ถ้าผมไปเรียนเมืองนอก พ่อกับแม่ผมจะต้องขายเกือบทุกสิ่งที่พวกท่านมี!!!

สมัยผมเรียน ป.ตรี (ราวสิบกว่าปีก่อน) ผมอยากไปเรียนต่อ ป.โท ที่เมืองนอกมาก อยากไปมากสุดๆ ... แต่ผมมันขี้เกียจเรียน จนเกรดเฉลี่ยออกมาเรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ทุน (จะได้ทุนบ้าอะไร ติด F เพียบ 5555+) เลยแวปคิดว่าจะใช้ทุนพ่อแม่ส่งเรียน!!!

ณ ตอนนั้นผมเริ่มมีความรู้เรื่องการเงินอยู่บ้าง จึงเริ่มคิดคำนวน “ทรัพย์สิน” และ “สถานะภาพทางการเงิน” ของครอบครัวแบบคร่าวๆ(ที่ทำได้ ณ ขณะนั้น) เพื่อประเมินว่าถ้าพ่อแม่จะสามารถส่งเราไปได้หรือไม่!!! ... สรุปว่าได้ครับ ... แต่ถ้าท่านจะส่งผมไป ท่านต้องขายทรัพย์สินเกือบทั้งหมดที่พวกท่านมีถึงจะส่งผมไปได้ ... เมื่อรู้อย่างนี้แล้วแผนเรื่องนี้เลยถูกพับเก็บไปโดยปริยายโดยที่ผมไม่พูดถึงมันอีกเลย!!!

หลังจากนั้น ผมตั้งปณิธานว่า ถ้าผมมีลูก ผมจะสร้างตนให้มีฐานะดี จนสามารถส่งลูกไปเรียนเมืองนอกได้ถ้าลูกอยากไป ผมจะส่งเรียนให้ไกลที่สุด เรียน ป.เอก เป็นดอกเตอร์เป็น ผศ. รศ. ศ. อะไรก็ได้ถ้าลูกอยากเป็นและใจเอา!!!

ย้อนกลับไปเมื่อหลายๆๆ ปีก่อนแม่ผมท่านมีช่างคู่ใจคนหนึ่ง .... แกเป็นช่างซ่อมบ้านเช่าประจำของแม่ผม(บ้านที่ผมและแม่ดูแล) ... แกฝีไม้ลายมือดี (จนปัจจุบันขยับขยายทีมงานจนรับสร้างบ้านจบเป็นหลังๆได้) ... แกสองคนสามีภรรยาเป็นคนหนักเอาเบาสู้ ไม่เกี่ยงงาน มีงานเอาหมดขอให้อยู่ได้เลี้ยงทีมงานได้ ตัวเองมีกำไรมากบ้างน้อยบ้างก็ทำหมด!!! ... เมื่อราว 3-4 ปี ก่อน ช่างท่านนี้บอกกับแม่ผมว่า .... ลูกแกได้ทุนไปเรียนที่ประเทศจีน ... เรียนฟรีจริง แต่เงินขึ้นเครื่อง เงินสำรอง เงินนู่นนั่น ถ้าสำหรับแกสองสามีภรรยาน่าจะไม่พอแน่ถ้าจะส่งลูกไป .... แม่ผมจึงมาขอความเห็นผมว่ากรณีนี้เอาอย่างไรดี!?!

ผมบอกว่า เด็กตั้งใจเรียน เรียนดี ผมสนับสนุน จะมีเด็กสักกี่คนที่ได้ทุนเรียน(ทุนจาก ม.ที่จีนด้วย) อีกทั้งพ่อแม่เค้าขยันหมั่นเพียรทำงานกับเราเต็มที่ทุกงาน งานยากงานง่ายไม่เคยเกี่ยง ขอให้เราบอกแกทำให้หมด ... ผมบอกว่าถ้าแกขาดเหลืออะไรก็ให้แกไป และ บอกให้แกไม่ต้องกังวลหรือเกรงใจอะไร เพราะ เราจะมีงานให้แกทำต่อเนื่องอีกนาน ค่อยๆหักจากยอดนั้นก็ได้!!

ผมยังจำได้ในวันที่ ช่างและภรรยาแก พาลูกมาแนะนำตัวและบอกกล่าวสวัสดีเพื่อที่จะลาไปเรียนต่อ!!!

เมื่อหลายเดือนก่อน ผมได้รับข่าวดีว่า ลูกของช่างท่านนี้ได้ทุนศึกษา ป.โท ต่อ ... และ พึ่งกลับบ้านมาและอยากทำงานพิเศษ อยากจะฝากไว้กับผมให้ผมช่วยฝึกงาน!!! ... ได้ ... แต่ฝึกที่ร้านหรือโรงงานผมน่าจะไม่ได้เต็มประสิทธิภาพของเด็กคนนี้ .... ผมยื่นข้อเสนอ ให้สอนพิเศษภาษาจีน ให้ลูกสาวและหลายชายของผมรวม 3 คน ผมให้ชั่วโมงละ 300 บาท วันละ 1.5 ชั่วโมง รวม 450 เป็นค่าวิชา!!!

แน่นอนครับว่ายิ้มกันทั้งครอบครัว!!! อย่าว่าครอบครัวเขาเลย ราคานี้สมกับค่าวิชา(อาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ) อีกทั้งเรื่องที่ลูกแกได้ทุนต่อขนาดผม ผมเป็นคนนอกยังภูมิใจแทนแกเลยที่ลูกขยันและเรียนดีขนาดนี้ ... ส่วนผมนอกจากรู้สึกดีแล้ว ยังได้ติวเตอร์ให้ลูกระดับนักเรียนทุนมาช่วยสอนลูกสอนหลานตัวเองอีก ดีx2 เลย!!!

จากวันที่ผมอยากไปเรียนเมืองนอกแต่ไปไม่ได้ จนวันที่ผมกล้าสนับสนุนคนอื่นไป จนถึงวันนี้ จนที่เด็กคนนั่นกลายมาเป็นครูสอนภาษาให้ลูกผม ซึ่งเด็กๆติดพี่เขามาก ตกลงกันว่าสอน 1.5 ชั่งโมง แต่สอน 2 ชั่วโมงทุกวันเพราะเด็กๆไม่ยอมให้เลิก!!!

เรื่องราวในชีวิตมันเป็นเหตุเป็นผลของกันและกัน .... จากเรื่องราวเมื่อ 12 ปี ก่อน อยากไปแต่ไปไม่ได้ จนจับพลัดจับผลูได้มาดันคนอื่นไป ... จนเริ่มจะเห็นผลของมันแล้วในวันนี้ .... และต่อจากนี้คงอีกเกือบ 10 ปีข้างหน้าถึงจะเห็นผลลัพธ์สุดท้ายของปณิธานนี้ ... สุดท้ายนี้ ผมเชื่อเสมอครับว่า ถ้าเรามีปณิธานที่แน่วแน่ไม่แปรผัน ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว เราจะต้องสำเร็จบรรลุดังหวังได้แน่นอน!!!

ลงชื่อมาม่ากับปลากระป๋อง

...[^_^]...

.
ปล. ภาพเด็กๆที่กำลังสนุกกับการเรียนภาษาจีนครับ


- ติดตามเรื่องราวผมได้ในเพจนี้ครับ ... เพจคุยเรื่อยเปื่อยครับ มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง 
https://www.facebook.com/creativeshooter/

นานๆทีครับถึงจะได้เขียนถึงเรื่องราวประมาณนี้ แต่ก็พอมีอยู่บ้างในบทเก่า สนใจลองตามไปอ่านได้ครับ

-เมื่อเธอเริ่มเหวี่ยงและวีน ... ผมจึงต้องจัดการทำอะไรสักอย่าง!!! http://goo.gl/Zd8Jdg
-เธอจะต้องภูมิใจในตัวผมมากแน่ๆ … ฮึ ฮึ ฮึ !!! http://goo.gl/Ztqhu8
-ผมนั่งมอง “คน 10 คน นั่งดูโทรทัศน์ 1 เครื่อง” แล้วยิ้ม!!! https://pantip.com/topic/30451941
-วันนี้ผมอิ่มเอมกับเรื่องราวของรถใหม่ป้ายแดงคันนึง ทั้งๆที่มันไม่ใช่ของผม!!! https://pantip.com/topic/36513143
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่