อีกนิดนึง จะหมดความอดทนกับธนาคารกรุงศรีฯ แล้วนะ ... ฝากเตือนทุกคน มันอาจจะเป็นความประมาทขอวเราที่ใช้บัตรไม่ระวัง
เรื่องมีอยู่ว่า เราใช้แบงก์กรุงศรีฯ เพราะรับเงินเดือนผ่านแบงก์นี้ เราไม่มีบัตรเครดิต มีแต่เอทีเอ็มที่เป็นเดบิต ซึ่งสามารถรูดซื้อสิ้นค้าได้ ด้วยความสะดวกสบายไม่ต้องพกเงินสด ก็เคยรูดซื้อของอยู่บ้าง ทีนี้รูดล่าสุดที่ห้างพาราไดซ์ ร้าน Jaspal เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. แล้วจู่ๆ ช่วงตี1ของวันที่ 9 มิ.ย. มีการตัดเงินผ่านบัตรเราประมาณสี่พันกว่าบาท พอเราตื่นมาตอนหกโมงเช้า พบว่ามีSMSแจ้งเตือน หูตาเหลือกสิคะ เพราะไม่ได้ใช้อะไรไป กูหลับอยู่ เราเลยโทรไปสอบถามกับ call center ของแบงก์นี้ (เบอร์1572) สอบถามว่า เป็นการหักเงินจากระบบหรือ ธ. หรือ ต้นตอของการหักเงินคืออะไร ก็ได้แต่ code ของร้านค้าตัวนั้น เป็นร้าค้าออนไลน์ ซึ่งทาง พนง.สันนิษฐานว่า มีการจดเอาเลขบัตรเราไปใช้ ให้เราปรับวงเงินในบัตรเดบิตและทำการอายัติบัตร และแนะนำให้เราติดต่อธนาคารเพื่อเขียนแบบฟอร์มปฏิเสธการทำรายการเราก็ทำตามทุกขั้นตอน ช่วงสายๆเลยไปติดต่อที่ธนาคารกรุงศรีฯ สาขาโพธาราม (เพราะช่วงนั้นอยู่บ้าน) เพื่อเขียนคำร้องแบบฟอร์มการปฏิเสธการทำรายการ พนง. เองก็ดูงงๆนะ แต่เราไม่มีสมุดบัญชี ทาง พนง. ก็โทรเช็คว่า หักเงินจากอะไร ได้ความว่า เป็นร้านค้าออนไลน์ ชื่อ AMAZON (คือเรารู้จักแค่กาแฟ) แต่พอลองมาเช็คในกูเกิ้ลย้อนหลังคือ เป็นร้านออนไลน์จริงๆ สัญชาติอเมริกันมั้ง ถ้าจำไม่ผิด) เขียนเสร็จก็ผ่านไปสองสามวัน เรากลับไปที่ ธ.อีก เพื่อจะถามว่า แล้วเราจะ follwing up ได้กับใคร? ทาง ธ. แจ้งว่าจะโทรกลับมา แล้วก็โทรมา แจ้งว่า ต้องเอาสมุด บช. ไปทำการยกเลิกบัตรก่อนค่ะ ถึงจะทำการปฏิเสธได้ (ไอเราก็ อ่อ โอเค แต่ เอ๊ะ ? ทำไมไม่แจ้งเราล่ะ แจ้งตั้งแต่วันที่เราไปติดต่อตั้งแต่วันนั้น ต้องรอให้เราเข้าไปสองรอบสามรอบ) พอกลับ กทม. เช้าวันที่15 ไป ธ. พร้อมสมุดบัญชี ไปทำการยกเลิกบัตร และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ พนง. ฟัง ที่สาขาโลตัส สุขุมวิท50 แล้วก็เขียนคำร้องปฏิเสธ รอบที่2 แล้วเราก็ถามว่า จะตามเรื่องกับใครได้บ้าง (คือ ลค. ต้องตามเองทั้งหมด?) สรุป ได้มา 2 เบอร์ เราก็ทิ้งระยะห่างไป1อาทิตย์ โทรไปตามทั้ง2เบอร์ที่ให้ไว้ เบอร์แรก 02-2962776-7 พอโทรไป พนง. ถามว่า ใครให้เบอร์นี้กับ ลค.มา พนักงานที่ส่งเรื่องชื่ออะไร? นี่ก็เริ่มขึ้นละนะ ถามว่า แล้วเช็คชื่อกับเลขที่ บช. ไม่ได้หรอคะ ? แล้วมีการพูดว่า พนง.สาขาชอบส่งเอกสารมั่วมา อ่าว นี่บอกถึงความหลุดขององค์กรณ์ตัวเองเด้อ เบอร์ที่2 คือเบอร์ 1572 คือพอโทรไป แล้วเหมือนต้องเล่าเเล้วเล่าอีก เล่าใหม่อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า สรุปคือ โยนให้เราโทรกลับไปตามเองที่ สาขา พอโทรกลับไปสาขา นางบอกจะโทรหาอีก10นาที พอโทรมาบอก พื่อนัดให้ไปเซ็นต์เอกสารเพิ่มเติม (สรุปคือ เอกสารที่เราเซ็นต์ไปไม่ครบตั้งแต่แรก ทำไมไม่โทรมาแจ้งเราล่ะคะ เบอร์เรา คุณก็มีอ่ะ แต่พอจะโทรมาชวนทำบัตรเครดิตนี่โทรเก่ง ต้องปล่อยให้เสียเวลามาเป็นอาทิตย์ หลังจากติดต่อแบงก์รอบที่สอง นี่ถ้าไม่โทรตามเอง ก็คงปล่อยไว้งั้นหรอ? )
ทั้งหมดนี้ เราโดนตั้งแต่วันที่9 มิ.ย. นะ จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะตามได้หรือเปล่า เสียเวลาเดือนละ โยนไปโยนมาอยู่นั่นอ่ะ
ติดต่อ 065-5028791
ถึง ธนาคารกรุงศรีฯ
เรื่องมีอยู่ว่า เราใช้แบงก์กรุงศรีฯ เพราะรับเงินเดือนผ่านแบงก์นี้ เราไม่มีบัตรเครดิต มีแต่เอทีเอ็มที่เป็นเดบิต ซึ่งสามารถรูดซื้อสิ้นค้าได้ ด้วยความสะดวกสบายไม่ต้องพกเงินสด ก็เคยรูดซื้อของอยู่บ้าง ทีนี้รูดล่าสุดที่ห้างพาราไดซ์ ร้าน Jaspal เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. แล้วจู่ๆ ช่วงตี1ของวันที่ 9 มิ.ย. มีการตัดเงินผ่านบัตรเราประมาณสี่พันกว่าบาท พอเราตื่นมาตอนหกโมงเช้า พบว่ามีSMSแจ้งเตือน หูตาเหลือกสิคะ เพราะไม่ได้ใช้อะไรไป กูหลับอยู่ เราเลยโทรไปสอบถามกับ call center ของแบงก์นี้ (เบอร์1572) สอบถามว่า เป็นการหักเงินจากระบบหรือ ธ. หรือ ต้นตอของการหักเงินคืออะไร ก็ได้แต่ code ของร้านค้าตัวนั้น เป็นร้าค้าออนไลน์ ซึ่งทาง พนง.สันนิษฐานว่า มีการจดเอาเลขบัตรเราไปใช้ ให้เราปรับวงเงินในบัตรเดบิตและทำการอายัติบัตร และแนะนำให้เราติดต่อธนาคารเพื่อเขียนแบบฟอร์มปฏิเสธการทำรายการเราก็ทำตามทุกขั้นตอน ช่วงสายๆเลยไปติดต่อที่ธนาคารกรุงศรีฯ สาขาโพธาราม (เพราะช่วงนั้นอยู่บ้าน) เพื่อเขียนคำร้องแบบฟอร์มการปฏิเสธการทำรายการ พนง. เองก็ดูงงๆนะ แต่เราไม่มีสมุดบัญชี ทาง พนง. ก็โทรเช็คว่า หักเงินจากอะไร ได้ความว่า เป็นร้านค้าออนไลน์ ชื่อ AMAZON (คือเรารู้จักแค่กาแฟ) แต่พอลองมาเช็คในกูเกิ้ลย้อนหลังคือ เป็นร้านออนไลน์จริงๆ สัญชาติอเมริกันมั้ง ถ้าจำไม่ผิด) เขียนเสร็จก็ผ่านไปสองสามวัน เรากลับไปที่ ธ.อีก เพื่อจะถามว่า แล้วเราจะ follwing up ได้กับใคร? ทาง ธ. แจ้งว่าจะโทรกลับมา แล้วก็โทรมา แจ้งว่า ต้องเอาสมุด บช. ไปทำการยกเลิกบัตรก่อนค่ะ ถึงจะทำการปฏิเสธได้ (ไอเราก็ อ่อ โอเค แต่ เอ๊ะ ? ทำไมไม่แจ้งเราล่ะ แจ้งตั้งแต่วันที่เราไปติดต่อตั้งแต่วันนั้น ต้องรอให้เราเข้าไปสองรอบสามรอบ) พอกลับ กทม. เช้าวันที่15 ไป ธ. พร้อมสมุดบัญชี ไปทำการยกเลิกบัตร และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ พนง. ฟัง ที่สาขาโลตัส สุขุมวิท50 แล้วก็เขียนคำร้องปฏิเสธ รอบที่2 แล้วเราก็ถามว่า จะตามเรื่องกับใครได้บ้าง (คือ ลค. ต้องตามเองทั้งหมด?) สรุป ได้มา 2 เบอร์ เราก็ทิ้งระยะห่างไป1อาทิตย์ โทรไปตามทั้ง2เบอร์ที่ให้ไว้ เบอร์แรก 02-2962776-7 พอโทรไป พนง. ถามว่า ใครให้เบอร์นี้กับ ลค.มา พนักงานที่ส่งเรื่องชื่ออะไร? นี่ก็เริ่มขึ้นละนะ ถามว่า แล้วเช็คชื่อกับเลขที่ บช. ไม่ได้หรอคะ ? แล้วมีการพูดว่า พนง.สาขาชอบส่งเอกสารมั่วมา อ่าว นี่บอกถึงความหลุดขององค์กรณ์ตัวเองเด้อ เบอร์ที่2 คือเบอร์ 1572 คือพอโทรไป แล้วเหมือนต้องเล่าเเล้วเล่าอีก เล่าใหม่อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า สรุปคือ โยนให้เราโทรกลับไปตามเองที่ สาขา พอโทรกลับไปสาขา นางบอกจะโทรหาอีก10นาที พอโทรมาบอก พื่อนัดให้ไปเซ็นต์เอกสารเพิ่มเติม (สรุปคือ เอกสารที่เราเซ็นต์ไปไม่ครบตั้งแต่แรก ทำไมไม่โทรมาแจ้งเราล่ะคะ เบอร์เรา คุณก็มีอ่ะ แต่พอจะโทรมาชวนทำบัตรเครดิตนี่โทรเก่ง ต้องปล่อยให้เสียเวลามาเป็นอาทิตย์ หลังจากติดต่อแบงก์รอบที่สอง นี่ถ้าไม่โทรตามเอง ก็คงปล่อยไว้งั้นหรอ? )
ทั้งหมดนี้ เราโดนตั้งแต่วันที่9 มิ.ย. นะ จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะตามได้หรือเปล่า เสียเวลาเดือนละ โยนไปโยนมาอยู่นั่นอ่ะ
ติดต่อ 065-5028791