สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
พี่เกิดมาในครอบครัวข้าราชการครูแบบน้องเลย ทั้งตระกูลอ่ะ เข้าใจความรู้สึกกดดัน ทุกอย่างที่โดนอ่ะพี่ผ่านมาหมดแล้ว สุดท้ายจะบอกว่าเพราะคนในครอบครัวเราโลกแคบ วิสัยทัศน์แคบ เนื่องจากทุกคนก็เป็นครูไง เลยไม่รู้ว่าโลกนี้ก็มีงานอื่นเยอะแยะที่ดี และอยู่ใน safe zone เหมือนการเป็นครู
ขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังบ้างนะ
พี่เรียนจบครูด้วยเกียรตินิยม แต่หลังจากไปฝึกสอนก็บอกตัวเองว่าไม่เอาเด็ดขาด ไม่ใช่ไม่ชอบสอนนะ เบื่อระบบ แต่ชอบสอนเด็กนะ
พอรับปริญญาย้ายออกจากหอมหาวิทยาลัยก็มาเช่าหออยู่กับเพื่อน ส่งใบสมัครไปหางาน แล้วตั้งใจว่าจะไม่ขอเงินที่บ้านเด็ดขาด ระหว่างรอก็ทำงานคลีนิคเสริมความงามรายวันได้เงินวันละ 400 เพื่อเอาไว้เป็นค่าข้าว หางาน 1 เดือน ได้งานAIS อ่ะก็ไปทำได้ 4 เดือนไม่ผ่านโปร!!!! (ทำงานไม่ดีเอง ชอบไปก่อนเวลาเริ่มงาน 1-2นาทีแค่นั้น) ตอนนี้ล่ะเริ่มโดนละ สอบกพ.สิ, , ตรงนี้รับสมัครวันนี้วันนั้น #%^&$$
ตกงาน 2 เดือนก็ใช้เงินชดเชยที่บริษัทให้มา (ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ขอเงินที่บ้านสักบาทนะ) ได้งานบริษัทใหม่ ทำไปได้ 4 เดือนบริษัทเจ๊ง เจริญ!!!!
คราวนี้โดนมากขึ้นอีกนิด ว่าแล้วงานบริษัทเอาแน่เอานอนไม่ได้ เราแก่เค้าเอาออก วันดีคืนดีก็เจ๊งแบบนี้ไง สอบกพ รอบนี้เลยนะ เอาใบสมัครมาให้
หลังจากงานนี้ งานต่อไปที่พี่ทำต่ออีกสิบปีคือ พริตตี้!!! ลองคิดดูนะ ว่าครอบครัวจะบ่น ด่า ดูถูกยังไง เพราะข่าวมันส่วนใหญ่ไม่ดีไง แต่งโป๊นะ ขายหน้าวงตระกูลนะ หมดแล้วชื่อเสียงที่สั่งสมมา จะเอาหน้าไปไว้ไหนลูกอาจารย์เป็นพริตตี้ หลานผอเป็นพริตตี้ แต่พี่ได้ทำงานแรกแล้วรู้สึกว่าเรามาถูกทางแล้ว และไม่ต่อต้านครอบครัวแต่ทำเฉยๆ บอกว่าลองทำนี่ก่อน และหาทางทำให้เค้าเห็นว่างานที่เราทำก็สามารถที่จะเลี้ยงตัวเองได้ เรารอดแน่!!
เช่น แม่บอกว่าพริตตี้ มันแต่งตัวโป๊ ยั่วๆ แม่อายเค้า งานที่ทำงานแรก 12 วัน คืองานแฟร์เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำกับ Samsung รอบสื่อเชิญแม่มาดูเลยจ้า
เปิดหูเปิดตาแม่ เออชุดสวยดีนะลูก ไม่โป๊นิ(เดรสกระโปรงสั้นแขนยาว) ยั่วไหม๊ไม่ยั่ว 2วันต่อมีรูปลงไทยรัฐแม่เห็นแม่จำได้ เริ่มเข้าใจเออมันไม่เห็นจะโป๊อย่างที่เค้าว่า ค่าตัวงานนี้อุดหนุนบริษัทSamsung ซื้อสินค้าที่มาออกบูทนั่นแหละ ให้แม่กลับบ้านไปด้วย เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น แอร์ จัดไปจ้าแม่
ประเด็นที่ 2 แก้ข้อกล่าวที่ว่า มันจะมีสักกี่งานลูก มันไม่มั่นคงนะ (แต่แม่คะ ทำงานเดือนเดียวได้เงินเท่างานบริษัท 3 เดือนเนอะ) เนื่องจากยังใหม่ว่างไปอีกเดือน เงินเริ่มหมด ได้งานที่ 2 เริ่มรู้จักคนมากขึ้น ได้งาน 3 4 5 6 7 8 ปีแรกก็ทำงานเดือนเว้นเดือนก็พอได้บ้าง เริ่มมีเงินเก็บหลายหมื่น พอปี 3-4 งานเยอะมาก วันละ 2-3 จ๊อบก็เคย จนแม่บอกว่าเลือกงานบ้างนะลูกไม่ต้องรับเยอะ พักผ่อนบ้าง ช่วงไหนไม่มีงานสัก 2 อาทิตย์แม่จะบอก ดีๆลูก
ประเด็นที่ 3 เรื่องสวัสดิการ สอบครูเถอะลูก ลองมาพอละนะพริตตี้อ่ะ รับราชการรักษาฟรี โทรหาประกันทำประกันสุขภาพ ส่งให้แม่ดู แม่นี่นะ มีประกันละ ป่วยได้ไม่ต้องกังวลนะ
ประเด็นที่ 4 ออกเถอะลูก รับราชการดีกว่า เชื่อแม่มีเงิน กบข. บำเหน็จบำนาญ เหรอคะแม่ไหนแม่ลองคิดสิเท่าไหร่ ถ้าเงินเดือนตอนนี้เท่านี้ ตอนเกษียนเท่าไหร่ บำนาญจะเท่าไหร่ รวมกบข. เท่าไหร่ (โอ้ เยอะดีเนอะแม่) แล้วก็ตั้งตาทำงานไป ขยับมาเป็นเอ็มซี ค่าตัวเยอะขึ้น เก็บเงินเป้าหมายคือ ต้องได้ยอดที่แม่บอกมาภายใน 10 ปี ฝากประจำไปเรื่อยๆ แม่ก็บ่นเรื่อยๆ อายุจะเกินละนะลูก เสียดายเนอะอันนี้หมดเขตสมัครแล้ว
ถ้าบ่นเยอะหน่อยพี่จะโทรไปร้านทองประจำของแม่ จัดมาบาทนึง แล้วบอกแม่ไปรับของ แม่ถามเนื่องในโอกาสอะไร พี่ก็บอกฉลองฉลากออมสิน 5 แสน แม่จะเงียบไปอีกนาน
ประเด็นอะไรมา อุดช่องให้หมด ไม่ต้องพูดมากเจ็บคอ เช่น ลูกลุงซื้อรถไม่ต้องดาวน์เยอะ เป็นข้าราชการ (พี่บอกแม่ถ้าพี่จะซื้อพี่ซื้อสดเลย เงินพอ)
ได้ทุนเรียนโท ประเด็นนี้หนักอยู่ โดนมาหลายปี พอทำงานครบสิบปีพี่บินมาเรียนต่างประเทศเลย ทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่มาเป็นนักเรียน ทำงานร้านอาหาร เรียนจบ หางานประจำ ทุกวันนี้แม่เชื่อแล้วว่าไม่ต้องเป็นครูหรือรับราชการก็ดูแลตัวเองได้ พี่มีเงินเท่าที่แม่เคยคำนวนว่าถ้าเป็นครูจนเกษียณจะได้เงินเท่าไหร่ พี่มีใบปริญญาให้แม่ติดข้างฝาเหมือนลูกคนอื่นๆ พี่มีบ้านมีรถ ที่ไม่ต้องอาศัยเครดิตการเป็นข้าราชการกู้ มีประกันสุขภาพประกันชีวิตเพื่อเหตไม่คาดฝัน และพี่ไม่มีหนี้สหกรณ์เหมือนแม่และญาติๆ ตอนนี้พ่อ แม่ และครอบครัวทุกคนยอมรับ เปิดทางให้น้องๆคนอื่นๆมีแนวทางอาชีพที่หลากหลายขึ้น น้องสาวพี่มีอาชีพแม่ค้าออนไลน์โดยที่ไม่โดนบ่นให้ไปสอบกพ. จะบอกว่าที่เค้าบ่นเพราะเค้าห่วง มีทางเดียวที่ทำให้ทุกคนยอมรับได้คือ หาอาชีพที่ชอบและเป็นไปได้ให้เจอ และทำให้เค้าเห็นว่า กพ.ไม่ใช่ถูกทุกข้อ ขอบคุณและสวัสดีค่ะ 555
ขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังบ้างนะ
พี่เรียนจบครูด้วยเกียรตินิยม แต่หลังจากไปฝึกสอนก็บอกตัวเองว่าไม่เอาเด็ดขาด ไม่ใช่ไม่ชอบสอนนะ เบื่อระบบ แต่ชอบสอนเด็กนะ
พอรับปริญญาย้ายออกจากหอมหาวิทยาลัยก็มาเช่าหออยู่กับเพื่อน ส่งใบสมัครไปหางาน แล้วตั้งใจว่าจะไม่ขอเงินที่บ้านเด็ดขาด ระหว่างรอก็ทำงานคลีนิคเสริมความงามรายวันได้เงินวันละ 400 เพื่อเอาไว้เป็นค่าข้าว หางาน 1 เดือน ได้งานAIS อ่ะก็ไปทำได้ 4 เดือนไม่ผ่านโปร!!!! (ทำงานไม่ดีเอง ชอบไปก่อนเวลาเริ่มงาน 1-2นาทีแค่นั้น) ตอนนี้ล่ะเริ่มโดนละ สอบกพ.สิ, , ตรงนี้รับสมัครวันนี้วันนั้น #%^&$$
ตกงาน 2 เดือนก็ใช้เงินชดเชยที่บริษัทให้มา (ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ขอเงินที่บ้านสักบาทนะ) ได้งานบริษัทใหม่ ทำไปได้ 4 เดือนบริษัทเจ๊ง เจริญ!!!!
คราวนี้โดนมากขึ้นอีกนิด ว่าแล้วงานบริษัทเอาแน่เอานอนไม่ได้ เราแก่เค้าเอาออก วันดีคืนดีก็เจ๊งแบบนี้ไง สอบกพ รอบนี้เลยนะ เอาใบสมัครมาให้
หลังจากงานนี้ งานต่อไปที่พี่ทำต่ออีกสิบปีคือ พริตตี้!!! ลองคิดดูนะ ว่าครอบครัวจะบ่น ด่า ดูถูกยังไง เพราะข่าวมันส่วนใหญ่ไม่ดีไง แต่งโป๊นะ ขายหน้าวงตระกูลนะ หมดแล้วชื่อเสียงที่สั่งสมมา จะเอาหน้าไปไว้ไหนลูกอาจารย์เป็นพริตตี้ หลานผอเป็นพริตตี้ แต่พี่ได้ทำงานแรกแล้วรู้สึกว่าเรามาถูกทางแล้ว และไม่ต่อต้านครอบครัวแต่ทำเฉยๆ บอกว่าลองทำนี่ก่อน และหาทางทำให้เค้าเห็นว่างานที่เราทำก็สามารถที่จะเลี้ยงตัวเองได้ เรารอดแน่!!
เช่น แม่บอกว่าพริตตี้ มันแต่งตัวโป๊ ยั่วๆ แม่อายเค้า งานที่ทำงานแรก 12 วัน คืองานแฟร์เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำกับ Samsung รอบสื่อเชิญแม่มาดูเลยจ้า
เปิดหูเปิดตาแม่ เออชุดสวยดีนะลูก ไม่โป๊นิ(เดรสกระโปรงสั้นแขนยาว) ยั่วไหม๊ไม่ยั่ว 2วันต่อมีรูปลงไทยรัฐแม่เห็นแม่จำได้ เริ่มเข้าใจเออมันไม่เห็นจะโป๊อย่างที่เค้าว่า ค่าตัวงานนี้อุดหนุนบริษัทSamsung ซื้อสินค้าที่มาออกบูทนั่นแหละ ให้แม่กลับบ้านไปด้วย เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น แอร์ จัดไปจ้าแม่
ประเด็นที่ 2 แก้ข้อกล่าวที่ว่า มันจะมีสักกี่งานลูก มันไม่มั่นคงนะ (แต่แม่คะ ทำงานเดือนเดียวได้เงินเท่างานบริษัท 3 เดือนเนอะ) เนื่องจากยังใหม่ว่างไปอีกเดือน เงินเริ่มหมด ได้งานที่ 2 เริ่มรู้จักคนมากขึ้น ได้งาน 3 4 5 6 7 8 ปีแรกก็ทำงานเดือนเว้นเดือนก็พอได้บ้าง เริ่มมีเงินเก็บหลายหมื่น พอปี 3-4 งานเยอะมาก วันละ 2-3 จ๊อบก็เคย จนแม่บอกว่าเลือกงานบ้างนะลูกไม่ต้องรับเยอะ พักผ่อนบ้าง ช่วงไหนไม่มีงานสัก 2 อาทิตย์แม่จะบอก ดีๆลูก
ประเด็นที่ 3 เรื่องสวัสดิการ สอบครูเถอะลูก ลองมาพอละนะพริตตี้อ่ะ รับราชการรักษาฟรี โทรหาประกันทำประกันสุขภาพ ส่งให้แม่ดู แม่นี่นะ มีประกันละ ป่วยได้ไม่ต้องกังวลนะ
ประเด็นที่ 4 ออกเถอะลูก รับราชการดีกว่า เชื่อแม่มีเงิน กบข. บำเหน็จบำนาญ เหรอคะแม่ไหนแม่ลองคิดสิเท่าไหร่ ถ้าเงินเดือนตอนนี้เท่านี้ ตอนเกษียนเท่าไหร่ บำนาญจะเท่าไหร่ รวมกบข. เท่าไหร่ (โอ้ เยอะดีเนอะแม่) แล้วก็ตั้งตาทำงานไป ขยับมาเป็นเอ็มซี ค่าตัวเยอะขึ้น เก็บเงินเป้าหมายคือ ต้องได้ยอดที่แม่บอกมาภายใน 10 ปี ฝากประจำไปเรื่อยๆ แม่ก็บ่นเรื่อยๆ อายุจะเกินละนะลูก เสียดายเนอะอันนี้หมดเขตสมัครแล้ว
ถ้าบ่นเยอะหน่อยพี่จะโทรไปร้านทองประจำของแม่ จัดมาบาทนึง แล้วบอกแม่ไปรับของ แม่ถามเนื่องในโอกาสอะไร พี่ก็บอกฉลองฉลากออมสิน 5 แสน แม่จะเงียบไปอีกนาน
ประเด็นอะไรมา อุดช่องให้หมด ไม่ต้องพูดมากเจ็บคอ เช่น ลูกลุงซื้อรถไม่ต้องดาวน์เยอะ เป็นข้าราชการ (พี่บอกแม่ถ้าพี่จะซื้อพี่ซื้อสดเลย เงินพอ)
ได้ทุนเรียนโท ประเด็นนี้หนักอยู่ โดนมาหลายปี พอทำงานครบสิบปีพี่บินมาเรียนต่างประเทศเลย ทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่มาเป็นนักเรียน ทำงานร้านอาหาร เรียนจบ หางานประจำ ทุกวันนี้แม่เชื่อแล้วว่าไม่ต้องเป็นครูหรือรับราชการก็ดูแลตัวเองได้ พี่มีเงินเท่าที่แม่เคยคำนวนว่าถ้าเป็นครูจนเกษียณจะได้เงินเท่าไหร่ พี่มีใบปริญญาให้แม่ติดข้างฝาเหมือนลูกคนอื่นๆ พี่มีบ้านมีรถ ที่ไม่ต้องอาศัยเครดิตการเป็นข้าราชการกู้ มีประกันสุขภาพประกันชีวิตเพื่อเหตไม่คาดฝัน และพี่ไม่มีหนี้สหกรณ์เหมือนแม่และญาติๆ ตอนนี้พ่อ แม่ และครอบครัวทุกคนยอมรับ เปิดทางให้น้องๆคนอื่นๆมีแนวทางอาชีพที่หลากหลายขึ้น น้องสาวพี่มีอาชีพแม่ค้าออนไลน์โดยที่ไม่โดนบ่นให้ไปสอบกพ. จะบอกว่าที่เค้าบ่นเพราะเค้าห่วง มีทางเดียวที่ทำให้ทุกคนยอมรับได้คือ หาอาชีพที่ชอบและเป็นไปได้ให้เจอ และทำให้เค้าเห็นว่า กพ.ไม่ใช่ถูกทุกข้อ ขอบคุณและสวัสดีค่ะ 555
แสดงความคิดเห็น
ทำงานเป็นพนักงานประจำสถานีบน BTS (รถไฟฟ้า) มันผิดมากหรอค่ะ ทำไมต้องมาดูถูกกันขนาดนี้