สวัสดีครับ
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมพึ่งรู้ตัวเองว่าต้องไปสอบโทอิค เพราะผมมีความจำเป็นต้องใช้มัน ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว ต้องเกริ่นก่อนว่าผมเคยไปสอบครั้งหนึ่งตอนเรียนจบปริญญาตรีได้ 475 คะแนน (11 ปีที่แล้ว) สอบครั้งที่สองผมได้ 750 คะแนนครับ (ุ6 ปีที่แล้ว) ความทรงจำมันก็เลือนลางนะครับ ผมไม่ได้ไปสอบบ่อยๆ ชีวิตประจำวันก็ไม่ได้ใช้ครับ
เมื่อจำเป็นต้องใช้...ผมจึงไม่รีรอที่จะ Register โดยผมเลือกที่จะไปสอบในนามบริษัทนะครับ ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลงจากปกติสอบ Personal ราคา 1500 บาท สอบในนามบริษัท 900 บาท โดยผมไปสอบช่วงวันเสาร์ครับ จากนั้นผมมีระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ในการเตรียมตัว จริงๆ แล้วจะว่าไปใน 1 อาทิตย์นั้นก็ไม่ได้เตรียมตัวมากเพราะระหว่างวันก็ทำงานนะครับ ความโชคดีอยู่ที่เนื่องจากอาทิตย์ที่ผ่านมามีวันหยุดทางศาสนา ผมจึงใช้เวลานี้แหละในการทบทวน วิธีการของผมคือทำข้อสอบ part reading listening จำนวน 5 ชุด ใน youtube ครับ (เว็บคนเวียดนามอะครับ)
พอถึงวันสอบจริง ผมไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไรมาก ไม่ได้มีความลนลานเหมือนตอนจบปริญญาตรี อาคารที่สอบคือตึก BB Tower ครับ ใกล้ดึกแกรมมี่เลย
สิ่งที่ผมเห็นและสิ่งที่ผมปฏิบัตินะครับ
1) การไปถึง -> ไปให้ถึงก่อนเวลาสัก 1-1.30 ชั่วโมงนะครับ พอขึ้นไปถึงชั้น 24 ปุ๊บ คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงผู้คน ซึ่งเยอะมากกกกกกกกกกกกกกก (ผมเองก็ตกใจจำนวนคนนะ) จะมีพนักงานของบริษัทคอยให้บริการ ซึ่งผมคิดว่าเค้าทำงานได้ดีนะ แนะนำและพูดจาดี และแนะนำวิธีการปฏิบัติได้ดีมาก ไม่ต้องกลัว

2) การลงทะเบียน -> เนื่องจากผมได้มีการจองล่วงหน้าไปแล้ว ผมจึงลงทะเบียนเช็คอินเท่านั้น แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้จองล่วงหน้า เค้าจะไป
Register หน้างาน ผมคิดว่าสามารถทำได้แต่ไม่แนะนำครับ เตรียมตัวไปหน่อยก็ดี

3) การชำระเงิน -> ผมจ่ายเงิน 900 บาทเนื่องจากไปสอบในนามบริษัทนะครับ สิ่งที่เค้าต้องการคือ บัตรประชาชนและบัตรพนักงานบริษัท อย่าลืมเตรียมไปนะครับ เมื่อจ่ายเงินเสร็จคุณจะได้เอกสารมา 1 ใบซึ่งใช้ในการยืนยันตัวตนก่อนเข้าห้องสอบครับ


4) ระหว่างรอเวลาสอบ -> อุจจาระ ปัสสาวะ ให้เรียบร้อย ถ้าจำเป็นจริงๆ หลายคนเลือกที่จะลงไปชั้นล่างกว่าชั้น 24 ผมลองหักมุมลองขึ้นดู ไปชั้น 26 ไม่มีคนครับ ลองคิดต่างดู ห้องน้ำโล่งครับ สบายเลย นอกจากเรื่องนี้เรื่องอื่นๆ เช่นเสื้อกันหนาว ถุงเท้า อะไรก็ได้ที่มันจะทำให้สมาธิผมเสีย ผมไม่ลืมที่จะเตรียมไป อัดเต็มแม๊ก ประมาณว่าถ้ามันจะพัง ขอให้มันพังด้วยหัวสมองเราแล้วกัน อย่าให้สิ่งแวดล้อมมาทำให้เราพัง
5) ก่อนเข้าห้องสอบ -> พนักงานจะให้ฝากของสำหรับใครที่เอาของไปเยอะ ก็เอาป้ายแสดงชื่อไป ใครเอาของไปน้อยอย่างผม เค้าจะให้ซองเล็กมาใส่ครับ แล้วก็เขียนชื่อตัวเอง จากนั้นทุกคนตั้งแถวหน้าห้องที่ตนเองจะสอบ ผมคิดว่าพนักงานมีการตรวจที่เข้มข้นมากๆ ทั้งชายและหญิง แต่ถ้าเราไม่ทุจริตจะกลัวไปทำไม จากนั้นพนักงานก็จะเอาสายรัดข้อมือแล้วพาเราไปนั่งโต๊ธ

6) การเข้าที่นั่งสอบ -> ก่อนเข้าสู่การสอบ พนักงานจะอธิบายแบบละเอียดสุด ๆ ใครทำผิดนี่ถือว่าไม่ตั้งใจฟังอย่างแรง เพราะเค้าพูดเคลียร์มาก ๆ สำหรับสอบในนามบริษัทอย่างผม ตั้งใจฟังเลยนะครับ เพราะเรามีวิธีการฝนที่ไม่เหมือนกับ Personal ครับ โดยรายละเอียดจะบอกถึงวิธีการฝน part listening part reading ตาม section ต่าง ๆ ครับ ผมก็ตั้งใจฟังเค้านะครับ กลัวทำอะไรผิด แล้วก็ไม่อยากถามมากเพราะไม่ต้องการส่งเสียงดังให้คนรอบข้าง การสอบแบบนี้ต้องเกรงใจคนข้างๆ มากครับ เพราะทุกคนต่างใช้สมาธิทั้งนั้น
7) บรรยากาศสอบ -> ก็ยังคงต้องบอกว่าผมไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ระหว่างเดินเข้าไปก็สวัสดีคนข้างๆ สักหน่อย ไม่รู้จักกันก็เถอะ ประมาณว่า เกรงใจกันบ้างนะ 555 ผมว่าในแต่ละจุดมันมีผลการได้รับฟังที่ไม่เท่ากันนะครับ ผมนั่งหลังกำแพงก็ได้ยินแหละ แต่ถ้าได้นั่งข้างหน้าก็คงโอเคกว่านี้ครับ
8) ข้อสอบ/การทำข้อสอบ -> แบ่งเป็น 2 Part :
listening ข้อสอบ 100 ข้อ 45 นาที
ผมเองรู้ตัวดีไม่ได้เป็นคนเก่งอะไร แต่ผมรู้ว่ามันจะ PArt ที่ใครก็สามารถทำคะแนนได้ดี ดังนั้นผมตั้งใจทำมาก มันก็มีสติหลุดบ้างนะครับ เช่น หัวสมองเราคิดเรื่องอื่นๆ บุคคลรอบข้างไอหรือจาม ทุกอย่างต้องควบคุมและกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด งานนี้สมาธิล้วนๆ
reading ข้อสอบ 100 ข้อ 75 นาที
ผมเองก็ร็ตัวดีอีกเช่นกันว่าเป็นคนอ่านไม่ทันหรอก แกรมม่าต่างๆ ทุกคนก็ต้องเตรียมตัวมา ผมว่าโหด ๆ ก็คือการอ่านบทความนี่ละ ผมร็ตัวเองอยุ่แล้ว ผมไม่มีทางอ่านทันแน่ ๆ ดังนั้นผมเลยเลือกที่จะทำโดยผมเลือกการทำ ช้อยสั้นๆ ตัวเลข ฟ้อนหนังสือน่าอ่าน บทความน่าสนใจ (ประมาณว่าบทงานวิจัย หนังสือพิมพ์ ไม่อ่านอะ ฟ้อนไม่สวย) นอกเหนือจากนั้นอะไรที่ต้องพิจารณาเยอะ ๆ เช่น ข้อใดไม่ถูกข้าม และสุดท้ายก็จิงๆ ผมทำไม่ทันไประมาณ 15-20 ข้อ
ผมไม่มีวิธีการมั่วนะ ชอบอะไรก็กา อินดี้สุด ๆ และที่สำคัญ ทุกคนต้องอยุ่ภายใต้กติการ ถ้าเค้าบอกว่าเหลือหนึ่งนาที มั่วเลย วางปากกาคือวางปากกา แสดงถึงความซื่อสัตย์ครับ
9) หลังจากออกจากสอบ -> พนักงานจะแจ้งให้ออกไปเป็นแถว ๆ ครับ และไปรับของที่ฝากไว้ จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการแจ้งผลสอบว่าจะให้แจ้งด้วยวิธีใด
10) การแจ้งผลข้อสอบนั้น -> มีหลายวิธี ทั้งมารับเองและไปรษณีย์ แต่สำหรับผมในนามบริษัท ทางศูนย์สอบจะแจ้งตรวจไปที่บริษัทเลยครับ
11) เมื่อสอบเสร็จ ชุดใหญ่ครับ ซิสสเลอร์ ฮันนี่โทสกินคนเดียว ชานมไข่มุก ประมาณว่าอืม ทีกรุบ้างละ
.
.
.
ผมได้ part reading/listening 345/445 = 790 ครับ ไม่มีกระดาษเหมือนอย่างที่คนอื่นเค้าได้กันครับ เพราะกรณีผมเค้าแจ้งไปที่ HR ครับ ซึ่งผมก็งงตัวเองเหมือนกันว่า เอ้า งง มาได้ไง ส่วนตัวคิดว่าคะแนนโทอิคนั้นผมคิดว่ามันสามารถที่เราจะได้ บวกลบ 50 ได้เลยมันจะแกว่งอยู่ประมาณนี้ ผมถือว่าผมพอใจนะครับ สุดท้ายเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ไปสอบครับ คะแนนผมก็ค่อย ๆ ไต่ขึ้นมาเรื่อย ๆ i can do it , you can do it
[CR] สอบโทอิค
ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมพึ่งรู้ตัวเองว่าต้องไปสอบโทอิค เพราะผมมีความจำเป็นต้องใช้มัน ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว ต้องเกริ่นก่อนว่าผมเคยไปสอบครั้งหนึ่งตอนเรียนจบปริญญาตรีได้ 475 คะแนน (11 ปีที่แล้ว) สอบครั้งที่สองผมได้ 750 คะแนนครับ (ุ6 ปีที่แล้ว) ความทรงจำมันก็เลือนลางนะครับ ผมไม่ได้ไปสอบบ่อยๆ ชีวิตประจำวันก็ไม่ได้ใช้ครับ
เมื่อจำเป็นต้องใช้...ผมจึงไม่รีรอที่จะ Register โดยผมเลือกที่จะไปสอบในนามบริษัทนะครับ ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลงจากปกติสอบ Personal ราคา 1500 บาท สอบในนามบริษัท 900 บาท โดยผมไปสอบช่วงวันเสาร์ครับ จากนั้นผมมีระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ในการเตรียมตัว จริงๆ แล้วจะว่าไปใน 1 อาทิตย์นั้นก็ไม่ได้เตรียมตัวมากเพราะระหว่างวันก็ทำงานนะครับ ความโชคดีอยู่ที่เนื่องจากอาทิตย์ที่ผ่านมามีวันหยุดทางศาสนา ผมจึงใช้เวลานี้แหละในการทบทวน วิธีการของผมคือทำข้อสอบ part reading listening จำนวน 5 ชุด ใน youtube ครับ (เว็บคนเวียดนามอะครับ)
พอถึงวันสอบจริง ผมไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไรมาก ไม่ได้มีความลนลานเหมือนตอนจบปริญญาตรี อาคารที่สอบคือตึก BB Tower ครับ ใกล้ดึกแกรมมี่เลย
สิ่งที่ผมเห็นและสิ่งที่ผมปฏิบัตินะครับ
1) การไปถึง -> ไปให้ถึงก่อนเวลาสัก 1-1.30 ชั่วโมงนะครับ พอขึ้นไปถึงชั้น 24 ปุ๊บ คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงผู้คน ซึ่งเยอะมากกกกกกกกกกกกกกก (ผมเองก็ตกใจจำนวนคนนะ) จะมีพนักงานของบริษัทคอยให้บริการ ซึ่งผมคิดว่าเค้าทำงานได้ดีนะ แนะนำและพูดจาดี และแนะนำวิธีการปฏิบัติได้ดีมาก ไม่ต้องกลัว
Register หน้างาน ผมคิดว่าสามารถทำได้แต่ไม่แนะนำครับ เตรียมตัวไปหน่อยก็ดี
5) ก่อนเข้าห้องสอบ -> พนักงานจะให้ฝากของสำหรับใครที่เอาของไปเยอะ ก็เอาป้ายแสดงชื่อไป ใครเอาของไปน้อยอย่างผม เค้าจะให้ซองเล็กมาใส่ครับ แล้วก็เขียนชื่อตัวเอง จากนั้นทุกคนตั้งแถวหน้าห้องที่ตนเองจะสอบ ผมคิดว่าพนักงานมีการตรวจที่เข้มข้นมากๆ ทั้งชายและหญิง แต่ถ้าเราไม่ทุจริตจะกลัวไปทำไม จากนั้นพนักงานก็จะเอาสายรัดข้อมือแล้วพาเราไปนั่งโต๊ธ
7) บรรยากาศสอบ -> ก็ยังคงต้องบอกว่าผมไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ระหว่างเดินเข้าไปก็สวัสดีคนข้างๆ สักหน่อย ไม่รู้จักกันก็เถอะ ประมาณว่า เกรงใจกันบ้างนะ 555 ผมว่าในแต่ละจุดมันมีผลการได้รับฟังที่ไม่เท่ากันนะครับ ผมนั่งหลังกำแพงก็ได้ยินแหละ แต่ถ้าได้นั่งข้างหน้าก็คงโอเคกว่านี้ครับ
8) ข้อสอบ/การทำข้อสอบ -> แบ่งเป็น 2 Part :
listening ข้อสอบ 100 ข้อ 45 นาที
ผมเองรู้ตัวดีไม่ได้เป็นคนเก่งอะไร แต่ผมรู้ว่ามันจะ PArt ที่ใครก็สามารถทำคะแนนได้ดี ดังนั้นผมตั้งใจทำมาก มันก็มีสติหลุดบ้างนะครับ เช่น หัวสมองเราคิดเรื่องอื่นๆ บุคคลรอบข้างไอหรือจาม ทุกอย่างต้องควบคุมและกลับเข้าสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด งานนี้สมาธิล้วนๆ
reading ข้อสอบ 100 ข้อ 75 นาที
ผมเองก็ร็ตัวดีอีกเช่นกันว่าเป็นคนอ่านไม่ทันหรอก แกรมม่าต่างๆ ทุกคนก็ต้องเตรียมตัวมา ผมว่าโหด ๆ ก็คือการอ่านบทความนี่ละ ผมร็ตัวเองอยุ่แล้ว ผมไม่มีทางอ่านทันแน่ ๆ ดังนั้นผมเลยเลือกที่จะทำโดยผมเลือกการทำ ช้อยสั้นๆ ตัวเลข ฟ้อนหนังสือน่าอ่าน บทความน่าสนใจ (ประมาณว่าบทงานวิจัย หนังสือพิมพ์ ไม่อ่านอะ ฟ้อนไม่สวย) นอกเหนือจากนั้นอะไรที่ต้องพิจารณาเยอะ ๆ เช่น ข้อใดไม่ถูกข้าม และสุดท้ายก็จิงๆ ผมทำไม่ทันไประมาณ 15-20 ข้อ
ผมไม่มีวิธีการมั่วนะ ชอบอะไรก็กา อินดี้สุด ๆ และที่สำคัญ ทุกคนต้องอยุ่ภายใต้กติการ ถ้าเค้าบอกว่าเหลือหนึ่งนาที มั่วเลย วางปากกาคือวางปากกา แสดงถึงความซื่อสัตย์ครับ
9) หลังจากออกจากสอบ -> พนักงานจะแจ้งให้ออกไปเป็นแถว ๆ ครับ และไปรับของที่ฝากไว้ จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการแจ้งผลสอบว่าจะให้แจ้งด้วยวิธีใด
10) การแจ้งผลข้อสอบนั้น -> มีหลายวิธี ทั้งมารับเองและไปรษณีย์ แต่สำหรับผมในนามบริษัท ทางศูนย์สอบจะแจ้งตรวจไปที่บริษัทเลยครับ
11) เมื่อสอบเสร็จ ชุดใหญ่ครับ ซิสสเลอร์ ฮันนี่โทสกินคนเดียว ชานมไข่มุก ประมาณว่าอืม ทีกรุบ้างละ
.
.
.
ผมได้ part reading/listening 345/445 = 790 ครับ ไม่มีกระดาษเหมือนอย่างที่คนอื่นเค้าได้กันครับ เพราะกรณีผมเค้าแจ้งไปที่ HR ครับ ซึ่งผมก็งงตัวเองเหมือนกันว่า เอ้า งง มาได้ไง ส่วนตัวคิดว่าคะแนนโทอิคนั้นผมคิดว่ามันสามารถที่เราจะได้ บวกลบ 50 ได้เลยมันจะแกว่งอยู่ประมาณนี้ ผมถือว่าผมพอใจนะครับ สุดท้ายเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ไปสอบครับ คะแนนผมก็ค่อย ๆ ไต่ขึ้นมาเรื่อย ๆ i can do it , you can do it
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้