หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ... เขาเหมียนซาน (绵山, Mt. Mianshan) ...
กระทู้รีวิว
เที่ยวต่างประเทศ
ได้มีโอกาสกลับไปร่วมทริปกับพี่ ๆ และเพื่อน ๆ เป็นรอบที่ 3 เมืองซีอานเป็นเมืองที่ไปแล้วต้องมนต์สะกดมาก เราเที่ยวจีนมาหลายเมือง แต่ซีอานเป็นอะไรที่เราชอบมาก ไม่เบื่อที่จะกลับไปย่ำรอยเท้าเดิม ๆ ความที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน การเดินทางครั้งนี้จึงเลือกเมืองซีอานเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอีกครั้ง
เราเดินทางกันระหว่างวันที่ 15 - 21 พฤษภาคม 2562 บินไปลงซีอาน ไฟท์ในช่วงเดือนที่ไปไม่ค่อยดีเลย ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 16.40 น. ถึงสนามบินเซียงหยาง เวลา 21.35 น. จึงต้องให้โรงแรมจัดรถมารับที่สนามบิน และจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงจากเมืองซีอานไปยังเมืองโบราณผิงเหยาผ่าน China Easy Ticket พักที่เมืองโบราณผิงเหยา 4 วัน 3 คืน ติดต่อที่พักให้ส่งรถมารับกรุ๊ปเราที่สถานีรถไฟ ทริปนี้ สว. แยะ และแพลนกันว่าจะเช่ารถเที่ยวเมืองรอบ ๆ เมืองผิงเหยา
ก่อนวันเดินทางเจอเว็บที่เขียนเกี่ยวกับเขาเหมียนซาน อารามต้าหลัวกง ตำหนักเซียน ทำให้สนใจ ข้อมูลอื่น ๆ ไม่มี ไม่รู้ว่าสถานที่นี้อยู่ตรงไหนในประเทศจีน และระหว่างนั่งรถไฟความเร็วสูงมายังเมืองโบราณผิงเหยาเห็นวัดจำนวนมากตั้งอยู่บนหน้าผาบนเขาสูง ทำให้นึกถึงวัดเสวียนคง พอเข้าที่พักก็เปิดเว็บถามคนขับรถให้พี่ที่เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนถามไถ่ให้ก็ไม่ได้อะไร แต่พอวันรุ่งขึ้น เขามาบอกว่าจะพาพวกเราไป ดวงมันจะได้ไปอะไร ๆ มันเลยง่ายไปหมด
จะว่าเป็นเหตุบังเอิญ แต่ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง ทุกสิ่งที่อย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ล้วนเป็นกรรมลิขิตทั้งสิ้น ครั้งนี้ก็คงเป็นเช่นกัน
แผนที่และข้อมูลเกี่ยวกับเขาเหมียนซาน เพิ่งเจอเมื่อคืนจากเว็บ
>>
https://www.travelchinaguide.com/cityguides/shanxi/jinzhong/mianshan-mountain.htm
ข้อมูลภาษาไทยที่เราพบก่อนการเดินทาง >>
https://www.facebook.com/AsianStudiesTH/posts/d41d8cd9/1841794085895498/
"เทือกเขาเหมียนซานเป็นตอนหนึงของเทือกเขาไท่เย่ว ตั้งอยู่ในเขตเจี้ยซิว ภาคกลางของมณฑลซานซี มีอาณาเขตถึง 136 ตารางกิโลเมตร มี 14 ทิวทัศน์ หลัก 360 ทิวทัศน์ย่อย มียอดเขาสูงสุด 2,568 เมตรจากระดับน้ำทะเล เทือกเขาแห่งนี้เกี่ยวพันกับเจี้ยจื่อทุย และเป็นจุดเริ่มต้นของเทคกาลเชงเม้งเซ่นไหว้บรรพบุรุษมายาวนานกว่า 3,000 ปีของจีน
เราเช่ารถมาสองคัน สำหรับ 10 คน คันละ 400 หยวน รถคันเรามาถึงทางเข้าเหมียนซานก่อน รอกันอยู่นานรถอีกคันยังก็ยังไม่มา ติดต่อก็ไม่ได้ เราเลยตัดสินใจเข้าไปก่อน และไลน์พิมพ์ข้อความบอกให้พี่ ๆ ตามเข้าไป ที่นี่มีทางเข้า-ออกทางเดียว ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะหากันไม่เจอ ค่าธรรมเนียมเข้าคนละ 180 หยวน ท่านใดที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีส่วนลดให้พิเศษด้วย ดีต่อใจจริง ๆ ปีหน้าถ้าเรามาอีก เราก้อจะได้ใช้สิทธิ์นี้
ด้านในจะมีรถบัสขนาดใหญ่วิ่งรับ-ส่งบริการ ดูจากหน้าตาของคนที่มาที่นี่ มีแต่เจ้าของประเทศ
เห็นรูปปั้นยืนเงยหน้าแบบนี้ ทำให้คิดถึงสุภาษิตจีน ที่ว่า "เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน"
มาต่อกันด้วยความเป็นมาของที่นี่
"เล่ากันว่าในสมัยชุนชิว จิ้นเสี้ยนกงเจ้าผู้ครองแคว้นจิ้น หลงเสน่ห์เมียน้อยชื่อหลีจี ซึ่งนางต้องการให้บุตของนางขึ้นเป็นรัชทายาท บุตรชายทั้งสามของเมียหลวง จึงต้องหนีเอาตัวรอดกลายเป็นเจ้าชายพเนจร เจ้าชายคนที่สองชื่อ "ฉงเอ่อร์" หนีหัวซุกหัวซุน เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นอื่น ๆ มีครั้งหนึ่งฉงเอ่อร์อดข้าวจนเป็นลม เจี้ยจื่อทุยผู้เป็นอำมาตย์ที่ซื่อสัตย์ไม่รู้จะไปหาอาหารจากที่ใด จึงยอมเฉือนเนื้อจากต้นขาของตนเองหนึ่งชิ้น จัดการย่างให้สุก แล้วให้ฉงเอ่อร์ทาน บอกว่าเป็นเนื้อกระต่ายป่า ฉงเอ่อร์จึงรอดจากความตาย
ผ่านไป 19 ปี บุญพาวาสนาส่ง ฉงเอ่อร์ได้เป็นใหญ่ กลับมาครองแคว้นจิ้นของบิดา มีนามว่า "จิ้นเหวินกง" ได้ตอบแทนคุณผู้เคยจงรักภักดีต่อพระองค์อย่างถ้วนทั่ว แต่กลับลืมชื่อของเจี้ยจื่อทุย ทว่าเจี้ยจื่อทุยไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจ กลับไปดูแลมารดาบนภูเขา กระทั่งเมื่อมีผู้ทักท้วน จิ้นเหวินกงจึงจำได้ รับสั่งให้คนไปติดตามตัวเจี้ยจื่อทุยมาเข้าเฝ้า
จิ้นเหวินกงให้คนไปตามเจี้ยจื่อทุย แต่ด้วยภูเขาเหมียนซานมีความกว้างใหญ่มาก จึงตามหาไม่พบ จิ้นเหวินกงจึงให้จุดไฟเผาไม้บนเขาไว้สามทาง เหลืองทางลงเขาไว้ทางเดียว โดยคิดว่าเจี้ยจื่อทุยต้องพามารดาลงจากเขามาทางนั้นแน่
ไฟไหม้ลุกไหม้ป่าอยู 3 วัน ก็ไม่มีวี่แววของเจี้ยจื่อทุย พอเพลิงสงบ ทหารจึงได้ออกค้นหา ก็พบศพของเจี้ยจื่อทุยพร้อมกับมารดาของเขา ถูกไฟครอกตายอยู่ใกล้กลับซากต้นหลิวขนาดใหญ่ ยังพบชายเสื้อของเจี้ยจื่อทุยเขียนจดหมายลาตายถึงจิ้นเหวินกงด้วยโลหิต โดยเฉพาะคำว่า "ชิงหมิง" หรือ "เชงเม้ง" เพื่อเตือนสติจิ้นเหวินกงให้ "สะอาดและโปร่งใส" "เข้าใจอะไรถูกอะไรควร" และเป็นที่มาของคำว่า "เชงเม้ง"
จิ้นเหวินกงอ่านหนังสือโลหิตของเจี้ยจื่อทุยฉบับนั้นด้วยความโศกสลดยิ่งนัก สั่งการให้ฝังศพสองแม่ลูกอย่างสมเกียรติ ณ ภูเขาเหมียนซาน แล้วให้เปลี่ยนชื่อภูเขาลูกนี้เป็น "เจี้ยซาน" พร้อมสร้างอารามไว้อาลัยให้เจี้ยจื่อทุย และกำหนดให้วันที่เจี้ยจื่อทุยถูกไฟครอกตายเป็นวันห้ามจุดไฟ ให้ทานอาหารเย็น ๆ พอครบ 3 ปี จิ้นเหวินกงและข้าราชบริพาธต่างพากันไปเซ่นไหว้หลุมศพของเจี้ยจื่อทุย ก็พบว่าต้นหลิวที่ถูกไฟครอกไหม้ กลับแตกตาออกมาใหม่
จิ้นเหวินกงจึงตั้งชื่อต้นหลิวนี้ว่า "ชิงหมิงหลิ่ว" หรือต้นหลิวเชงเม้ง พร้อมรับสั่งให้ปวงประชาหลังวันทานอาหารเย็น ๆ เป็นวันเชงเม้ง เพื่อเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของเจี้ยจื่อทุยกับมารดาของเขา
ปัจจุบันชาวบ้านธรรมดาอาจลืมเลือนเรื่องราวของท่านเจี้ยจื่อทุย แต่ยังคงสืบสานประเพณีวันเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ทำความสะอาดสุสานเพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อบรรพบุรุษ
ทุกวันนี้บนโตรกผาอันสูงชันของเทือกเขาเหมียนซานหรือเจี้ยซาน ยังปรากฏสถานที่สำคัญหลายแห่งท่ามกลางภูมิทัศน์อันยิ่งใหญ่ตระการตา เช่น อารามต้าหลัวกง ตำหนักเซียนที่อยู่ชั้นสูงสุดตามความเชื่อของลัทธิเต๋า สร้างแนบภูผาชันของเหมียนซาน ที่ที่เคยเป็นที่พำนักของเจี้ยจื่อทุย
นอกจากจะมีการสร้างรูปเคารพของเจี้ยจื่อทุยแล้ว ยังมีการสร้างวัด เช่น วัดหยุนเฟิงแห่งผาเป้าฟู่ มีประวัติการสร้างมาตั้งแต่ยุคสามก๊ก อายุกว่า 1,700 ปี สร้างขึ้นไปบนหน้าผาเป้าฟู่ มีความสูง 60 เมตร ลึก 50 เมตร ยาว 180 เมตร มีตำหนักสองชั้น เป็นวัดพุทธรวมกับลัทธิเต๋า ภายในมีวิหารพระไวโรจนะ ตำหนักเง็กเซียนฮ่องเต้ ตำหนักห้ามังกร ฯลฯ ภายในเก็บรักษารูปปั้นเจี้ยจื่อทุยที่ชาวบ้านนับถือมากที่สุด และยังเก็บรูปมังสะกายของพระภิกษุชาวจีนฮั่นคนแรกที่บรรละพระอรหันต์ ภายในยังเก็บรักษางานจำหลักสมัยราชวงศ์ถึง ซ่ง หยวน และหมิงไว้เป็นจำนวนมาก เป็นต้น"
ขอบคุณข้อมูลจาก >>
https://www.facebook.com/AsianStudiesTH/posts/d41d8cd9/1841794085895498/
เราได้นั่งรถไปลงที่วัดหยุนเฟิงแบบงง ๆ เห็นคนลงกันแยะเลยลงไปตาม ไม่ทราบว่าเป็นวัดดัง และเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ทางขึ้นสูงมาก เราก็แกลังเดินมึน ๆ เข้าไปที่โรงแรม แล้วขึ้นลิฟท์มาออกชั้นที่ 10 ประหยัดแรงไปได้แยะ แต่ก็ไม่ได้เดินชมโดยรอบ เพราะเรานัดพี่ในรถอีกคันที่ตามมาว่าจะออกมาเจอกันัดตรงทางเข้าเวลา 14.00 น. เลยทำให้พลาดไปหลายอย่าง มีความตั้งใจจะกลับไปเมืองโบราณผิงเหยาอีกรอบ และจะกลับไปเก็บส่วนที่พลาดที่เขาเหมียนซาน
เป็นจุดแรกที่เราลงเก็บภาพสวย ๆ
แล้วเราก็ขึ้นรถบัสลอดประตูนี้ออกไป ระยะทางยาว และสวยมาก รถบัสรอไม่นานคะ
ลิฟท์ที่ขึ้นไปคะ ออกที่ชั้น 10 โรงแรมนี้ชื่อ "ํYunfeng Field Hotel" ด้านในมีโรงแรมหลายแห่ง ใครต้องการเที่ยวที่นี่แบบหลาย ๆ วัน ก็เข้าไปพักได้
วัดนี้ชื่อ "วัดหยุนเฟิงแห่งผาเป้าฟู่" (Yunfeng Temple and Baofu Rock) วัดนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 220 - 265 ในอาณาจักรเว่ย (Kingdom of Wei) ด้านบนของผาจะเห็นมีระฆังแขวนอยู่จำนวนมาก ทำให้เราจินตนาการขึ้นไปแขวนระฆัง โดยการใช้กำลังภายในแบบหนังจีน
เทพเจ้ากวนอู
เรานั่งรถไปลงสุดสาย และนั่งรถกลับออกมา มาลงจุดแรกที่ลง เพื่อขึ้นกระเช้าไปชมมุมสูง และมันก็สูงจริง เสียวมาก กระเช้าหนึ่งนั่ง 2 คัน ขาขึ้น 35 หยวน ขาลง 25 หยวน เดินลงไม่ไหวเข่าไม่ดี
ภาพมุมสูงจากกระเช้า
แล้วเราก็เห็น "วัดหัวมังกร" (Dragon Head Temple)
ใครไปเที่ยวเมืองโบราณผิงเหยา ที่นี่ขอแนะนำว่าควรไปคะ มาที่นี่ไม่ผิดหวัง สามารถเที่ยวได้ทั้งวัด สุดสายรถด้านในมีร้านอาหาร มีหลายจุดที่น่าสนใจ มีอารามบนเขาที่ต้องตะกายขึ้นไป ด้านในมีกระเช้าในขึ้น เสียดายที่ไม่ได้ขึ้นไปจุดสูงสุดของตำหนักเซียน
ส่วนที่ที่ไปเยี่ยมชมมา จะค่อย ๆ ทะยอยลงให้นะคะ โปรดดิตตามตอนต่อไป
"ป้อมปราการโบราณจางปิ (Zhangbi Ancient Fortress)" ***
https://pantip.com/topic/39077233
***
ชื่อสินค้า:
CHINA
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
... เมืองโบราณผิงเหยา (Ancient City of Pingyao) ... Part I
ขอเปิดภาพแรกด้วยเกสเฮ้าส์ที่เราพักกันที่เมืองโบราณผิงเหยา 4 วัน 3 คืน "Pingyao Hongyuyuan Guesthouse" เรามีความสุขกันมากที่พักที่นี่ นอนหลับสบายทุกคืน ราคาก็ไม่แพง เราจองผ่าน Booking มาจ่ายเ
arete
... เมืองโบราณผิงเหยา (Ancient City of Pingyao) ... Part II
>> เมืองโบราณผิงเหยา (Ancient City of Pingyao) ... Part I >>> https://pantip.com/topic/39079592 ขอเปิดภาพด้วย "รูปปั้นเหมือนเของจักรพรรดิเฉียนหลง แห่งราชวงศ์ชิง" ชอบ ๆ ดีต่อ
arete
ชวนเที่ยวคุณหมิง ฉงชิ่ง ลัวหยาง หยุนไถซาน จางเย่ ซีอาน 14-22เมษายน57
14/04/57 พร้อมกันที่สนามบินดอนเมืองเวลา07.00นขึ้นเครื่องไปคุณหมิงFD582 เวลา09.00-12.30น เหมารถเที่ยวตำหนักทอง เขาซีซาน วัดหยวนทง พัก Hump hostel 15/04/57 เวลา07.00นเหมารถเที่ยวป่าหิน น้ำตกต้าเตียสุ่ย
สมาชิกหมายเลข 1172468
อัพเดทข้อมูลการเที่ยว ซีอาน-ลั่วหยาง-ฉงชิ่ง ด้วยตัวเอง (เม.ย. 67)
พอดีเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวซีอาน-ลั่วหยาง-ฉงชิ่ง เพิ่งกลับมา (เม.ย. 67) เลยจะมาอัพเดท Tips & Tricks ที่ค้นพบให้ค่ะ ป.ล. นี่เป็นการเที่ยวจีนแบบลุยเองของเราครั้งแรก เราพูดจีนไม่ได้ อ่านจีนไม่ออก แต่ก็
@Dakki_Chan@
... วัดซวนลิน (Shuanglin Temple) ...
>>> ป้อมปราการโบราณจางปิ (Zhangbi Ancient Fortress) >>> https://pantip.com/topic/39077233 วัดซวนลิน (Shuanglin Temple) อยู่ห่างจากเมืองผิงเหยาประมาณ 6 กิโลเมตร มีประวัติศาสตร์ยาวน
arete
แบกเป้ไปปักกิ่ง -เมืองเก่าผิงเหยา -ต้าถง ถ้ำหยุนกัง วัดลอยฟ้า และกลับมาปักกิ่งไปยังไงดีครับ
ผมมีเวลาที่จีน 8 วัน แบกเป้ไปเองวางแผนว่าจะไปซานซี-ไท่หยวนก่อน 4 วัน แล้วค่อยมาที่ปักกิ่ง 3-4 วันรบกวนแนะนำเส้นทางด้วยครับ แผนคร่าวๆว่า จะไปลงปักกิ่งกลางคืนคิดว่าจะนอนที่สนามบินกลางคืนแรกไม่ได้จองโรง
สมาชิกหมายเลข 722130
กำลังวางแผนไปซีอาน ลั่วหยาง อยากทราบว่าไปวัดเส้าหลินยังไงครับ
กำลังวางแผนไปซีอาน และลั่วหยางครับ วันที่ไปลั่วหยาง วันแรกจะเที่ยว ถ้ำหลงเหมิน กับวัดกวนอู และนอนค้างลั่วหยางหนึ่งคืน วันที่ 2 ที่ลั่วหยาง อยากจะไปวัดเส้าหลิน มีรถบัสจากลั่วหยางไปไหมครับ แล้วถ้าเย็นวั
Rnopos
เที่ยวจีน ซีอาน-ลั่วหยาง @จีน (เส้นทางสายใหม่)
#ซีอาน - #ลั่วหยาง #เส้นทางสายไหม #SilkRoute #จีน ช่วงที่เราเดินทางไปเที่ยว คือเดือนกรกฎาคม ค่าเงินที่แลก 1หยวน = 4.6บาท แต่เวลาใช้จริงๆ คิดแบบx5 จะคำนวณง่ายกว่า #เส้นทางสายไหม ตามรอย มาร์โคโปโล ระย
StoryTripper#HD
ปฏิทินจีน (มองโกล)
. .. ในปี ค.ศ. 1276 จักรพรรดิกุบไลข่าน (忽必烈) ได้จัดตั้งสำนักไท่ซือ (太史局) โดยมีภารกิจเร่งด่วน คือ การสร้างปฏิทินใหม่ ที่ใช้ระบบดวงอาทิตย์ (สุริยคติ) แทนระบบดวงจันทร์ (จันทรคติ) (สำนักนี้ได้รับการย
ravio
🇨🇳 รายชื่อเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในจีน
### 🏙️ รายชื่อ 30 อันดับเมืองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในจีน (ข้อมูลทางการจีนปี 2024) *อ้างอิงข้อมูลจาก* สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) และรายงานการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น *อัตราแลกเปลี่ยน* 1 หยวน ≈ 5.0
สมาชิกหมายเลข 2909881
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 2
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ... เขาเหมียนซาน (绵山, Mt. Mianshan) ...
ได้มีโอกาสกลับไปร่วมทริปกับพี่ ๆ และเพื่อน ๆ เป็นรอบที่ 3 เมืองซีอานเป็นเมืองที่ไปแล้วต้องมนต์สะกดมาก เราเที่ยวจีนมาหลายเมือง แต่ซีอานเป็นอะไรที่เราชอบมาก ไม่เบื่อที่จะกลับไปย่ำรอยเท้าเดิม ๆ ความที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน การเดินทางครั้งนี้จึงเลือกเมืองซีอานเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอีกครั้ง
เราเดินทางกันระหว่างวันที่ 15 - 21 พฤษภาคม 2562 บินไปลงซีอาน ไฟท์ในช่วงเดือนที่ไปไม่ค่อยดีเลย ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 16.40 น. ถึงสนามบินเซียงหยาง เวลา 21.35 น. จึงต้องให้โรงแรมจัดรถมารับที่สนามบิน และจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงจากเมืองซีอานไปยังเมืองโบราณผิงเหยาผ่าน China Easy Ticket พักที่เมืองโบราณผิงเหยา 4 วัน 3 คืน ติดต่อที่พักให้ส่งรถมารับกรุ๊ปเราที่สถานีรถไฟ ทริปนี้ สว. แยะ และแพลนกันว่าจะเช่ารถเที่ยวเมืองรอบ ๆ เมืองผิงเหยา
ก่อนวันเดินทางเจอเว็บที่เขียนเกี่ยวกับเขาเหมียนซาน อารามต้าหลัวกง ตำหนักเซียน ทำให้สนใจ ข้อมูลอื่น ๆ ไม่มี ไม่รู้ว่าสถานที่นี้อยู่ตรงไหนในประเทศจีน และระหว่างนั่งรถไฟความเร็วสูงมายังเมืองโบราณผิงเหยาเห็นวัดจำนวนมากตั้งอยู่บนหน้าผาบนเขาสูง ทำให้นึกถึงวัดเสวียนคง พอเข้าที่พักก็เปิดเว็บถามคนขับรถให้พี่ที่เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนถามไถ่ให้ก็ไม่ได้อะไร แต่พอวันรุ่งขึ้น เขามาบอกว่าจะพาพวกเราไป ดวงมันจะได้ไปอะไร ๆ มันเลยง่ายไปหมด
จะว่าเป็นเหตุบังเอิญ แต่ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง ทุกสิ่งที่อย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ล้วนเป็นกรรมลิขิตทั้งสิ้น ครั้งนี้ก็คงเป็นเช่นกัน
แผนที่และข้อมูลเกี่ยวกับเขาเหมียนซาน เพิ่งเจอเมื่อคืนจากเว็บ
>> https://www.travelchinaguide.com/cityguides/shanxi/jinzhong/mianshan-mountain.htm
ข้อมูลภาษาไทยที่เราพบก่อนการเดินทาง >> https://www.facebook.com/AsianStudiesTH/posts/d41d8cd9/1841794085895498/
"เทือกเขาเหมียนซานเป็นตอนหนึงของเทือกเขาไท่เย่ว ตั้งอยู่ในเขตเจี้ยซิว ภาคกลางของมณฑลซานซี มีอาณาเขตถึง 136 ตารางกิโลเมตร มี 14 ทิวทัศน์ หลัก 360 ทิวทัศน์ย่อย มียอดเขาสูงสุด 2,568 เมตรจากระดับน้ำทะเล เทือกเขาแห่งนี้เกี่ยวพันกับเจี้ยจื่อทุย และเป็นจุดเริ่มต้นของเทคกาลเชงเม้งเซ่นไหว้บรรพบุรุษมายาวนานกว่า 3,000 ปีของจีน
เราเช่ารถมาสองคัน สำหรับ 10 คน คันละ 400 หยวน รถคันเรามาถึงทางเข้าเหมียนซานก่อน รอกันอยู่นานรถอีกคันยังก็ยังไม่มา ติดต่อก็ไม่ได้ เราเลยตัดสินใจเข้าไปก่อน และไลน์พิมพ์ข้อความบอกให้พี่ ๆ ตามเข้าไป ที่นี่มีทางเข้า-ออกทางเดียว ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะหากันไม่เจอ ค่าธรรมเนียมเข้าคนละ 180 หยวน ท่านใดที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีส่วนลดให้พิเศษด้วย ดีต่อใจจริง ๆ ปีหน้าถ้าเรามาอีก เราก้อจะได้ใช้สิทธิ์นี้
ด้านในจะมีรถบัสขนาดใหญ่วิ่งรับ-ส่งบริการ ดูจากหน้าตาของคนที่มาที่นี่ มีแต่เจ้าของประเทศ
เห็นรูปปั้นยืนเงยหน้าแบบนี้ ทำให้คิดถึงสุภาษิตจีน ที่ว่า "เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน"
มาต่อกันด้วยความเป็นมาของที่นี่
"เล่ากันว่าในสมัยชุนชิว จิ้นเสี้ยนกงเจ้าผู้ครองแคว้นจิ้น หลงเสน่ห์เมียน้อยชื่อหลีจี ซึ่งนางต้องการให้บุตของนางขึ้นเป็นรัชทายาท บุตรชายทั้งสามของเมียหลวง จึงต้องหนีเอาตัวรอดกลายเป็นเจ้าชายพเนจร เจ้าชายคนที่สองชื่อ "ฉงเอ่อร์" หนีหัวซุกหัวซุน เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นอื่น ๆ มีครั้งหนึ่งฉงเอ่อร์อดข้าวจนเป็นลม เจี้ยจื่อทุยผู้เป็นอำมาตย์ที่ซื่อสัตย์ไม่รู้จะไปหาอาหารจากที่ใด จึงยอมเฉือนเนื้อจากต้นขาของตนเองหนึ่งชิ้น จัดการย่างให้สุก แล้วให้ฉงเอ่อร์ทาน บอกว่าเป็นเนื้อกระต่ายป่า ฉงเอ่อร์จึงรอดจากความตาย
ผ่านไป 19 ปี บุญพาวาสนาส่ง ฉงเอ่อร์ได้เป็นใหญ่ กลับมาครองแคว้นจิ้นของบิดา มีนามว่า "จิ้นเหวินกง" ได้ตอบแทนคุณผู้เคยจงรักภักดีต่อพระองค์อย่างถ้วนทั่ว แต่กลับลืมชื่อของเจี้ยจื่อทุย ทว่าเจี้ยจื่อทุยไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจ กลับไปดูแลมารดาบนภูเขา กระทั่งเมื่อมีผู้ทักท้วน จิ้นเหวินกงจึงจำได้ รับสั่งให้คนไปติดตามตัวเจี้ยจื่อทุยมาเข้าเฝ้า
จิ้นเหวินกงให้คนไปตามเจี้ยจื่อทุย แต่ด้วยภูเขาเหมียนซานมีความกว้างใหญ่มาก จึงตามหาไม่พบ จิ้นเหวินกงจึงให้จุดไฟเผาไม้บนเขาไว้สามทาง เหลืองทางลงเขาไว้ทางเดียว โดยคิดว่าเจี้ยจื่อทุยต้องพามารดาลงจากเขามาทางนั้นแน่
ไฟไหม้ลุกไหม้ป่าอยู 3 วัน ก็ไม่มีวี่แววของเจี้ยจื่อทุย พอเพลิงสงบ ทหารจึงได้ออกค้นหา ก็พบศพของเจี้ยจื่อทุยพร้อมกับมารดาของเขา ถูกไฟครอกตายอยู่ใกล้กลับซากต้นหลิวขนาดใหญ่ ยังพบชายเสื้อของเจี้ยจื่อทุยเขียนจดหมายลาตายถึงจิ้นเหวินกงด้วยโลหิต โดยเฉพาะคำว่า "ชิงหมิง" หรือ "เชงเม้ง" เพื่อเตือนสติจิ้นเหวินกงให้ "สะอาดและโปร่งใส" "เข้าใจอะไรถูกอะไรควร" และเป็นที่มาของคำว่า "เชงเม้ง"
จิ้นเหวินกงอ่านหนังสือโลหิตของเจี้ยจื่อทุยฉบับนั้นด้วยความโศกสลดยิ่งนัก สั่งการให้ฝังศพสองแม่ลูกอย่างสมเกียรติ ณ ภูเขาเหมียนซาน แล้วให้เปลี่ยนชื่อภูเขาลูกนี้เป็น "เจี้ยซาน" พร้อมสร้างอารามไว้อาลัยให้เจี้ยจื่อทุย และกำหนดให้วันที่เจี้ยจื่อทุยถูกไฟครอกตายเป็นวันห้ามจุดไฟ ให้ทานอาหารเย็น ๆ พอครบ 3 ปี จิ้นเหวินกงและข้าราชบริพาธต่างพากันไปเซ่นไหว้หลุมศพของเจี้ยจื่อทุย ก็พบว่าต้นหลิวที่ถูกไฟครอกไหม้ กลับแตกตาออกมาใหม่
จิ้นเหวินกงจึงตั้งชื่อต้นหลิวนี้ว่า "ชิงหมิงหลิ่ว" หรือต้นหลิวเชงเม้ง พร้อมรับสั่งให้ปวงประชาหลังวันทานอาหารเย็น ๆ เป็นวันเชงเม้ง เพื่อเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของเจี้ยจื่อทุยกับมารดาของเขา
ปัจจุบันชาวบ้านธรรมดาอาจลืมเลือนเรื่องราวของท่านเจี้ยจื่อทุย แต่ยังคงสืบสานประเพณีวันเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ทำความสะอาดสุสานเพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อบรรพบุรุษ
ทุกวันนี้บนโตรกผาอันสูงชันของเทือกเขาเหมียนซานหรือเจี้ยซาน ยังปรากฏสถานที่สำคัญหลายแห่งท่ามกลางภูมิทัศน์อันยิ่งใหญ่ตระการตา เช่น อารามต้าหลัวกง ตำหนักเซียนที่อยู่ชั้นสูงสุดตามความเชื่อของลัทธิเต๋า สร้างแนบภูผาชันของเหมียนซาน ที่ที่เคยเป็นที่พำนักของเจี้ยจื่อทุย
นอกจากจะมีการสร้างรูปเคารพของเจี้ยจื่อทุยแล้ว ยังมีการสร้างวัด เช่น วัดหยุนเฟิงแห่งผาเป้าฟู่ มีประวัติการสร้างมาตั้งแต่ยุคสามก๊ก อายุกว่า 1,700 ปี สร้างขึ้นไปบนหน้าผาเป้าฟู่ มีความสูง 60 เมตร ลึก 50 เมตร ยาว 180 เมตร มีตำหนักสองชั้น เป็นวัดพุทธรวมกับลัทธิเต๋า ภายในมีวิหารพระไวโรจนะ ตำหนักเง็กเซียนฮ่องเต้ ตำหนักห้ามังกร ฯลฯ ภายในเก็บรักษารูปปั้นเจี้ยจื่อทุยที่ชาวบ้านนับถือมากที่สุด และยังเก็บรูปมังสะกายของพระภิกษุชาวจีนฮั่นคนแรกที่บรรละพระอรหันต์ ภายในยังเก็บรักษางานจำหลักสมัยราชวงศ์ถึง ซ่ง หยวน และหมิงไว้เป็นจำนวนมาก เป็นต้น"
ขอบคุณข้อมูลจาก >> https://www.facebook.com/AsianStudiesTH/posts/d41d8cd9/1841794085895498/
เราได้นั่งรถไปลงที่วัดหยุนเฟิงแบบงง ๆ เห็นคนลงกันแยะเลยลงไปตาม ไม่ทราบว่าเป็นวัดดัง และเป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ทางขึ้นสูงมาก เราก็แกลังเดินมึน ๆ เข้าไปที่โรงแรม แล้วขึ้นลิฟท์มาออกชั้นที่ 10 ประหยัดแรงไปได้แยะ แต่ก็ไม่ได้เดินชมโดยรอบ เพราะเรานัดพี่ในรถอีกคันที่ตามมาว่าจะออกมาเจอกันัดตรงทางเข้าเวลา 14.00 น. เลยทำให้พลาดไปหลายอย่าง มีความตั้งใจจะกลับไปเมืองโบราณผิงเหยาอีกรอบ และจะกลับไปเก็บส่วนที่พลาดที่เขาเหมียนซาน
เป็นจุดแรกที่เราลงเก็บภาพสวย ๆ
แล้วเราก็ขึ้นรถบัสลอดประตูนี้ออกไป ระยะทางยาว และสวยมาก รถบัสรอไม่นานคะ
ลิฟท์ที่ขึ้นไปคะ ออกที่ชั้น 10 โรงแรมนี้ชื่อ "ํYunfeng Field Hotel" ด้านในมีโรงแรมหลายแห่ง ใครต้องการเที่ยวที่นี่แบบหลาย ๆ วัน ก็เข้าไปพักได้
เทพเจ้ากวนอู
เรานั่งรถไปลงสุดสาย และนั่งรถกลับออกมา มาลงจุดแรกที่ลง เพื่อขึ้นกระเช้าไปชมมุมสูง และมันก็สูงจริง เสียวมาก กระเช้าหนึ่งนั่ง 2 คัน ขาขึ้น 35 หยวน ขาลง 25 หยวน เดินลงไม่ไหวเข่าไม่ดี
ภาพมุมสูงจากกระเช้า
แล้วเราก็เห็น "วัดหัวมังกร" (Dragon Head Temple)
ใครไปเที่ยวเมืองโบราณผิงเหยา ที่นี่ขอแนะนำว่าควรไปคะ มาที่นี่ไม่ผิดหวัง สามารถเที่ยวได้ทั้งวัด สุดสายรถด้านในมีร้านอาหาร มีหลายจุดที่น่าสนใจ มีอารามบนเขาที่ต้องตะกายขึ้นไป ด้านในมีกระเช้าในขึ้น เสียดายที่ไม่ได้ขึ้นไปจุดสูงสุดของตำหนักเซียน
ส่วนที่ที่ไปเยี่ยมชมมา จะค่อย ๆ ทะยอยลงให้นะคะ โปรดดิตตามตอนต่อไป
"ป้อมปราการโบราณจางปิ (Zhangbi Ancient Fortress)" *** https://pantip.com/topic/39077233 ***
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้