สวัสดีค่ะ
เข้ามาพร้อมกับคำถามเหมือนเดิมค่ะวันนี้ ถามทุกอย่างไม่เคยรู้เรื่องอะไรเองเลยไม่ค่อยฉลาดค่ะ เลยต้องถามผู้รู้ตลอด ฮ้า ๆๆ
คือสืบเนื่องจากคราวก่อนที่เข้ามาถามเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากธนาคารไปให้คนอื่น ซึ่งไม่ใช่ชื่อเราซึ่งเป็นคนทำสัญญาโดยตรงไว้กับธนาคาร
ถามเจ้าหน้าที่ของธนาคารมาแล้วค่ะ ได้ความว่าทำได้ เสียค่าทำเนียนกับธนาคารเอาจะถูกกว่าที่เราต้องโอนมาแล้วโอนต่อไปให้ผู้อื่น แต่คนที่จะซื้อที่เค้าบอกเค้ากลัว เค้าไม่อยากทำธุรกรรมกับธนาคาร เค้าว่าเรื่องมาก นุ่น นี่ นั่น ซับซ้อนเกินไปสำหรับเค้า เค้าอยากให้เราถือมาเป็นชื่อเราแล้วโอนต่อไป......
ซึ่งถ้าเราปิดเป็นเงินสดไปก็ไม่มีปัญหา แต่เรายื่นกู้อยู่ แล้วเราก็อยากที่จะให้เป็นไปทางใดทางหนึ่ง คือได้เงินจากการกู้ หรือจากการขาย ถ้าขายไม่ได้ไม่ได้เดือนร้อนเพราะเราก็ได้ส่วนที่กู้มา ถึงแม้เราจะต้องจ่ายดอกก็จริง แต่เป้าหมายเราจะเอาเงินมาลงทุนด้วย เราถึงได้ทำเรื่องกู้ไว้....
แต่ถ้าเราปล่อยให่คำสั่งอนุมัติมา เราจะขายแล้วเอาเงินไปตัดสดเลยเราจะต้องเสียค่าทำเนียมที่อยู่ในสัญญากู้ไม่ถึงสามปี (คืออันนี้เป็นความรู้ใหม่ เคยคิดมาตลอดว่าพอเรากูเงินแล้วถ้าเรามีเงินเหลือเราก็ไปโป่ะหนี้เร็ว ๆ เราจะได้ไม่ต้องเสียดอก ที่ไหน...กลายจะต้องมาเสียค่าปรีบที่จ่ายเร็ว เลยอยากข้ามค่าทำเนียมนี้ไป)
เราเลยถามกับทางธนาคารไปใหม่ว่าจะมีทางอื่นอีกไม๊ เค้าบอกว่ามีอีกอย่างคือ ถ้าผู้ซื้อเค้าจะซื้อด้วยเงินสดจริง ก็ให้เราทำสัญญาซื้อขาย เสร็จไปติดต่อทางธนาคาร เค้าจะจัดเจ้าหน้าที่ไปพร้อมกับเราที่สำนักงานที่ดินเพื่อนโอนมาให้เรา เสียค่าทำเนียนสองเปอร์เซ็นต์ บวกกับค่าเจ้าหน้าที่ประมาณหนึ่งพันบาท แล้วโอนข้ามไปให้ผู้ที่จะซื้อต่อเลยทำอย่างงี้เราจะได้ไม่ต้องเสียค่าทำเนียนที่กู้ไม่ถึงสามปีตามสัญญา
ทีนี้มาถึงคำถามว่า ถ้าเราจะทำแบบนั้น การดำนินเรื่องยื่นกู้ของเราจะเป็นโมฆะก่อนหรือหลังจากการโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสิ้นลง
ถ้าก่อน...แล้วถ้าเกิดตอนที่ไปกรมที่ดินด้วยกัน เกิดมีปัญหาไม่คาดคิดทำให้การซื้อขายต้องยุติลง เราก็จะต้องถูกดีดออกจากกระบวนการยื่นกู้ด้วยอีก
ทีนี้เราก็จะต้องจ่ายเงินสดซึ่งเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น จากจุดประสงค์ที่ทำเรื่องกู้ต่อยังไม่ได้โอนในครั้งก่อนเพราะตอนนี้ยังมีกำลังทำงาน ดอกเบี้ยธนคารนี้ก็ไม่แพง ก็อยากจะผ่อนไปก่อน เงินได้ไว้ทำอย่างอื่น เลยมาขอความคิดเห็นค่ะ ถ้าหากมันเสี่ยงเกินเราก็จะได้บอกยกเลิกเค้าไป บอกไปตามตรงว่าเราคำนวนผิด ถ้าอยากได้ก็รอไปอีกสามปีแล้วกันนะ ฮ้า ๆๆ
รบกวนขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ .......
ขอบคุณค่ะ........
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากธนาคารมาให้เรา แล้วเราโอนต่อไปให้คนอื่นมีขั้นตอนอย่างไรบ้างคะ
เข้ามาพร้อมกับคำถามเหมือนเดิมค่ะวันนี้ ถามทุกอย่างไม่เคยรู้เรื่องอะไรเองเลยไม่ค่อยฉลาดค่ะ เลยต้องถามผู้รู้ตลอด ฮ้า ๆๆ
คือสืบเนื่องจากคราวก่อนที่เข้ามาถามเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากธนาคารไปให้คนอื่น ซึ่งไม่ใช่ชื่อเราซึ่งเป็นคนทำสัญญาโดยตรงไว้กับธนาคาร
ถามเจ้าหน้าที่ของธนาคารมาแล้วค่ะ ได้ความว่าทำได้ เสียค่าทำเนียนกับธนาคารเอาจะถูกกว่าที่เราต้องโอนมาแล้วโอนต่อไปให้ผู้อื่น แต่คนที่จะซื้อที่เค้าบอกเค้ากลัว เค้าไม่อยากทำธุรกรรมกับธนาคาร เค้าว่าเรื่องมาก นุ่น นี่ นั่น ซับซ้อนเกินไปสำหรับเค้า เค้าอยากให้เราถือมาเป็นชื่อเราแล้วโอนต่อไป......
ซึ่งถ้าเราปิดเป็นเงินสดไปก็ไม่มีปัญหา แต่เรายื่นกู้อยู่ แล้วเราก็อยากที่จะให้เป็นไปทางใดทางหนึ่ง คือได้เงินจากการกู้ หรือจากการขาย ถ้าขายไม่ได้ไม่ได้เดือนร้อนเพราะเราก็ได้ส่วนที่กู้มา ถึงแม้เราจะต้องจ่ายดอกก็จริง แต่เป้าหมายเราจะเอาเงินมาลงทุนด้วย เราถึงได้ทำเรื่องกู้ไว้....
แต่ถ้าเราปล่อยให่คำสั่งอนุมัติมา เราจะขายแล้วเอาเงินไปตัดสดเลยเราจะต้องเสียค่าทำเนียมที่อยู่ในสัญญากู้ไม่ถึงสามปี (คืออันนี้เป็นความรู้ใหม่ เคยคิดมาตลอดว่าพอเรากูเงินแล้วถ้าเรามีเงินเหลือเราก็ไปโป่ะหนี้เร็ว ๆ เราจะได้ไม่ต้องเสียดอก ที่ไหน...กลายจะต้องมาเสียค่าปรีบที่จ่ายเร็ว เลยอยากข้ามค่าทำเนียมนี้ไป)
เราเลยถามกับทางธนาคารไปใหม่ว่าจะมีทางอื่นอีกไม๊ เค้าบอกว่ามีอีกอย่างคือ ถ้าผู้ซื้อเค้าจะซื้อด้วยเงินสดจริง ก็ให้เราทำสัญญาซื้อขาย เสร็จไปติดต่อทางธนาคาร เค้าจะจัดเจ้าหน้าที่ไปพร้อมกับเราที่สำนักงานที่ดินเพื่อนโอนมาให้เรา เสียค่าทำเนียนสองเปอร์เซ็นต์ บวกกับค่าเจ้าหน้าที่ประมาณหนึ่งพันบาท แล้วโอนข้ามไปให้ผู้ที่จะซื้อต่อเลยทำอย่างงี้เราจะได้ไม่ต้องเสียค่าทำเนียนที่กู้ไม่ถึงสามปีตามสัญญา
ทีนี้มาถึงคำถามว่า ถ้าเราจะทำแบบนั้น การดำนินเรื่องยื่นกู้ของเราจะเป็นโมฆะก่อนหรือหลังจากการโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสิ้นลง
ถ้าก่อน...แล้วถ้าเกิดตอนที่ไปกรมที่ดินด้วยกัน เกิดมีปัญหาไม่คาดคิดทำให้การซื้อขายต้องยุติลง เราก็จะต้องถูกดีดออกจากกระบวนการยื่นกู้ด้วยอีก
ทีนี้เราก็จะต้องจ่ายเงินสดซึ่งเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น จากจุดประสงค์ที่ทำเรื่องกู้ต่อยังไม่ได้โอนในครั้งก่อนเพราะตอนนี้ยังมีกำลังทำงาน ดอกเบี้ยธนคารนี้ก็ไม่แพง ก็อยากจะผ่อนไปก่อน เงินได้ไว้ทำอย่างอื่น เลยมาขอความคิดเห็นค่ะ ถ้าหากมันเสี่ยงเกินเราก็จะได้บอกยกเลิกเค้าไป บอกไปตามตรงว่าเราคำนวนผิด ถ้าอยากได้ก็รอไปอีกสามปีแล้วกันนะ ฮ้า ๆๆ
รบกวนขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ .......
ขอบคุณค่ะ........