ปี 2562 ดูจะเป็นปีที่มีเรื่องทั้งโชคดีและโชคร้ายอยู่ในตัวของคุณประเสริฐ พงษ์ธนานิกร เจ้าของนิคเนม "ระย้า"
เรื่องเสียใจที่สุดก็คือ การสูญเสีย "โน้ต" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์
ส่วนเรื่องที่โชคดีที่สุดในปีนี้คือ...ค่ายเพลง "รถไฟดนตรี" ของเขา มีอายุครบรอบ 40 ปีพอดี
เป็นธรรมดาที่การดำเนินธุรกิจต้องผ่านสิ่งขวากหนามต่าง ๆ นานา เขาจึงพาค่ายเพลงแห่งนี้ก้าวเดินอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่ยั่งยืน
แม้ว่า "รถไฟดนตรี" จะเป็นเพียงค่ายเพลงเล็ก ๆ แต่ผลงานและศิลปินที่แวะเวียนเข้ามาล้วนเต็มเปี่ยมในคุณภาพทั้งนั้น ภายใต้การกำกับดูแลของระย้าเอง
ในโอกาสเช่นนี้ เราขอร่วมย้อนไปทำความรู้จักศิลปินพร้อมบทเพลงที่สร้างชื่อเสียงในสังกัด...ว่ามีท่านใดที่พอจะตรงกับใจของนักฟังเพลงรุ่นเก๋าได้บ้าง ถ้าเอ่ยถึงค่ายนี้จะนึกถึงศิลปินท่านนั้นทันที
เริ่มจาก
ชรัส เฟื่องอารมย์ น้องชายแท้ ๆ ของดาราเจ้าบทบาท ผ่านประสบการณ์มาหลายหน้าที่ งานเพลงสมัยที่ทำกับค่ายนี้เป็นที่ยอมรับของนักฟังเพลงหัวก้าวหน้า แต่น่าผิดหวังที่ผลงานชุดนั้นดูล่วงล้ำตลาดไปหน่อย ชื่อของรถไฟดนตรีจึงยังไม่แจ่มชัด บทเพลงที่พอจะสร้างชื่อได้แก่ "รักเองช้ำเอง"
จนมาถึงเกิร์ลกรุ๊ปวัยทีนของเมืองไทยอย่าง
สาว สาว สาว ทำให้รถไฟดนตรีไล่ตามค่ายเทปพี่ ๆ ได้ทัน ด้วยยอดขายเทปในเกณฑ์ที่สูง บวกกับตัวบทเพลงที่น่าฟัง เอาใจกลุ่มวัยรุ่นได้อยู่หมัด มีผลงานกว่า 10 ชุด คงไม่ต้องบรรยายให้มากความ เอาแค่บทเพลงที่สร้างชื่อของพวกเธอก็คือ "ประตูใจ"
ศิลปินเชื้อสายลาว
ภูสมิง หน่อสวรรค์ เจ้าของสมญานามราชาเพลงโฟล์ก มีผลงานเพลงกับรถไฟดนตรีอยู่หลายชุด ทั้งงานเพลงแต่งใหม่ และงานเพลงคัฟเวอร์จากต้นฉบับหลายท่าน ด้วยมาดอันสุขุม นุ่มนวล เพลงก็ฟังสบาย ๆ ทำให้บทเพลง "บทเรียนสอนใจ" เป็นที่ติดหูของนักฟังเพลงโดยฉับพลัน
พัณนิดา เศวตาสัย ก้าวเดินรอยตามเพื่อนร่วมรุ่นอย่างสาวแอม สาว สาว สาว เจ้าของบทเพลงซึ้ง ๆ ชวนหลับใหลอย่าง "เดียวดาย" ซึ่งเนื้อหาของเพลงนี้น่าจะตรงกับความรู้สึกของพี่ระย้าในเวลานี้พอดี (ขนาด พุ่มพวง ดวงจันทร์ เคยหยิบเพลงนี้ไปร้องในคอนเสิร์ตการกุศลมาแล้ว) เธอเป็นนักร้องที่ไม่ค่อยโผล่หน้าค่าตาตามคอนเสิร์ตและสื่อต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ แม้ในปัจจุบันเธอมีงานประจำของตัวเองอยู่ก็ตาม
ถ้าเป็นวงดนตรีที่โด่งดังจากค่ายนี้ เราคงไม่ลืมวง
ฟรีเบิร์ดส ซึ่งนำโดย ประวิทย์ พงษ์ธนานิกร ด้วยสกุลเดียวกับระย้าก็ไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญเท่าผลงานเพลงอย่าง "คอย" ที่ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาขจรขจาย แม้ตอนที่มาแสดงในรายการเพลงสุดฮิตอย่าง โลกดนตรี ก็เกิดคลื่นคนดูทะลักห้องส่ง บรรยากาศในวันนั้นจึงผ่านไปด้วยดี
หรั่ง-ชัชชัย สุขาวดี จากวง "ร็อกเคสตร้า" มีผลงานเพลงกับค่ายนี้ภายหลังการยุบวง แต่ก็มีสมาชิกวงบางคนมาร่วมงานในห้องอัด งานเพลงรักแบบซึ้ง ๆ "รักเธอจริง ๆ" กับรักอย่างภาคภูมิแบบ "รักเธอประเทศไทย" ก็ไม่ได้ทำให้คอเพลงที่ติดตามสมัยอยู่วงหรือสมัยออกเดี่ยวนั้นผิดหวัง น่าชื่นชมเสียด้วยซ้ำ
ถึงจะไม่ใช่บ้านหลังแรกในการทำงานเพลงบันทึกเสียง แต่ สุชาติ ชวางกูร ในบ้านรถไฟดนตรี ก็พาผลงานเพลงทั้งที่หอบจากค่ายเก่า(มาอัดใหม่) ทั้งที่ทำขึ้นใหม่ รวมถึงงานคัฟเวอร์หลากหลายแนว เป็นที่ชื่นชอบของมิตรรักอย่างไร้กังวล แม้ช่วงโปรโมทเทปจะคาบเกี่ยวกับช่วงที่เขาไปเรียนต่อเมืองนอกอยู่บ้าง
เมื่อรถไฟดนตรีหันมาลุยแนวเพลงเพื่อชีวิตค่อนข้างเต็มตัว ศิลปินที่เคยร่วมงานกับค่ายนี้ก็มีมากมายเหลือคณา แต่ที่เห็นเด่นชัดที่สุด และทำให้ค่ายนี้ปลุกขึ้นมาอย่างสดใสอีกครานั่นคือ พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ กับงานเพลงดี ๆ ด้วยลีลาที่กินใจแฟนเพลงทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ "ตลอดเวลา" กับ "สุดใจ" คือเพลงฮิตประดับค่ายของหนุ่มพเนจรคนนี้
ขณะที่ศิลปินรุ่นใหญ่หน่อยอย่าง พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ หรือน้าหมูแห่งโคราช ก็ส่งผลงานของตัวเองให้เป็นที่ได้ยิน ได้ฟัง...ได้มันส์ไม่น้อยหน้าตอนอยู่ค่ายก่อน ๆ ด้วยเพลงสไตล์ชาวบ้าน ๆ จังหวะ 3 ช่า ตามถนัด หรือจะเป็นเพลงซึ้ง ๆ เช่น "ลมรำเพย" อันเป็นเพลงเอกของเขาคนนี้
จนมาถึงศิลปินเลือดใหม่ใบหน้าตะวันตกอย่าง เดวิด อินธี เริ่มงานชุดแรกกับรถไฟดนตรีด้วยสำเนียงเพื่อชีวิตกึ่งลูกทุ่ง ทำให้เพลงเอาใจจิ๊กโก๋อย่าง "ตั้งใจมาหลอก" ขายดิบขายดีอย่างไม่น่าเชื่อ ผ่านมาสิบกว่าปี เพลงนี้ยังติดหูอยู่เรื่อย ๆ แม้ว่าตัวนักร้องจะย้ายไปอยู่ค่ายอื่นแล้วก็ตาม
นั่นคือ 10 ศิลปินผู้ร่วมสร้างปรากฏการณ์ชิ้นสำคัญให้กับ "รถไฟดนตรี" ค่ายเพลงที่ยืนยาวและยังยืนหยัดรับใช้คอเพลงตลอดไป ถึงจะผ่านสิ่งที่น่าเศร้าหมอง แต่เราก็ยังไม่ลืมมองพระคุณเช่นเดิม
คุณยังมีศิลปินท่านอื่น ๆ อีกไหมที่ร่วมสร้างตำนานให้กับค่ายนี้อย่างลือลั่น ก็มาเล่ากัน สวัสดี.
"40 ปี รถไฟดนตรี" กับ 10 ศิลปินสร้างชื่อแห่งตำนาน
เรื่องเสียใจที่สุดก็คือ การสูญเสีย "โน้ต" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์
ส่วนเรื่องที่โชคดีที่สุดในปีนี้คือ...ค่ายเพลง "รถไฟดนตรี" ของเขา มีอายุครบรอบ 40 ปีพอดี
เป็นธรรมดาที่การดำเนินธุรกิจต้องผ่านสิ่งขวากหนามต่าง ๆ นานา เขาจึงพาค่ายเพลงแห่งนี้ก้าวเดินอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่ยั่งยืน
แม้ว่า "รถไฟดนตรี" จะเป็นเพียงค่ายเพลงเล็ก ๆ แต่ผลงานและศิลปินที่แวะเวียนเข้ามาล้วนเต็มเปี่ยมในคุณภาพทั้งนั้น ภายใต้การกำกับดูแลของระย้าเอง
ในโอกาสเช่นนี้ เราขอร่วมย้อนไปทำความรู้จักศิลปินพร้อมบทเพลงที่สร้างชื่อเสียงในสังกัด...ว่ามีท่านใดที่พอจะตรงกับใจของนักฟังเพลงรุ่นเก๋าได้บ้าง ถ้าเอ่ยถึงค่ายนี้จะนึกถึงศิลปินท่านนั้นทันที
เริ่มจาก ชรัส เฟื่องอารมย์ น้องชายแท้ ๆ ของดาราเจ้าบทบาท ผ่านประสบการณ์มาหลายหน้าที่ งานเพลงสมัยที่ทำกับค่ายนี้เป็นที่ยอมรับของนักฟังเพลงหัวก้าวหน้า แต่น่าผิดหวังที่ผลงานชุดนั้นดูล่วงล้ำตลาดไปหน่อย ชื่อของรถไฟดนตรีจึงยังไม่แจ่มชัด บทเพลงที่พอจะสร้างชื่อได้แก่ "รักเองช้ำเอง"
จนมาถึงเกิร์ลกรุ๊ปวัยทีนของเมืองไทยอย่าง สาว สาว สาว ทำให้รถไฟดนตรีไล่ตามค่ายเทปพี่ ๆ ได้ทัน ด้วยยอดขายเทปในเกณฑ์ที่สูง บวกกับตัวบทเพลงที่น่าฟัง เอาใจกลุ่มวัยรุ่นได้อยู่หมัด มีผลงานกว่า 10 ชุด คงไม่ต้องบรรยายให้มากความ เอาแค่บทเพลงที่สร้างชื่อของพวกเธอก็คือ "ประตูใจ"
ศิลปินเชื้อสายลาว ภูสมิง หน่อสวรรค์ เจ้าของสมญานามราชาเพลงโฟล์ก มีผลงานเพลงกับรถไฟดนตรีอยู่หลายชุด ทั้งงานเพลงแต่งใหม่ และงานเพลงคัฟเวอร์จากต้นฉบับหลายท่าน ด้วยมาดอันสุขุม นุ่มนวล เพลงก็ฟังสบาย ๆ ทำให้บทเพลง "บทเรียนสอนใจ" เป็นที่ติดหูของนักฟังเพลงโดยฉับพลัน
พัณนิดา เศวตาสัย ก้าวเดินรอยตามเพื่อนร่วมรุ่นอย่างสาวแอม สาว สาว สาว เจ้าของบทเพลงซึ้ง ๆ ชวนหลับใหลอย่าง "เดียวดาย" ซึ่งเนื้อหาของเพลงนี้น่าจะตรงกับความรู้สึกของพี่ระย้าในเวลานี้พอดี (ขนาด พุ่มพวง ดวงจันทร์ เคยหยิบเพลงนี้ไปร้องในคอนเสิร์ตการกุศลมาแล้ว) เธอเป็นนักร้องที่ไม่ค่อยโผล่หน้าค่าตาตามคอนเสิร์ตและสื่อต่าง ๆ อยู่บ่อย ๆ แม้ในปัจจุบันเธอมีงานประจำของตัวเองอยู่ก็ตาม
ถ้าเป็นวงดนตรีที่โด่งดังจากค่ายนี้ เราคงไม่ลืมวง ฟรีเบิร์ดส ซึ่งนำโดย ประวิทย์ พงษ์ธนานิกร ด้วยสกุลเดียวกับระย้าก็ไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญเท่าผลงานเพลงอย่าง "คอย" ที่ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาขจรขจาย แม้ตอนที่มาแสดงในรายการเพลงสุดฮิตอย่าง โลกดนตรี ก็เกิดคลื่นคนดูทะลักห้องส่ง บรรยากาศในวันนั้นจึงผ่านไปด้วยดี