[CR] ANYDAY VACATION | ตอน ขับรถเที่ยวเส้นทางยอดนิยม Munich-Austria ตอนใต้-Cesky Krumlov-Prague

สวัสดีครับ/ค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของพวกเราที่อยากขอลองแบ่งปันเรื่องราวราวประสบการณ์ในการเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเอง ในเเบบฉบับของพวกเราบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครที่กำลังวางแผนหาข้อมูลอยู่ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ล่วงหน้าและยินดีรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับปรุง ช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยครับ/ค่ะ

เริ่มต้นจากแพลนทริปคือ 9-10 วัน ช่วงปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา, บินTG (เพื่อเก็บไมล์) เส้นทางยอดนิยม Munich-ตอนใต้ของAustria (Innsbruck, Salzburg, Hallstatt)-Cesky Krumlov & Prague จึงโผล่เข้ามา และไหนๆก้อมา Austria หาทางลงที่ Vienna สักหน่อยน่าจะดี จึงเริ่มทริปด้วยการบินไปลง Vienna แล้วจบทริปบินกลับจาก Munich

จากข้อมูลที่ได้ พบว่า เช่ารถและคืนรถในที่เดียวกันจะประหยัดกว่ามาก + เช่ารถในเยอรมันมีโอกาสได้ราคาถูกกว่าเช่าในออสเตรีย
และ Vienna - Prague - Munich ทางภูมิศาสตร์ทำมุมเกือบจะเป็นสามเหลี่ยม แต่การใช้รถไฟเข้า-ออกจาก Prague ไปเมืองอื่นสะดวกน้อยที่สุด (ไม่มีรถไฟไปCesky มีแต่รถบัส) Trip จึงออกมาแบบนี้
Day 1 : Vienna
Day 2 : Vienna + Overnight train to Munich
Day 3 : Munich - Neuschwanstein - Schwangau (เริ่มเช่ารถจากMunich)
Day 4 : Schwangau - Mittenwald - Innsbruck
Day 5 : Innsbruck - Hallstatt
Day 6 : Hallstatt - Dachstein Krippenstein - Cesky Krumlov 
Day 7 : Cesky Krumlov - Prague
Day 8 : Prague - Munich (คืนรถที่Munich)
Day 9 : Munich - Salzburg (Day trip) Plan B เพราะหนีฝนกลาง trip
DAy 10 : Munich + เดินทางกลับ

ว่าแล้วก็ขอเริ่มที่ Day 1 กันเลยดีกว่า พวกเรามาถึงVienna ในช่วงเช้า เมื่อผ่าน ตม. แล้ว ก็ต้องเลือกวิธีเข้าเมือง สุดท้าย เลือกCity Airport Train (CAT) สัญลักษณ์สีเขียวโดดเด่นเห็นตั้งแต่สายพานรอรับกระเป๋าพร้อมข้อความยั่วใจ 16 minutes Non-stop!!  ซื้อตั๋วได้ที่ตู้ขายอัตโนมัติราคา12 ยูโรต่อคน (เครื่องพวกนี้มักจะรับบัตรเครดิตที่ต้องใส่Pin เท่านั้น)
⁃ จริงๆยังมีรถไฟอีกประเภทที่เข้าเมืองได้คือสาย S7 ซึ่ง Travel card ticket แบบเหมารวม 24, 48 ชั่วโมง (นับตามเวลาที่เริ่มใช้จริง) สามารถใช้สาย S7 นี้ได้ด้วย ไม่ต้องเสียเงินหลายต่อ.  
⁃ รถไฟเข้าเมืองปกติมักจะไปถึงCentral station ของแต่ละเมืองแต่ๆๆๆ ที่นี่รถไฟจากสนามบินจะไปถึงสถานีที่ชื่อว่าWien Mitte (แต่Central station ที่นี่คือWien Hauptbahnhof (Hbf) ซึ่งเราเลือกนอนโรงแรมที่ติดWien Hbf เพราะเป็นสถานีที่จะขึ้นovernight train ไปMunich)...ทำให้ออกสถานีมาด้วยความสดใส แต่พอเปิด google map เพื่อหาทิศทางไปรร. ถึงกับ stunt ไป7 วิ..ทำไมมานขึ้นว่า 3.4 km เดิน38 นาทีว้าาา
- ไม่ว่า S7 หรือ CAT ก้อจะเข้าเมืองมาที่สถานีนี้ถ้าอยากไปต่อก้อต้องต่อรถไฟสายอื่นอีก

ตัดภาพมาที่Ibis Wien Hbf เป็นโรงแรมที่ยังค่อนข้างใหม่ ไม่พลุกพล่านเพราะอยู่ด้านหลังสถานีประมาณ200 เมตร เป็นฝั่งที่ไม่ติดกับS-Bahn (ที่ผู้คนจะไปรอใช้บริการหนาแน่นกว่า) Public transport ทั้งTram, Bus และS-Bahn ผ่านและมีป้ายจอดใกล้ๆโรงแรมเหมาะจะเป็นที่พักในการสำรวจเมืองมากๆ 

เมื่อจัดการฝากกระเป๋าเรียบร้อย สถานที่แรกก็คือ Belvedere Palace เนื่องจากเดินจากโรงแรมไปได้เลย พระราชวังนี้แบ่งเป็น2 ส่วนคือUpper and Lower Belvedere แยกกัน สำหรับประตูทางเข้าที่เราเดินมา(โดยไม่เสียค่าเข้า) คือUpper Belvedere หน้าประตูจะมีรูปสิงโตชูสัญลักษณ์ประจำของPrince Eugene of Savoy 

เมื่อเดินเข้ามาก็จะเห็นสวนและสระน้ำบวกกับแสงแดดในเดือนพ.ค. ถ่ายรูปออกมาสวยงามตามที่คิดไว้เลย
เนื่องจากเรา2 คนไม่ค่อยอินกับศิลปะและประวัติศาสตร์มากนัก จึงไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าชมด้านในพระราชวัง แต่สำหรับคอart ทั้งหลายสามารถเข้าไปชมภาพเขียนต่างๆที่จัดแสดงในส่วนUpper Belvedere โดยภาพที่ชื่อ“The kiss” ที่ว่ากันว่าเป็น Signature ของ Vienna ก็อยู่ในที่นี้

เริ่มสายแล้ว จึงเข้าไปสำรวจในเมืองต่อโดยมีเป้าหมายหลักที่ Hofburg palace และแวะพักขาที่ร้านขนมชื่อดัง Cafe Central พวกเราจึงนั่งรถรางจากBelvedere สายD เป็นการชมบ้านเมืองรายทางที่ดูสะอาดและสบายตา มาลงแถวถนน Burgring 
ลงจากรถรางเดินลัดเลาะตามถนนที่มีพื้นที่สีเขียวรายล้อมอีกไม่ไกลจนถึงแยก ถนนBurgring ตัดกับถนนHeldenplatz ก็จะพบกับซุ้มประตูที่เป็นกำแพงหินสลักทำเป็นช่องใหญ่หลายๆช่องมีชื่อเรียกว่า Äußeres Burgtor เพื่อให้ผู้คน(รวมถึงทหารและม้าในอดีต)ใช้สัญจรผ่านไปยัง Heldenplatz และพระราชวัง Hofburg ได้  ระหว่างเดินก็จะพบรถม้าที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยวอยู่เป็นระยะ
พระราชวัง Hofburg ถือได้ว่าเป็นอดีตพระราชวังหลวงที่ตั้งอยู่ในกลางเมืองVienna แต่ก็ตามประสาคนไม่อิน เราจึงยังไม่เลือกซื้อตั๋วเข้าไปชม เมื่อเดินเล่นแถวนี้ก็มีมุมเก็บภาพสวยๆเนื่องจากตัวพระราชวังจะตั้งอยู่ติดกับ Michaelerplatz ซึ่งมีโบสถ์St. Michael อยู่ติดกับจัตุรัสนี้ด้วน แต่คนเยอะมากจริงๆ ขอติดไว้ก่อน กลางคืนนี้จะกลับมาแก้มืออีกที ตอนนี้จึงได้รูปโบสถ์มาก่อน
และแล้วก้อได้เวลาพักขาด้วยการตามหาร้านขนม Cafe central โดยเดินจาก Michaelerplatz แค่300 เมตร ในวันที่อากาศดีแต่ถ้าเวลาไม่ดีอาจต้องรอคิวเข้าร้านขนมนานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว วันนี้ประมาณ11 โมงวันเสาร์ พวกเราก็รอไม่นาน เดินเข้าร้านก็จะเจอคุณลุง Peter Altenberg รอต้อนรับอยู่
ขนมในร้านก็จะหน้าตาดีประมาณนี้ 

สุดท้ายเลือกเมนูกาแฟ ช็อคโกแลตร้อน ช็อคลาวา และCafe Central Schnitte เป็นpuff ชั้นๆแทรกด้วยชั้นวานิลลา
เมื่อพักขาได้ที่ ก้อออกสำรวจต่อ ในย่านนี้จะมีshopping street  โบสถ์สวยๆรวมถึงถนนที่แยกออกไปเจอจัตุรัสเล็กๆมากมาย แน่นอนว่าเต็มไปด้วยCafe ที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสความเป็น Vienna ได้อย่างดีทีเดียว เดินย้อนจาก Cafe Central กลับมาที่ถนน Kohlmarkt เดินตรงไปผ่านร้าน Moncler (มองไปเรื่อยๆนะเออ) ไม่ไกลจะมีแยกเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน Graben ระหว่างทางได้สำรวจร้านรวงและผู้คน 
เมื่อผ่านป้ายSubway สถานีStephansplatz ให้มองไปทางซ้าย จะเห็นบางส่วนของมหาวิหาร St. Stephen Cathedral ตรงนี้ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเพื่อไปมหาวิหาร ถ้าตรงไปจะเข้าสู่ถนนSingerstraße ถ้าตัดสินใจเลี้ยวขวาก็จะนำไปสู่ถนนKärntner ซึ่งเป็นshopping street ที่เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของVienna ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเลี้ยว....ซ้ายให้สุดแล้วหยุดถ่ายรูปที่หน้ามหาวิหารSt. Stephen Cathedral (ปล. ไม่ได้sponsor จากS10 นะเค้าติดป้ายบูรณะจีๆ)
จัตุรัสเล็กๆที่มีชื่อว่าFranziskanerplatz ทำให้สัมผัสได้ถึงความสงบเล็กๆในใจกลางเวียนนาที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายจากนักท่องเที่ยว ที่นี่ยังมี Cafe เล็กๆแต่เก่าแก่ชื่อว่า Kleines Café ซึ่งหลายสำนักต่างชื่นชมว่าเรียกความรู้สึกเหมือนกับอยู่ใน Vienna สมัยก่อนได้ไม่เปลี่ยน ลูกค้าจึงเต็มตลอด
เมื่อเริ่มเกิดความสงบเล็กๆ จึงขอพาไปโบสถ์แห่งนึงที่ต้องบอกว่าสวยและสงบมาก นั่นก็คือ Jesuit Church ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มี Facade งดงามไม่เป็นรองที่ใด ข้างในมีเสาหินอ่อน..สวยจนบรรยายไม่ถูก ต้องไปโดนกันเอง(ทางเข้าไม่มีป้ายห้ามถ่ายภาพและไม่เสียค่าเข้าชม)
ออกจากโบสถ์ก็เป็นเวลาบ่ายสอง เดินมุ่งหน้าไปแม่น้ำ Danube ที่ไหลผ่านเมืองก็จะพบกับ Underground สายU1 สถานีSchwedenplatz เพื่อเดินทางไปยัง Supersense Cafe เกร๋ๆอีกแห่งที่ไม่ธรรมดา จุดเด่นคือคำว่า “Analog”  ขนาดไม่ใช่สายart อย่างเรายังอยากจะไปเห็นกับตา 
ออกจาก Cafe อยู่ๆก็ง่วงกะทันหัน สงสัยยังงงกับการปรับเวลา จึงตัดสินใจนั่งรถกลับโรงแรมเพื่อไปพักผ่อนก่อนจะมาลุยกันใหม่ในตอนกลางคืน สายนอนอย่างพวกเราเรียกว่าทำใจลำบากจริงๆแต่ก็ขอลองดูสักตั้ง หลับรอสักงีบให้แสงหมดจริงก่อน ค่อยออกเดินทางด้วยรถราง
Wiener Staatsoper หรือVienna Opera เป็นจุดหมายแรกของค่ำคืนนี้ ดูเหมือนจะมีการจัดเวทีเตรียมการแสดงอะไรสักอย่างบริเวณด้านนอกอาคาร และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดอีกอย่างก็เกิดขึ้นนั่นก็คือ การถ่ายรูป Night Mode ของP30 มันช่างดีงามเสียจริง
เมื่อเริ่มเพลิดเพลินกับเจ้าP30 จึงออกเดินต่อไปยัง Michaelerplatz ขณะเดินผ่าน Opera ไปที่หัวมุมถนนบริเวณ Albertinaplatz ก็เห็นผู้คนต่อแถวคิวยาวรอชิม Hot Dog ของร้าน Bitzinger 
เมื่อถึง Hofburg Palace ก็จัดการเก็บรูปที่ตอนกลางวันไม่มีจังหวะเหมาะ(ใช้ iPhone เป็นหลัก มีHuawei-P30 บ้างประปราย ภาพก็อาจจะชัดบ้างมัวบ้าง อาจจะถ่ายทอดความสวยงามได้ไม่ตรงกับสถานที่จริง)
ที่ขาดไม่ได้อีกมุมนึงก็คือเดินจากจัตุรัสไปทางถนน Kohlmarkt แล้วมองย้อนกลับมาหาตัวพระราชวัง Hofburg (ช่วงกลางวันบริเวณนี้นักท่องเที่ยวเยอะมาก ก็ต้องหาจังหวะกันดีๆ)
เมื่อเข้าสู่ถนนGraben สักพักก็จะเจอกับ St. Peter's Catholic Church ซ่อนตัวอยู่ในถนนเล็กๆที่แยกตัวออกไป(ตอนกลางวันว่าสวยตอนกลางคืนสวยกว่า)
เพื่อให้คุ้มค่าตั๋วTravel card จึงเลือกสายU1 เพื่อเดินทางไป Karlskirche (St. Charles Church) เป็นโบสถ์ style Baroque ที่โดดเด่นที่สุดใน Vienna ตรงจุดนี้เมื่อขึ้นจากสถานีKarlsplatz จะต้องเดินผ่านสวนResselpark ระยะสั้นๆซึ่งต้องบอกว่าจะรู้สึกเปลี่ยวเล็กน้อยและอาจพบเงาตะคุ่มๆเคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้าไม่ต้องกังวล กัดฟันเดินต่อไปแล้วจะพบว่าคุ้มมม 
ปล. เงาตะคุ่มที่ว่าก็คือเงาผู้คนที่อยู่รายล้อมบริเวณสระน้ำหน้าโบสถ์ ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นมานั่งพักผ่อนเป็นกลุ่มใหญ่เพราะที่นี่มันสวยมากเลย

จากตรงนี้เป็นเวลา5 ทุ่มกว่า พวกเราตัดสินใจเลือกกลับไปนอนพักผ่อนก่อน เพราะวันพรุ่งนี้เรามีแผนจะไปชมพระราชวัง Schönbrunn กันแต่เช้าโดยตัด สวนสนุก Prater (ปิด5 ทุ่ม) จึงไปไม่ทันแล้วสำหรับคืนนี้ แล้วเจอกันได้ใหม่กับพวกเราใน Day 2 .. 
ชื่อสินค้า:   Munich-Austria ตอนใต้-Cesky Krumlov-Prague
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่