เมื่อ “Scary Stories to Tell in the Dark” ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คาดหวังไว้ ???
—————————

สวัสดีครับเพื่อนชาว Pantip ทุกท่านวันนี้เพจหนัง "Movies Feedback" ขอเสนอความเห็นหลังชมภาพยนตร์เรื่อง “Scary Stories to Tell in the Dark” ทางไปเพจผมครับ -->
https://www.facebook.com/FeedbackMovies
——————————-
เดินออกจากโรงภาพยนตร์ ด้วยความอึมครึมยิ่งกว่าท้องฟ้าที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนในตอนนี้อีก เหตุก็เพราะ “Scary Stories to Tell in the Dark” ไม่เห็นจะน่ากลัวเท่าไหร่เลย หลายฉากที่เจอ ที่เป็นฉากน่ากลัวพอให้ได้ตื่นเต้นกระชุ่มกระชวยหัวใจก็ดันเห็นไปเกือบหมดแล้วจากตัวอย่างหนัง ผมเองก็ไม่รู้นะว่าคนอื่นจะดูแล้วชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งสำหรับผมนั้น ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบ แต่แค่คาดหวังกับตัวหนังมากไปหน่อย (ด้วยเพราะชื่อของ Producer) และคิดว่ามันสามารถทำให้น่ากลัวได้มากกว่านี้ เหตุก็เพราะหนังมีทุนเดิมเป็นตัวละครผีๆ ที่แค่เห็นรูปร่างก็ชวนให้สยองแล้ว โดยเฉพาะเจ้าหุ่นไล่กา ที่ไม่ว่าใครจับเอาไปใส่ในหนัง ก็มีอันให้ไม่น่าไว้วางใจตลอด แต่ก็นะ พอดูเรื่องนี้แล้วมันออกมาไม่ได้เซอร์ไพร์อะไรมาก เลยรู้สึกว่ามันเสียของไปหน่อย
ตัดเรื่อง feedback ส่วนตัวแล้วกลับมาย้อนดูที่เค้าโครงเรื่องกันหน่อย ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตัวหนังนั้นหยิบยกเรื่องราวความสยองหลายๆเรื่องมาจากหนังสือรวมเรื่องราวผีๆสำหรับเด็กในชื่อ “Scary Stories to Tell in the Dark” ซึ่งเป็นหนังสือขายดีของ Alvin Schwartz (ปัจจุบันมีหนังสือในตระกูลนี้ออกวางจำหน่ายถึง 3 เล่ม) ซึ่งความโดดเด่นของเรื่องราวในหนังสือ คือ การปรุงแต่งเรื่องราวให้สัมพันธ์กับตำนานความเชื่อฝั่งตะวันตกที่มีอยู่จริง (เด็กมันเลยกลัวไง) นอกจากนี้ รูปภาพประกอบในหนังสือก็เป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นที่สร้างความสยองให้กับผู้อ่านไม่แพ้เรื่องราวในตัวอักษรเลย ซึ่งแน่นอนว่างานสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ เค้าคงไว้ซึ่งรายละเอียดของตัวละครผีทุกตัวที่ทำออกมาได้น่ากลัวเหมือนต้นฉบับในหนังสือเป๊ะๆเลย อันนี้ชื่นชมครับ
ในส่วนของเรื่องราวในหนัง ผู้สร้างเลือกที่จะนำเรื่องสั้นหลายๆเรื่อง มาประติประต่อกันให้กลายเป็นหนังใหญ่เรื่องเดียว แต่ส่วนตัวผมคิดว่า การเล่าเรื่องผ่านการแต่งเรื่องสั้นของตัวละครผีที่ให้แต่ละตัวละครต้องพบเจอ ก็ไม่ต่างกันกับการแบ่งองค์เล่าเรื่องสั้นแบบธรรมดาๆซักเท่าไหร่ ความสยองก็ถูกจำกัดด้วยเรทของหนังที่พยายามไม่ให้มันดูรุนแรงเกินควร เลยทำให้ภาพรวมความสยองของหนังหลงเหลือแต่เพียงการเอาใจช่วยและลุ้นนิดๆไปกับตัวละครเท่านั้น ท้ายสุดมันเลยกลับกลายเป็นความน่าเสียดาย ที่หนังมีตัวละครผีที่น่ากลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่มิอาจสร้างความน่ากลัวได้ดีเท่าที่ควร หนังจึงกลายเป็นแนว Coming of age ดีๆเรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถสร้างความสยองหรือความระทึกได้ในแบบที่ IT หรือ Stranger Things มี
อย่างไรก็ตาม หากให้ความเห็นถึงหนังเรื่องนี้แล้ว ส่วนตัวมองว่าหนังดูได้ ดผุสนุกในระดับหนึ่ง แต่แอบรู้สึกเสียดายหน่อยๆกับประเด็นที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขึ้นเสียความรู้สึกกับการเสียเวลาไปชมครับ (ใครจิตอ่อนอาจดูสนุก ใครจิตแข็งดูหนังแนวนี้บ่อย อาจเฉยๆก็ได้ครับ)
เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่
https://www.facebook.com/FeedbackMovies
[SR] Movies Feedback Review - เมื่อ “Scary Stories to Tell in the Dark” ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คาดหวังไว้ ???
—————————
สวัสดีครับเพื่อนชาว Pantip ทุกท่านวันนี้เพจหนัง "Movies Feedback" ขอเสนอความเห็นหลังชมภาพยนตร์เรื่อง “Scary Stories to Tell in the Dark” ทางไปเพจผมครับ --> https://www.facebook.com/FeedbackMovies
——————————-
เดินออกจากโรงภาพยนตร์ ด้วยความอึมครึมยิ่งกว่าท้องฟ้าที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนในตอนนี้อีก เหตุก็เพราะ “Scary Stories to Tell in the Dark” ไม่เห็นจะน่ากลัวเท่าไหร่เลย หลายฉากที่เจอ ที่เป็นฉากน่ากลัวพอให้ได้ตื่นเต้นกระชุ่มกระชวยหัวใจก็ดันเห็นไปเกือบหมดแล้วจากตัวอย่างหนัง ผมเองก็ไม่รู้นะว่าคนอื่นจะดูแล้วชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งสำหรับผมนั้น ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบ แต่แค่คาดหวังกับตัวหนังมากไปหน่อย (ด้วยเพราะชื่อของ Producer) และคิดว่ามันสามารถทำให้น่ากลัวได้มากกว่านี้ เหตุก็เพราะหนังมีทุนเดิมเป็นตัวละครผีๆ ที่แค่เห็นรูปร่างก็ชวนให้สยองแล้ว โดยเฉพาะเจ้าหุ่นไล่กา ที่ไม่ว่าใครจับเอาไปใส่ในหนัง ก็มีอันให้ไม่น่าไว้วางใจตลอด แต่ก็นะ พอดูเรื่องนี้แล้วมันออกมาไม่ได้เซอร์ไพร์อะไรมาก เลยรู้สึกว่ามันเสียของไปหน่อย
ตัดเรื่อง feedback ส่วนตัวแล้วกลับมาย้อนดูที่เค้าโครงเรื่องกันหน่อย ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตัวหนังนั้นหยิบยกเรื่องราวความสยองหลายๆเรื่องมาจากหนังสือรวมเรื่องราวผีๆสำหรับเด็กในชื่อ “Scary Stories to Tell in the Dark” ซึ่งเป็นหนังสือขายดีของ Alvin Schwartz (ปัจจุบันมีหนังสือในตระกูลนี้ออกวางจำหน่ายถึง 3 เล่ม) ซึ่งความโดดเด่นของเรื่องราวในหนังสือ คือ การปรุงแต่งเรื่องราวให้สัมพันธ์กับตำนานความเชื่อฝั่งตะวันตกที่มีอยู่จริง (เด็กมันเลยกลัวไง) นอกจากนี้ รูปภาพประกอบในหนังสือก็เป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นที่สร้างความสยองให้กับผู้อ่านไม่แพ้เรื่องราวในตัวอักษรเลย ซึ่งแน่นอนว่างานสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ เค้าคงไว้ซึ่งรายละเอียดของตัวละครผีทุกตัวที่ทำออกมาได้น่ากลัวเหมือนต้นฉบับในหนังสือเป๊ะๆเลย อันนี้ชื่นชมครับ
ในส่วนของเรื่องราวในหนัง ผู้สร้างเลือกที่จะนำเรื่องสั้นหลายๆเรื่อง มาประติประต่อกันให้กลายเป็นหนังใหญ่เรื่องเดียว แต่ส่วนตัวผมคิดว่า การเล่าเรื่องผ่านการแต่งเรื่องสั้นของตัวละครผีที่ให้แต่ละตัวละครต้องพบเจอ ก็ไม่ต่างกันกับการแบ่งองค์เล่าเรื่องสั้นแบบธรรมดาๆซักเท่าไหร่ ความสยองก็ถูกจำกัดด้วยเรทของหนังที่พยายามไม่ให้มันดูรุนแรงเกินควร เลยทำให้ภาพรวมความสยองของหนังหลงเหลือแต่เพียงการเอาใจช่วยและลุ้นนิดๆไปกับตัวละครเท่านั้น ท้ายสุดมันเลยกลับกลายเป็นความน่าเสียดาย ที่หนังมีตัวละครผีที่น่ากลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่มิอาจสร้างความน่ากลัวได้ดีเท่าที่ควร หนังจึงกลายเป็นแนว Coming of age ดีๆเรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถสร้างความสยองหรือความระทึกได้ในแบบที่ IT หรือ Stranger Things มี
อย่างไรก็ตาม หากให้ความเห็นถึงหนังเรื่องนี้แล้ว ส่วนตัวมองว่าหนังดูได้ ดผุสนุกในระดับหนึ่ง แต่แอบรู้สึกเสียดายหน่อยๆกับประเด็นที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขึ้นเสียความรู้สึกกับการเสียเวลาไปชมครับ (ใครจิตอ่อนอาจดูสนุก ใครจิตแข็งดูหนังแนวนี้บ่อย อาจเฉยๆก็ได้ครับ)
เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่ https://www.facebook.com/FeedbackMovies
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้