14 Juillet...Bonne Fête Nationale...พากันเที่ยววันชาติฝรั่งเศส

หากใครก็ตามได้ผ่านการร่ำเรียนภาษา หรือศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสมา คงจะจดจำได้ขึ้นใจว่า วันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ.1789 นั้นได้เกิดการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศฝรั่งเศสขึ้น การปฏิวัติในครั้งนั้นนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นระบอบสาธารณรัฐ และยึดถือเป็นระบอบปกครองของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน

และด้วยเหตุนี้ วันที่ 14 กรกฎาคมของทุกปีจึงถือว่าเป็นวันชาติ หรือ la fête nationale ของชาวฝรั่งเศส ซึ่งเราจะได้พบกับการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ได้ทั่วไปตามท้องถนนหนทางในกรุงปารีส ไม่ว่าจะเป็นขบวนพาเหรดของทหาร ตำรวจ และหน่วยงานราชการต่างๆบริเวณประตูชัย L’arc de Triomphe รวมไปถึงโชว์เครื่องบิน โชว์พลุยามค่ำคืน บริเวณหอไอเฟล เป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ และอดใจที่จะรอชมแทบไม่ไหว
เมื่อโอกาสพิเศษแบบนี้มาถึง เราก็ไม่พลาดที่จะบันทึกภาพเหตุการณ์บางส่วนมาฝากทุกคน

แพลนของเราวันนี้คือการพาเพื่อนเที่ยวในเมืองปารีสช่วงกลางวัน แล้วไปรอดูพลุที่สวน Champs de Mars บริเวณใกล้หอไอเฟลในตอนกลางคืน

ตั้งแต่เช้า เราเริ่มด้วยการออกเดินทางไปสนามบินเพื่อต้อนรับเพื่อนสาวที่เดินทางมาเที่ยวฝรั่งเศสในวันชาติ เธอเลือกช่วงเวลาได้พอเหมาะพอดี แต่อาจจะเป็นการคาดการณ์จังหวะเวลาพลาดไปเล็กน้อย ทำให้เราพลาดชมขบวนพาเหรดบริเวณประตูชัยไปอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่เป็นไร เราเก็บภาพโชว์เครื่องบิน ถ่ายจากบริเวณสวน Tuileries ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ลูฟว์มาฝากทุกคนได้ทัน

ภาพโชว์เครื่องบินเหล่านี้ ขอยกความดีความชอบทั้งหมดให้รุ่นน้องชายหนุ่มหนึ่งเดียวในทริป นามสมมติ BENTSU ลองเลื่อนลงไปรับชมภาพถ่ายสวยๆประกอบ เพื่ออรรถรสได้เลยค่ะ

ใครที่สนใจมาดูโชว์เครื่องบินแบบนี้ในปีหน้า ขอแนะนำให้มารอชมได้บริเวณใกล้ๆสวน Tuileries เลย

อ้อ ทางเราเดินผ่านพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ ในวันนั้นพอดี และพบว่าพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมฟรีในวันชาติด้วยนะคะ ยังไงถ้าหากปีหน้าใครสนใจแวะมาที่นี่ ลองเช็ครายละเอียดดูนะคะ คุณอาจจะได้มีโอกาสเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์และภาพโมนาลิซ่ากันแบบฟรีๆไปเลย

 

หลังจากเสร็จสิ้นการแสดงโชว์เครื่องบินที่สวน Tuileries เราตัดสินใจกันว่าจะแวะเข้าไปที่ Musée d’Orsay หรือ พิพิธภัณฑ์ Orsay ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวน Tuileries ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที ตามระยะทางปกติ และคงจะเป็นโชคดีของเราอีกแล้ว เพราะระหว่างทางเราเดินสวนกับขบวนมอเตอร์ไซค์สุดเท่ของคุณตำรวจ คูลมาก คาดว่าคงจะเป็นขบวนที่กลับจากประตูชัย นอกจากนี้ยังคงได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินวนไปมาบนอากาศอยู่เนืองๆ ได้ยังเพียงแค่เสียงยังรู้สึกว่าเท่ไม่หยอก

เฮลิคอปเตอร์บินวนไปมา เเค่เสียงก็เท่เเล้วฮ่ะ
แก๊งมอเตอร์ไซค์สุดเท่ของคุณตำรวจ

เอาหล่ะค่ะ พากันไปต่อที่เรื่องของ Musée D’Orsay พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เน้นไปที่การรวบรวมงานศิลปะสมัยใหม่และผลงาน Impressionism ค่ะ ภาพเขียนเด่นๆก็คงเป็นผลงานของโมเนต์ เช่น ภาพ Le déjeuner sur l’herbe เป็นต้น

ตั๋วค่าเข้าพิพิธภัณฑ์มีราคาอยู่ที่ 18 ยูโรค่ะ สามารถใช้ได้สำหรับ Musée d’Orsay และพิพิธภัณฑ์ Orangerie ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกันด้วย
ภาพด้านล่างนี้เป็นบริเวณชั้นหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ Orsay ค่ะ
หลังจากชื่นชมกับงานศิลปะกันเรียบร้อย เราก็แวะเติมพลังกันที่ริมแม่น้ำแซน ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์

อาหารวันนี้มาในตีมครัวไกลบ้านค่ะ ข้าวไข่ขยี้ สปาเกตตี้เพสโต้แบบปลอมๆ ขนมกรุบกรอบ บานอฟฟี่สำเร็จรูป ผลไม้อีกนิดหน่อย ตุนให้พร้อมสำหรับวันที่แสนยาวนานในวันนี้

หลังจากอิ่มท้องเราก็ไปต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์ Orangerie เพื่อชื่นชมผลงานภาพชุด Water Lilies ของคุณลุงโมเนต์ ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์นี้คือ ภาพเขียนขนาดใหญ่ทั้งแปดภาพภาพที่วางเรียงกันในห้องโล่งสีขาว สร้างความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย สบายตา เหมือนได้หลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอก และพักผ่อนสายตาด้วยภาพเขียนบ่อบัวที่สงบนิ่งภายในพิพิธภัณฑ์

ดูภาพบางส่วนได้ที่ด้านล่างนี้เลย

เอาไว้ในกระทู้ต่อๆไปเราจะมาแนะนำพิพิธภัณฑ์ทั้งสองให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น

 

ดูภาพเขียน เสพย์ศิลปะกันจนเสร็จสิ้น กิจกรรมต่อไปของเราคือ การเดินไปเรื่อยๆเพื่อชมเมืองปารีสรอบๆ เพื่อรอเวลา

ระหว่างทางที่เดินก็ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ

พอใกล้เวลาห้าโมงเย็น เราก็พากันย้ายก้นไปที่ Champ de mars ซึ่งตามกำหนดการที่เช็คมา เขาบอกว่าคอนเสิร์ตจะเริ่มเวลา 3 ทุ่ม โดยจะมาในรูปแบบของดนตรีคลาสสิคประกอบกับการขับร้อง

แต่ดูเอาเถอะค่ะ ภาพที่ถ่ายมาด้านล่างคือ ช่วงเวลาราวๆห้าโมงเย็น คนแน่นมาก อย่างที่บอกว่าวันนี้เป็นงานเฉลิมฉลองที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของชาวฝรั่งเศส ก็ไม่แปลกค่ะที่คนจะแน่นขนาดนี้ ทางเราใช้เวลาอยู่พักใหญ่ๆกว่าจะหาหลุมลงไปนั่งได้

ระหว่างนั่งรอก็พูดคุยเม้ามอยกับเพื่อนไปเรื่อย กิจกรรมของชาวฝรั่งเศสที่มานั่งรอ ก็ไม่พ้นการนั่งพูดคุย เล่นไพ่ นอนเล่นเอาตัวผึ่งแดด ส่วนทางเราชาวไทย-จีนขออนุญาตเอาหน้ามุดหลังเพื่อน หันหลังให้แดด กินขนม ถ่ายรูปเล่นกันค่ะ


นั่งเม้ามอยกันไปเรื่อยจนถึงเวลาสามทุ่ม คอนเสิร์ตก็ยังไม่มาค่ะ ตามไสตล์ฝรั่งเศสค่ะ quart d'heure de politesse หรือแปลเป็นไทยได้ว่า สาย 15 นาทีตามมารยาท พอถึงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม 15 นาที คอนเสิร์ตก็เริ่มขึ้นค่ะ


และแล้วช่วงเวลาของคอนเสิร์ตที่แท้จริงก็เริ่มต้นขึ้น เพลงแรกที่เริ่มขึ้นมา คือ เพลงประกอบละครเวทีชื่อดังอย่าง Carmen เพลงมีชื่อว่า L’amour est un oiseau rebelle เนื้อหาเพลงก็เป็นการเปรียบเทียบความรักเหมือนนกที่ไม่สามารถทำให้เชื่องได้ ความรักไม่มีกฎเกณฑ์ ต่อให้คุณไม่รักฉัน ฉันก็ยังรักคุณ


คุณคะคุณขา ทางเราฟินมากเพราะว่าตอนเรียนมีโอกาสได้ทำพรีเซ้นเตชั่นเกี่ยวกับเพลงนี้ ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม เรากับเพื่อนคุยกันว่าถ้าเพลงจาก Carmen ดังฉันจะกรี๊ด และแล้วก็ได้กรี๊ดค่ะ ปลื้มสุดๆ เหมือนอารมณ์ว่าได้คอมพลีทสเต็ปของการเรียนภาษาฝรั่งเศส จริงๆหาฟังที่ไหนก็ได้ค่ะ แต่โอกาสพิเศษในวันชาติ ที่หอไอเฟลแบบนี้ มันเปรมใจค่ะ


จริงๆก่อนมาเราคิดว่าเราคงจะเบื่อน่าดูกับการนั่งฟังดนตรีคลาสสิค เสียงเพลงออเครสต้าตั้งเกือบสองชั่วโมง แต่พอได้มาดูจริงๆ มันดีมากค่ะคุณขา แนะนำเลยว่าปีหน้าใครได้มาเที่ยวในวันชาติแบบนี้ห้ามพลาด เสียงดนตรีเพราะๆบรรยากาศดีๆ ฟินเวอร์ ฟินแท้ๆ


หลังจากคอนเสิร์ตจบ เราก็เตรียมตัวแหงนหน้ารอพลุ แต่ก่อนจะเริ่ม ก็มีการปลุกระดมความฮึกเหิมโดยการเชิญชวนผู้คนในงานร่วมกันขับร้องเพลงชาติฝรั่งเศส ทางเราได้เนื้อร้องบ้างเพียงช่วงเริ่มต้นเพลงค่ะ แต่คุณน้อง BENTSU และเพื่อนสาวนามสมมติ Kennie เปล่งเสียงดังฟังชัด บอกเลยว่าอาจารย์ผู้สอนวิชาวัฒนธรรมฝรั่งเศสของเราไม่ผิดหวังแน่นอน


เมื่อเสียงเพลงชาติจบลง การแสดงพลุก็เริ่มขึ้น ต้องบอกเลยว่าอลังการ สวยงามเหลือเกิน จังหวะของพลุแต่ละชุดที่ออกมาพร้อมกับเสียงเพลงจังหวะต่างๆ งดงามมากจริงๆ มันเป็นความรู้สึกที่แกรนด์สุดๆ


ยังไงเราขอปิดท้ายกระทู้นี้ด้วยรูปภาพบางส่วนของวิวหอไอเฟล และภาพพลุที่พอมีความชัดอยู่บ้าง เนื่องจากกล้องของเราในวันนั้นไม่สามารถเก็บภาพพลุได้ชัดเจน จึงออกมาเบลอวะเอียดเวยจ้ะ แต่ยังไงก็ตาม เราคิดว่าน่าจะทำให้ทุกคนได้มีโอกาสเห็นบรรยากาศในวันนั้นโดยรวมอยู่บ้าง

 

ใครมีโอกาสได้มาเที่ยวปารีสปีหน้าในช่วงวันชาติ เราขอแนะนำเลยค่ะ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง


แล้วพบกันใหม่ในกระทู้ต่อไป รอดูว่าเราจะพากันไปเที่ยวที่ไหน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่