เรื่องที่ 3 สุดท้ายสำหรับรอบนี้ครับ มาแนว HORROR หน่อย...
เป็นเรื่องราวของครอบครัวๆ หนึ่งซึ่งอยู่ในบ้านของลุงคนหนึ่ง และบ้านนี้หัวหน้าครอบครัวก็มีส่วนช่วยสร้าง พอลุงแกตายไป เรื่องแปลกๆ ก็เกิดขึ้น
สาเหตุเกิดจากอะไร ลุงเจ้าของบ้านที่ตายไปมาหลอกหลอนรังควาญหรือ ?
ไปตามหาคำตอบกันครับ! 
ผมกับเมียและลูกสาวตัวน้อยได้ย้ายมาอยู่บ้านของลุงอ่ำ ซึ่งแกเสียไปแล้ว
บ้านหลังนี้ทำจากไม้หลังคาสังกะสี เมื่อหลายปีก่อนผมเคยมาช่วยสร้าง แม้ช่วยด้านแรงงานได้เล็กๆ น้อยๆ เป็นลูกมือช่างที่ลุงจ้างมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงอีกที
ในคืนแรกแทบไม่เป็นอันหลับอันนอน ด้วยมีเสียงดังแปลกๆ อยู่บนหลังคาคล้ายมีคนเดินย่ำไปมา
ผมตลบมุ้งขึ้นมาเงี่ยหูฟังเสียง เมียกับลูกกอดกันแน่นเงยหน้ามองไปเบื้องสูงเช่นเดียวกัน
เสียงคล้ายฝีเท้าเดิน คล้ายๆ ว่าจะลากฝ่าเท้าครูดไปกับลอนทำให้เกิดเสียงแกรกกรากๆ
พอเงียบเสียงไปบ้าง เราค่อยเอนกายดึงผ้าห่มคลุมตัวจะหลับ ไม่นานมันกลับดังขึ้นมาอีก ทำให้เดือดร้อนนอนไม่หลับ
รุ่งเช้าผมเก็บความสงสัยไปถามป้าข้างบ้าน ยืนคุยโดยมีรั้วกั้น
ป้ามีเส้นผมหยิกฟูเหมือนรังไก่ฟักไข่หงอกเกือบหมดหัว ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาเบิกโพลงคล้ายคนโดนผีหลอกมา ปากสั่นริกขยับแสนยากเย็น
มือเหี่ยวนิ้วชี้นิ้วค้างไว้มาที่บ้านของผม
แล้วคำแรกที่แกหลุดมาได้บอก
บ้านนี้มีผีสิง ขอให้ผมไปหาหมอผีมาไล่ที
ถ้าผีที่ว่าของป้า คงจะหมายถึงลุงอ่ำ เพราะแกพึ่งจะเสียชีวิตไปได้ไม่นาน ดวงวิญญาณไม่ไปผุดไปเกิด
ผมส่ายหน้า หัวเด็ดตีนขาดไม่เชื่อ
มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อลุงสมัยมีชีวิตรักผมมาก แกไม่มีลูกไม่มีเมีย ตอนสร้างบ้านผมยังมาช่วย บ้านหลังนี้เลยตกทอดมาถึงผม แล้วลุงอ่ำจะมารบกวนผมทำไม
ในคืนที่สอง เรานอนในมุ้งเดียวกันสามคนพ่อแม่ลูก โดนผีหลอกอีกจนไม่เป็นอันหลับอันนอน
เสียงฝีเท้าย่ำเดินวนเวียนอยู่บนหลังคาดังแกรกกรากๆ
เราจึงปรึกษากันเด็ดขาดพรุ่งนี้จะหาหมอผีมาไล่
หมอผีมาที่บ้านทำพิธี และบอกด้วย
นั่นน่ะมันคือดวงวิญญาณผีร่อนเร่พเนจร มันเห็นที่ไหนอยู่ได้มันก็อยู่
ทำให้ผมโล่งอก มันต้องไม่ใช่ผีของลุงแน่ที่มาหลอกหลอนแน่
หลังจากให้หมอผีได้กลับไปแล้ว เราโล่งใจจะได้บ้านของเราคืนโดยปราศจากสิ่งรบกวน
คืนนั้นผมรู้สึกนอนไม่หลับ นอนพลิกตัวไปมา แม้เมียสาวยังลืมตาอยู่เช่นเดียวกัน
เวลาผ่านไปจนดึกดื่น อยู่ๆ แมลงกลางคืนที่หรีดริ่งอยู่ก็เงียบเสียงลงกะทันหันเหมือนกับถูกรบกวนจากสิ่งหนึ่งใด
เสียงแกรกกรากๆ คราวนี้มันดังจากข้างบ้านที่ค่อนข้างกว้าง ฟังดูคล้ายเสียงย่ำใบไม้แห้ง
ผมสลัดความลังเลลุกออกมาจากที่นอนออกมาที่ระเบียงท่ามกลางความมืด ยืนอยู่คนเดียวเงียบๆ
“เอ..ไล่ผีไปแล้วนี่ มันอะไรกันอีก”
ผมยืนนิ่งอยู่นานเพื่อจับกระแสเสียงบางอย่าง เสียงที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ในหมู่ดงกล้วยที่ลุงปลูกไว้ ใบมันไหวยวบยาบ ทั้งที่รู้สึกอากาศอบอ้าวไม่มีลมพัดผ่านมาเลย
แล้วขนในกายมันตั้งชัน ต้องก้าวเท้าถอยมาจากระเบียง
ตรงนั้นมันเหมือนมีใครคนหนึ่งยืนอยู่เป็นเงาดำ
พอผมขยี้ตามองให้ดี เงาดำมันหายไป มีเพียงต้นกล้วยเป็นฉากหลัง
ลมอ่อนคล้ายจะพัดเอากลิ่นสาบสางลอยมาอีก
มันเป็นคืนเดือนมืดอันแสนเงียบสงัด เจ้าหมาด่างของป้าข้างบ้านที่ปกติกลางวันจะเห่าหอนเสียงดังรบกวน ตกกลางคืนมันกลับหลบนอนเงียบ
ผมทำท่าจะเคลื่อนย้ายตัวไปจากระเบียง
ในวินาทีนั้นเอง ผมต้องผงะ
เงาดำนั้นปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง มันลอยสูงขึ้นมาในระดับระเบียงที่ผมยืนอยู่ ลอยมาหยุดอยู่เบื้องหน้าห่างไม่ถึงวา
ผมตัวชาดิกแทบก้าวขาไม่ออก ไม่กล้าแม้แต่จะแหกปากร้องออกมา สิ่งที่ทำได้คือยกมือไหว้ ร้องขอผีให้ไปผุดไปเกิด อย่ามาหลอกหลอนกันอีกเลย
กลัวจนจะบ้าไปหมดทั้งบ้านแล้ว คล้ายจะมีเสียงแหบพร่าออกมาจากร่างนั้น
มันพลันหายไปเพียงพริบตาเดียว
ร่างของผมทรุดฮวบลงไปนั่งสารภาพ กลัวจนแข้งขามันอ่อนไปหมด
รุ่งเช้าผมได้เอาเรื่องนี้ไปพูดคุยป้าข้างบ้าน จุดนัดพบเดิมคือข้างรั้ว
สภาพแกย่ำแย่มากเหมือนศพลุกเดินออกมาจากโลง
เมียได้ตามมาพูดคุยด้วยเป็นสามคน
ป้าแกบอก
ชาวบ้านย่านนี้รู้กันหมด บ้านหลังนี้มีผีสิง ถ้าไม่หาทางไล่ผีออกไป แกจะย้ายหนี เพราะกลางคืนโดนผีกวนเช่นกัน
ผมถอนหายใจยาว เป็นอันว่าหมอผีที่หามาวันก่อนขับไล่ผีไปไม่ได้
เวลานี้มีอยู่สองทางเลือก หนึ่งคือย้ายหนี สองคือปักหลักอยู่ที่นี่หาหมอผีมาไล่ผีอีกครั้ง
ตะวันตกดินเข้ามืดค่ำเร็วมาก เราสามคนพ่อแม่ลูกกำลังนั่งล้อมวงกินข้าว พลันได้เงยหน้าขึ้น
เสียงดังแกรกรากๆ บนหลังคาสังกะสีโครงไม้มันยวบลงจากน้ำหนักกดลงมา ลูกสาวตัวเล็กหวีดร้องสุดเสียง เข้ามาซุกกอดกับอกแม่ ไม่เป็นอันกินข้าว
ผมได้แต่เงยหน้าริมฝีปากสั่น ทำอะไรไม่ได้ แรกนึกจะก่นด่าขึ้นไป พอสติยังยับยั้งไว้ ลุกขึ้นทรงตัวด้วยเข่า ยกมือไหว้
จะขอนอนไปอีกคืน รุ่งเช้าจะย้ายไปแล้ว จะไม่ขออยู่ที่นี่อีก
ขาดคำที่เปล่งวาจาออกไป เสียงแกรกกรากหยุดลง คล้ายจะยืนนิ่งรับฟัง
เสียงแหบพร่าดังมา มันไม่ได้ดังนัก คล้ายจะสื่อถึงหูโดยตรง
ผีมันบอกว่า
ถ้าโกหกมันจะเอาตายหมดบ้าน จากนั้นจึงเงียบเสียงไป
ผมพลอยโล่งอก แต่คืนนั้นยังคงข่มตาหลับยากอยู่ดี
นึกถึงหน้าตาของป้าข้างบ้าน แกคงไม่ได้หลับมานานกว่าอีก สภาพถึงได้ดูย่ำแย่ขนาดนั้น
ตอนเช้าอาศัยดักรอพบพระมาบิณฑบาต เล่าเรื่องความเดือดร้อนให้ฟัง
หากไม่แก้ไขอะไร เห็นทีวันนี้ต้องได้ย้ายบ้าน ไม่เช่นนั้นผีมันจะเอาตายกันทั้งบ้าน
หลวงพ่อนิ่งฟังแล้วแนะนำให้รีบไปหาหมอผีคนหนึ่งให้มาไล่
หมอผีคนนี้เป็นหมอดูด้วย ได้ตรวจดูว่าผีไปยังไงมายังไงถึงได้มาอยู่บ้านหลังนี้ได้ จนได้รู้ว่า ผีก็คือดวงวิญญาณของช่างที่มาปลูกบ้านให้ลุงแล้วเกิดพลัดตกลงมาคอหักตาย ดวงวิญญาณยังคงวนเวียนอยู่ที่บ้านหลังนี้
ผมพอจะจำได้แล้ว ช่างคนนี้เป็นคนตัวใหญ่ เงาดำนั่นก็สูงใหญ่เหมือนกัน
แต่เรื่องมันเกิดขึ้นมานานมากแล้วหลายสิบปี ตอนนั้นปลูกบ้านใหม่ จนตอนนี้บ้านเก่าทรุดโทรมหมดแล้ว
หมอผีบอกว่าจะไปไล่ไม่ได้ เขาไม่ได้อยากอยู่ที่บ้านหลังนั้น แต่เพราะเขาตายที่นั้น วิญญาณก็เลยต้องสิงสู่อยู่นั่นที่ซึ่งเขาสิ้นลง
หมอผีบอกจะทำพิธีเชิญดวงวิญญาณออกไปจากบ้าน คล้ายๆจะเป็นการปลดปล่อยดวงวิญญาณให้หลุดพ้นไปจากที่ตาย
พอเสร็จพิธีได้บอกให้ผมใส่บาตรกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ดวงวิญญาณดวงนั้น เขาก็เลยถือโอกาสทำบุญบ้านด้วยเลย นิมนต์พระมาที่บ้านด้วย
ระหว่างที่พระกำลังสวดอยู่นั้น อยู่ๆ ผีเข้าสิงลูกสาวตัวเล็ก หัวเราะเสียงดังด้วยเสียงของผู้ชายแล้วชี้หน้ามาที่ผม บอกว่า
ทำไม่ถูก ให้หมอผีมาไล่กู
กูไม่ชอบ แต่ตอนนี้กูจะไปแล้ว
ทำดีแล้วที่ให้หมอผีมาเชิญดวงวิญญาณกู กูไม่ชอบให้ใครมาไล่ กูไม่พอใจ
แต่ตอนนี้เชิญ กูจะไปแล้ว ว่าอย่างนั้น
/// จบ ///
ถุงมือสยอง
รายชื่อให้เลือกตอบ
ฝ่ายชาย
1. B-thirteen
2. Christian TG.
3. GTW
4. kasareev
5. KTHc
6. ruennara
7. Soul Master
8. สมาชิกหมายเลข 5212378 (TOSHARE)
9. WANG JIE (พฤษภเสารี)
10. จอมยุทธนักสืบ
11. แจ็ค ในสวนถั่ว
12. ลุงแผน
13. ลูนาติก
14. สวนดอก
15. สมาชิกหมายเลข 3188982 (วนิล)
16. ส.สัตยา
ฝ่ายหญิง
1. Lady Star 919
2. สมาชิกหมายเลข 2326325 (ladylongleg)
3. peiNing
4. Susisiri
5. เกสรผกา
6. นลินมณี
7. รัชต์สารินท์
8. สมาชิกหมายเลข 5221626 และ 2657857 (ลิงน้อย)
*** จะประกาศวันเฉลย หลังจากวางภาพปริศนาเรียบร้อยแล้ว ครับผม ***
THE LEISURE GLOVES ถุงมือยามว่าง# 8 เรื่องสั้น "เสียงฝีเท้าบนหลังคา" (ถุงมือสยอง)
เป็นเรื่องราวของครอบครัวๆ หนึ่งซึ่งอยู่ในบ้านของลุงคนหนึ่ง และบ้านนี้หัวหน้าครอบครัวก็มีส่วนช่วยสร้าง พอลุงแกตายไป เรื่องแปลกๆ ก็เกิดขึ้น
สาเหตุเกิดจากอะไร ลุงเจ้าของบ้านที่ตายไปมาหลอกหลอนรังควาญหรือ ?
ไปตามหาคำตอบกันครับ!
บ้านหลังนี้ทำจากไม้หลังคาสังกะสี เมื่อหลายปีก่อนผมเคยมาช่วยสร้าง แม้ช่วยด้านแรงงานได้เล็กๆ น้อยๆ เป็นลูกมือช่างที่ลุงจ้างมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงอีกที
ในคืนแรกแทบไม่เป็นอันหลับอันนอน ด้วยมีเสียงดังแปลกๆ อยู่บนหลังคาคล้ายมีคนเดินย่ำไปมา
ผมตลบมุ้งขึ้นมาเงี่ยหูฟังเสียง เมียกับลูกกอดกันแน่นเงยหน้ามองไปเบื้องสูงเช่นเดียวกัน
เสียงคล้ายฝีเท้าเดิน คล้ายๆ ว่าจะลากฝ่าเท้าครูดไปกับลอนทำให้เกิดเสียงแกรกกรากๆ
พอเงียบเสียงไปบ้าง เราค่อยเอนกายดึงผ้าห่มคลุมตัวจะหลับ ไม่นานมันกลับดังขึ้นมาอีก ทำให้เดือดร้อนนอนไม่หลับ
รุ่งเช้าผมเก็บความสงสัยไปถามป้าข้างบ้าน ยืนคุยโดยมีรั้วกั้น
ป้ามีเส้นผมหยิกฟูเหมือนรังไก่ฟักไข่หงอกเกือบหมดหัว ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาเบิกโพลงคล้ายคนโดนผีหลอกมา ปากสั่นริกขยับแสนยากเย็น
มือเหี่ยวนิ้วชี้นิ้วค้างไว้มาที่บ้านของผม
แล้วคำแรกที่แกหลุดมาได้บอก บ้านนี้มีผีสิง ขอให้ผมไปหาหมอผีมาไล่ที
ถ้าผีที่ว่าของป้า คงจะหมายถึงลุงอ่ำ เพราะแกพึ่งจะเสียชีวิตไปได้ไม่นาน ดวงวิญญาณไม่ไปผุดไปเกิด
ผมส่ายหน้า หัวเด็ดตีนขาดไม่เชื่อ มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อลุงสมัยมีชีวิตรักผมมาก แกไม่มีลูกไม่มีเมีย ตอนสร้างบ้านผมยังมาช่วย บ้านหลังนี้เลยตกทอดมาถึงผม แล้วลุงอ่ำจะมารบกวนผมทำไม
ในคืนที่สอง เรานอนในมุ้งเดียวกันสามคนพ่อแม่ลูก โดนผีหลอกอีกจนไม่เป็นอันหลับอันนอน
เสียงฝีเท้าย่ำเดินวนเวียนอยู่บนหลังคาดังแกรกกรากๆ
เราจึงปรึกษากันเด็ดขาดพรุ่งนี้จะหาหมอผีมาไล่
หมอผีมาที่บ้านทำพิธี และบอกด้วย นั่นน่ะมันคือดวงวิญญาณผีร่อนเร่พเนจร มันเห็นที่ไหนอยู่ได้มันก็อยู่
ทำให้ผมโล่งอก มันต้องไม่ใช่ผีของลุงแน่ที่มาหลอกหลอนแน่
หลังจากให้หมอผีได้กลับไปแล้ว เราโล่งใจจะได้บ้านของเราคืนโดยปราศจากสิ่งรบกวน
คืนนั้นผมรู้สึกนอนไม่หลับ นอนพลิกตัวไปมา แม้เมียสาวยังลืมตาอยู่เช่นเดียวกัน
เวลาผ่านไปจนดึกดื่น อยู่ๆ แมลงกลางคืนที่หรีดริ่งอยู่ก็เงียบเสียงลงกะทันหันเหมือนกับถูกรบกวนจากสิ่งหนึ่งใด
เสียงแกรกกรากๆ คราวนี้มันดังจากข้างบ้านที่ค่อนข้างกว้าง ฟังดูคล้ายเสียงย่ำใบไม้แห้ง
ผมสลัดความลังเลลุกออกมาจากที่นอนออกมาที่ระเบียงท่ามกลางความมืด ยืนอยู่คนเดียวเงียบๆ
“เอ..ไล่ผีไปแล้วนี่ มันอะไรกันอีก”
ผมยืนนิ่งอยู่นานเพื่อจับกระแสเสียงบางอย่าง เสียงที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ในหมู่ดงกล้วยที่ลุงปลูกไว้ ใบมันไหวยวบยาบ ทั้งที่รู้สึกอากาศอบอ้าวไม่มีลมพัดผ่านมาเลย
แล้วขนในกายมันตั้งชัน ต้องก้าวเท้าถอยมาจากระเบียง
ตรงนั้นมันเหมือนมีใครคนหนึ่งยืนอยู่เป็นเงาดำ
พอผมขยี้ตามองให้ดี เงาดำมันหายไป มีเพียงต้นกล้วยเป็นฉากหลัง
ลมอ่อนคล้ายจะพัดเอากลิ่นสาบสางลอยมาอีก
มันเป็นคืนเดือนมืดอันแสนเงียบสงัด เจ้าหมาด่างของป้าข้างบ้านที่ปกติกลางวันจะเห่าหอนเสียงดังรบกวน ตกกลางคืนมันกลับหลบนอนเงียบ
ผมทำท่าจะเคลื่อนย้ายตัวไปจากระเบียง
ในวินาทีนั้นเอง ผมต้องผงะ
เงาดำนั้นปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง มันลอยสูงขึ้นมาในระดับระเบียงที่ผมยืนอยู่ ลอยมาหยุดอยู่เบื้องหน้าห่างไม่ถึงวา
ผมตัวชาดิกแทบก้าวขาไม่ออก ไม่กล้าแม้แต่จะแหกปากร้องออกมา สิ่งที่ทำได้คือยกมือไหว้ ร้องขอผีให้ไปผุดไปเกิด อย่ามาหลอกหลอนกันอีกเลย
กลัวจนจะบ้าไปหมดทั้งบ้านแล้ว คล้ายจะมีเสียงแหบพร่าออกมาจากร่างนั้น
มันพลันหายไปเพียงพริบตาเดียว
ร่างของผมทรุดฮวบลงไปนั่งสารภาพ กลัวจนแข้งขามันอ่อนไปหมด
รุ่งเช้าผมได้เอาเรื่องนี้ไปพูดคุยป้าข้างบ้าน จุดนัดพบเดิมคือข้างรั้ว
สภาพแกย่ำแย่มากเหมือนศพลุกเดินออกมาจากโลง
เมียได้ตามมาพูดคุยด้วยเป็นสามคน
ป้าแกบอก ชาวบ้านย่านนี้รู้กันหมด บ้านหลังนี้มีผีสิง ถ้าไม่หาทางไล่ผีออกไป แกจะย้ายหนี เพราะกลางคืนโดนผีกวนเช่นกัน
ผมถอนหายใจยาว เป็นอันว่าหมอผีที่หามาวันก่อนขับไล่ผีไปไม่ได้
เวลานี้มีอยู่สองทางเลือก หนึ่งคือย้ายหนี สองคือปักหลักอยู่ที่นี่หาหมอผีมาไล่ผีอีกครั้ง
ตะวันตกดินเข้ามืดค่ำเร็วมาก เราสามคนพ่อแม่ลูกกำลังนั่งล้อมวงกินข้าว พลันได้เงยหน้าขึ้น
เสียงดังแกรกรากๆ บนหลังคาสังกะสีโครงไม้มันยวบลงจากน้ำหนักกดลงมา ลูกสาวตัวเล็กหวีดร้องสุดเสียง เข้ามาซุกกอดกับอกแม่ ไม่เป็นอันกินข้าว
ผมได้แต่เงยหน้าริมฝีปากสั่น ทำอะไรไม่ได้ แรกนึกจะก่นด่าขึ้นไป พอสติยังยับยั้งไว้ ลุกขึ้นทรงตัวด้วยเข่า ยกมือไหว้
จะขอนอนไปอีกคืน รุ่งเช้าจะย้ายไปแล้ว จะไม่ขออยู่ที่นี่อีก
ขาดคำที่เปล่งวาจาออกไป เสียงแกรกกรากหยุดลง คล้ายจะยืนนิ่งรับฟัง
เสียงแหบพร่าดังมา มันไม่ได้ดังนัก คล้ายจะสื่อถึงหูโดยตรง
ผีมันบอกว่า ถ้าโกหกมันจะเอาตายหมดบ้าน จากนั้นจึงเงียบเสียงไป
ผมพลอยโล่งอก แต่คืนนั้นยังคงข่มตาหลับยากอยู่ดี
นึกถึงหน้าตาของป้าข้างบ้าน แกคงไม่ได้หลับมานานกว่าอีก สภาพถึงได้ดูย่ำแย่ขนาดนั้น
ตอนเช้าอาศัยดักรอพบพระมาบิณฑบาต เล่าเรื่องความเดือดร้อนให้ฟัง
หากไม่แก้ไขอะไร เห็นทีวันนี้ต้องได้ย้ายบ้าน ไม่เช่นนั้นผีมันจะเอาตายกันทั้งบ้าน
หลวงพ่อนิ่งฟังแล้วแนะนำให้รีบไปหาหมอผีคนหนึ่งให้มาไล่
หมอผีคนนี้เป็นหมอดูด้วย ได้ตรวจดูว่าผีไปยังไงมายังไงถึงได้มาอยู่บ้านหลังนี้ได้ จนได้รู้ว่า ผีก็คือดวงวิญญาณของช่างที่มาปลูกบ้านให้ลุงแล้วเกิดพลัดตกลงมาคอหักตาย ดวงวิญญาณยังคงวนเวียนอยู่ที่บ้านหลังนี้
ผมพอจะจำได้แล้ว ช่างคนนี้เป็นคนตัวใหญ่ เงาดำนั่นก็สูงใหญ่เหมือนกัน
แต่เรื่องมันเกิดขึ้นมานานมากแล้วหลายสิบปี ตอนนั้นปลูกบ้านใหม่ จนตอนนี้บ้านเก่าทรุดโทรมหมดแล้ว
หมอผีบอกว่าจะไปไล่ไม่ได้ เขาไม่ได้อยากอยู่ที่บ้านหลังนั้น แต่เพราะเขาตายที่นั้น วิญญาณก็เลยต้องสิงสู่อยู่นั่นที่ซึ่งเขาสิ้นลง
หมอผีบอกจะทำพิธีเชิญดวงวิญญาณออกไปจากบ้าน คล้ายๆจะเป็นการปลดปล่อยดวงวิญญาณให้หลุดพ้นไปจากที่ตาย
พอเสร็จพิธีได้บอกให้ผมใส่บาตรกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ดวงวิญญาณดวงนั้น เขาก็เลยถือโอกาสทำบุญบ้านด้วยเลย นิมนต์พระมาที่บ้านด้วย
ระหว่างที่พระกำลังสวดอยู่นั้น อยู่ๆ ผีเข้าสิงลูกสาวตัวเล็ก หัวเราะเสียงดังด้วยเสียงของผู้ชายแล้วชี้หน้ามาที่ผม บอกว่า
ทำไม่ถูก ให้หมอผีมาไล่กู
กูไม่ชอบ แต่ตอนนี้กูจะไปแล้ว
ทำดีแล้วที่ให้หมอผีมาเชิญดวงวิญญาณกู กูไม่ชอบให้ใครมาไล่ กูไม่พอใจ
แต่ตอนนี้เชิญ กูจะไปแล้ว ว่าอย่างนั้น