คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
แนะนำให้ใช้น้ำยา ไฮเตอร์ (ขวดสีฟ้า ฝาสีน้ำเงิน) หรือ ไฮยีน (ขวดสีขาว ฝาสีฟ้า) ครับ
เพราะน้ำยาทั้ง 2 ตัวนี้จะมี "คลอรีน" ซึ่งคลอรีน นี้ จะไปทำปฏิกิริยา Oxidation กับสารที่ให้สีบนเนื้อผ้า
ทำให้โมเลกุลของสารที่ให้สีเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลง จนมีการ absorb แสงที่ความยาวคลื่นอื่น ๆ ไป
ทำให้ผ้าดู "ขาว" ขึ้นอย่างชัดเจนครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วสารเหล่านั้นอาจยังอยู่บนผ้านั่นแหละ แต่ "สี" ของมันไม่มีแล้ว
ทำให้ดวงตาเรามองดูว่าผ้านั้น "ขาว" เหมือนเดิม
การใช้งาน ให้ จขกท. เทไฮเตอร์ หรือ ไฮยีน ประมาณ 10 ฝา ลงไปในน้ำ 1 กาละมัง
ขยำ ๆ หน่อย แล้วแช่ผ้าไว้ 1 คืน วันรุ่งขึ้นก็ซักออก จะขาวเหมือนเดิมครับ
สมัยก่อน .... การทำให้ผ้าขาวทันใจ จะใช้น้ำยา "หยดทิพย์" กันครับ
มันคือคลอรีนน้ำเข้มข้น 2% น้ำยาหยดทิพย์นี้ทางกระทรวงสาธารณสุขคิดค้นขึ้น
เพื่อใช้ในการบำบัดน้ำ ฆ่าเชื้อโรค กรณีเกิดภัยพิบัติขาดแคลนน้ำครับ
เพราะน้ำยาทั้ง 2 ตัวนี้จะมี "คลอรีน" ซึ่งคลอรีน นี้ จะไปทำปฏิกิริยา Oxidation กับสารที่ให้สีบนเนื้อผ้า
ทำให้โมเลกุลของสารที่ให้สีเหล่านั้นมีการเปลี่ยนแปลง จนมีการ absorb แสงที่ความยาวคลื่นอื่น ๆ ไป
ทำให้ผ้าดู "ขาว" ขึ้นอย่างชัดเจนครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วสารเหล่านั้นอาจยังอยู่บนผ้านั่นแหละ แต่ "สี" ของมันไม่มีแล้ว
ทำให้ดวงตาเรามองดูว่าผ้านั้น "ขาว" เหมือนเดิม
การใช้งาน ให้ จขกท. เทไฮเตอร์ หรือ ไฮยีน ประมาณ 10 ฝา ลงไปในน้ำ 1 กาละมัง
ขยำ ๆ หน่อย แล้วแช่ผ้าไว้ 1 คืน วันรุ่งขึ้นก็ซักออก จะขาวเหมือนเดิมครับ
สมัยก่อน .... การทำให้ผ้าขาวทันใจ จะใช้น้ำยา "หยดทิพย์" กันครับ
มันคือคลอรีนน้ำเข้มข้น 2% น้ำยาหยดทิพย์นี้ทางกระทรวงสาธารณสุขคิดค้นขึ้น
เพื่อใช้ในการบำบัดน้ำ ฆ่าเชื้อโรค กรณีเกิดภัยพิบัติขาดแคลนน้ำครับ
แสดงความคิดเห็น
ใครพอจะรู้ไหมคะ