ยังเคยประเมินบ้านไว้เลย อย่างน้อย 50 ล้าน แล้วตอนนี้ราคามันขึ้น ไปอีก 50 % เป็นอย่างน้อย เขาจำนองไว้ราคานี้ เกิดยึดไปขายต่อยังได้กำไรเห็น ๆ”

          “เสี่ยไม่ทำอย่างนั้นหรอก เขาออกจะใจดี” อำภาตอบสามีไปเสียงสั่น
          “แล้วตอนกู้ ได้ทำสัญญาไว้ไหม”
          “ท..ทำ..ทำสัญญาสิ”

          “เชื่อสิว่า ถ้าไปถอนโฉนดคืน เขาคิดดอกเบี้ยแน่ ถ้าตามกฎหมายกำหนด กู้มาสามปี ดอกเบี้ยมันบานไปแค่ไหนแล้ว นี่คงไม่ได้จ่ายดอกเขาสักงวดเลยสิท่า”

          ในที่สุดทั้งสามคนก็เดินมาถึงที่เสี่ยเจษฎายืนรออยู่ เจ้าหนี้เงินกู้ที่อำภาเอาโฉนดบ้านไปจำนองไว้ เขารีบมายกมือไหว้อย่างนอบน้อม กะเทยร่างใหญ่รีบเข้าไปรับไหว้มือสัมผัสกัน พลันเหมือนกระแสไฟฟ้ามันแล่น เสี่ยรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ไม่ทันไรก็ถูกกะเทยร่างใหญ่เข้าถึงตัวเสียแล้ว มากับแนนนี่และแม่ของเธอ หรือว่าจะเปลี่ยนผู้จัดการคนใหม่ ไม่ทำกับเจ๊นายแล้ว

          โรสยิ้มหวานจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ รู้สึกเหมือนได้พบกับ แจ็ค ดอว์สัน รักแรกไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ยิ่งมาเห็นระยะใกล้เขาดูหล่อมากมาย มิน่าแม่ลูกคู่นี้ถึงได้หลงขนาดเอาโฉนดบ้านไปจำนองได้

          “ต้องขอโทษคุณแนนกับคุณแม่อำภาด้วยนะครับ ที่ผมมาโดยไม่ได้บอกกล่าว ผมทราบจากเจ๊นาย บอกว่าเช้านี้แนนจะพาแม่ไปทำบุญที่วัดแห่งนี้ ผมเลยรีบตามมา เพราะอยากจะทำบุญด้วย ดูท่าจะทำเสร็จแล้วใช่ไหมครับ ว้า...ผมมาไม่ทันเลย”
          “ไม่เป็นไรหรอกค่ะเสี่ย ไว้วันหลังมาทำด้วยกันอีกก็ได้” อำภาพูดยิ้มนี่เต็มหน้า

          “เงียบไปเลยนะ!” โรสหันมาเอ็ดเข้าให้
          “ขอโทษค่ะคุณ” อำภาหน้าเจื่อนจ๋อยตามเคย
          “ขอโทษครับ ผมขอเรียนถาม คุณพี่เป็นใครครับ เกี่ยวข้องอะไรกับคุณแนน” เสี่ยเจษฎาหันมาทางโรส ทำเอาวางสีหน้ายาก

           “ฉันชื่อ โรส ดอว์สัน เป็นอะไรกับแนนเหรอ อืม..เออ...ฉันเป็น บิ๊กมาม่าของหล่อนน่ะสิ” พูดไปรู้สึกหงุดหงิดนัก ถ้าไม่จำเป็นไม่อยากปิดบังหรอก แต่กับผู้ชายคนนี้ตนเองอยากคบหาด้วย

          “อ๋อ แสดงว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ของแนนนี่สินะครับ ผมหลงเข้าใจผิด คิดว่าเป็นผู้จัดการคนใหม่มาแทนเจ๊นายเสียอีกนะครับ ขอแนะนำตัวผมชื่อเจษฎาครับ คนคุ้นเคยจะเรียกนิคเนมของผมว่าแจ็คครับ” หนุ่มใหญ่ผู้สำรวมในการพูดจา เนี๊ยบพอกับการแต่งตัว กะเทยร่างใหญ่ยิ้มกว้างเห็นฟันทุกซี่ ทำนิ้วชี้แตะกับนิ้งโป้งเป็นรูปวงกลม แทนความหมายว่า โอเคเข้าใจแล้ว

          “แจ็ค ดอว์สัน ใช่ไหมรูปหล่อ”          

          “เออ..ไม่ใช่ครับ แจ็ค สแปโร่ ครับ ในงานปาร์ตี้แต่งตัวแฟนซี ผมชอบแต่งตัวเป็น แจ็ค สแปโร่ ขุนโจรสลัดแห่งฮอลีวูด ใครก็บอกผมแต่งขึ้น” เสี่ยเริ่มอึดอัดใจ ดูท่าญาติของแนนนี่คนนี้นอกจากจะเป็นกะเทยแล้ว ยังทำท่ากะลิ้มกะเหลี่ยใส่ตนเองด้วย

          “จะยืนคุยกันอีกนานไหมคะ วันนี้หนูมีงานถ่ายละครนะ เดี๋ยวไปไม่ทัน” แนนนี่เงียบอยู่นานพูดแทรกขึ้นบ้าง หางตากระตุกถี่ รู้สึกหงุดหงิดที่พ่อกำลังกิ๊กเสี่ยเจษฎาจนออกนอกหน้า

           เสี่ยยิ้มเขิน แสดงทีท่าไม่ได้ถือสา พวกกะเทยวัยดึกมักทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา ตนเองไม่เล่นด้วยเสียอย่าง พอมองดูใบหน้าของหญิงสาว ลักษณะ บนใบหน้าของเธอ ขนคิ้ว ตา จมูก ริมฝีปาก คาง แทบถอดแบบจากกะเทยร่างใหญ่ ไหนจะกล้าดุอำภา กะเทยโรสคงเป็นลุงของเธออย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย

          “ผมขออนุญาตคุณลุง พาแนนนี่ไปส่งที่กองถ่ายละครับนะครับ” หนุ่มใหญ่หนวดงามเปิดประตูรถของตน ผายมือเชื้อเชิญให้สาวสวยนั่งเบาะเคียง

          “ฮึ้ย! ได้ไง ๆ ” โรสตาเขียวใส่ แถมมีอาการงอนนิด ๆ

          เสี่ยครางเอออา...ในปาก มองหน้าแนนนี่ เธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วยังทำท่างอนคล้ายลุงโรสของเธอไปอีกคน เสี่ยมือเผลอคลำท้ายทอยประหม่าอย่างบอกไม่ถูก นี่ถ้าไม่ใช่ญาติผู้ใหญ่ของหญิงสาวที่ตนเองหมายปอง จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวพูดจาด้วยเลย

          “คุณต้องเรียกฉันว่าคุณโรส หรือจะเรียกชื่อเฉย ๆ ก็ได้นะฟังดูเป็นกันเองดี”
          “ได้ครับโรส”
          “ดีมาก..พ่อรูปหล่อ”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่